ตอนที่ 140 ประโยคเดียวของหยางเฟย ส่งเธอขึ้นกระทู้อันดับหนึ่งของเวยป๋อ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

ฉินหร่านโยนมือถือไปอีกทาง ก้มหน้าลงเริ่มอ่านหนังสือวรรณกรรม

 

 

หลินซือหรานเล่นเกมจนถึงเช้า ตอนนี้ก็ไม่สดชื่น นอนฟุบบนโต๊ะด้วยเช่นกัน

 

 

สวีเหยากวงไปหยิบควิซฟิสิกส์ที่ห้องพักครู

 

 

พอเข้าไป ก็เห็นควิซฟิสิกส์ของฉินหร่านวางอยู่ด้านบนสุด

 

 

“สวีเหยากวง เดี๋ยวช่วยถามฉินหร่านให้อาจารย์ทีว่า มีปัญหาอะไรกับอาจารย์หรือเปล่า” อาจารย์ฟิสิกส์ถือแก้วเก็บความร้อนด้วยความกังวลใจ “ฟิสิกส์สนุกขนาดนี้ ทำไมไม่ตั้งใจเรียนฟิสิกส์ล่ะ”

 

 

สวีเหยากวงยกควิซขึ้นมา มองเขาแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร

 

 

“เอาละ ไปได้แล้ว” อาจารย์ฟิสิกส์รู้ว่านักเรียนคนนี้เย็นชา ก็ไม่พูดอะไร วางแก้วเก็บความร้อนลงบนโต๊ะ ให้เขายกควิซฟิสิกส์ออกไป

 

 

สวีเหยากวงกลับมาที่ห้องเก้า

 

 

ตอนที่ต้องแจกควิซของฉินหร่านเป็นคนแรก มือเขาชะงักไป จากนั้นก็มองฉินหร่าน อีกฝ่ายกำลังอ่านหนังสือวรรณกรรม หูสองข้างมีหูฟังยัดอยู่ ก้มหน้าก้มตา สายหูฟังทั้งสองข้างหายลับไปในเสื้อนอกสีขาว

 

 

เป็นท่วงท่าที่เท่มากเหมือนเดิม

 

 

เสื้อนอกตัวนั้นไม่มีลวดลายและไม่มีรูปอะไร แต่กลับดูประณีตอย่างมาก

 

 

สวีเหยากวงหยุดคิด ไม่พูดอะไร วางควิซของเธอกับหลินซือหรานไว้แล้วผละออกไป

 

 

กลับมานั่งที่เก้าอี้หลังแจกควิซเสร็จแล้ว เฉียวเซิงกับพวกเหอเหวินกำลังคุยเรื่องในเวยป๋อกันอยู่

 

 

“คุณชายสวี ค่า APM ของเมิ่งซินหรานสูงกว่าเทพพระอาทิตย์อีกเหรอ” เฉียวเซิงพิงเก้าอี้ ขายื่นออกมาตรงทางเดิน ขมวดคิ้วมุ่น

 

 

เหอเหวินก็เขยิบเข้ามา ยื่นเวยป๋อให้สวีเหยากวงดู

 

 

สวีเหยากวงดึงเก้าอี้ออก ชายตามองแวบหนึ่ง ไม่ค่อยสนใจมากนัก “ไม่ใช่”

 

 

เสียงยังคงเย็นเยือกและเฉยชา

 

 

เฉียวเซิงเกิดความสนใจ เขานั่งตัวตรง “งั้นนายรู้ไหมว่าเป็น…”

 

 

ไม่พูดอะไรเลยสักคำ สวีเหยากวงหยิบบัตรใบหนึ่งจากลิ้นชักใต้โต๊ะวางลงบนโต๊ะของเฉียวเซิง “ฉินอวี่ให้นาย”

 

 

