ตอนที่ 171 นั่งรอเงินปันผล

แม่สาวเข็มเงิน

ซุนต้าหูเหมือนถูกน้ำร้อนลวกอย่างไรอย่างนั้น เขาถือเงินด้วยมืออันสั่นเทา และเกือบทำให้ทองแดงในกำมือร่วงลงไปบนพื้นอยู่รอมร่อ

“เงินนี้มัน…” เมื่อสักครู่ ซุนต้าหูพูดมาสองคำ เจียงป่าวชิงจึงพูดขัดจังหวะเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “พี่ต้าหู พี่เอาไปเถอะเจ้าค่ะ นี่คือเงินที่พี่สำรองจ่ายไปเมื่อก่อนหน้านี้ยังไงล่ะเจ้าค่ะ”

ซุนต้าหูส่งเสียงอุทานด้วยใบหน้าเหยเก เขาลังเลอยู่สักครู่ สุดท้ายก็รับเงินไว้ในที่สุด

เจียงป่าวชิงยิ้มให้ซุนต้าหู “พี่ต้าหู พี่ไปทำธุระของพี่ต่อเถอะ ข้าขอตัวกลับก่อนนะ”

แต่ทว่าเจียงป่าวชิงยังเดินได้ไม่ถึงไหน นางก็ได้ยินเสียงของซุนต้าหูเรียกไว้จากทางด้านหลังเสียก่อน

“ป่าวชิง!” ในน้ำเสียงนี้เต็มไปด้วยการดิ้นรน

เจียงป่าวชิงหมุนตัวกลับมามองซุนต้าหู “พี่ต้าหู ยังมีธุระอะไรอีกหรือเจ้าคะ ?”

เดิมทีซุนต้าหูรวบรวมความกล้าแล้ว แต่เมื่อเห็นใบหน้าของเจียงป่าวชิง ความกล้านั้นมันก็หายไปอย่างรวดเร็วราวกับขี้เถ้าและควันที่โดนลมพัดปลิวอย่างไรอย่างนั้น  เขารู้สึกเพียงว่าแสงสายัณห์ที่สวยที่สุดในช่วงพลบค่ำก็ยังไม่สวยเท่านางเลยด้วยซ้ำ

ซุนต้าหูพูดอย่างห่อเหี่ยวเล็กน้อย “ไม่มีอะไร” เขาจับเส้นผมตัวเองด้วยท่าทางเขินแปลก ๆ จากนั้นก็พูดซ้ำอีกครั้ง “ไม่มีอะไร”

หลังจากที่ขายรถล่อไปแล้ว ซุนต้าหูก็มีเวลาว่าง แต่เขานั้นก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถทำอะไรได้ ที่ดินก็ไม่มีตั้งนานแล้ว จึงต้องอยู่ในบ้านอย่างว่าง ๆ ในทุก ๆ วัน ทว่าการที่เขาเคยยุ่งจนชาชิน เมื่อว่างเช่นนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่พอสมควร

ซุนต้าหูถึงกับคิดว่าหลังจากสิ่งที่ร่วมลงขันกันกับซุนต้าตงทำเงินได้แล้ว เขาต้องซื้อรถล่อมาอีก เพราะถึงอย่างไร เขาทำเป็นแค่ขับรถล่อเท่านั้น

เจียงป่าวชิงเห็นซุนต้าหูมีสีหน้ายุ่งเหยิงระคนดิ้นรนจึงถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปใกล้เขา จากนั้นก็พูดกับเขาด้วยเสียงอันเบา “พี่ต้าหู เกิดอะไรขึ้นหรือถึงได้ขาดเงิน ? แล้วเหตุใดพี่ต้องขายรถล่อด้วยล่ะ ? …ถ้าหากว่าพี่ขาดเงินก็บอกข้าได้ ช่วงนี้ข้าทำการค้าเล็ก ๆ อยู่ แม้ว่าอาจจะไม่มีเงินก้อนโต แต่ถ้าฉุกเฉินก็พอช่วยเหลือพี่ได้อยู่นะเจ้าคะ”

