ตอนที่ 157 : อสูรหินที่น่าทึ่ง

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 157 : อสูรหินที่น่าทึ่ง

การที่หวังเย่าอยากไปที่ภูเขาผลไม้  เป้าหมายแรกก็คือเขาอยากไปเห็นที่นั่น เนื่องจากภูเขาผลไม้ได้รับผลกระทบจากมิตินอก จึงทำให้มันโด่งดังในเขตนี้

นอกจากนี้ก็เพื่อหงอคง ที่ที่เต็มไปด้วยผลไม้นั้นจะทำให้ค่าประสบการณ์ของหงอคงเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก

เขาตรวจสอบข้อมูลของภูเขาผลไม้ และถอนหายใจออกมา เขารับรู้ได้ถึงการสรรค์สร้างของพระเจ้า ภูเขาแห่งนี้ได้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดขึ้นมา กฎทั่วไปไม่อาจจะใช้กับที่นี่ได้

การประชุมพยับเมฆกินเวลาอยู่นาน ลานทั้งสี่นั้นมีการต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มีการต่อสู้ผ่านไปหลายพันคู่แล้ว

กินเวลามาจนถึง 4 โมงเย็น ตอนนั้นพิธีกรก็ได้พูดขึ้นมา  “สาขากระบี่ท้าทายจบแล้ว ลำดับถัดไป จะเป็นสาขาที่พวกเรารอคอย สาขาตรวจสอบจะเริ่มทำการท้าสู้”

สาขาตรวจสอบคือสาขาที่โด่งดังที่สุดในมหาวิทยาลัยหัวเซี่ย พวกเขาคือแนวหน้าของมหาวิทยาลัย พวกเขาได้รับคำชมและความสนใจอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายพวกเขาก็กลายเป็นที่ยอมรับของทุกคน

นอกจากนี้แล้วนักศึกษาของสาขาตรวจสอบก็อาจจะขึ้นเป็นผู้ตรวจสอบได้ ฐานะและอำนาจของผู้ตรวจสอบนั้นเหนือกว่าตำแหน่งอื่น ๆ

ดังนั้นผู้ตรวจสอบจึงเป็นตัวตนที่พิเศษ เป็นธรรมดาที่จะได้รับความสนใจจากคนอื่น ๆ ความสามารถของสาขาตรวจสอบเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้

แต่พิธีกรกลับชี้ไปที่หวังเย่า  ยังไงซะ เรื่องของหวังเย่าก็ถูกพูดถึงในอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย ผู้คนที่เข้ามาดูการประชุมครั้งนี้ก็มาเพื่อดูหวังเย่าด้วย

เมื่อได้ยินชื่อสาขาตรวจสอบ ผู้ชมและผู้เข้าร่วมต่างก็พากันแสดงสีหน้าตื่นเต้นออกมา ในที่สุดหวังเย่าที่พวกเขารอคอยก็จะปรากฏตัวสักที

หวังเย่าเองก็คึกเช่นกัน มันถึงเวลาที่เขาจะสู้แล้ว  เขาต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาที่พัฒนาขึ้นมา

ตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นจะต้องเป็นของเขา !

เมื่อพิธีกรพูดจบ หวังเย่าก็มองไปที่ฮวงจินเทียนที่อยู่ไกลออกไป อีกฝ่ายเองก็หรี่ตามองมาที่เขาเช่นกัน

เมื่อหวังเย่าเห็นว่าอีกฝ่ายพร้อมที่จะสู้  เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ลาน ก่อนจะมองไปที่ฮวงจินเทียนอีกครั้ง

“ฮวงจินเทียน นายกล้าสู้กับฉันรึเปล่า ? ”  หวังเย่าตะโกนออกมา

เมื่อหวังเย่าพูดจบ ทุกคนต่างก็พากันฮือฮาขึ้นมา หวังเย่าไม่ทำให้พวกเขาผิดหวังจริง ๆ เขาถึงกับท้าทายอันดับ 1 นี่มันทำให้ทุกคนตื่นเต้นไปด้วย

“ผมได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย ?  หวังเย่าเด็กปี 1 กล้าท้าทายรุ่นพี่ ผมเป็นพิธีกรมาหลายปีแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเรื่องแบบนี้  ผมละคาดหวังจริง ๆ ”

พิธีกรพูดออกมาเสียงดังซึ่งทำให้ทุกคนพากันตื่นเต้นขึ้นไปอีก รวมไปถึงก็กังวลด้วยเช่นกัน

ฮวงจินเทียนเห็นแบบนั้นก็แสดงสีหน้าเย็นชาออกมายิ่งกว่าเดิม ในฐานะผู้ที่ครองอันดับ 1 แล้ว เขาเองก็มีเกียรติและมีความมั่นใจในตัวเองพอสมควร ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะปฏิเสธคำท้านี้

หากเขาปฏิเสธ ก็คงเดาไม่ยากว่าเขาจะเสียชื่อเสียงและโดนผู้คนมากมายดูถูกมากแค่ไหน  มันเสียศักดิ์ศรียิ่งกว่าพ่ายแพ้เสียอีก

