ตอนที่ 156 : ต่างจากอดีต

ในมหาวิทยาลัยมักจะมีคนที่โดดเด่นอยู่หลายคนอย่างประธานนักศึกษา, คนจากตระกูลร่ำรวยและผู้หญิงที่สวย แต่ต่อหน้าคนเหล่านั้นแล้ว หวังเย่าเหนือกว่าทุกคนอย่างเห็นได้ชัด

อันที่จริงแล้ว หวังเย่าดูเหมืออนไม่ใช่คน เขาราวกับปีศาจ คนอย่างเขาไม่อาจจะเอาคนทั่วไปมาเทียบได้

ท่ามกลางสายตาของผู้คนนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะอิจฉาหรือชื่นชม แต่หวังเย่าก็ได้แค่กวาดตามอง เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะจากวันนี้ไปเขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้อีก พวกเขาจะอยู่คนละโลกกัน

คนละโลกที่ว่านี้หมายถึงหวังเย่าจะเรียนจบและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาจะไม่ถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดเดิม ๆ

เขาจูงมือจ้าวเมิ่งซีเดินเข้าไปในห้องโถงก่อนจะแยกตัวไปยังที่นั่งของฝ่ายตรวจสอบห้อง A และทักทายกับคนอื่น ๆ

“หวังเย่า ไม่คิดเลยว่านายจะทำได้ดีแบบนี้ นายเหนือกว่าเราอย่างมาก เราคงตามนายไม่ทันแน่”  ไช่เหวินเซิงถอนหายใจออกมา บางครั้งช่องว่างนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะตามทันได้

หวังเย่ายิ้มออกมา

ตอนนั้นเองหวังเย่าก็รู้สึกได้ถึงสายตาของใครบางคน มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เขาอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองและพบว่า เย่ฉิวเกากำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“เย่ฉิวเกางั้นหรือ ? ”  หวังเย่าเองก็ไม่พอใจ ตอนนี้เขาพัฒนาขึ้นมาแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอีกฝ่าย

ในอนาคต เขาจะไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ได้ไล่ตามเขาทันอย่างแน่นอน

ฮวงจินเทียนที่อยู่ไกลออกไปก็มองเขาด้วยสีหน้าเย็นชาเช่นกัน

“ฮวงจินเทียนด้วยหรือ ? ”   หวังเย่าแสยะยิ้มออกมา  “คู่ต่อสู้ของฉันในวันนี้ก็คือนาย ยังไงนายก็หนีจากกำมือของฉันไม่พ้น”

“หวังเย่า นายคิดจะท้าทายใครในวันนี้ ? ”  ไช่เหวินเซิงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

การประชุมพยับเมฆนั้นยังใช้กฎแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นหน้าเก่ารึหน้าใหม่ต่างก็มีโอกาสท้าทายและถูกท้าทายได้ 3 ครั้ง

สำหรับความแข็งแกร่งของหวังเย่าในตอนนี้แล้ว แม้จะไม่รู้ว่าอยู่ระดับไหนแต่ด้วยการที่เขาเป็นถึงผู้ตรวจสอบ 1 ดาวแล้ว แน่นอนว่าย่อมไม่ธรรมดา

ยิ่งไปกว่านั้น หวังเย่าที่พึ่งเข้ามาเป็นนักศึกษาใหม่ในตอนนั้นก็ขึ้นมาถึง 100 อันดับแรกได้ ตอนนี้มันผ่านมาอีกครึ่งปีแล้ว ใครจะไปรู้ว่าเขาจะพัฒนาไปได้ถึงระดับไหน

ตอนนี้เป็นเวลา 9 โมงเช้า แต่ด้วยการเข้ามาของผู้ชมอย่างต่อเนื่องจึงมีคนหลายหมื่นคนอยู่ในลานประชุมแห่งนี้

การประชุมพยับเมฆคืองานประจำปีของมหาวิทยาลัยหัวเซี่ย แต่ละครั้งนั้นจะมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องเดาเลยว่าการประชุมพยับเมฆครั้งนี้น่าสนใจที่สุด

ทำไมน่ะหรือ ?

