ตอนที่ 267 คุณโกรธอีกแล้ว / ตอนที่ 268 หยุดไว้แค่นี้

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 267 คุณโกรธอีกแล้ว

 

 

เฉินฝานซิงกำฝ่ามือแน่น นัยน์ตาเย็นเยียบนั้นส่องประกายน้อยๆ

 

 

“คุณโกรธอีกแล้ว”

 

 

“ที่ฉันพูดแค่พูดถึงความถูกต้อง หากหลินหลินเป็นลูกคุณ ฉันก็คงไม่ไปลิดรอนสิทธิ์ความเป็นพ่อของคุณ แม่ของหลินหลินก็ไม่ตาย เธอแค่ยังอยู่ในคุก ในเมื่อยังมีชีวิตอยู่คุณก็ต้องมีหน้าที่ดูแลเธอ ฉันคงไม่อาจไปแย่งผู้ชายจากผู้หญิงคนหนึ่งได้ และไม่อาจจะไปแย่งพ่อของเด็กได้”

 

 

สิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดมาที่สุดนั่นก็คือมือที่สามที่ทำให้ครอบครัวร้าวฉาน

 

 

ดังนั้นเธอจึงไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น

 

 

พายุหิมะในดวงตาของเขาค่อยๆ สงบลง

 

 

เขาจ้องเฉินฝานซิงอยู่เนิ่นนาน เสียงทุ้มเห็นเยียบถึงได้เอ่ยขึ้น “คุณคิดว่าผมสนเรื่องนั้น?”

 

 

เฉินฝานซิงเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาเฉียบแหลมนั้นไร้ซึ่งที่ให้หลบหนี เธออธิบายอย่างเปิดอกแล้วยกมือขึ้นวางไว้ข้างกระจก เท้าศีรษะไว้กับฝ่ามือ พร้อมมองออกไปยังท้องฟ้าที่เริ่มมืดลงทุกทีผ่านหน้าต่างรถอย่างเฉยเมย

 

 

“ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไร แต่ทุกอย่างที่ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อกี้ ก็ยืนยันเหตุผลที่ทำให้ฉันหมดหนทางจะไปต่อกับคุณได้ อย่าทำลายขีดจำกัด ไม่เช่นนั้นเรื่องของเราอาจเสียสมดุลจนวุ่นวายไปมากกว่านี้ คุณก็เอาแต่คิดว่าทุกคำที่ฉันพูดออกมาคือต้องการจะไปจากคุณ แต่ในสถานการณ์แบบนั้น ลูกของคุณกับผู้หญิงอีกคน คุณคิดว่าฉันเลือกอะไร ฉันก็ต้องเลือกที่จะไป แต่ป๋อจิ่งชวน นั่นไม่ได้ความว่าฉันจะไม่เสียใจ…”

 

 

เฉินฝานซินหันไปมองเขา แม้จะอยู่ท่ามกลางแสงไฟสลัวในตัวรถ แต่ใบหน้านั้นซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด เธอยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยราวกับอยากจะปิดบังบางสิ่ง ทว่าใบหน้านั้นกลับดูเศร้าราวลืมหายใจ

 

 

สายตาของเขาจับจ้องใบหน้าเรียบเฉยของหญิงสาวอย่างเงียบงัน พลังที่พังทุกอย่างให้ย่อยยับลงได้เมื่อครู่มลายหายไปในชั่วพริบตา ความเยือกเย็นในดวงตานั้นค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น

 

 

“ก่อนหน้านี้คุณไม่ใช่คนทั่วๆ ไป คุณปรากฏตัวขึ้นมาในวันที่ฉันไม่เหลือใคร หยิบยื่นความช่วยเหลืออันยิ่งใหญ่มาให้ในวันที่ทุกคนต่างก็หันหลังให้ฉัน ช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้ คุณกลับให้อะไรฉันมากกว่าอีกหลายคนที่เข้ามาในชีวิตฉันตั้งแต่แรก ป๋อจิ่งชวน คุณอย่าเห็นฉันเป็นคนเนรคุณเลี้ยงไม่เชื่อง…”

 

 

ความเยือกเย็นจนเข้ากระดูกของเขานั้นหายไปจนหมดสิ้น เขามองใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาวแล้วยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมที่กระจายอยู่ตรงหน้าผาก นิ้วมือที่เห็นข้อนิ้วชัดเจนทาบลงบนแววตาที่คล้ายจะเรียบเฉยทว่าแท้จริงแล้วกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

 

 

เขาทนมองสายตาคู่นั้นไม่ได้

 

 

“ขอโทษ…”

 

 