ซุนต้าหูจะตอบปัญหานี้ได้อย่างไร มุมปากของเขากระตุกอยู่สักครู่ แต่ก็พูดอะไรไม่ออกอยู่ดี  เขานั้นไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดกับเจียงป่าวชิงอย่างไรดี ว่าการที่เขาหาเงินก็เพื่อจะไปสู่ขอนางอย่างยิ่งใหญ่นั่นเอง

เจียงป่าวชิงไม่อยากบังคับซุนต้าหู ในเมื่อเขาไม่เต็มใจที่จะพูด เขาก็คงจะมีบางอย่างที่พูดออกมาไม่ได้อย่างแน่นอน อันที่จริงนางเองก็ไม่ได้เป็นคนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านด้วย เมื่อนางเห็นว่าเป็นเช่นนี้ ก็ล้มเลิกความคิดที่จะถามไปในที่สุด

แต่ทว่าตอนที่นางกำลังจะกลับ ก็เห็นซุนต้าตงรีบวิ่งมาทางนี้เสียก่อน เมื่อเขาเห็นเจียงป่าวชิงก็อยู่ที่นี่เช่นกัน เขาก็ไม่ได้สนใจนาง แต่เลือกที่จะดึงแขนซุนต้าหูให้เข้าไปในบ้านแทน “พี่หู ข้ามีธุระจะคุยกับพี่”

ซุนต้าหูถูกซุนต้าตงลากเข้าไปในบ้านทั้งอย่างนั้น

เจียงป่าวชิงมีลางสังหรณ์ว่าถ้าหากว่ามีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับซุนต้าตง นั่นคงจะต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน นางจึงหยุดฝีเท้าลงเล็กน้อยให้พอได้ยินที่พวกเขาคุยกันบ้างเป็นครั้งคราว

“ไม่พอ…”

“ขาดแคลนแหล่งผลิตสินค้า ราคาจึงสูงขึ้น”

“ต้องการอีกสิบตำลึง”

เหมือนมีอะไรมากระทบกันอยู่ในใจของเจียงป่าวชิง นางนึกถึงกิจการขายแบบลูกโซ่ที่ซุนต้าตงเคยคุยโม้กับซุนต้าหูบนรถเมื่อครั้งก่อน

หรือว่าการที่ซุนต้าหูขายรถล่อนั้นจะเป็นซุนต้าตงที่หลอกเขาไปทำเรื่องนี้ ?

ถ้าหากว่าเป็นเช่นนี้จริง ๆ แล้วเจียงป่าวชิงจะนั่งติดที่ได้อย่างไร นางเดินเข้าไปเปิดประตูบ้านทันทีและเห็นสองพี่น้องยังคงคุยกันอยู่ในบ้าน เมื่อพวกเขาเห็นนางพุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน ซุนต้าตงก็ตีหน้าขรึม “อะไร ? เจ้ายังไม่ไปอีกรึ ? แล้วเจ้าเข้ามาทำไม ?”

ใบหน้าของเจียงป่าวชิงไร้ซึ่งความผิดปกติใด ๆ นางพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ไม่มีอะไร ข้าแค่ได้ยินเจ้าบอกว่ามีช่องทางที่จะทำให้ร่ำรวยอยู่ในมือ ข้าเองก็อยากรวย ทุกคนจะได้ทำเงินด้วยกันอย่างไรล่ะ”

แววความดีใจและโลภมากแล่นผ่านในดวงตาของซุนต้าตง แต่เขากลับยังคงทำท่าทางรังเกียจเจียงป่าวชิง จากนั้นเขาตวาดขึ้นมาเสียงดัง “ฝันไปเถอะ! เป็นคนอื่นที่ให้ช่องทางนี้กับข้า ข้าพาพี่หูรวยคนเดียวก็พอแล้ว!”

