ภาคที่ 1 บทที่ 117 เป็นไปตามสูตร

เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁]

บทที่ 117 เป็นไปตามสูตร

กระทู้นั้นถูกเผยแพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางอย่างรวดเร็ว

แม้แต่นักศึกษาแพทย์แผนจีนจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็ได้ยินข่าวนี้ด้วยเช่นกัน

“ตกลงเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าเนี่ย?”

“เขาคงไม่ได้ถูกใส่ร้ายหรอกใช่ไหม?”

“แต่ฉันเชื่อมั่นในตัวคณบดีหยาง ท่านเป็นคนดี จะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง? เขาไม่มีทางหักหลังลูกศิษย์คนอื่นแบบนี้หรอก”

“ฉันเองก็เชื่อมั่นในตัวคณบดีหยางเหมือนกัน พวกเราทุกคนรู้ดีว่าท่านคณบดีทำอะไรเพื่อมหาวิทยาลัยของเราบ้าง เพราะฉะนั้นฉันไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเขาจะช่วยลูกศิษย์โกงคะแนนสอบ”

“ใช่แล้ว ฉันเชื่อมั่นในตัวคณบดีหยางหมดหัวใจ ท่านไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอน”

“ท่านคณบดีถูกใส่ร้าย ถูกใส่ร้าย!”

ผู้คนจำนวนมากส่วนใหญ่ต่างก็มองว่าคณบดีหยางเหวินป๋อถูกผู้ไม่หวังดีใส่ร้าย

สำหรับพวกเขาแล้วคณบดีหยางคนนี้เป็นคนดี และทำงานอย่างซื่อสัตย์มาโดยตลอด

และยังเป็นหน้าเป็นตาให้แก่มหาวิทยาลัยของพวกเขาด้วยซ้ำ!

แต่ว่า

ความจริงก็คือความจริง

ถ้าไม่มีกระแสลม แล้วทะเลจะมีคลื่นได้อย่างไร

เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนใส่ร้ายป้ายสีโดยแต่งเติมข้อมูลเหล่านี้ขึ้นมาเองทั้งหมด

จึงมีคนอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันแสดงความสงสัยในตัวของหยางเหวินป๋อ

“ใครที่ไม่รู้ความจริงช่วยเงียบปากกันหน่อยได้ไหม? เรารอฟังคำตอบจากคณบดีหยางกันก่อนดีกว่า!”

นักศึกษาคนหนึ่งทิ้งข้อความเอาไว้เช่นนั้น

และมีนักศึกษาจำนวนมากสนับสนุนความคิดเห็นนี้

“ถูกต้อง เรารอฟังข้อมูลจากปากของท่านคณบดีหยางดีกว่า!”

“พวกลูกศิษย์ที่มีชื่ออยู่ในกระทู้นี้ก็สมควรออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยเหมือนกัน”

ในเวลาเดียวกันนี้ ณ อาคารฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง

ห้องทำงานของคณบดี

หยางเหวินป๋อเพิ่งจะได้รับทราบข่าวนี้เป็นครั้งแรก สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด

หยางเหวินป๋อกำลังจะโทรศัพท์สั่งให้ลูกน้องลบกระทู้เจ้าปัญหาทิ้งไป แต่แล้วมือที่กำลังสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์กลับหยุดชะงักลง

ถ้ากระทู้ต้นเรื่องถูกลบทิ้ง มันก็เหมือนกับยืนยันว่าข่าวลือนั้นเป็นความจริง

“ให้ตายสิ!”

มือดีที่แอบปล่อยลมยางรถยนต์ของเขายังหาตัวไม่เจอ นี่ก็มีศัตรูคนใหม่โผล่ออกมาป่วนอีกแล้วหรือ?

พวกมันต้องการอะไรจากเขากันแน่?

