เฉินชางรับมีผ่าตัดมา การผ่าตัดเริ่มขึ้น!
ร่างกายมนุษย์คือเครื่องจักรที่มีความละเอียดและซับซ้อนมากที่สุด และอวัยวะส่วนคอก็เป็นสะพานเชื่อมสัมพันธ์ภายในร่างกายมนุษย์
ภายในลำคอประกอบไปด้วยอวัยวะอีกหลายอย่างที่ทำงานร่วมกัน อวัยวะส่วนที่มีความสัมพันธ์กันกับชีวิตของเราอย่างแนบแน่นมากที่สุดก็คือหลอดลมกับหลอดอาหาร
และสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ทั้งหลอดลมกับด้านบนของหลอดอาหารเชื่อมต่อโดยตรงกับคอหอย เวลาที่หายใจ ลมจะเคลื่อนผ่านหลอดลม ระบบทางเดินหายใจจะเปิด เมื่อมีการกลืนกินอาหารเข้าไป ระบบทางเดินหายใจจะปิด ส่วนระบบทางเดินอาหารจะเปิด เพื่อป้องกันไม่ให้มีอะไรหลุดเข้าไปในหลอดลม
ดังนั้น เวลาที่พวกเรารักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการให้อาหารทางสายยางจมูก[1]หรือการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหาร พวกเราจำเป็นต้องให้ผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการช่วยทำท่ากลืนไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด มีอะไรหลุดเข้าไปในหลอดลม ก่อให้เกิดการสำลักซึ่งอันตรายถึงชีวิต ในชีวิตประจำวันเวลารับประทานอาหารห้ามตะโกนห้ามหัวเราะเสียงดัง เพื่อป้องกันอาหารหลุดเข้าไปในหลอดลม ทำให้ระบบทางเดินหายใจถูกอุดกั้นจนขาดอากาศหายใจ
แม้แต่เวลาที่จะผายปอด จำเป็นต้องเชยคางผู้ป่วยขึ้นให้ศีรษะหงายไปด้านหลัง ให้คางอยู่เกือบเป็นแนวตรงกับลำคอ การจัดท่าเช่นนี้จะช่วยเปิดทางเดินหายใจ ทำให้ตอนที่ผายปอด ลมที่เป่าเข้าไปจะได้เดินทางเข้าไปในปอดได้สะดวก
หลอดลมจะอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าของหลอดอาหาร เด็กๆ คงเคยดูภาพยนตร์เรื่อง ‘ซอว์ เกมต่อตาย…ตัดเป็น’ มาก่อน ชายคนหนึ่งที่ศีรษะมีตู้ปลาครอบอยู่ ในตอนที่เขาหายใจไม่ออก เขาหยิบปากกาหมึกซึมขึ้นมาเจาะเข้าไปที่บริเวณหลอดลมโดยตรง เพื่อเปิดทางเดินหายใจ เขาถึงไม่ขาดอากาศหายใจตาย
ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า พวกเราจำเป็นต้องมีความรู้เบื้องต้นทางการแพทย์ ในกรณีที่ถูกใครจับตัวไปเช่นนี้ จะได้ไม่พลาดหยิบปากกาหมึกซึมขึ้นมาเจาะคอตัวเองผิดตำแหน่งตาย เพราะต้องการจะเปิดหลอดลม…
แน่นอนว่าไม่แนะนำให้ลอกเลียนแบบ ถึงอย่างไรเสีย คอก็เป็นบริเวณที่อันตรายที่สุด ไม่แนะนำให้ทดลอง…
การผ่าตัดดำเนินไปอย่างเชื่องช้า!
เฉินชางเริ่มลงมีดจากตำแหน่งของกระดูกอ่อนไครคอยด์[2]กรีดลงมาถึงกึ่งกลางกระดูกไหปลาร้าด้วยความยาวหนึ่งเซนติเมตร จากนั้นก็กรีดผ่าเนื้อเยื่อเข้าไปทีละชั้น ทีละชั้น
เขากรีดเปิดชั้นไขมัน[3] จากนั้นกรีดและแยกกล้ามเนื้อพลาทิสมา[4] แล้วจึงกรีดและแยกกล้ามเนื้อสเตอร์โนไคลโดมาสตอยด์[5]ไปยังกระดูกอ่อนไทรอยด์
เมื่อดึงคอคอดไทรอยด์[6]ขึ้น ก็จะเผยให้เห็นกระดูกอ่อนของหลอดลม[7]สอง…ถึงสี่วง
เฉินชางหยิบคีมขึ้นมา กรีดพังผืดบริเวณกระดูกอ่อนของหลอดลมออกอย่างเชี่ยวชาญ รอยกรีดอยู่กึ่งกลางระหว่าง กระดูกอ่อนของหลอดลมวงที่สอง…วงที่สาม ถึงตอนนี้ก็มองเห็นยางลบที่อุดกั้นหลอดลมได้แล้ว
นัยน์ตาของเฉินชางมองเห็นบริเวณที่มี [ยางลบ] สีแดงปรากฏขึ้น!