เฉียวเซิงไม่หยิบขึ้นมาดู ก็รู้แล้วว่าเป็นบัตรชมการแสดงดนตรีที่ฉินอวี่ได้ร่วมแสดง

 

 

 

 

หลังเลิกเรียนคาบที่สองของช่วงเช้า เป็นพิธีเชิญธง

 

 

“เจ๊หร่าน ทำไมฉันหาแบบเดียวกับของเธอในเถาเป่าไม่เจอ” เซี่ยเฟยเดินอยู่ข้างซ้ายของฉินหร่าน ถามเรื่องปากกาหมึกซึมกับเธอ

 

 

ฉินหร่านเดินตามหลังพวกเธออย่างเชื่องช้า มือเล่นสายหูฟัง ได้ยินดังนั้นก็ทำท่าครุ่นคิด พูดว่า “กลางวันจะถามให้”

 

 

ทั้งสามคนเดินมาถึงตำแหน่งของห้องเก้า

 

 

ในที่ไม่ไกลเป็นเมิ่งซินหรานของห้องหนึ่งที่ถูกห้อมล้อมประหนึ่งดาวล้อมเดือน

 

 

“ซินหราน เธอมี APM เท่าไหร่เหรอ สูงกว่าเทพพระอาทิตย์จริงเหรอ ได้ยินว่าค่า APM ของเทพพระอาทิตย์ 600+ ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า” ทางด้านนี้ มีคนกำลังถามเมิ่งซินหราน

 

 

ตลอดสองวันนี้ความนิยมในเวยป๋อของเมิ่งซินหรานไม่ลดลงเลย ความนิยมในโรงเรียนสูงกว่าพวกฉินหร่าน สวีเหยากวงกับเฉียวเซิง

 

 

เมิ่งซินหรานส่ายหน้า “ค่า APM ของฉันแค่ห้าร้อยกว่า ไม่ได้สูงกว่าเทพพระอาทิตย์”

 

 

500+ ไม่ได้สูงแค่ในบรรดาคนธรรมดา ต่อให้เป็นในแวดวงของเกมเมอร์มืออาชีพก็เป็นระดับที่ทำได้ยาก กลุ่มเด็กวัยรุ่นที่กำลังเข้าแถวต่างก็พากันอุทาน

 

 

“ได้ยินว่าเป็นเพราะเธอ OST เลยไม่กีดกันเกมเมอร์หญิงแล้ว ทีมสองทีมสามต่างก็มีตัวสำรองผู้หญิง” มีคนถามขึ้นมาอีก

 

 

เมิ่งซินหรานชะงัก จากนั้นก็ตอบกำกวมว่า “ไม่รู้เหมือนกัน”

 

 

คนอื่นกลับมองว่าเธอถ่อมตัว

 

 

 

 

สองสามวันนี้ เกมท่องยุทธภพค่อนข้างเป็นที่นิยมในโรงเรียน

 

 

ด้วยพื้นที่ของการเข้าแถว คนรอบข้างจำนวนมากต่างก็ใช้โอกาสนี้เล่นเกม

 

 

ตัวแทนวิชาฟิสิกส์ของห้องแปดที่อยู่ข้างๆ นั่งลงบนพื้นโดยตรง “ให้ตายเถอะ คะแนนจะตกแล้ว!”

 

 

ตอนแรกหลินซือหรานกำลังคุยกับเซี่ยเฟย ห้องแปดกับห้องเก้าเป็นเพื่อนยากกันเสมอมา พอได้ยินดังนั้นเธอก็หันหน้าไปพูดยิ้มๆ ว่า “ให้เจ๊หร่านช่วยเล่นให้นายสิ เจ๊หร่านเก่งมากเลยละ”

 

 

มือของตัวแทนฟิสิกส์ห้องแปดนิ่งไปเล็กน้อย “หลินซือหราน เจ๊หร่านมีการ์ดสวยๆ เพียบเลยเหรอ”

 

 