หยางเหวินป๋อข่มกลั้นความโกรธแค้น และความตื่นตระหนกในหัวใจอย่างยากลำบาก ก่อนเริ่มต้นอ่านเนื้อหาในกระทู้ด้วยความละเอียดถี่ถ้วน

แต่ยิ่งอ่านมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งตกตะลึงมากเท่านั้น

เพราะเนื้อหาที่อยู่ในกระทู้เป็นความจริงทุกประการ

ใช่แล้ว

เขาช่วยลูกศิษย์โกงผลการสอบ

รายละเอียดบางอย่างในกระทู้แม้แต่ตัวหยางเหวินป๋อเองก็ลืมไปแล้วเช่นกัน

“ใครเป็นคนทำ? ใครเป็นคนปล่อยเรื่องนี้ออกมา?”

หัวใจของหยางเหวินป๋อเต้นรัวเร็วด้วยความโกรธแค้น ก่อนที่จะต้องสูดหายใจลึก ๆ และอ่านกระทู้ทวนซ้ำอีกรอบเพื่อหาจุดอ่อนที่เขาจะสามารถใช้โต้กลับได้

แม้กระทั่งตอนนี้หยางเหวินป๋อรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด

ในความเห็นของเขา นี่คือการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันต่างหาก วันนี้เขาให้ความช่วยเหลือกับนักศึกษาเหล่านั้น ในอนาคตข้างหน้า นักศึกษาที่ได้รับความช่วยเหลือก็จะต้องตอบแทนเขาเช่นกัน!

และที่ทำแบบนี้ หยางเหวินป๋อก็มีเจตนาทำเพื่อความก้าวหน้าของมหาวิทยาลัยทั้งนั้น ถึงบางครั้งเขาจะทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวด้วยเช่นกัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้มหาวิทยาลัยต้องเสียผลประโยชน์สักหน่อย

ก็แค่ช่วยแก้คะแนนให้นักศึกษาเรียนจบ มันจะไปเสียหายอะไรนักหนา!

หลังอ่านกระทู้จบอีกรอบ หยางเหวินป๋อก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

เจ้าของกระทู้ไม่ได้มีหลักฐานแน่นหนาอะไรเลย

“แค่ปฏิเสธไปก็สิ้นเรื่องแล้ว”

หยางเหวินป๋อยกมือนวดขมับตัวเอง

เรื่องนี้ต้องรีบจัดการให้เร็วไว มิฉะนั้นแล้ว มันอาจจะส่งผลต่อการเลื่อนตำแหน่งในอนาคตของเขาก็ได้

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก…”

พลันเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“นั่นใครน่ะ?”

หยางเหวินป๋อตวาดด้วยความหงุดหงิด

“ผมเองครับ ท่านคณบดีหยาง”

ลูกน้องคนหนึ่งเปิดประตูแล้วเดินเข้ามารายงานว่า “มีนักข่าวหลายสำนักเดินทางมาขอสัมภาษณ์ท่านครับ ไม่ทราบว่าท่านคณบดีจะอนุญาตให้พวกเขาสัมภาษณ์ไหมครับ?”

“ไม่ให้สัมภาษณ์!”

หยางเหวินป๋อปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด

เขาคาดไม่ถึงเลย

เรื่องรู้ไปถึงหูนักข่าวแล้วหรือนี่

คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เตรียมการเอาไว้แล้วสินะ!

“ว่าแต่มันเป็นใครกัน?”

หยางเหวินป๋อขมวดคิ้วด้วยใบหน้าตึงเครียด

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงอาจารย์หลายคนที่แก่งแย่งแข่งขันช่วงชิงตำแหน่งพร้อมกันมาตลอดหลายปี แล้วดวงตาของคณบดีหยางก็เป็นประกายวูบวาบขึ้นมาทันที

“ดูเหมือนเราคงต้องรีบจัดการเรื่องนี้โดยเร็วซะแล้ว”

“ฉันช่วยเหลือพวกนายเอาไว้ตั้งเยอะ ถึงเวลาที่พวกนายจะต้องตอบแทนฉันบ้าง”

“อีกอย่าง พวกนักศึกษาที่มีชื่ออยู่ในกระทู้คงอยู่ไม่เป็นสุขแล้ว พวกเขาควรออกมาตอบโต้อะไรสักหน่อย”

หยางเหวินป๋อลุกขึ้นยืน และรีบเดินออกจากห้องทำงานของตนเอง

อีกด้านหนึ่ง

ห้องดื่มน้ำชาสำหรับคณะอาจารย์

หลี่เคอหมิงซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นการสอนประจำวันกำลังเดินไปกดน้ำอุ่นจากตู้น้ำดื่ม ก็ได้ยินเสียงบทสนทนาของอาจารย์คนอื่น ๆ เกี่ยวกับกระทู้ใส่ร้ายหยางเหวินป๋อ

“โกงคะแนนสอบให้นักศึกษาเรียนจบ?”