จู่ๆ เฉินชางก็พบว่านัยน์ตาของเขาล้ำเลิศยิ่งกว่ากล้องบรองโคสโคป เครื่องซีทีสแกน เครื่องเอ็กซเรย์ หรือเครื่องเอ็มอาร์ไอ[8]เสียอีก
แน่นอนว่าเงื่อนไขประการแรกคือเขาต้องกรีดเปิดผิวหนังกับชั้นผิวหนังไล่ลงไปแต่ทีละชั้นก่อน เขาถึงจะมองเห็นได้ เงื่อนไขนี้จัดว่าเป็นข้อเสียอย่างหนึ่ง ควรขอข้อเสนอแนะจากระบบสักหน่อย ดูสิว่าดวงตาของเขาจะอัพเลเวลได้หรือไม่
เฉินชางหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมากรีดเปิดหลอดลมตำแหน่งล่าง และในตอนนี้เอง เขาก็คีบยางลบออกจากหลอดลมได้อย่างราบรื่น!
ยางลบหนึ่งก้อนที่ในตอนนี้อาบไปด้วยเลือด ถูกคีบออกมาได้สำเร็จ
ขั้นตอนต่อไปก็คือขั้นตอนของการเย็บแผล
นี่เป็นการเย็บหลอดลมครั้งแรกของเฉินชาง แต่อันที่จริงแล้ว ขั้นตอนและวิธีในการเย็บก็ยังคงอยู่บนหลักการเดียวกัน
การผ่าตัดสำเร็จลุล่วง
อาการของเด็กหญิงค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ การหายใจก็เป็นปกติแล้ว
ไม่นานก็คงจะฟื้นแล้ว
เซียวเหอมองเฉินชาง อดยกนิ้วโป้งให้ไม่ได้ “คุณเก่งมาก หมอเฉิน! ความสามารถในการช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินของคุณนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
ระดับความยากในการผ่าตัดไม่มาก กังวลเพียงเรื่องก็คือเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างการผ่าตัด ในตอนนี้อาการของผู้ป่วยค่อนข้างคงที่ ก็เป็นธรรมดาที่เฉินชางจะไม่ได้กังวลอะไรแล้ว
เมื่อได้ยินเซียวเหอกล่าวชม เฉินชางหัวเราะ “แค่พอมีความรู้ด้านช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินน่ะครับ หัวหน้าเซียวอย่าหัวเราะเยาะผมนะครับ”
เซียวเหอส่งเสียงหัวเราะฮ่าๆ ออกมา เด็กหนุ่มคนนี้ไม่เลว
“หมอเฉิน ผมขอเบอร์มือถือของคุณหน่อยสิครับ ต่อไปวันข้างหน้าที่ห้องส่องกล้องจะต้องรบกวนแผนกฉุกเฉินของคุณอย่างขาดไม่ได้แน่ มีคุณอยู่ทั้งคน ผมก็เหนื่อยน้อยลง” เวลาที่เซียวเหอคุยกับเฉินชางเซียวเหอไม่ได้เรียกเขาว่าเสี่ยวเฉิน แต่เรียกเขาว่าหมอเฉิน
เฉินชางพยักหน้า หลังจากที่แลกเบอร์ติดต่อกันแล้ว ก็เข็นเด็กหญิงออกไปจากห้องส่องกล้อง
หลังจากเข็นเด็กหญิงที่ออกมาจากห้องส่องกล้อง สวีเหลียงกับภรรยาของเขาที่เฝ้ารอด้วยความร้อนใจตั้งนานแล้วก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที
“คุณหมอเฉินครับ ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยครับ”
เฉินชางพยักหน้า “ไม่มีปัญหาอะไรครับ การผ่าตัดราบรื่นมาก อีกเดี๋ยวเด็กก็คงฟื้นแล้ว แต่วันนี้อยู่อยู่ดูอาการที่ห้องสังเกตอาการก่อนนะครับ”
สวีเหลียงพยักหน้าติดต่อกัน เมื่อลูกไม่เป็นอะไร สวีเหลียงรู้สึกราวกับว่าตนได้รับการไถ่บาป
หญิงสาวก็ไม่ร้องไห้แล้ว แต่วิ่งตามมาที่ห้องสังเกตอาการแทนด้วยความประหม่า
หลังจากที่กลับมาถึงแผนกฉุกเฉินแล้ว เฉินชางให้ชายผู้เป็นพ่อของเด็กหญิงไปชำระค่ารักษา แล้วก็ให้นางพยาบาลที่อยู่เวรคำนวณค่าใช้จ่ายของห้องส่องกล้องให้ชัดเจน
การคำนวณรายจ่ายของแผนกฉุกเฉินค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อนกว่าเสมอ งานคำนวณค่าใช้จ่ายของนางพยาบาลในแผนกฉุกเฉินมีความซับซ้อนมากกว่าแผนกทั่วไป เพราะแผนกฉุกเฉินจะต้องประสานงานกับทุกแผนก ดังนั้นจึงมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยค่อนข้างมาก
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า สวีเหลียงก็วิ่งกลับเข้ามาอย่างรีบร้อน “คุณหมอเฉินครับ คุณหมอเฉิน เถียเถียนฟื้นแล้ว!”