เขารู้ว่าผู้หญิงมักจะชอบเห็นเกมต่อสู้แบบนี้เป็นเกมแต่งตัว

 

 

“การ์ดตัวละครของเธอสวยๆ เพียบเลย แต่ว่า” หลินซือหรานนึกถึงความเร็วที่ฉินหร่านช่วยไต่แรงค์ให้เธอเมื่อคืน ก็ชมฉินหร่านสุดกำลัง “เธอเก่งมากจริงๆ”

 

 

“เอาเถอะ ฉันรู้แล้ว” ตัวแทนฟิสิกส์ห้องแปดพยักหน้า พูดอย่างฝืนใจมากว่า “เจ๊หร่านเก่งมาก เก่งมากๆ”

 

 

ถ้าเมิ่งซินหรานจะเล่นให้เขา เขาจะยื่นให้โดยไม่อิดออด

 

 

แต่ถ้าเป็นฉินหร่านหรือหลินซือหราน ก็ช่างมันดีกว่า

 

 

แต่ห้องเก้ามีความบาดหมางกับเมิ่งซินหราน ตัวแทนฟิสิกส์จึงไม่ได้พูดประโยคนี้ออกมา

 

 

หลินซือหรานไม่อยากพูดอะไร ตัวแทนฟิสิกส์เงยหน้าทันที “จะเชิญธงแล้ว เธอกลับไปในแถวเถอะ!”

 

 

 

 

ตอนกลางวัน

 

 

ห้องพยาบาล

 

 

สองสามวันนี้เฉิงมู่ค่อนข้างว่าง จึงจัดอาหารเสร็จนานแล้ว

 

 

ตอนที่ฉินหร่านไปถึง เฉิงมู่กำลังคุยกับลู่จ้าวอิ่ง

 

 

“หัวข้อปีนี้ของ 129 ยังไม่ออกเหรอ ไอดอลนายเป็นยังไงบ้างแล้ว” ลู่จ้าวอิ่งสวมชุดกาวน์ นั่งพิงเก้าอี้ ขาพาดอยู่บนโต๊ะ ผมสีเงินกระจุกหนึ่งบนหัวดูเท่มาก

 

 

“ไอดอลของฉันเก็บตัว ได้ยินว่าปีนี้ 129 มีไม้เด็ด” เฉิงมู่ตอบเสียงเบา

 

 

ลู่จ้าวอิ่งพยักหน้า พอกวาดตาก็เห็นฉินหร่านกำลังเดินอืดอาดเข้ามา เขาจึงรีบลุกขึ้น ยิ้มกริ่มเข้าไปหา

 

 

เฉิงมู่รินชาให้ฉินหร่าน

 

 

“ลืมไปอย่างหนึ่ง” ฉินหร่านนั่งบนโต๊ะกินข้าว มือข้างหนึ่งยันโต๊ะไว้อย่างเกียจคร้าน ถามเฉิงเจวี้ยนว่า “ปากกาหมึกซึมของนายซื้อที่ไหน เพื่อนฉันก็อยากซื้อเหมือนกัน”

 

 

สิ้นประโยคนี้ของเธอ

 

 

ลู่จ้าวอิ่งกับเฉิงมู่ต่างก็ตกอยู่ในความเงียบอันชอบกล

 

 

เฉิงเจวี้ยนกลับผ่อนคลาย เอ่ยปากสบายๆ ว่า “สั่งทำกับร้าน น่าจะหายี่ห้อไม่เจอ”

 

 

ฉินหร่านพยักหน้า หยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความให้เซี่ยเฟยโดยที่ไม่แก้ไขคำพูดนี้เลย

 

 

ตอนนี้เซี่ยเฟยกำลังกินข้าวกับหลินซือหรานที่โรงอาหาร

 

 

พอเห็นข้อความฉบับนี้ เธอก็หาร้านที่สามารถสั่งทำปากกาหมึกซึมได้ทันที

 