หลี่เคอหมิงรีบเข้าสู่ระบบในโทรศัพท์มือถือและอ่านกระทู้นั้นด้วยตาของตนเองอย่างประหลาดใจ

หยางเหวินป๋อจะทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ หรือ?

ไม่น่าเป็นไปได้

แต่เมื่อนึกถึงนิสัยใจคอของคนผู้นี้ หลี่เคอหมิงก็ชักจะไม่แน่ใจขึ้นมาเช่นกัน

หยางเหวินป๋อเป็นคนที่เมื่อต้องการสิ่งใดแล้ว ก็ยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาครอบครอง

จึงใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียวที่หยางเหวินป๋อจะใช้อำนาจหน้าที่ของตนเองช่วยเหลือนักศึกษาเหล่านั้นให้กลายเป็นบุญคุณ สำหรับการเหยียบย่ำขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงมากกว่าเดิม

“แต่ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่นา!”

หลี่เคอหมิงถอนหายใจ ส่ายศีรษะและเลิกคิดถึงเรื่องนี้ไปโดยปริยาย

เพราะมันเป็นหน้าที่ของคณะตรวจสอบจริยธรรมประจำมหาวิทยาลัย ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาสักหน่อย

หลี่เคอหมิงเป็นแค่อาจารย์คนหนึ่งเท่านั้น

แค่สอนลูกศิษย์ให้ดีก็พอแล้ว

ณ หอพักชายมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง

“555!”

“โอ๊ย ฉันนึกอยู่แล้วว่าคณบดีต้องไม่ใช่พวกใจซื่อมือสะอาด แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะถูกเปิดโปงเร็วขนาดนี้” หลังจากอ่านเนื้อหาในกระทู้จบลง ซูชือก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ “แบบนี้ต้องเหยียบให้จมธรณี ปล่อยให้ลอยนวลต่อไปไม่ได้อีกเด็ดขาด กะแล้วเชียวว่าฉันต้องมองคนไม่ผิด!”

จินฟานก็กำลังอ่านกระทู้ต้นเรื่องอยู่เช่นกัน “ถึงในกระทู้จะมีคนไม่เชื่อเรื่องนี้อยู่เยอะมาก แต่ฉันว่ายังไงมันก็ต้องเป็นความจริงแหง ๆ”

ซูชือพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ฉันก็เชื่อว่าเป็นความจริงเหมือนกัน”

“แต่นายสังเกตเห็นอะไรไหม?”

“อะไร?”

ซูชือถามด้วยความสงสัย

จินฟานตั้งข้อสังเกตว่า “พวกนักศึกษาที่คณบดีช่วยโกงคะแนนสอบ ไม่มีชื่อของเด็กคณะเราเลยสักคน”

ซูชือขมวดคิ้วขบคิด

เมื่อลองคิดดูดี ๆ แล้ว เหตุผลที่ไม่มีรายชื่อเด็กจากคณะวิจัยสมุนไพรนั้นไม่ใช่เพราะพวกเขาฉลาดจนไม่ต้องอาศัยการโกงคะแนนสอบ แต่เป็นเพราะว่าหยางเหวินป๋อไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาต่างหาก

แบบนี้ยิ่งให้อภัยไม่ได้!