เหตุผลก็ง่าย ๆ สาขาตรวจสอบมีนักเรียนที่แข็งแกร่ง เขาเป็นแค่เด็กปี 1 แต่สามารถขึ้นเป็นผู้ตรวจสอบ 1 ดาวได้แล้ว และบรรลุเป้าหมายของเด็กคนอื่น ๆ ในสาขาตรวจสอบหลายคน เขาได้โอกาสที่จะออกไปดูโลกภายนอก

ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือผู้ตรวจสอบ 1 ดาวผู้นี้ยังมีอสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ และยังเป็นเด็กที่ร่ำรวยที่สุดในตอนนี้เพราะเขามีแร่ไฟที่ขายได้เงินกว่า 50,000 ล้านเครดิต จนกลายเป็นเศรษฐีที่เด็กที่สุดไป

เขาทั้งหล่อทั้งแข็งแกร่งและร่ำรวย สาวงามของมหาวิทยาลัยต่างก็อยากได้เขาไปครอง

คนแบบนี้ไม่อาจจะหาใครมาเทียบได้ ไม่ว่าจะทำใจแค่ไหนก็ต้องอิจฉา

ดังนั้นหวังเย่าที่ไม่ได้ใส่ใจอะไรนั้นเมื่อเห็นสายตาของคนโดยรอบจึงพอเข้าใจได้บ้าง

ตอนแรกทุกคนมาที่นี่เพื่อดูเขา มันราวกับว่าเขามีอำนาจ

หวังเย่าไม่ได้หลงตัวเอง แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะดื่มด่ำกับความรู้สึกที่น่าพอใจในตอนนี้

สิ่งที่หวังเย่าคาดไม่ถึงคือการประชุมครั้งนี้ ลั่วหนานก็มาด้วย ไม่แปลกเลยที่ลั่วหนานจะเรียกเขาไปพบในวันก่อน

ลั่วหนานและเหล่าอาจารย์นั่งอยู่บนเวที เขากระแอมไอออกมาก่อนจะลุกขึ้นและพูดเกี่ยวกับการประชุมพยับเมฆ

ลั่วหนานเห็นท่าทีของทุกคนจึงเริ่มกังวลขึ้นมานิด ๆ จากนั้นเขาก็ประกาศเปิดพิธี เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันเฮฮาขึ้นมาในทันตา

เมื่อลั่วหนานพูดจบ พิธีกรก็ได้เข้ามารับหน้าที่ต่อและเริ่มการประชุมอย่างเป็นทางการ

ผู้เข้าร่วมครั้งนี้มีจำนวนมาก มีตั้งแต่เด็กปี 1 ไปจนถึงเด็กปี 4 เสียงโห่ร้องในระหว่างต่อสู้ดังกระหึ่มขึ้นมา

แต่การต่อสู้แบบนี้ หวังเย่าไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะตอนนี้เขาหมายตาอันดับต้น ๆ เอาไว้ การต่อสู้ทั่วไปเขาไม่ได้สนใจ

เขาถึงกับรู้สึกเบื่อ ความรู้สึกที่มีต่อการประชุมนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง  หวังเย่าถึงกับเอาโทรศัพท์ออกมาเพื่อดูข่าวต่าง ๆ ในอินเตอร์เน็ต

“ภูเขาผลไม้ ? ”

นี่คือเป้าหมายแรกที่เขาจะไปหลังจากที่เรียนจบแล้ว

ภูเขาผลไม้นั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองหัวเซี่ย เป็นภูเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตาและมีพรมแดนอยู่ติดกับเทือกเขาภูสวรรค์ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าภูเขาผลไม้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูสวรรค์

ในแง่ของพื้นที่แล้วมันไม่ได้ใหญ่มากนัก เทียบได้กับมิติ 3 ดาว มันทอดยาวเกือบ 1 พันไมล์ ภูมิประเทศที่นั่นก็สลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก

เหตุผลที่หวังเย่าจะไปที่นั่นก็ไม่มีอะไรมาก

เพราะภูเขาผลไม้นั้นมีมิตินอกขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ว่ากันว่ามันอาจจะเป็นมิติ 7 ดาว ดังนั้นจึงเรียกมันว่ามิติผลไม้ นอกจากนี้มันยังอยู่อันดับที่ 9 ใน 50 มิตินอกที่แข็งแกร่ง

มิติผลไม้นั้นอันตรายอย่างมาก มันมีสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดและอันตรายอยู่

ผลก็คือภูเขาผลไม้จึงได้รับผลกระทบจากมิติผลไม้ ดอกไม้และต้นไม้ที่นั่นต่างมีการกลายพันธุ์และให้ผลไม้ที่แปลกประหลาดออกมา

ผลไม้บางอย่างเป็นพิษ บางอย่างให้พลังงานสูง บางอันมีชีวิต บางอันสามารถเพิ่มพลังชีวิตได้…

หงอคงเองก็มาจากที่นั่น เขาไม่ได้เกิดขึ้นจากผลไม้แต่เป็นการดูดซับแก่นของโลกเข้าไปแทน

สำหรับหงอคงแล้ว มิติผลไม้และผลไม้นับไม่ถ้วนนั้นจะเป็นการช่วยเร่งความเร็วในการพัฒนาของมันได้