ตอนที่ 269 กลับถูกทำให้ตกใจเสียเอง
เฉินฝานซิงเองก็ไม่เคยคิดเลยว่า เธอจะที่อยากจะเซอร์ไพรส์เขาให้เขาตกใจ แต่กลับต้องมาตกใจจนพูดไม่ออกกับภาพตรงหน้าเสียเอง
ใบหน้าของป๋อจิ่งชวนเองก็ดูประหลาดใจไม่น้อย ความลำบากใจอย่างที่น้อยครั้งจะได้เห็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา
จากนั้นไม่กี่นาที หัวคิ้วของเขาก็ขยับเข้า เขามองคนตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนดวงตาสีดำจะหรี่ตาลง
“คุณรู้ว่าผมอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้วเหรอ”
เฉินฝานซิงกะพริบตาปริบๆ เพราะส่วนสูงของทั้งคู่ที่แตกต่างกันพอสมควร แค่ลืมตาขึ้นมาภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นก็คือหน้าอกเย้ายวนที่โผล่พ้นเสื้อคลุมออกมาของอีกฝ่าย
“ฉัน…”เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภาพตรงหน้า เธอแอบทำอะไรไม่ถูก
ป๋อจิ่งชวนกระตุกมุมปากขึ้น แล้วยื่นมือดึงคนที่กำลังตกตะลึงอยู่นั้นเข้ามาในห้อง
เฉินฝานซิงถูกเขาล้อมไว้ระหว่างบานประตูและวงแขน ไม่มีช่องว่างใดๆ ให้หลีกหนี
“รู้ตอนไหนว่าผมพักอยู่ที่นี่ หืม?”
เขากดคิ้วลงมองเธอ ริมฝีปากบางเฉียบยังคงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจางๆ
ราวกับว่าการเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จมาหมาดๆ จะทำให้กลิ่นกายของเขานั้นเด่นชัดขึ้น เมื่อได้เห็นผิวขาวเนียนละเอียดพร้อมลอนกล้ามเนื้อในระยะใกล้ เฉินฝานซิงก็อยากที่จะเบี่ยงสายตาหลบไปทางอื่น
แต่ทว่าตอนที่เธอแหงนหน้าขึ้นสบเข้ากับนัยน์ตาอันลึกล้ำนั้นกลับรู้สึกเหมือนตัวเองได้กระโดดลงไปในห้วงน้ำลึก
“…ตั้งแต่คุณมาอยู่ที่นี่วันแรก…” เฉินฝานซิงตอบเสียงแผ่วด้วยความขัดเขิน
ป๋อจิ่งชวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วเงียบไปครึ่งวินาที “คัฟลิงค์?”
เฉินฝานซิงพยักหน้าตอบ
ป๋อจิ่งชวนเม้มปากก้มลงมองของในมือที่เธอส่งมาให้
“นี่อะไร”
“ฉันเพิ่งไปห้างมา ตกลงไว้แล้วว่าจะทานมื้อค่ำด้วยกัน จริงๆ ฉันก็คิดอยู่ทั้งวัน แถมยังคิดออกแล้วด้วยว่าจะทำอะไรดี ตุ๋นซุปปลาสักอย่าง กุ้งตุ๋นน้ำมัน ปูนึ่ง…คุณชอบอาหารทะเลไม่ใช่เหรอ วันก่อนที่บ้านคุณย่าฉันถามคุณป้าจางมาแล้ว วิธีทำฉันจดใส่สมองมาหมดแล้ว อาจจะใช้เวลาสักหน่อย คุณรอแป๊บนึงนะ”
ดวงตาสีเข้มของเขาลึกล้ำขึ้นทุกขณะ ฝ่ามือที่รวบเอวของเธออยู่นั้นกระชับแน่นขึ้นเล็กน้อย
เฉินฝานซิงรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเขาได้ชัดเจน เธอเบี่ยงตัวให้หลุดจากอ้อมกอดของเขา จากนั้นมองหาห้องครัวแล้วรีบดิ่งเข้าไป
“ฉันจะไปทำอาหาร”