[ติ๊ง ภารกิจช่วยชีวิตเด็กหญิงที่มีสิ่งแปลกปลอมอุดกั้นหลอดลมเสร็จสิ้น ได้รับรางวัล: คะแนนทักษะ +2!]
รับรางวัลคะแนนทักษะสองแต้มมาอย่างราบรื่น เขาบ่นในใจ เพิ่มมานิดเดียวเอง…
แต่ถึงอย่างไรเสียทักษะก็ติดตัวไปตลอดกาล อีกอย่าง ทักษะการช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินก็เป็นทักษะที่จำเป็นต้องมี จะว่าไปแล้ว ต่อให้ไม่มีรางวัลก็ปล่อยให้คนอื่นตายไปต่อหน้าต่อหน้าโดยที่ไม่คิดจะช่วยไม่ได้?
หรือว่าคงทิ้งเด็กไว้แบบนั้นเป็นเวลาสิบชั่วโมงโดยไม่สนใจไม่ได้?
เฉินชางทำไม่ได้!
เฉินชางยิ้มแล้วลุกขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า “ไปกันครับ ไปดูเด็กกัน”
สวีเหลียงยิ้มพร้อมกับรีบนำทางไป
เมื่อมาถึงห้องสังเกตอาการ ใบหน้ากับริมปากของเด็กหญิงดูเปล่งประกายมีเลือดฝาด อีกทั้งยังมีรอยยิ้มเผยออกมาให้เห็น หลังจากที่เด็กหญิงเห็นเฉินชางแล้ว เด็กหญิงก็พยายามทพูด “คุณอา…แค่กๆ!”
เฉินชางยิ้มแล้วเดินไปที่ข้างเตียง “ช่วงสองสามวันนี้อย่าเพิ่งใช้เสียงพูดนะครับ ระวังจะเจ็บคอ ต่อไปอย่าเอาอะไรใส่จมูกใส่ปากอีกนะ ได้ยินมั้ย”
เฉินชางลูบศีรษะเด็กน้อย ลูบเส้นผมที่อ่อนนุ่มของเธอ ในตอนนี้จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าต่อให้ต้องใช้แต้มอีกสักสองสามแต้มก็ยังคุ้ม
เมื่อเด็กหญิงได้ยินที่เฉินชางบอกว่าไม่ให้ใช้เสียง เธอก็รีบยกมือเล็กๆ ขึ้นมาปิดปาก นัยน์ตากลมโตของเธอจ้องมองเฉินชาง และพยักหน้าเต็มที่
เป็นภาพที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนโดยรอบ
เฉินชางมองเด็กหญิงตัวน้อยที่น่ารัก
นี่คงจะเป็นความสุขที่ได้จากการเป็นผู้รักษาสินะ
ทุกครั้งเวลาที่เห็นชีวิตคนตกอยู่ในอันตราย แล้วช่วยชีวิตช่วยชีวิตคนเหล่านั้นไว้ได้ด้วยมือคุณเอง ความรู้สึกของความสำเร็จนี้ไม่มีสิ่งใดมาเปรียบได้
ความสุขของนกคือท้องฟ้ากว้าง
ความสุขของปลาคือท้องทะเล
แต่ความสุขของหมอคือไม่มีคนป่วย
เฉินชางนึกถึงประโยคหนึ่งขึ้นมาได้ ยอมปัดฝุ่นบนตู้ยายังดีเสียกว่ายอมให้มนุษย์ในใต้หล้าต้องเจ็บป่วย ถ้ามวลมนุษย์ล้วนมีความสุข ระบบที่ตัวเองได้มาก็ไม่จำเป็นแล้ว
เมื่อเด็กหญิงเห็นว่าเฉินชางเหม่อลอย ทันใดนั้นเด็กหญิงก็ลุกพรวดขึ้นมา แล้วเดินช้าๆ เข้าไปกอดศีรษะของเฉินชางเอาไว้ เอามือทาบที่ข้างหูของเฉินชาง พูดเสียงแผ่วเบาว่า “คุณอาคะ คุณอาหล่อจัง โตขึ้นเถียนเถียนจะแต่งงานกับคุณอา ดีมั้ยคะ”
ประโยคนี้ทำให้เฉินชางถึงกับตะลึง
