ตอนที่ 327 ไม่อยากไปก็ต้องไป
สาวใช้ผู้นั้นกล่าวเสียงแข็ง “พวกเจ้าอย่าได้เมินเฉยเช่นนี้ ฮูหยินของข้าลดตัวมาขอรับการรักษาที่นี่ ก็นับว่าให้เกียรติพวกเจ้ามากพอแล้ว อย่าได้ทำตัวหน้าไม่อายนัก คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”
ไป๋จื่อแสร้งว่านอนหลับต่อไปไม่ไหวแล้ว นางลืมตามองสาวใช้ผู้นั้น ถอนใจกล่าวว่า “สาวใช้จากสกุลร่ำรวยผู้นี้ช่างไม่เหมือนใครยิ่งนัก!”
กู้ผิงฮุ่ยเห็นแม่นางบนเตียงตื่นแล้ว จึงมองตาขวางใส่สาวใช้ “พูดมาก ถอยไปเสีย!”
สาวใช้ย่อมรู้จักท่าทางเช่นนี้ของฮูหยินดี ทว่าขณะถอยไปก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะมองเด็กสาวบนเตียงครั้งหนึ่ง
กู้ผิงฮุ่ยก้าวไปข้างหน้าสองก้าว กล่าวกับไป๋จื่อที่นอนอยู่บนเตียงว่า “แม่นางไป๋ ได้ยินว่าเจ้าเชี่ยวชาญวิชาแพทย์ พวกข้ามาขอรับการรักษาด้วยความบริสุทธิ์ใจ”
ไป๋จื่อประคองร่างลุกขึ้นนัก ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ ริมฝีปากแห้งแตกมีเลือดซิบ
นางจับจ้องไปที่ฮูหยินผู้ร่ำรวยน่าเกรงขาม “ใครบอกท่านว่าข้าเชี่ยวชาญวิชาแพทย์”
“ใต้เท้านายอำเภอของเมืองชิงหยวนเป็นน้องชายของข้า วันนี้ข้าไปหาเขาที่ที่ว่าการอำเภอ เป็นน้องสะใภ้ที่บอกข้า นางไม่เพียงบอกว่าเจ้ารักษาใบหน้ากับมือของคุณชายเมิ่งจนหายดี ยังเคยช่วยชีวิตของเยี่ยเอ๋อร์ด้วย”
เมื่อหญิงชราและหลิวซื่อได้ยินดังนั้น พวกนางยิ่งยิ้มเจ้าเล่ห์ ที่แท้ฮูหยินผู้นี้ไม่เพียงแค่ร่ำรวย ยังมีฐานะสูงส่ง เป็นถึงพี่สาวของใต้เท้านายอำเภอ ถ้าหากรักษาความสัมพันธ์กับนางต่อไป แล้วจะยังต้องกังวลเรื่องอนาคตของเสี่ยวเฟิงอีกหรือ
สีหน้าของจ้าวซู่เอ๋อกลับเปลี่ยนแปลง ที่แท้ฮูหยินที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ก็เป็นคนสกุลเฉียน ที่ทำร้ายแม่นางไป๋กับหูเฟิงจนเกือบตาย
ไป๋จื่อพลันหัวเราะขึ้นมา ริมฝีปากที่แตกระแหงมีเลือดสดๆ ซึมออกมา ที่แท้นางก็เป็นภรรยาของเถ้าแก่เฉียน พี่สาวของใต้เท้ากู้ ช่าง ‘บังเอิญ’ เสียจริงๆ
“เจ้าหัวเราะอะไร” กู้ผิงฮุ่ยรู้สึกว่าเสียงหัวเราะของนางแปลกยิ่งนัก เพราะมันไม่เหมือนกับการหัวเราะเพราะมีความสุข แต่กลับเป็นการหัวเราะเยาะเพราะขบขันมากกว่า
เด็กสาวไม่ตอบ กลับย้อนถามด้วยซ้ำ “ไม่รู้ว่าใต้เท้านายอำเภอได้บอกท่านหรือไม่ ว่าเมื่อวานข้าไปร้องเรียนสามีของท่านเรื่องจ้างนักฆ่าที่ที่ว่าการอำเภอ ใต้เท้านายอำเภอไม่เพียงไม่รับคำร้องของข้า ยังโบยข้าตั้งหลายไม้อย่างไม่มีเหตุผล จนถึงตอนนี้ข้ายังลงจากเตียงไม่ได้ เขาไม่ได้บอกท่านเลยหรือ”
กู้ผิงฮุ่ยชะงักงัน “เจ้าว่าอะไรนะ”