ดังนั้นฮวงจินเทียนจึงลุกขึ้นและพูดขึ้นมา  “ทำไมจะไม่กล้า ? นายควรกลัวว่าตัวเองจะได้นั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตเถอะ”

หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ก่อนจะส่ายหน้า  “คำพูดของนายฟังดูดี แต่ฉันไม่คิดใส่ใจหรอก ฮวงจินเทียน ฉันขอแนะนำนายว่าอย่าดิ้นรนโดยไม่จำเป็นเพราะต่อหน้าความแข็งแกร่งที่แท้จริงแล้ว ความแข็งแกร่งจอมปลอมน่ะไม่มีค่าหรอก “

“ปากดีนี่ ฉันเองก็อยากจะเห็นว่าแกมีดีอะไร มา มาเจอกัน”  ฮวงจินเทียนฮึดฮัดออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจ

ทั้งสองคนได้เดินขึ้นไปที่ลานท่ามกลางสายตาคาดหวังและตื่นเต้นของทุกคน

ฮวงจินเทียนเดินขึ้นไปบนลาน แต่ละก้าวนั้นล้วนหนักอึ้ง ความมุ่งมั่นของเขาเพิ่มขึ้นมาถึงขีดสุด ครั้งนี้เขาเตรียมใจมาแล้ว เขาไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาพร้อมที่จะสู้และป้องกันอันดับของเขาเอาไว้

ส่วนหวังเย่านั้น เขาผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด ทุกย่างก้าวดูคล่องแคล่วและไม่เกร็ง แถมยังมีรอยยิ้มบนใบหน้า ดวงตาของเขาสงบนิ่ง ทำให้ทุกคนรู้ว่าหวังเย่าเคยผ่านการต่อสู้ที่ยากลำบากมาแล้ว

การต่อสู้ในครั้งนี้จะออกมาแบบไหนนั้นไม่มีใครรู้ได้

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้เห็นทั้งสองคนแสดงฝีมือกันมานานแล้ว ไม่มีทางที่จะบอกจุดแข็งและจุดอ่อนของแต่ละคนได้ ก่อนการต่อสู้จะเริ่มขึ้น พวกเขาได้แต่อาศัยข้อมูลและเบาะแสบางอย่างเพื่อวิเคราะห์การต่อสู้ครั้งนี้เท่านั้น

ตอนนั้นทั้งสองคนได้เผชิญหน้ากันบนลาน

กรรมการที่ยืนอยู่ด้านนอกลานได้ตะโกนออกมา  “เริ่มต่อสู้ได้ ! ”

ฮวงจินเทียนได้เรียกอสูรของตัวเองออกมา มันคือตั๊กแตน 8 ขา ร่างกายของมันเป็นสีดำเข้มและมีดวงตาที่เย็นชา มันก้าวหน้าจากครั้งที่แล้ว ที่เลเวล 50 ขึ้นมาเป็น 53

แค่ครึ่งปีก็เพิ่มขึ้นมาถึง 3 เลเวล หากเป็นสัตว์อสูรทั่วไปก็ถือว่าดี แต่ตั๊กแตนนี่อยู่เลเวล 50 แล้ว การเพิ่มเลเวลของมันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมาก

หวังเย่าตรวจสอบข้อมูลของตั๊กแตนนั่นทันที

 ****

สายพันธุ์ : ตั๊กแตนมีด

ระดับ : ทอง

เลเวล : 53

สกิล : 1. ตัดขาด ใบมีดที่ขาทั้งแปดของมันสามารถตัดเหล็กกล้าได้

คลั่ง เมื่อเข้าสู่โหมดคลั่ง ความเร็วและพละกำลังจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

คลื่นเสียง สร้างเสียงรบกวนสติของสัตว์อสูรดึงอีกฝ่ายเขาสู่ความมืดมิด ก่อนที่จะลงมือฆ่า

****

หลังจากอ่านสถานะของมันแล้ว หวังเย่าก็ไม่รู้สึกหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย อสูรนี่อยู่แค่ระดับทอง ช่องว่างระหว่างระดับนั้นยังมีอยู่มาก เขาแค่เรียกการ์ฟิลด์ออกมาโจมตี 3-5 ครั้งก็สามารถจัดการกับมันได้แล้ว

“ฮวงจินเทียน นายยังมีอสูรระดับสวรรค์อยู่ ฉันแนะนำให้นายรีบเรียกมันออกมาจะดีกว่า ไม่งั้นแล้วนายจะไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย”

ด้วยความแข็งแกร่งของหวังเย่าแล้ว เขาสามารถจัดการกับตั๊กแตนนี่ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องเรียกอสูรออกมา

ฮวงจินเทียนแค่นเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา แต่ก็ยังเรียกอสูรตัวที่สองออกมา

“หวังเย่า อย่าหลงตัวเองไปเลย ฉันจะให้แกได้เห็นอสูรหินที่น่าทึ่งของฉัน”