“อย่าขี้เหนียวสิ” เจียงป่าวชิงพูดยิ้ม ๆ “ถึงอย่างไรเราก็เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ไม่ใช่ว่าครั้งที่แล้วข้าได้ยินเจ้าบอกว่าเพียงแค่มีเงินทุนก็สามารถทำเงินได้แล้วหรอกรึ ? ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็พาข้าร่วมทำด้วยอีกคนสิ”

มาถึงตอนนี้ ซุนต้าตงถึงจะแสร้งทำสีหน้าลำบากใจ “…ช่างเถอะ เห็นแก่ที่เจ้าเป็นคนจากหมู่บ้านเดียวกัน ข้าจะให้เจ้าร่วมด้วยสักครั้งก็ได้ แต่ถ้าหากว่าเจ้าอยากเข้าร่วม เจ้าจะต้องลงเงินยี่สิบตำลึงเพื่อเป็นการเข้าร่วมกระบวนการ”

เจียงป่าวชิงเองก็แสร้งทำสีหน้าลำบากใจเช่นกัน “ไอ้โย! เงินยี่สิบตำลึงมันเยอะเกินไป ข้ามีไม่เยอะขนาดนั้นหรอก”

ซุนต้าตงได้ฟังดังนั้น เขาก็ตีหน้าขรึมอีกครั้ง “ไม่มีก็ไปรวบรวมมา เจ้าดูอย่างพี่ต้าหูของข้า พี่ต้าหูของข้าขายรถล่อจนรวบรวมเงินมาได้ยี่สิบตำลึงเพื่อนำมาเข้าร่วมกระบวนการ ผ่านไปแค่ไม่กี่วัน เขาไม่ต้องทำอะไรก็ได้รับเงินปันผลสามส่วนแล้ว ไม่เชื่อเจ้าก็ถามพี่หูดูสิ”

เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ด้วย ที่ซุนต้าหูขายรถล่อก็เพราะถูกซุนต้าตงโบกสะบัดให้ไปทำสิ่งนี้!

ซุนต้าหูที่อยู่ด้านข้างพยักหน้ายืนยัน “อืม ก่อนหน้านี้ต้าตงเพิ่งนำเงินปันผลสามส่วนมาส่งให้ข้า”

“โอ้! ทำเงินได้เยอะขนาดนั้นเชียวรึ ?” สีหน้าของเจียงป่าวชิงมีความลังเล ท่าทางของนางเหมือนกำลังใจสั่นอย่างไรอย่างนั้น

ซุนต้าตงจึงพูดอย่างไม่รีรอ “ฮ่า ๆ ใช่แล้ว โอกาสไม่รอใครหรอกนะ และข้าก็ไม่ได้แนะนำใครสุ่มสี่สุ่มห้าด้วย ถ้าเจ้าลงเงินช้า เจ้าก็จะรวยช้าข้าขอบอกไว้แค่นี้”

เจียงป่าวชิงก้มหน้าแสร้งทำเป็นพิจารณาอย่างตั้งใจ ราวกับถูกคำพูดของซุนต้าตงโน้มน้าวใจแล้วทำนองนั้น

“อืม ถ้าอย่างนั้น เจ้าบอกหน่อยสิว่าตกลงแล้วมันได้กำไรอย่างไร ให้ข้าได้เข้าใจบ้าง” เจียงป่าวชิงพูดขึ้นอย่างลังเลใจ

ซุนต้าตงพูดอย่างหงุดหงิด “แหม วิธีทำเงินของคนอื่น เจ้าจะให้ข้าบอกเจ้าง่าย ๆ ได้อย่างไรเล่า ? เจ้าแค่รู้ว่าลงเงินแล้วสามารถนั่งรอเงินได้ก็พอแล้ว”

เจียงป่าวชิงมีสีหน้าลังเล “มีสัญญาอะไรไหม ?”