ไป๋จื่อแค่นหัวเราะ ก่อนจะนอนลงอย่างเชื่องช้า “ข้าบอกว่าก่อนหน้านี้ข้าเกือบถูกนักฆ่าที่สามีของท่านส่งมาฆ่าตาย กว่าจะรอดชีวิตมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไปร้องเรียนที่ศาลาว่าการแล้ว แต่กลับถูกน้องชายของท่านโบยอีก ตอนนี้แม้แต่ลงจากเตียงยังทำไม่ได้ แล้วท่านยังจะให้ข้าไปรักษาคนสกุลเฉียนของพวกท่านหรือ ท่านว่าเป็นไปได้หรือไม่”
กู้ผิงฮุ่ยทำตัวไม่ถูกโดยสิ้นเชิง นางไม่รู้เรื่องราวนี้เลย หากรู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น ให้ตายอย่างไรนางคงไม่มา
ทว่าบุตรชายของนางป่วยจนมีสภาพเช่นนั้น หากนางกลับไปมือเปล่า แล้วบุตรชายจะเป็นอย่างไร
กู้ผิงฮุ่ยกัดฟัน ก่อนจะหันหน้าไปขยิบตาให้กับสาวใช้ที่อยู่ข้างหลัง
สาวใช้รู้กัน นางก้าวเข้าไปหาไป๋จื่อ “แม่นางไป๋ เรื่องนี้ฮูหยินของข้าไม่รู้จริงๆ นายท่านของพวกข้าก็ไม่ใช่คนเลวร้ายดังที่เจ้าว่า จะต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันอย่างแน่นอน”
หลังจากหญิงชราฟังคำกล่าวของไป๋จื่อแล้ว สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป ในใจสาปแช่งเด็ดสาวอยู่ไม่รู้ตั้งกี่หน เป็นใครกัน ถึงได้กล้าหาเรื่องใต้เท้านายอำเภอและคนสกุลเฉียนเช่นนี้
หญิงชรารีบไกล่เกลี่ย “ใช่ๆๆ แม่นางผู้นี้พูดถูก ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันอย่างแน่นอน ตอนนี้รักษาคนป่วยเร่งด่วนกว่า เจ้ารีบตามนางไปเถอะ”
ไป๋จื่อหลับตากล่าว “ข้าเองก็เป็นคนป่วย แล้วมีใครรักษาให้ข้าบ้าง เจ้าว่าข้ามีสภาพเช่นนี้แล้ว ยังเหมือนคนที่ยังรักษาคนป่วยใดได้อีก”
สาวใช้ผู้นั้นมีสีหน้าเคร่งขรึมในทันที “พวกเจ้ารับเงินไปแล้ว วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไป ไม่อยากไปก็ต้องไป”
……….
ตอนที่ 328 บังคับเด็กสาวชาวบ้าน
ไป๋จื่อแค่นหัวเราะ “จริงหรือ เถ้าแก่เฉียนว่าจ้างนักฆ่า ฮูหยินเฉียนก็บังคับเด็กสาวชาวบ้านอีกหรือนี่” นางเงยหน้ามองสาวใช้คนนั้น “เจ้าว่าพวกข้ารับเงินของเจ้าแล้ว ใครรับ เงินอยู่ที่ไหน”
สาวใช้ชี้ไปยังหญิงชราสกุลไป๋ที่อยู่ข้างๆ “นางเป็นคนรับเงิน นางเป็นย่าของเจ้า นางรับก็เท่ากับเจ้ารับ อย่าได้บิดพลิ้ว”
“ข้าไม่ได้บิดพลิ้ว นางรับเงินของเจ้าแล้ว เจ้าก็ให้นางรักษาสิ ข้าไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับนางสักนิด หากไม่เชื่อ พวกเจ้าก็ลองไปสอบถามในหมู่บ้านดูก็ได้”
สาวใช้ยอมแพ้ นางมองไปทางฮูหยิน
กู้ผิงฮุ่ยคิดถึงบุตรชายของตน นางกล่าวพลางกัดฟันว่า “ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้ากล่าวหาว่าข้าบังคับเด็กสาวชาวบ้านแล้ว วันนี้ข้าจะลองบังคับดูสักครั้ง”
นางหันไปเรียกทางหน้าประตู “เด็กๆ!”