ป๋อจิ่งชวนไม่ได้ตามไปคว้าเธอไว้ แต่กลับปล่อยให้เธอหนีรอดไปจากอ้อมกอดเขาอย่างง่ายดาย
เขาหันมองภาพที่อีกฝ่ายเตลิดหายไปก่อนจะค่อยๆ ยกยิ้มขึ้น
หลังจากนั้นก็ตามเข้าไปในครัว
เฉินฝานซิงหยิบของในถุงทั้งหมดขึ้นมา เธอเดินหามีดในครัวเพื่อนำมาจัดการกับเชือกมัดปู แต่ผลสุดท้ายกลับได้ยินเสียงทุ้มของป๋อจิ่งชวน
อาจเป็นเพราะป๋อจิ่งชวนไม่ได้อยู่ในห้องรับแขก เธอจึงได้ยินเข้ากับหัวข้อสนทนาที่เอ่ยถึงเครื่องประดับ แบรนด์เอ็กซ์ซึ่งเป็นร้านเครื่องประดับที่เธอไปกวาดมาจนหมดเกลี้ยงในช่วงบ่าย
หว่างคิ้วของเธอย่นเข้าหากันเล็กน้อย เธอเดินเข้าไปในห้องครัวราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
–
เฉินฝานซิงวุ่นอยู่ในครัวเป็นค่อนวัน ระหว่างที่เธอกำลังหันมาหาภาชนะอยู่นั้น เธอดันเห็นเข้ากับร่างของชายหนุ่มที่พิงขอบประตูอยู่
สีหน้าเธอแข็งทื่อ สายตาตกไปอยู่บริเวณคอเสื้อของเขาอย่างลืมตัว “คุณช่วยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะได้ไหม”
ป๋อจิ่งชวนก้มลงมองเสื้อที่เขาสวมอยู่ แล้วมองพวงแก้มของหญิงสาวที่ขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขินอาย เขายืนพิงขอบประตูต่อไปพลางส่ายหน้า
“ไม่ได้”
เสียงแหบทุ้มชวนลุ่มหลง สองคำนั้นถูกเอ่ยขึ้นอย่างเชื่องช้า รอยยิ้มแฝงความอ่อนล้าผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อจนกลายเป็นเสน่ห์อย่างธรรมชาติ
เธอเริ่มจะทำอะไรไม่ถูก
สุภาพบุรุษถ่อมตัวอะไรกัน
สุภาพเรียบร้อยอะไรกัน
ในกระดูกนั่นกลัวว่าจะมีแต่ของอัปมงคลเสียมากกว่า
เธอไม่สนใจเขาอีกต่อไป ก่อนจะหันไปคว้าเอาจานขึ้นมาสองสามใบแล้ววางลงไปในอ่างล้างจานแล้วเปิดน้ำลงมือทำความสะอาดมัน
ตอนที่เธอมาถึงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองตัวใหญ่ สองไหล่ของเธอขยับไปมา เส้นผมยาวปรกลงตรงหลังพลิ้วไหวไปมาตามการเคลื่อนไหวของเธอ ดวงตาลึกล้ำของป๋อจิ่งชวนวางลงบนร่างโปร่งงดงามนั้นอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาเธอ
ตอนที่ 270 คุณจะไม่ถ่อมตัวสักหน่อยเหรอ
เสียงซ่าๆ ของน้ำกลบเสียงฝีเท้าของป๋อจิ่งชวนไปจนหมด
ยามที่มือคู่หนึ่งวางลงบนเอวตามมาด้วยความอุ่นร้อนของอกแกร่งที่ทาบลงมากับแผ่นหลังของเธอ ทั้งร่างก็แข็งทื่อไปทันที
กลิ่นหอมที่คุ้นเคยของชายหนุ่มโอบล้อมเธอไว้ในชั่วอึดใจ ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดลงบนใบหู พร้อมแผ่ซ่านไปทั่วผิวของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
เสียงแหบทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยขึ้นในลำคอ “ผมนึกว่าคุณจะไม่สนใจผมไปพักใหญ่เลย”
ร่างที่แข็งทื่อของเธอค่อยๆ ผ่อนคลายลง เมื่อได้ยินคำพูดของป๋อจิ่งชวน เฉินฝานซิงก็ค่อยๆ ผินหน้าไปเล็กน้อย
แสงไฟส่องสว่างตกกระทบลงบนปลายจมูกโด่งรั้น แพขนตายาวสั่นไหวเบาๆ ปากกระจับขยับเอ่ยออกมาเป็นน้ำเสียงแผ่วเบาอันไพเราะน่าฟัง
“ทำไมฉันถึงจะไม่สนใจคุณ”
“บ่ายวันนี้คุณเจออะไรมาตั้งเยอะ แต่ผมก็ยังจะไปโมโหใส่คุณอีก”
เฉินฝานซิงนำจานในมือวางไว้อีกทาง มือทั้งสองข้างเช็ดลงบนผ้ากันเปื้อน จากนั้นฝ่ามือเย็นๆ ก็วางลงไปบนฝ่ามือองป๋อจิ่งชวนที่โอบรอบเอวของเธออยู่
ป๋อจิ่งชวนเงยหน้าขึ้น แล้วนำฝ่ามือเย็นเฉียบนั้นมาแนบไว้ตรงหัวใจ
เฉินฝานซิงรู้สึกอุ่นวาบขึ้นที่หัวใจ เธอหมุนตัวมาภายในอ้อมกอดของเขา
เธอแหงนหน้าขึ้นสบเข้ากับนัยน์ลึกซึ้งของเขา
“ไม่โทษคุณ”
ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อย ความรู้สึกผิดยังคงปรากฏขึ้นในดวงตา
“ป๋อจิ่งชวน คุณทำดีที่สุดแล้ว ฉันไม่ดีเองที่อ่อนไหวมากเกินไป ฉันขอโทษ”
“อืม เปลี่ยนวิธีแสดงออกว่ารู้สึกผิดของคุณเป็นวิธีอื่นสิ”
เฉินฝานซิงกะพริบตาหนึ่งครั้ง “คุณจะไม่ถ่อมตัวสักหน่อยเหรอ”
“นั่นเพราะผมเชื่อมั่นในความจริงใจของคำขอโทษของคุณ” ป๋อจิ่งชวนกระตุกมุมปากขึ้น แผ่นหลังตรงโน้มลงมาใกล้เธอ “คิดออกหรือยังว่าต้องขอโทษยังไง”
เฉินฝานซิงใช่ว่าจะไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ดวงหน้างามของเธอนั้นถูกฉาบไปด้วยสีแดงเป็นปื้น “ยังคิดไม่ออก”
ป๋อจิ่งชวนลดสายตาลงมองหญิงสาวที่จงใจแสร้งเป็นไม่รู้ไม่ชี้ รอยยิ้มอบอุ่นผุดขึ้นบนดวงตาคู่นั้น เขายกนิ้วเรียวยาวนั้นเกลี่ยเบาๆ ลงตรงมุมปากของเธอ
เสียงทุ้มต่ำเย้ายวนเอ่ยขึ้น “คุณไม่ให้ งั้นผมจะเลือกสิ่งที่ผมต้องการเอง”
แววตาเธอชะงัก ก่อนจะโต้ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วโดยการอ้าปากงับนิ้วของเขา
จะเอาอะไรนักหนา
คบกับเขาก็ไม่ใช่วันสองวัน เขาต้องการอะไรมีเหรอที่เธอจะไม่รู้
นิ้วของป๋อจิ่งชวนถูกเธอกัดเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้ลงน้ำหนักมานัก แถมยังคงมองเห็นฟันซี่สวยๆ ของเธอ
ดวงตาลึกล้ำของเขาหรี่มองเธอทันที “ปล่อย”
เฉินฝานซิงได้ยินเสียงที่ดูผิดไปจากเดิมของเขาก็กวาดตาขึ้นมองวูบหนึ่ง เห็นว่าเขาลดสายตาลงด้วยสีหน้าเรียบเฉยก็ทำให้เธอนึกว่าเขากำลังโกรธ จนเธอต้องรีบปล่อยปากที่งับเบาๆ นั้นออก
จากนั้นเพียงชั่วอึดใจ เขาก็ยกฝ่ามืออุ่นขึ้นกดลงบนศีรษะเธอ นาทีที่เธอสังเกตได้ถึงเงาของฝ่ามือใหญ่ ชายหนุ่มก็โน้มลงมาประกบริมฝีปากของเธอเรียบร้อยแล้ว
เฉินฝานซิงชะงักกึก นัยน์ตาส่อแววหงุดหงิด
ไม่ว่าขัดขืนอย่างไรงก็ไม่อาจหยุดเขาไว้ได้ ซ้ำยังเพิ่มความสะดวกให้กับเขาอีก!
รอยยิ้มกริ่มผุดขึ้นในดวงตาสีเข้มที่กำลังจ้องมองสีหน้าหงุดหงิดของหญิงสาว