 

ส่งรูปปากกาหมึกซึมใบนั้นให้ศูนย์บริการลูกค้า

 

 

จากนั้นถามว่า ‘ไม่ทราบว่าปากกาหมึกซึมแท่งนี้สั่งทำได้ไหม ฉันอยากได้แบบเหมือนเปี๊ยบเลย’

 

 

เซี่ยเฟยกัดเนื้อไปคำหนึ่ง หันไปคุยกันหลินซินหราน “พนักงานไม่สนใจฉัน”

 

 

หลินซือกินเสร็จก็วางตะเกียบลง “อาจจะกำลังกินข้าวอยู่ละมั้ง”

 

 

ผ่านไปสองนาที ทางร้านตอบกลับเซี่ยเฟยว่า ‘…’

 

 

จากนั้นส่งรูปหนึ่งให้เซี่ยเฟย

 

 

เซี่ยเฟยกินไปพอสมควรแล้ว จัดแจงถ้วยชามของตัวเองพลางเปิดรูปดู “พนักงานตอบฉันแล้ว…”

 

 

พูดได้ครึ่งหนึ่งก็หยุดไป

 

 

หลินซือหรานสังเกตเห็น จึงหันหน้ามามองดูแวบหนึ่ง

 

 

ทางร้านส่งรูปสินค้าหรูรูปหนึ่งมา ปากกาหมึกซึมสีดำ ด้านบนประดับด้วยคริสทัล ใกล้เคียงกับของฉินหร่าน แต่ดูจากรายละเอียดแล้วของฉินหร่านจะประณีตกว่า

 

 

ข้างล่างเป็นราคา ขึ้นต้นด้วยเลขสาม ข้างหลัง…

 

 

ศูนย์ห้าตัว

 

 

เซี่ยเฟยกดออกจากรูปด้วยสีหน้าไม่บอกอารมณ์ จากนั้นก็เป็นคำตอบของพนักงาน…

 

 

‘คุณลูกค้าที่รัก คำขอของคุณ ตอนนี้ร้านเราไม่สามารถทำให้ได้ (ยิ้ม)’

 

 

 

 

อีกด้านหนึ่ง

 

 

หยางเฟยนั่งอยู่บนเก้าอี้เกมมิ่ง ก้มหน้าเล่นมือถือ ใบหน้าคมคายไม่แสดงอารมณ์ใด

 

 

โค้ชกระแอมแล้วเดินเข้ามา ไม่ค่อยใส่ใจมากนัก “ก็น่ารังเกียจอยู่แหละ นายอย่าไปตอบโต้ ไม่งั้นจะยิ่งบานปลาย”

 

 

หยางเฟยลูบมือถือเล่น มองโค้ชด้วยท่าทางนึกขำ “บอกว่าไม่เจตนา คุณเชื่อเหรอ”

 

 

โค้ชช้อนตาขึ้นมอง ปลอบใจว่า “ฉันรู้ แต่เธอจะทำอะไรได้ ออกไปแก้ต่าง จากนั้นทำให้ความนิยมของเธอเพิ่มขึ้นงั้นเหรอ”

 

 

เขาแนะนำให้หยางเฟยนิ่งสยบความเคลื่อนไหวดีกว่า

 

 

ชี้แจงด้วยตัวเองจะยิ่งเพิ่มความนิยม ปล่อยเธอไว้ไม่สนใจเดี๋ยวก็ผ่านไป

 

 

หยางเฟยแสยะยิ้ม

 

 

เขาทำหน้านิ่ง ไม่พูดอะไร

 

 

กดเปิดเวยป๋อ ค้นหาบัญชีลับของฉินหร่าน

 

 

ไม่พูดพร่ำทำเพลง กดติดตามทันที

 

 

เวยป๋อของฉินหร่านมีผุ้ติดตามแค่คนเดียว ติดตามแค่คนเดียว 0 โพสต์

 