ในขณะที่สองหนุ่มเพื่อนซี้กำลังพูดคุยกันอยู่ด้วยความโกรธแค้น การโต้เถียงในกระทู้ต้นเรื่องก็ยิ่งทวีความร้อนแรงมากยิ่งขึ้น

นักศึกษาที่อยู่ในรายชื่อผู้โกงคะแนนสอบยังคงไม่ปรากฏตัวออกมา

ในขณะที่ข่าวนี้เริ่มแพร่กระจายออกไปในวงกว้าง ก็เริ่มมีผู้คนเรียกร้องให้หยางเหวินป๋อออกมาพูดอะไรสักอย่าง

“ถ้าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แล้วทำไมคณบดีหยางเหวินป๋อถึงยังไม่ออกมาปฏิเสธอีกล่ะ?”

“นั่นน่ะสิ ทำไมคณบดีหยางถึงไม่ออกมาพูดอะไรบ้าง? ทางมหาลัยก็เงียบไปเหมือนกัน”

“สรุปแล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”

แต่ไม่นานหลังจากที่มีคนแสดงความคิดเห็นในทำนองนี้ ก็จะมีนักศึกษาอีกจำนวนหนึ่งเข้ามาโต้ตอบเป็นทำนองชี้นำว่า

“พวกเราเชื่อมั่นในตัวคณบดีหยาง ในเมื่อพวกนายเองก็เรียนอยู่ในมหาลัยนี้เหมือนกัน ถ้าไม่สนับสนุนคณบดีหยาง แล้วพวกนายจะไปสนับสนุนใครได้อีก!”

“ถูกต้องแล้ว ฉันเชื่อว่าคณบดีหยางเป็นคนดี เรื่องนี้เขาถูกใส่ร้าย เขาถูกใส่ร้าย!”

หลังจากนั้นคนที่ชื่อ “หลี่หยุนเหา” ก็แสดงตัวออกมาตั้งกระทู้ของตัวเอง

เขาใช้ชื่อจริงเป็นชื่อล็อคอิน ทุกคนจึงทราบว่าชายหนุ่มผู้นี้คือหนึ่งในนักศึกษาที่คณบดีหยางเหวินป๋อช่วยโกงคะแนนสอบ!

“ฉันเป็นคนที่ถูกพาดพิงในกระทู้ไร้สาระนั่น”

“อยู่ดี ๆ มีใครก็ไม่รู้มากล่าวหาว่าฉันเรียนจบได้เพราะความช่วยเหลือของคณบดีหยาง ฉันขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง นี่คือการเล่นสกปรกที่น่าเกลียดมากที่สุด”

“ฉันขอยืนยันว่าฉันสามารถเรียนจบได้ด้วยความสามารถของตัวเอง! ไม่ใช่เรียนจบเพราะความช่วยเหลือของคณบดีหยาง ฉันมีหลักฐานที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ เพราะอย่างนั้นฉันถึงได้ออกมาแสดงตัวนี่ไงล่ะ!”

“มาถึงตอนนี้ทุกคนคงเข้าใจแล้วใช่ไหมว่า เพราะอะไรเจ้าของกระทู้เหลวไหลนั่นถึงไม่ยอมเปิดเผยตัว”

“ในเมื่อฉันแสดงตัวออกมาแล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวอีกต่อไป ฝากถึงเจ้าของกระทู้นั้นด้วยนะ ถ้านายมีหลักฐานก็รีบแสดงออกมา ไม่งั้นระหว่างฉันกับนายได้เห็นดีกันแน่!”

เมื่อกระทู้นี้ถูกโพสต์ออกไป

มันก็ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมากโดยทันที

ในที่สุดก็มีบุคคลที่เกี่ยวข้องปรากฏตัวออกมาแล้ว!

“ยอดเยี่ยม!”

และชายหนุ่มที่แสดงตัวออกมานั้นก็กลายเป็นวีรบุรุษ

ส่วนเจ้าของกระทู้ที่พยายามเปิดโปงคณบดีก็กลายเป็นตัวร้ายไปแล้วเช่นกัน

“เห็นไหมล่ะ คณบดีหยางเหวินป๋อถูกใส่ร้ายจริง ๆ ด้วย!”

“ฉันชอบความกล้าหาญของนายจัง!”

“ทำไมเจ้าของกระทู้นั้นถึงได้เงียบแบบนี้ คนที่ถูกพาดพิงเขาก็ออกมาชี้แจงแล้วไง เจ้าของกระทู้ก็ต้องออกมาชี้แจงบ้างแล้วนะ!”

