ฟางเจิ้งมองไปนอกหน้าต่าง หิมะสะสมหนาขนาดนั้น ก่อนมองขาเรียวยาวข้างๆ ที่นั่งตน…
ฟางเจิ้งแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เข้าใจโลกนี้เล็กน้อย! หรือว่าผู้หญิงคนนี้ไม่กลัวหนาว?
วันนี้จูหลินอารมณ์ดี ทำไลฟ์สดมานานขนาดนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเล็กน้อย เธอเริ่มชอบการไลฟ์สดตามอำเภอใจ ไปไหนก็ไลฟ์ตลอด อาศัยหน้าตาสวยภายนอกประกอบกับการไม่ปกปิดนิสัยจริงๆ เลยได้ฉายาว่าราชินีราคี มีจำนวนแฟนคลับถึงสามหมื่นคน ชีวิตก็ถือว่าดีมาก
วันนี้จูหลินกลับบ้าน ขณะเดียวกันก็อยากเล่นบ้าง สวมกางเกงขาสั้นท้าฤดูหนาวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ! ทว่าผลคือ…
“ฟู่วๆ…ฉันสาบานว่าจากนี้จะไม่เล่นแบบนี้อีกแล้ว หนาวจนขาเหมือนกับอะไรเลย…” จูหลินถูขาสองข้าง ให้เสียดสีจะได้เกิดความร้อน
‘อึก! หนาวจนเหมือนกับอะไรเลยนะ…สมกับเป็นราชินีราคี ฉันมีราคีเลย!’
‘ฮ่าๆ…’
‘ราชินีราคี เดี๋ยวให้เฟอรารีสักคันไหม เอาอุ่นๆ เลย ฮ่าๆ…’
‘จรวดใหญ่พุ่งมาแล้ว หลบๆ…’
จูหลินเห็นดังนั้นก็ร้องเฮ้ย ด่ายิ้มๆ “ไอ้ปัญญาอ่อน! ไอ้พวกหมูอ้วน! แต่ก็ต้องขอบใจสำหรับของรางวัลของที่รักทั้งหลายนะ อบอุ่นกันจริงๆ ทุกคนดูสิ ฉันกำลังนั่งรถโดยสารทางไกลกลับบ้าน เป็นยังไง? รถของภาคตะวันตกเฉียงเหนือใหม่กิ๊กใช่ไหมล่ะ? ใช่แล้ว ทุกคนเดาดูซิว่าข้างๆ ฉันวันนี้จะเป็นคนแบบไหน น้องสาว? พวกคุณปู่? คุณลุง? คุณย่า หรือจะเป็นสาวๆ น่ารัก? เดาถูกมีรางวัลนะ จะโชว์ให้ดูสักรอบ!”
‘จะต้องเป็นสาวน้อยน่ารักที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายแน่!’
‘เป็นสาวน่ารัก!’
‘รู้สึกว่าราชินีราคีจะมีความต้องการนะ เธออย่าหวังจะได้คนหล่อหรือเนื้ออ่อนๆ เลย ไม่แน่อาจจะเป็นหลวงจีน!’
“ถุย! หุบปากอัปมงคลของพวกแกไปเลย ต่อให้เป็นหลวงจีนก็ต้องเป็นหลวงจีนที่หล่อ! เหมือน…เหมือน…หืม? เหมือนแบบนั้นน่ะ! ทุกคนดูเร็ว จับภาพไปที่เณรขาวสะอาด สดใหม่ หล่อเหลานั่น!” จูหลินปรับเลนส์กล้องเล็งไปนอกกระจกรถ นั่นคือฟางเจิ้งที่มึนงงอยู่เล็กน้อย
‘ว้าว หลวงจีนนี่ดีงามมาก!’
‘หลวงจีนจริงรึเปล่า? ไม่ใช่นักแสดงหรอกนะ?’
‘ขาเรียวยาว ริมฝีปากหนา รูปร่างดี…จิ๊ๆ ราชินี บวกเลย! พวกเราอยากเห็นฉากเลือดสาด!’
“พวกปากปีจอ พูดให้มันน่าฟังหน่อยจะได้ไหม? เอ่อ…เขาเหมือนจะเดินมาทางนี้จริงๆ อ้อมหลังรถไปแล้ว ขึ้นรถแล้ว!” จูหลินอึ้งไป คิดในใจว่า ‘ไม่บังเอิญขนาดนี้หรอกมั้ง ฉันแค่พูดไปอย่างนั้นเอง…’
‘ราชินีราคีเขากำลังมองเธออยู่…’
“ฉันรู้ คนทั้งรถก็มองฉันทั้งนั้นแหละ เหมือนกำลังมองคนป่วยโรคประสาท” จูหลินเย้ยเยาะตัวเอง
‘ราชินีราคีเขามาแล้ว คงไม่นั่งข้างเธอจริงๆ หรอกใช่ไหม?’
‘ถ้านั่งข้างเธอ ฉันจะให้จรวดหนึ่งลูก! จากนี้เธอจะไม่ใช่ราชินีราคีแล้ว แต่จะเป็นนักพยากรณ์…ราชินีราคี!’
“อมิตาพุทธ โยมหลบหน่อยได้ไหม? นี่ที่นั่งของอาตมา” ฟางเจิ้งมาอยู่ตรงหน้าจูหลิน เขางงเล็กน้อย อากาศหนาวแบบนี้ ขายาวใส่สั้นแบบนี้ ไม่กลัวหนาวจริงๆ เหรอ? ที่สำคัญคือฟางเจิ้งไม่ได้เจอผู้หญิงสวยที่สบายๆ แบบนี้มานานมากแล้ว ในใจเลยตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ก็เก้อเขินมากกว่า…
“หา? หา! อ้อ…” จูหลินก็งงเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะฟางเจิ้งหล่อ แต่…นี่มันบังเอิญเกินไป!
จูหลินเอียงข้างหลีกทางให้
ฟางเจิ้งกลับไม่ขยับ ทางแคบแบบนี้เธอยังเอียงข้าง เดินไปถ้าถูกแซวว่าเป็นคนหยาบคายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าถูกมองว่าหยาบคายจริงๆ ก็สนุกล่ะทีนี้
“ไม่พอเหรอ?” จูหลินถาม
ฟางเจิ้งตอบ “อมิตาพุทธ โยม เอ่อ มันแคบไปหน่อย”
‘พรวด…ฮ่าๆ…ราชินีราคี หลวงจีนรังเกียจเธอน่ะ!’
‘เหอะๆ ราชินีราคี ฉันว่าหลวงจีนคงไม่อยากใกล้เธอ…’
“พวกนายหุบปากไปเลย!” จูหลินอ่านข้อความของพวกปากปีจอเหล่านั้นแล้วตะโกนเสียงดัง
ทำให้คนบนรถตกใจจนมองมา จูหลินถึงรีบยิ้ม “ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะคะ คือไลฟ์สดอยู่ ในนี้มีพวกปากหมาเยอะ”
ทุกคนเงียบไป เห็นว่าจูหลินเป็นผู้หญิงสวย ขอโทษแล้วแถมยังจริงใจ เลยไม่มีใครว่าอะไร
ฟางเจิ้งพลันพบว่าการนั่งรถครั้งนี้อย่าหวังว่าจะสงบเลย…
จูหลินเห็นว่าฟางเจิ้งไม่เข้าไปจริงๆ จึงยืนขึ้นอย่างจำใจ “โอเคยัง?!” เธอลากเสียงยาวมาก มีความไม่พอใจเล็กน้อย
ปกติที่นั่งรถถ้าเธอหลีกทางแบบนี้ มีผู้ชายคนไหนบ้างที่จะไม่เบียดเข้าไปอย่างดีอกดีใจ? มีอย่างที่ไหนที่วางมาดถ้าเธอไม่หลบฉันก็ไม่นั่งแบบนี้ จูหลินไม่พอใจ พึมพำว่า “หลวงจีนน้อยนี่จะอะไรกันนักหนา ทำเป็นพระอาจารย์ไปได้…ฉันอยากรู้นักว่าจะสุภาพแบบนี้จริงๆ รึเปล่า”
ฟางเจิ้งนั่งลง จูหลินนั่งตาม จงใจหันกล้องไปทางฟางเจิ้ง ดวงตาโตกลอกไปมา กล่าวเบาๆ ว่า “ที่รักทั้งหลาย เดี๋ยวจะเล่าเรื่องตลกให้ฟังนะ”
‘ราชินีราคีจะเอาอีกแล้ว นั่งรอเลย!’
“มีของชนิดหนึ่ง หลวงจีนมีแต่ใช้มันไม่ได้ พวกนายเดาซิว่าอะไร?” พูดจบจูหลินชำเลืองมองฟางเจิ้งแวบหนึ่ง
ฟางเจิ้งได้ยินก็ไม่พอใจ ทำพูดอย่างนี้ต่อหน้าเขา…ผู้หญิงคนนี้…พูดได้น่าสนใจจริงๆ
แม้ฟางเจิ้งจะเป็นนักบวช แต่ก็ยังเป็นวัยรุ่น ยามว่างจะเข้าอินเทอร์เน็ต ไม่ได้มองว่าตนจะเป็นหลวงจีนตลอดชีวิตอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เจอผู้หญิงมาไม่กี่คน แต่พลันเจอผู้หญิงที่น่าสนใจแบบนี้เข้า เขารู้สึกแปลกใหม่ ดังนั้นเลยมองจูหลินพลางหัวเราะเหอะๆ
จูหลินเห็นแบบนั้นก็พูดไม่ออก หรือว่าหลวงจีนนี่จะไม่เข้าใจความหมายของเธอ? หรือว่าเขาจะเป็นหลวงจีนอันธพาลเหม็นโฉ่ ไม่ก็หลวงจีนปลอม?
จูหลินเงียบไป ในไลฟ์สดก็ทะเลาะกันแล้ว
‘ฉันไม่สน ใครก็อย่ามาขวางฉัน ฉันรู้ว่าคืออะไร! แต่ฉันไม่บอก!’
‘ฉันรู้แต่ไม่บอกเหมือนกัน ให้ราชินีราคีอึดอัดตายไปเลย’
‘ฉันรู้ ไอ้คอมเมนต์ข้างบนรู้แต่ไม่บอก ฉันก็จะไม่บอกเหมือนกัน’
‘แต่ฉันอยากบอกว่าให้ฉันดูหลวงจีนนั่นหน่อยได้ไหม หล่อมากเลย…’
จูหลินดูเพศไอดีของอีกฝ่าย เป็นผู้ชาย…
จูหลินเห็นฟางเจิ้งนิ่งเลยปิ๊งความคิดอย่างหนึ่ง ใช้แขนดันฟางเจิ้ง “ไต้ซือ ชื่ออะไรเหรอ?”
ฟางเจิ้งประนมสองมือ “อาตมาฟางเจิ้ง”
“อ๋อ…ไต้ซือฟางเจิ้ง รู้ไหมคะว่าคำเฉลยที่ฉันถามเมื่อกี้คืออะไร?” จูหลินยิ้มหยีตา
ฟางเจิ้งงุนงง ถามเขาเหรอ เขาจะรู้ไหมเนี่ยว่าคืออะไร! ถึงจะมีคำตอบ แต่จะพูดไปได้ยังไง? ตีให้ตายเขาก็ไม่ยอมพูด ดังนั้นเลยยิ้มเล็กน้อย “ไม่รู้”
“เดาสิ คิดดู ใช้สมองหน่อย หืมๆ?!” จูหลินใช้มือปาดหนังตา ดวงตางามปล่อยกระแสไฟ
น่าเสียดายฟางเจิ้งมีภูมิคุ้มกันต่อกระแสไฟในแววตาหญิงงามแล้ว เขากล่าวด้วยจิตใจสงบนิ่ง “อาตมาไม่รู้จริงๆ”
‘ฮ่าๆ ราชินีราคีปล่อยกระแสไฟพลาด!’
‘หลวงจีนน้อยตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว ราชินีราคีพ่ายแพ้!’
‘ราชินี เต็มที่หน่อยสิ!’
………………………