นี่เราดูโสดอย่างเห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย
แม้แต่เด็กสามขวบก็ยังดูออกว่าเราโสด!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็ถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
เฉินชางถามกลับเสียงเบา “ทำไมล่ะครับ”
เด็กหญิงสีหน้าไร้เดียงสา มองเฉินชางด้วยนัยน์ตากลมโตเปล่งประกาย เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าว ยืนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ประกาศกร้าวอย่างจริงจังว่า “บุญคุณของการช่วยชีวิต เด็กหญิงไม่อาจตอบแทนคุณไหว ทำได้แค่พลีกายถวายชีวิต!”
เฉินชางเกือบจะหัวเราะพรวดออกมา!
ผู้ป่วยคนอื่นๆ ในห้องรวมทั้งสวีเหลียงกับแม่ของเด็กต่างก็ส่งเสียงหัวเราะลั่นออกมา
เด็กในวัยนี้ฉลาดซุกซน และน่ารักสุดๆ!
เฉินชางลุกขึ้น แล้วลูบศีรษะเด็กหญิง “คุณอาจะรอหนูนะ!”
[1] การให้อาหารทางสายยางจมูก เป็นการให้อาหารผ่านทางสายยางจากจมูกถึงกระเพาะอาหาร สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืน
[2] กระดูกอ่อนไครคอยด์ (Cricoid Cartilage) เป็นกระดูกอ่อนที่มีลักษณะเหมือนวงแหวน ริมล่างจะติดกับหลอดลม
[3] ชั้นไขมัน (Subcutaneous) คือชั้นใต้ผิวหนังที่ประกอบไปด้วยไขมันเป็นหลัก ด้านล่างของชั้นไขมันจะเป็นกล้ามเนื้อ
[4] พลาทิสมา (Platysma muscle) คือแผ่นกล้ามเนื้อแบนกว้างอยู่ใต้ชั้นผิวหนังบริเวณคอแผ่ปกคลุมไหปลาร้า ทำให้ผิวหนังบริเวณลำคอตึง ใช้งานในการแสดงความรู้สึก ตกใจ เสียใจ เศร้า และขณะหายใจเข้าแรงๆ เช่นหลังออกกำลังกาย
[5]สเตอร์โนไคลโดมาสตอยด์ (Sternocleidomastoid) คือกล้ามเนื้อรูปร่างหนา กว้าง และแข็งแรงมาก รูปร่างเหมือนสายคาดบริเวณคอ
[6] คอคอดไทรอยด์ (Isthmus of the thyroid) เป็นส่วนที่อยู่บริเวณด้านกระดูกอ่อนของหลอดลม
[7] กระดูกอ่อนของหลอดลม (Trachea cartilage) กระดูกอ่อนรูปวงแหวน หรือรูปตัว U ซึ่งมีอยู่ 20 ชิ้น วางอยู่ทางด้านหลังของหลอดลม ช่องว่าง ระหว่างกระดูกอ่อนรูปตัว U ที่วางเรียงต่อกันมีเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อเรียบมายึดติดกัน
[8] MRI (Magnetic Resonance Imaging) เครื่องมือในการตรวจหาความผิดปกติของร่างกาย โดยใช้เครื่องสนามแม่เหล็ก และคลื่นความถี่วิทยุ สร้างภาพที่มีความละเอียดสูง ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้ละเอียดยิ่งขึ้น ส่วนผู้ป่วยก็ไม่ได้รับผลกระทบจากรังสีจากการเอกซเรย์ เช่น MRI สมอง MRI กระดูกสันหลัง เป็นต้น