“ถูกต้อง!”

“เก่งจริงก็เอาหลักฐานออกมาแสดงสิ”

“ฮ่า ๆ ป่านนี้เจ้าของกระทู้นั่นคงหน้าแหกหมอไม่รับเย็บไปแล้วมั้ง”

“นึกแล้วเชียวว่าเชื่อถืออะไรไม่ได้เลย!”

“เจ้าของกระทู้คนนั้นน่ะ เก่งจริงก็ออกมาแสดงตัวหน่อยสิ!”

“บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าทำไมนายต้องมาใส่ร้ายท่านคณบดีด้วย!”

บรรดานักศึกษาคณะแพทย์แผนจีนเมื่อเห็นว่ากระแสเริ่มตีกลับไปทางเจ้าของกระทู้ผู้เป็นปริศนา พวกเขาก็รีบปรากฏตัวออกมากระหน่ำซ้ำเติมด้วยความมั่นใจในชัยชนะ

ตอนแรกกระทู้เปิดโปงหยางเหวินป๋อดูมีข้อมูลแน่นหนาน่าเชื่อถือ

ไม่ว่าจะเป็นถ้อยคำที่เลือกใช้ หรือข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่แม่นยำ เมื่ออ่านดูแล้วก็จะไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องโกหกแต่อย่างใด!

ในใจของผู้คนจำนวนมากจึงเกิดความลังเลขึ้นมา

แต่เมื่อมีนักศึกษาที่ถูกพาดพิงได้ออกมาแสดงตัว และชี้แจงรายละเอียดทุกอย่าง ทุกคนก็พอจะรู้คำตอบแล้วว่ากระทู้ต้นเรื่องมีแต่ข้อมูลเหลวไหลทั้งเพ

โดยเฉพาะเมื่อมีนักศึกษาที่ถูกพาดพิงอีกคนหนึ่งแสดงตัวออกมาแล้วเช่นกัน

“ฉันเองก็เป็นคนที่โดนพาดพิง ตอนนี้ฉันขอพูดบ้างล่ะ ฉันกล้ายืนยันเลยว่าฉันเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางได้ด้วยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ เพราะที่นี่คือมหาลัยในฝันของฉันมาตลอด…”

เมื่อเป็นเช่นนี้

กลุ่มนักศึกษาที่สนับสนุนหยางเหวินป๋อมาตั้งแต่แรกก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น

หลังจากนั้นทางมหาวิทยาลัยที่นิ่งเงียบมาตลอดก็เริ่มเคลื่อนไหวบ้างแล้วเช่นกัน

“ประกาศ : ทางมหาวิทยาลัยได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมผิดจริยธรรมของหยางเหวินป๋อ คณบดีประจำคณะแพทย์แผนจีน ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยจะทำการสอบสวนเรื่องนี้อย่างรวดเร็วที่สุด”

“ผลการสอบสวนจะประกาศให้ทุกท่านได้รับทราบภายในวันจันทร์นี้”

เมื่อมีประกาศของทางมหาวิทยาลัยเผยแพร่ออกมา บรรดานักศึกษาของคณะแพทย์แผนจีนก็รีบตั้งกระทู้ให้กำลังใจทันที

“พวกเรามาส่งกำลังใจให้คณบดีหยางกันเถอะ คณบดีไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดจริยธรรมแบบนี้แน่นอน เขาเป็นคนใสซื่อมือสะอาดมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จักเลยนะ!”

“นอกจากจะทวงคืนความยุติธรรมให้คณบดีหยางแล้ว พวกเราสมควรลากตัวคนตั้งกระทู้ออกมาลงโทษด้วย ฉันอยากรู้นักว่ามันเป็นใคร? ถ้าจับได้ว่าเป็นหนึ่งในนักศึกษาของที่นี่ ทางมหาลัยสมควรไล่ออกให้ไวเลย!”

“ใช่แล้ว เราต้องทวงคืนความยุติธรรมให้คณบดีหยาง แล้วไล่คนที่ใส่ความเขาออกไปซะ!”