 

หยางเฟยสงสัยว่าคนที่เธอติดตามเป็นใคร จึงกดดู เป็นคนที่ใช้ชื่อว่า lungหลิน

 

 

โพสต์ส่วนใหญ่ของ lungหลินก็คือเพื่อนร่วมโต๊ะแสนเย็นชาสุดคูลของเธอ

 

 

โค้ชเห็นว่าอารมณ์ของหยางเฟยดูจะดีขึ้นบ้างแล้ว จึงไม่พูดอะไรมาก “เดี๋ยวจะมีการแข่งพรีแมตช์ เตรียมตัวด้วยละ”

 

 

ในแวดวงอีสปอร์ตมีคนไม่น้อยส่งข้อความมาถามเขาว่าชื่นชมเมิ่งซินหรานใช่ไหม เป็นคนปั่นความนิยมให้เธอใช่ไหม

 

 

แถมยังมีคนส่งรูปสกรีนช็อตมาให้เขาอีกด้วย

 

 

คำว่า ‘เมิ่งซินหราน’ ในอันดับสองของคำค้นหายอดนิยม ซื้อการแนะนำอย่างเห็นได้ชัด

 

 

แต่ความนิยมกลับไม่ต่ำเลย

 

 

รูปสกรีนช็อตข้างล่างเป็นโพสต์เมื่อสิบนาทีก่อนของเมิ่งซินหราน

 

 

OST เมิ่งซินหราน ‘ขอบคุณสำหรับการติดตาม ฉันจะพยายามยิ่งขึ้น @สมาชิกทั้งหมดของทีม OST’

 

 

เมื่อเลื่อนลงไปอีก ก็เป็นสื่อที่ขยี้ประเด็นร้อน

 

 

‘รายงานใหม่ล่าสุด ค่า APM ของเมิ่งซินหรานคือ 500+ สูงกว่าอี้จี้หมิง! เกมเมอร์หญิงมืออาชีพอันดับหนึ่งของประวัติศาสตร์! เป็นรองแค่เทพพระอาทิตย์ หลายปีมานี้ทีม OST ไม่ต่อต้านเกมเมอร์หญิง เทพพระอาทิตย์ชอบร่วมทีมกับเธอที่สุดไม่ใช่ข่าวโคมลอย…’

 

 

ความหมายโดยรวมก็คือเมิ่งซินหรานเป็นเกมเมอร์หญิงอันดับหนึ่งของทีมเกมเมอร์อาชีพ มีค่า APM สูงมาก

 

 

เพราะเธอเป็นเกมเมอร์หญิงที่ทีม OST รับเป็นกรณีพิเศษ

 

 

ผู้ติดตามของเมิ่งซินหรานมีถึง 3M+ แล้ว

 

 

หน้าด้านจริงๆ

 

 

หยางเฟยเลื่อนผ่านนิ่งๆ ใบหน้าคมคายกลับฉายความเกรี้ยวกราด เรื่องอื่นเขาไม่สนใจได้… แต่เกมเมอร์หญิงมืออาชีพอันดับหนึ่ง ไปเอาความกล้ามาจากไหน

 

 

โค้ชที่เข้ามาเรียนเขาไปซ้อมเห็นสีหน้าของเขาก็สะดุ้งในใจ “เทพพระอาทิตย์ นาย…”

 

 

หยางเฟยไม่เงยหน้า เปิดเวยป๋อแล้วเมนชั่นถึงฉินหร่านทันที

 

 

OST หยางเฟย ‘อยากขึ้นเวทีด้วยกันสักครั้งตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้ว รอนะ! @qr’

 

 

หยางเฟยใช้หนึ่งประโยค ส่งบัญชีของฉินหร่านขึ้นเป็นกระทู้อันดับหนึ่งของเวยป๋อ! สะเทือนทั้งแวดวงอีสปอร์ต