เสียงของชายหนุ่มทั้งแหบและทุ้ม ความสับสนงุนงงที่ยากจะได้เห็นปรากฏขึ้นในดวงสีนิลคู่นั้น

 

 

ดวงตาของเฉินฝานซิงถูกฝ่ามืออุ่นปิดเอาไว้ เฉินฝานซิงขยับตาเล็กน้อยท่ามกลางความมืด แพขนตายาวปัดไปมาบนฝ่ามือของเขาจนแอบรู้สึกจักจี้

 

 

“คุณดื้อด้านที่จะเข้ามาในชีวิตฉันอย่างไม่สนใคร เพราะมันเป็นเรื่องที่ฉันคาดเดาไม่ได้ ห้ามไม่ได้ วางแผนไม่ได้ตั้งแต่แรก เพราะงั้นฉันถึงได้กลัวไงล่ะ คุณจะเข้ามาดื้อๆ ก็ได้ แล้วก็จะจากไปดื้อๆ ก็ยังได้…ก็เหมือนกับที่ทุกคนจากฉันไป…นอกจากจะเตรียมใจรับมัน ฉันก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว…”

 

 

“ไม่มีทาง” ป๋อจิ่งชวนดึงเธอเข้ามากอดไว้อย่างเอาแต่ใจ เสียงแหบทุ้มเอ่ยขึ้นด้วยความกังวลและร้อนใจ “ผมไม่มีวันไปจากคุณ”

 

 

“ฉันรู้ว่าฉันควรจะเชื่อคุณ ป๋อจิ่งชวน ฉันควรเชื่อคุณ…”

 

 

แต่เธอก็ไม่อาจกำหนดอนาคตได้เลย อนาคตที่ยังเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงอีกมากมาย

 

 

“ขอโทษ ผมวู่วามเอง”

 

 

 

 

 

ตอนที่ 268 หยุดไว้แค่นี้

 

 

“ป๋อจิ่งชวน ฉันไม่ได้อยากให้เรื่องพวกนี้ทำให้คุณกลายเป็นแบบนั้น เรื่องนี้เราหยุดไว้แค่นี้ได้ไหม”

 

 

“ได้ ผมจะไม่พูดถึงมันอีก”

 

 

ความมืดหม่นในดวงตาของเขาสลายหายไปในชั่วพริบตา

 

 

เขารับปากเฉินฝานซิงอย่างไม่คิดลังเล เสียงทุ้มเปล่งออกมาอย่างหนักแน่นก่อนที่รอยจูบอ่อนโยนจะประทับลงบนเส้นผมของเธอ

 

 

จะไม่เอ่ยถึงอีก

 

 

ต่อให้นั่นจะเป็นลูกของถิงเซินจริงๆ นั่นมันก็เรื่องของเขา

 

 

เพียงเพราะเด็กที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาแค่คนเดียว กลับทำเอาผู้หญิงคนหนึ่งเสียใจได้มากขนาดนี้

 

 

ต่อไปเขาคงไม่ไปยุ่งเกี่ยวอีกแน่ๆ

 

 

เรื่องของหลินหลินก็คงต้องหยุดไว้เพียงเท่านี้ ป๋อจิ่งชวนและเฉินฝานซิงต่างก็ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก

 

 

รถเคลื่อนตัวขึ้นอีกครั้ง เฉินฝานซิงก็เสนอขึ้นว่าจะไปซื้ออาหารที่ตลาดก่อน

 

 

“วันนี้ไว้ก่อนเถอะ” ป๋อจิ่งชวนเอ่ยค้านทันที

 

 

“ทำไมล่ะ นานๆ จะมีวันสุดสัปดาห์กับเค้านะ”

 

 

“ทำคุณเสียใจ ไม่มีหน้าไปกินอาการฝีมือคุณหรอก”

 

 

เสียงของเขาเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังไม่เร่งร้อน

 

 

เธอรู้สึกจมูกชาขึ้นทันที ทนฟังในสิ่งที่เขาพูดไม่ได้จริงๆ

 

 

เธอขยับปากแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

 

 

กลัวว่าแค่เธอเอ่ยปากก็จะเผลอเผยความอ่อนไหวออกมาให้เห็น

 

 

 

 

เมื่อกลับถึงตี้หัวฮวาถิง ป๋อจิ่งชวนก็ส่งเฉินฝานซิงจนถึงหน้าประตู

 

 

“กลับไปพักผ่อนให้เยอะๆ”

 

 

“อืม คุณก็เหมือนกัน” เฉินฝานซิงพยักหน้ารับโดยที่ไม่ได้เอ่ยรั้งเขาเอาไว้ เธอเดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวเล็กน้อย

 

 

ร่างสูงสง่าของป๋อจิ่งชวนยังคงอยู่ที่เดิมเช่นนั้น เขามองใบหน้าสวยงามที่อ่อนระโหยโรยแรงของหญิงสาว นัยน์ตาสีดำขลับนั้นก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

 

ขณะที่เฉินฝานซิงกำลังหมุนตัวมาปิดประตูอยู่นั้น เธอก็สังเกตเห็นสายตาของเขา เธอจึงส่งยิ้มน้อยๆ “คุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ ถ้ามีธุระอะไรฉันจะไปหาคุณเอง”

 

 

เขาพยักหน้ารับเล็กน้อย เสียงทุ้มในลำคอเล็ดลอดออกมาอย่างแผ่วเบา “ครับ”

 

 

จากนั้นเฉินฝานซิงก็ปิดประตูลง

 

 

ป๋อจิ่งชวนยืนอยู่ตรงประตูอยู่หลายนาที ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป

 

 

มือถือของเขาดังขึ้นในตอนนั้น เขายืนดูมันอยู่ในโถงลิฟท์ ก่อนจะกดรับสาย

 

 

“วันหยุดแล้วออกมาสังสรรค์กันสักหน่อยเหอะ” เป็นเสียงที่ห่างหายไปนานของอินรุ่ยเจวี๋ย เสียงจากฝั่งนั้นฟังดูนั้นดูจอแจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถึงสถานที่พักผ่อนหย่อนใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

ป๋อจิ่งชวนนิ่งไปก่อนจะหันไปมองห้องของเฉินฝานซิง เมื่อนึกถึงประโยคสุดท้ายของเธอได้ เขาจึงตอบปัดไป

 

 

“ไม่ไป พวกนายสนุกกันเถอะ”

 

 

“แม่ง พี่ป๋อ พี่กลับมาตั้งกี่เดือนแล้ววะ! นอกจากวันที่พี่รับตำแหน่งวันนั้น เรายังไม่เคยฉลองกันจริงๆ จังๆ เลยนะ! ออกมาเถอะ อย่าทำให้ความเป็นพี่เป็นน้องกันต้องเหินห่างไปเรื่อยๆ เลย”

 

 

ป๋อจิ่งชวนขมวดคิ้วแน่น เขาเงียบไปก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

 

 

“ไว้คราวหน้า”

 

 

“ครั้งก่อนก็พูดแบบนี้ พี่นี่มันใจไม้ไส้ระกำจริงๆ”

 

 

“อืม ครั้งหน้าไว้ว่ากัน” เขาฝืนพูดไปอีกครั้งก่อนจะกดวางสาย

 

 

จากเขาก็ลงลิฟท์มาชั้นล่าง

 

 

ไม่ว่าวันนี้เฉินฝานซิงจะพูดอะไรไปมากน้อยแค่ไหน แต่สายตาเย็นชาเช่นนั้น ยังคงฝักลึกอยู่ในความทรงจำของเขา

 

 

คิ้วและตาเขาดูขรึมขึ้นเล็กน้อย เขาถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำไป จากนั้นไม่นานเสียงซ่าๆ ของสายน้ำก็ได้แว่วออกมาจากห้องอาบน้ำ

 

 

 

 

จากนั้นสองนาที

 

 

ป๋อจิ่งชวนก้าวออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำสีกรมตัวบาง สายคาดเอวพันรอบเอวเขาไว้หลวมๆ อย่างไม่ใส่ใจ

 

 

เพียงแต่ยังคงมองออกได้ถึงรูปร่างอันงดงามไร้ที่ติ เส้นผมสีหมึกยังคงชุ่มไปด้วยน้ำ

 

 

คอเสื้อเปิดกว้างออกมาตามท่าทางการเช็ดผม จนเผยให้เห็นเนื้อหนังเป็นแผ่นกว้าง

 

 

ความขาวเกลี้ยงเกลาประดับด้วยความสูงส่ง ลอนคลื่นที่ชัดเจนแนบสนิทกับผ้าเสื้อคลุมตัวบาง รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของหน้าอกและกล้ามเนื้อที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยได้

 

 

ท่ามกลางความงามสง่าและสูงส่งยังคงเผยให้เห็นความน่าหลงใหลอย่างที่สุด

 

 

นี่เป็นด้านที่ไม่ว่าใครก็ไม่มีวันจะได้เห็น

 

 

ทว่าในตอนนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นภายในห้อง

 

 

คิ้วเข้มของเขารวบเข้าหากันเล็กน้อย คนที่รู้ว่าเขาอาศัยอยู่ที่นี่มีเพียงไม่กี่คน

 

 

เขาจับผ้าขนหนูผืนนั้นโยนไปอีกทางแล้วตรงไปยังประตู