“ฝากถึงไอ้คนปล่อยข่าวลือนะ แกรอรับชะตากรรมของตัวเองได้เลย!”

เกือบทุกคอมเมนต์ต่างก็ให้กำลังใจหยางเหวินป๋อ

บางคนถึงกับไปแจ้งความขอให้ตำรวจติดตามตัวผู้ตั้งกระทู้มารับโทษตามกฎหมายด้วยซ้ำ

หลังจากที่ทางมหาวิทยาลัยออกประกาศแล้วนั้น ก็ไม่เกิดความเคลื่อนไหวใด ๆ ตามมาอีกเลย

“เป็นไปตามสูตรเลยนะ”

ซูเย่ยิ้มให้กับข้อความที่อยู่ในกระทู้โจมตีตนเอง

ขั้นตอนแรกหยางเหวินป๋อต้องส่งหน้าม้าออกมาเบี่ยงเบนความสนใจก่อน หลังจากนั้น ทางมหาวิทยาลัยถึงได้รับช่วงต่อ

นี่คือสูตรสำเร็จที่ชายหนุ่มคาดการณ์เอาไว้แล้วตั้งแต่แรก

ทุกอย่างได้ถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี

ซูเย่อยากรู้เหลือเกินว่าผลการสอบสวนในอีกสองวันข้างหน้าจะเป็นไปอย่างที่เขาคิดหรือไม่

รุ่งเช้าวันต่อมา ซูเย่ติดตามหลี่เคอหมิงไปยังแผนกแพทย์แผนจีนของทางโรงพยาบาลจี้หยาง เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการฝังเข็มต่อไป

“ช่วงหลังได้ทบทวนตำราเรียนบ้างไหม?”

หลี่เคอหมิงถามระหว่างอยู่ในลิฟต์กันเพียงสองคน

ซูเย่พยักหน้าตอบ

หลี่เคอหมิงยิ้มรับดวงตาเป็นประกายและพูดว่า

“ถ้าวันนี้มีคนไข้ต้องเข้ารับการฝังเข็มอีก เธอจะได้เป็นคนกำหนดจุดฝังเข็ม และถ้าเธอยังสามารถทำได้โดยไม่มีปัญหาอีก ครั้งหน้าฉันจะอธิบายวิธีการฝังเข็ม และการรมยาชนิดอื่น ๆ ให้ฟัง ความรู้ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีสอนในมหาลัยทั่วไปหรอกนะ แต่จะสอนก็แต่เพียงมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนระดับสูง และสอนกับนักศึกษาระดับหัวกะทิเท่านั้น”

“แต่เอาเป็นว่าวันนี้เธอต้องทดสอบการกำหนดจุดฝังเข็มให้ผ่านก่อนดีกว่า”

หลี่เคอหมิงมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าชายหนุ่มจะต้องผ่านการทดสอบโดยไม่มีปัญหา

และที่สำคัญก็คือ เขาอยากจะรู้ว่าซูเย่มีความรอบรู้เกี่ยวกับการฝังเข็ม และรมยาลึกซึ้งในระดับไหนกันแน่

“ได้เลยครับ”

ซูเย่พยักหน้า

เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก อาจารย์วัยกลางคนและลูกศิษย์หนุ่มเดินออกไป พวกเขาพบว่าขณะนี้มีพยาบาลสาวจำนวนมากกำลังมายืนรวมตัวพูดคุยกันอยู่ที่เคาน์เตอร์พยาบาลด้านหน้าแผนกแพทย์แผนจีนเต็มไปหมด

เมื่อซูเย่ปรากฏตัว เสียงพูดคุยของพวกเธอก็ยิ่งดังมากขึ้น

เหล่าพยาบาลสาวจ้องมองซูเย่ตลอดเวลา

พวกเธอไม่มีโอกาสได้มองหน้าเขาชัด ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นี่คือซูเย่ ชายหนุ่มที่กำลังจะได้เป็นลูกศิษย์คนใหม่ของปรมาจารย์แพทย์แผนจีน และเป็นผู้ที่ได้รับธงขอบคุณจากญาติคนไข้ตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานในโรงพยาบาล

เขาช่างหล่อเหลาอะไรขนาดนี้!