“ยังต้องการสัญญาอีกรึ ?” ความไม่มั่นใจปรากฏขึ้นในดวงตาของซุนต้าตง จากนั้นเขาก็ต่อว่าเจียงป่าวชิงทั้งที่ในใจหวาดผวาอยู่อย่างนั้น “นี่ป่าวชิง ตกลงว่าเจ้ายังอยากทำเงินอยู่หรือเปล่า ? ลีลาอยู่ได้”

เจียงป่าวชิงพยักหน้าแล้วพูดสรุปเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้น นี่ก็หมายความว่าเจ้าทั้งบอกไม่ได้ว่าเงินที่ลงไปจะได้กำไรอย่างไร และไม่มีสัญญาใด ๆ เพียงแค่พูดปากเปล่าแล้วต้องการให้เราลงเงินอย่างนั้นสิ ?”

“แล้วทำไมล่ะ อ้อ เจ้าไม่เชื่อข้าล่ะสิ ?” ซุนต้าตงเพิ่มระดับเสียงให้สูงขึ้นเพื่อมาปกปิดความไม่มั่นใจของตัวเอง “ข้าบอกให้เจ้าฟังไปแล้ว เจ้าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ คือเจ้าจะไม่เชื่อก็ช่างเจ้า แต่ถ้าไม่เชื่อก็รีบกลับไปซะ มันเสียเวลาทำเงิน” พูดเสร็จ เขาก็คิดจะผลักเจียงป่าวชิงด้วยความหงุดหงิด

ทว่าซุนต้าหูมาขวางตรงหน้าเจียงป่าวชิง จากนั้นเขาก็กระชากแขนซุนต้าตงแล้วพูดอย่างไม่เห็นด้วย “ต้าตง เหตุใดพูดอยู่ดี ๆ ถึงจะลงไม้ลงมือได้ล่ะ ?  ตอนนั้นที่เจ้ามาบอกข้า ข้าเชื่อเจ้าเพราะเจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า แต่การที่ป่าวชิงไม่เชื่อ สิ่งนี้ก็สมควรแล้ว”

ซุนต้าตงแสดงท่าทางโมโหและหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด “พี่หู พี่ดูสิผู้หญิงคนนี้ช่างไม่รู้จิตใจของคนดีเอาเสียเลย ช่องทางทำเงินที่ดีขนาดนี้ ข้าหวังดีคิดจะพานางเข้าร่วมด้วย แต่นางกลับพูดออกทะเล แล้วยังสงสัยในตัวข้าอีกต่างหาก  ข้าไม่พาคนแบบนางร่ำรวยไปด้วยกันหรอก!  พี่หู ข้าพาพี่คนเดียวก็พอแล้ว  ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่ได้เงินเพิ่มเติมนี้ ไม่ใช่ว่าเพราะให้พี่หูได้หาเงินมากมาย ยิ่งลงเงินเยอะเท่าไหร่ ก็จะได้เงินมากเท่านั้น วันนี้ข้าไม่มีอารมณ์แล้ว ขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”

ซุนต้าตงถลึงตาใส่เจียงป่าวชิงอย่างโหดเหี้ยม จากนั้นเขาก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว

เจียงป่าวชิงเห็นซุนต้าตงกลับไปแล้ว ตอนนี้นางถึงจะหันกลับมาพูดกับซุนต้าหู “พี่ต้าหู ที่พี่ขายรถล่อก็เพราะรวบรวมเงินมาให้ซุนต้าตงน่ะหรือ ?”

ซุนต้าหูหลบสายตา “อื้อ”

เจียงป่าวชิงถอนหายใจทันที “เฮ้อ… พี่ต้าหู พี่เองก็เข้าใจดีไม่ใช่หรือ บนโลกนี้มีเรื่องดีอะไรที่ได้มาโดยไม่เสียแรงที่ไหนกัน เหตุใดพี่ถึงได้ไม่รอบคอบเช่นนี้ ? พี่ดูท่าทางขาดความมั่นใจของซุนต้าตงสิ น่าสงสัยออกนะ”