ข้ารับใช้สองคนถลันเข้ามา “ฮูหยินมีอะไรให้รับใช้หรือขอรับ”
กู้ผิงฮุ่ยชี้ไปยังไป๋จื่อที่แกล้งหลับอยู่บนเตียง “พาตัวนางไป”
เหล่าข้ารับใช้กำลังจะลงมือ เสียงของหูเฟิงก็พลันดังมาจากข้างนอก “ใครกล้าลงมือ”
ในเรือนมีคนอออยู่แน่นขนัด หูเฟิงยืนอยู่ที่หน้าประตู ยื่นมือไปดึงสาวใช้สองคนข้างกายกู้ผิงฮุ่ยออกมา และถือโอกาสโยนพวกนางลงกับพื้น
เมื่อข้ารับใช้เห็นดังนั้น ก็ถลกแขนเสื้อขึ้นหมายจะเข้ามา ทว่าถูกโยนออกไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แตะต้องแม้แต่ชายเสื้อของหูเฟิงด้วยซ้ำ
กู้ผิงฮุ่ยตกใจไม่น้อย นางนำคนมาด้วยสี่คน แต่ทั้งหมดล้วนถูกโยนออกไป ต่อไปไม่ใช่ว่าจะถึงคราวนางแล้วหรือ
“อย่าๆๆ อย่าลงมือ ข้าจะออกไปเอง” นางรีบวิ่งออกไปข้างนอก วิ่งด้วยความรีบร้อน จนลืมไปว่าตรงประตูยังมีรั้วอยู่ด้วย เท้าของนางเกี่ยวเข้ากับรั้วนั้น อีกทั้งข้างกายยังไม่มีสาวใช้คอยประคองสักคน จึงล้มหน้าคว่ำลงไป เศษดินเปื้อนเต็มหน้าและศีรษะ กินเลนเข้าไปคำหนึ่ง นางทั้งเจ็บ ทั้งโมโห โกรธจนตัวสั่นไปหมด
สาวใช้ทั้งสองคนรีบเข้ามาประคองฮูหยินลุกขึ้น หนึ่งคนในนั้นชี้หูเฟิงที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน “เจ้า เจ้ากล้าไร้มารยาทกับฮูหยินของข้า เจ้าคอยดูนะ นายท่านของข้าและใต้เท้ากู้ไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่”
หูเฟิงแค่นหัวเราะ “จริงหรือ เจ้ากลับไปบอกนายท่านของเจ้ากับใต้เท้ากู้ บอกว่าข้าหูเฟิงจะรออยู่ที่นี่ ดูสิว่าพวกเขาจะทำอย่างไรกับข้า”
กู้ผิงฮุ่ยรู้สึกกลัว สายตาที่ชายหนุ่มเบื้องหน้านางจ้องมอง แหลมคมไม่ต่างอะไรกับมีด นางแม้กระทั่งไม่กล้าสบตากับเขาสักครั้ง
“เจ้า เจ้าคอยดูเถอะ ความอับอายในวันนี้ ข้ากู้ผิงฮุ่ยไม่มีทางลืม!” นางรีบร้อนหมุนกาย ขณะเดียวกันนั้นก็มองหญิงชราและหลิวซื่อที่กำลังมีสีหน้าตกใจกลัว ก่อนจะชี้หน้าพูดเสียงแหลมกับพวกนางว่า “พวกเจ้าก็ด้วย ข้าไม่มีทางปล่อยพวกเจ้าไว้เป็นอันขาด”
หญิงชราและหลิวซื่อกลัวจนเข่าอ่อน โดยเฉพาะหญิงชรา นางจะไปคิดได้อย่างไรว่าเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา ไป๋จื่อนางเด็กหน้าตายผู้นี้ผิดใจกับใต้เท้ากู้และเถ้าแก่เฉียนก็ช่างเถอะ แต่ยังดึงพวกนางไปผิดใจกับพวกเขาอีกด้วย หากพวกเขาอยากจะแก้แค้นจริงๆ…นางไม่กล้าคิดต่อไปแล้ว
นางรีบหยิบถุงเงินออกมา สองมือกระคองมันส่งไปให้กู้ผิงฮุ่ย “ฮูหยินอย่าโกรธไปเลยนะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า ข้าอยากช่วยท่านจากใจจริง ต้องโทษนางเด็กไป๋จื่อหน้าตายนั้น ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หากท่านอยากแก้แค้นนาง ข้ายินดีร่วมมือเต็มที่ นางเด็กหน้าตายผู้นี้ควรจะถูกสั่งสอนสักครั้งจริงๆ”
สาวใช้ข้างกายของกู้ผิงฮุ่ยยื่นมือไปรับถุงเงินคืนกลับมาจากหญิงชรา ก่อนจะถลึงตามองอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรอีก รีบประคองฮูหยินจากไป ด้วยกลัวว่าหากออกจากที่นี่ช้าแม้แต่ก้าวเดียว บุรุษดุร้ายป่าเถื่อนผู้นั้นจะพุ่งเข้ามาฉีกทึ้งพวกนาง
หญิงชรามองฝ่ามือที่ว่างเปล่า เจ็บปวดใจราวกับมีใครนำมีดมากรีดหัวใจของนาง เงินที่ถึงมือแล้วต้องลอยหายไปไม่ว่า ยังต้องผูกพยาบาทกับผู้สูงศักดิ์และมีชื่อเสียงอีก ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย…