ตอนที่ 777-778

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 777 เจ้ามองข้านานขนาดนี้ทำไม

 

เพียงแต่ ช่วงเวลาที่เจ้าหอยยักษ์กับลู่อู๋น้อยว่านอนสอนง่ายเช่นนี้พบเห็นได้ยากนัก

 

เมื่อก่อนยามเธออยู่ตรงนั้นไม่ว่าจะย่างปลาเอย ย่างเนื้อเอย เจ้าหอยยักษ์ตัวนี้ล้วนต้องโหวกเหวกโวยวายอยู่ข้างกายเธอเสมอ ท่าทางกระตือรือร้นนัก น้ำลายไหลนองจนกลายเป็นแม่น้ำได้

 

ลู่อู๋น้อยยิ่งไม่ต้องพูดถึง เจ้าตัวนี้ขอเพียงได้พบเธอ จะชอบมุดอยุ่ในแขนเสื้อเธอ ขดหางเป็นก้อนปุกปุย กะพริบตาใส่เธออย่างน่ารักน่าเอ็นดู

 

แต่ยามนี้เจ้าสองตัวนี้กลับว่าง่ายถึงเพียงนี้!

 

หลังจากกู้ซีจิ่วมาถึงสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ ยามปกติเนื่องจากฝึกซ้อมและประลองเสียเป็นส่วนใหญ่ เจ้าสามตัวนี้ล้วนปล่อยไว้ในหุบเขาด้านนอก เดิมทีเจ้าสามตัวนี้ก็ราชาในหุบเขาอยู่แล้ว ดังนั้นส่วนมากจึงใช้เวลาอยู่ในหุบเขา สามวันห้าวันถึงจะยกโขยงกลับมาติดต่อเยี่ยมเยือนผู้เป็นนายที

 

ทุกครั้งที่กลับล้วนต้องสั่งอาหาร บางครั้งก็ให้กู้ซีจิ่วพาพวกมันไปกินที่โรงอาหาร บางครั้งก็จับสัตว์มาให้กู้ซีจิ่วช่วยย่าง ไปมาหาสู่กันเช่นนี้ตลอดสามเดือน

 

ยามนี้สังขารของเจ้านายมันเปลี่ยนผู้ถือครองแล้ว ทว่าดูเหมือนเจ้าสามตัวนี้จะมองไม่ออกเลย…

 

เมื่อได้ยินเสียงอะไรเปิดประตู ตี้ฝูอีก็เงยหน้าขึ้นมา มองเธอแวบหนึ่ง ท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อน “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายให้เกียรติมาเยือน เรือนชานอันซอมซ่อ ขอเชิญๆ”

 

เอ่ยวาจาอย่างเป็นทางการลื่นไหลยิ่งนัก

 

กู้ซีจิ่วนิ่งไปครู่หนึ่ง จู่ๆ เพิ่งนึกขึ้นได้ ตอนอยู่ในพิธีปักปิ่น ดูเหมือนช่วงสุดท้ายเธอกับเขาจะทะเลาะเบาะแว้งกัน…

 

จงบจนพิธีปักปิ่นสิ้นสุดลงเขาก็จากไปโดยไม่พูดกับเธออีกเลย หันหลังจากไปเสียดื้อๆ

 

ท้ายที่สุดแล้วสาเหตุของความขัดแย้งคืออะไรกันนะ?

 

‘เจ้าชอบเขาถึงเพียงนี้จริงๆ หรือ?’

 

‘ใช่!’

 

‘เพื่อเขาแล้วสละข้าได้โดยไม่แยแสเลยหรือ?’

 

‘ใช่!’

 

ดูเหมือนบทสนทนาสุดท้ายของเธอกับเขาจะเป็นเรื่องนี้…

 

ดูเหมือนบทสนทนานี้จะทำร้ายเขา ทำให้เขาผูกใจเจ็บ…

 

นึกไม่ถึงว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้สูงส่งจะมีนิสัยเด็กๆ เช่นนี้ด้วย

 

กู้ซีจิ่วเขม่นเขาอยู่ในใจเป็นร้อยรอบ

 

เนื่องจากมีพวกเจ้าหอยยักษ์ทั้งสามอยู่เบื้องหน้า กู้ซีจิ่วเลยไม่อยากโต้เถียงกับเขา ดังนั้นเธอจึงยิ้มกว้างแวบหนึ่ง “กลิ่นปลาย่างหอมไม่เลวเลย” นั่งลงตรงข้ามกับเขา

 

เจ้าหอยยักษ์มองกู้ซีจิ่วด้วยความระแวง กระเถิบขึ้นมาข้างหน้าเอย่างไร้สุ้มเสียง “เจ้ายบอกว่าปลาตัวแรกนี้ยกให้ข้า…”

 

เจ้าตะกละตัวนี้!

 

กู้ซีจิ่วยื่นมือไปเคาะเปลือกมันทีหนึ่ง “เจ้าคิดว่าข้ามาแย่งปลาของเจ้าหรือไง? ปลาตัวนี้ถึงเจ้าให้ข้าข้าก็ไม่กิน!”

 

เจ้าหอยยักษ์วางใจแล้ว เพียงแต่มันจ้องกู้ซีจิ่วอยู่ครู่หนึ่ง กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วมองมัน “เจ้ามองข้านานขนาดนี้ทำไม?”

 

หนูน้อยในเปลือกหอยกะพริบตาปริบๆ “ข้ารู้สึกว่า…รู้สึกว่าวันนี้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นมิตรยิ่งนัก” เหมือนเจ้านายตอนดีดเปลือกมันไม่มีผิด

 

อันที่จริงพวกเจ้าหอยยักษ์หดหู่มาก กลับมาหนนี้ขณะที่ต้องการจะไปหนีบชายชุดเจ้านายอย่างรื่นเริงเพื่อแสดงความรักใคร่ กลับถูกเจ้านายเตะออกไป แถมยังเตะออกไปไกลสามฉื่ออย่างไร้ซึ่งเมตตา มันประหลาดใจมาก ไม่ค่อยเข้าใจว่าเจ้านายเป็นบ้าอะไรไป

 

ส่วนลู่อู๋น้อยที่ตอนแรกคิดจะมุดเข้าไปในแขนเสื้อเจ้านาย แต่เจ้านายมองแค่แวบเดียวก็สะกดมันไว้ได้

 

จากนั้นทั้งสามตัวก็ถูกเจ้านายทำให้อยู่นิ่งๆ บอกพวกมันว่าเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณก็ควรมีท่าทางแบบสัตว์เลี้ยงวิญญาณ ควรปกป้องคุ้มครองผู้เป็นนาย มิใช่ออดอ้อนคลอเคลียเจ้านายดั่งแมวบ้านตัวหนึ่ง…

 

อบรมจนทั้งสามตัวจนหน้าหมอง ไม่กล้าเข้าใกล้นางอีก…

 

โชคดีที่หลังจากอบรมพวกมันเสร็จ ยังทราบว่าต้องปลอบใจพวกมันเสียหน่อย นางจึงเริ่มย่างปลาให้…

 

เจ้าหอยยักษ์กับลู่อู๋น้อยชอบกินปลาย่างของเจ้านายที่สุด เมื่อเห็นเช่นนี้ก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นั่งห้อมล้อมรอบกองไฟ เพียงแต่ไม่กล้าไปวอแวข้างกายผู้เป็นนายอีกแล้ว

 

————————————————————————————-

 

 

บทที่ 778 เธอจึงสะกดกลั้นอุ้งมือตน

 

ยามนี้เมื่อ ‘ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย’ มา ปฏิกิริยาแรกของเจ้าหอยยักษ์คืออีกฝ่ายจะมาแย่งปลาของมัน…

 

ตอนนี้อีกฝ่ายไม่เพียงแต่ไม่แย่งปลาของมันเท่านั้น ยังเคาะเปลือกของมันด้วย นี่เป็นการกระทำที่เจ้านายทำเสมอเมื่อพบมัน คิดถึงเหลือเกิน!

 

เจ้าหอยยักษ์รู้สึกน้ำตาจะไหลอยู่บ้าง ลองถูไถข้างกายเขาดู

 

ลู่อู๋น้อยก็กระโดดลงมาจากฝาหอย วิ่งมาอยู่เบื้องหน้ากู้ซีจิ่ว ใช้หางอันหนึ่งปัดป่ายมือชองกู้ซีจิ่ว

 

กู้ซีจิ่วข่มกลั้นความปรารถนาที่อยากจะสางขนมันเอาไว้…

 

เมื่อก่อนพอเธอเจอลู่อู๋น้อย ลู่อู๋น้อยจะใช้หางปัดป่ายมือเธอจนเป็นเรื่องคุ้นเคย เธอก็จะถือโอกาสดึงมันเข้ามา ใช้นิ้วสางขนให้มัน ตั้งแต่หัวจรดล่าง สางจนถึงหางแต่ละอัน…

 

ขนของลู่อู๋น้อยเรียบลื่นดุจแพรต้วน ให้สัมผัสดียิ่ง ดังนั้นยามที่กู้ซีจิ่วว่างจะชอบสางขนให้เจ้าตัวน้อยมาก และเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวน้อยก็ชอบให้เธอสางขนมาก ทุกครั้งยามสางขนให้มันล้วนครางครืดคราดอย่างสบายอุรา ใช้หางทั้งหมดพันข้อมือเธอเล่นกับเธอ…

 

บางอย่างพอทำไปนานๆ ก็จะหยั่งรากลึก ต่างฝ่ายต่างคุ้นเคย

 

ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะสลับร่างแล้ว แต่พอเห็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของตนก็อดไม่ได้ที่จะเล่นกับพวกมันตามความเคยชิน

 

จวบจนตี้ฝูอีช้อนตามองมา เธอถึงได้สติ

 

อันที่จริงสัตว์มีประสาทสัมผัสเฉียบไวกว่ามนุษย์ พวกมันอาจไม่รู้ว่าสังขารของเจ้านายเป็นผู้ถือรองแล้ว แต่พวกมันสัมผัสความผิดปกติของเจ้านายได้แต่เนิ่นๆ

 

ดังนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกมัน ถ้ากู้ซีจิ่วไม่ระวังสักหน่อยก็จะเผยพิรุธได้ง่ายดายยิ่ง

 

ด้วยเหตุนี้เธอจึงสะกดกลั้นอุ้งมือตนไม่ให้ไปสางขนลู่อู๋น้อย ลู่อู๋น้อยใช้หางปัดป่ายเธออยู่พักใหญ่ ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากเธอ เจ้าตัวน้อยผิดหวังยิ่ง หันหลังกระโดดกลับไปอยู่บนหลังเจ้าหอยยักษ์เหมือนเดิม หมอบอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางเหมือนลูกหมาถูกทิ้ง มองแล้วน่าสงสารเหลือเกิน

 

หัวใจกู้ซีจิ่วค่อนข้างปวดร้าว อดไม่ได้ที่จะส่งกระแสเสียงไปหาตี้ฝูอี ‘เมื่อไหร่พวกเราถึงจะสลับร่างคืนได้?’

 

ตี้ฝูอีตอบอย่างเฉยชา ‘บางทีถ้าข้าถูกผู้อื่นสังหาร เจ้าคงจะคืนร่างได้’

 

กู้ซีจิ่วเงียบงัน

 

เธอคร้านจะพูดจาไร้สาระกับเขาแล้ว

 

ในที่สุดปลาตัวแรกก็ย่างสุกแล้วตี้ฝูอีมองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง เอ่ยถาม “อยากลองชิมไหม?”

 

กู้ซีจิ่วมองปลาตัวนั้นแวบหนึ่ง ด้วยฝีมือการครัวของเธอ เธอตัดสินได้ว่าปลาตัวนี้น่าจะรสชาติเหลือรับประทานมากเป็นแน่ ดังนั้นเธอจึงส่ายหน้า “เจ้าจะมอบปลาตัวแรกให้เจ้าหอยยักษ์มิใช่หรือ?”

 

ตี้ฝูอีหัวเราะเบาๆ “ท่านเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย อีกทั้งเป็นแขก ย่อมต้องเชิญให้แขกกินก่อน ว่าอย่างไร? อยากชิมหรือไม่?”

 

กู้ซีจิ่วส่ายหน้าอย่างไม่สนใจ “เจ้าให้เจ้าหอยยักษ์เถิด คำไหนต้องเป็นคำนั้น”

 

ตี้ฝูอีไม่พูดอะไรอีก ยื่นปลาให้เจ้าหอยยักษ์ทันที เจ้าหอยยักษ์จ้องตาแป๋วมานานแล้ว รับมาแล้วเริ่มกินทันที แต่กินไปได้สองคำก็เหลือบมองตี้ฝูอีแวบหนึ่ง กินเข้าไปอีกสองคำก็เหลือบมองอีกแวบหนึ่ง

 

ตี้ฝูอีไม่สบอารมณ์ “มองข้าทำไม? มองข้าแล้วแกล้มข้าวหรือไง?”

 

เจ้าหอยยักษ์เบะปากน้อยๆ “เจ้าน้อย ข้ารู้สึกว่าฝีมือทำครัวของท่านตกต่ำไปไม่น้อย”

 

ตี้ฝูอีพูดไม่ออก ไม่นึกเลยว่าเขาจะถูกเดียดฉันจ์ ปลาที่เขาไม่ย่างให้ใครง่ายๆ กลับถูกเจ้าหอยยักษ์ตัวนี้รังเกียจ!

 

ยากนักที่จะได้เห็นท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้สิ้นท่า กู้ซีจิ่วอดยิ้มไม่ได้ จงใจเอ่ยว่า “ยังมีอีกหรือไม่? ย่างให้ข้าสักสองสามตัวสิ”

 

ตี้ฝูอีมองเจ้าหอยยักษ์จากนั้นก็มองกู้ซีจิ่ว กล่าวอย่างเด็ดขาด “ไม่มีแล้ว ตกได้ตัวนี้ตัวเดียว”

 

ตกปลาอยู่ครึ่งค่อนวันได้ปลามาตัวเดียว? ดูเหมือนทักษะการปลาของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้จะย่ำแย่อยู่เหมือนเดิม!

 

เจ้าหอยยักษ์สีหน้าไม่อยากเชื่อ “ได้ตัวเดียว? ตัวเดียวยังไม่พอจะยัดฟันข้าด้วยซ้ำ เจ้านาย สามวันพวกเราถึงจะกลับมาสักหน เหตุใดท่านจึงทารุณพวกเราถึงเพียงนี้…”

 

————————————————————————————-