“ย่านเซดาคิวนาร์มีร้านค้าจากเขตแดนไอบันอยู่ใช่หรือเปล่าคะ”

 

“ครับ อยู่ซอยถัดไปนี่เองครับ”

 

“เราไปที่นั่นกันเถอะค่ะ”

 

ตระกูลไอบันจากทางเหนือที่เคยพบหน้าเมื่อตอนที่ท่านพ่อได้รับเหรียญกิตติคุณครั้งก่อน เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงด้านสินแร่เป็นอย่างมาก

 

คงเพราะเป็นเขตแดนที่มีภูเขาจำนวนมาก พวกเขาจึงมีสินแร่ทุกอย่างตั้งแต่ทองไปจนถึงแร่ที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างแกรไฟต์และถ่านหิน

 

โดยเฉพาะอัญมณีจากเขตแดนไอบัน ความบริสุทธิ์ของมันสูงมาก ทั้งขนาดก็ยังค่อนข้างใหญ่ พวกเขาจึงได้ทำการเปิดร้านค้าที่จัดการบริหารเองโดยตรงขึ้นในย่านการค้าเซดาคิวนาร์แห่งนี้

 

มันเป็นสถานที่ที่วางขายสินค้าที่ทำจากอัญมณีที่ได้จากเขตแดน โดยมีช่างอัญมณีเป็นผู้เจียระไนขึ้นเพราะอย่างนั้นถึงได้เต็มแน่นไปด้วยชนชั้นสูงตลอดเวลา วันนี้เองก็เป็นเช่นนั้น

 

ผู้คนมากมายต่างก็เดินเข้าออกประตูที่อยู่ด้านล่างป้ายสีสว่างที่เขียนว่า <ไอบัน> กันอย่างขวักไขว่

 

ที่นั่นก็มีช่างฝีมือคนนั้น คนที่มีความสามารถในการเจียระไนอัญมณี เรียกได้ว่าไม่มีชิ้นไหนที่เขาไม่อาจเจียระไนออกมาได้ ทั้งยังทำให้อัญมณีชิ้นนั้นเปลี่ยนเป็นอัญมณีชิ้นที่งามที่สุดในโลกอีกด้วย

 

“เข้าไปกันเถอะครับ ท่านฟีเรนเทีย”

 

เครย์ลีบันช่วยจับประตูเอาไว้ให้พลางเอ่ยพูด

 

ทันทีที่เข้าไปด้านใน ก็เห็นผู้คนมากมายกำลังนั่งรับคำปรึกษาและซื้ออัญมณีอยู่ทั่วร้านค้าขนาดใหญ่

 

ในบรรดาผู้คนเหล่านั้นมีอยู่หลายคนที่เริ่มหันมามองเธอ แล้วกระซิบกระซาบพูดคุยกันเอง

 

“เด็กคนนั้นที่เพิ่งเข้ามา…”

 

“ตระกูลลอมบาร์เดียใช่หรือเปล่านะ”

 

“น่าจะใช่นะ…”

 

เพราะงานเลี้ยงประจำอาณาจักรกับงานวันเกิดของเธอ ทำให้มีคนรู้จักเธอเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย

 

ในเมื่อเธอเกิดมาในตระกูลลอมบาร์เดีย มันจึงเป็นชะตาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว

 

ฟีเรนเทียเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ด้านในสุดท่ามกลางสายตาของผู้คน

 

เธอเห็นชายสวมชุดเครื่องแบบผู้ดูแลรับผิดชอบเคาน์เตอร์ตัวนั้น เขายืนอยู่ภายใต้แสงไฟสว่างไสว

 

“ยินดีต้อนรับครับ คุณหนูฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย”

 

ว่าแล้วเชียว รู้จักเธออยู่แล้วนี่เอง

 

ในสถานที่ที่ต้องรับมือกับลูกค้าชั้นสูงมากมายแบบนี้ การรู้ข้อมูลของบุคคลสำคัญถือว่าเป็นจุดแข็งในการแข่งขันอย่างหนึ่ง

 

สิ่งที่เธอเรียนรู้เป็นสิ่งแรกในตอนที่คอยช่วยงานอยู่ข้างกายท่านปู่ก็คือเรื่องพวกนั้นเช่นกัน

 

พวกข้อมูลอย่างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสำคัญทั้งหลาย หรือโครงสร้างครอบครัวของตระกูลขุนนางชั้นสูงในภาคกลาง เหนือ ใต้ ออก ตกของอาณาจักรทั้งหมด

 

“มาเยี่ยมชม ‘ไอบัน’ ของทางเราเป็นครั้งแรกสินะครับ”

 

ท่าทางคงจะลอบประเมินเธอเสร็จแล้วสินะ

 

ฟีเรนเทียพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเอ่ยพูดกับชายคนนั้น

 

“ไม่ใช่พวกของที่วางอยู่ตรงนี้ อยากจะดู ‘สินค้าพิเศษ’ น่ะค่ะ”

 

‘สินค้าพิเศษ’ ที่เธอเรียกร้องนั่น ไม่ใช่ของที่เจียระไนขึ้นจากช่างอัญมณีทั่วไป แต่เป็นอัญมณีชนิดพิเศษที่เป็นผลงานชั้นยอดจากช่างฝีมือของไอบัน

 

ใบหน้ายิ้มแย้มของชายคนนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองเครย์ลีบันที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ

 

“มาด้วยกันหรือครับ”

 

หมายความว่ารู้จักเธอ แต่เขาไม่รู้จักเครย์ลีบัน

 

เครย์ลีบันเองก็คงจะรู้สึกได้ ถึงได้หน้าบึ้งตึงเล็กน้อยในขณะที่เอ่ยตอบ

 

“เครย์ลีบัน เพลเลสครับ”

 

“อืม ในเมื่อคุณหนูลอมบาร์เดียรับรองตัวตนให้ ถ้าอย่างนั้นเข้าไปพร้อมกันก็ได้ครับ”

 

พนักงานบอกปัดลวกๆ ก่อนจะผลักประตูที่เชื่อมต่อเข้าไปด้านในออก

 

ดูเหมือนเครย์ลีบันจะโกรธเคืองที่ถูกปฏิบัติราวกับคนไร้ฐานะเป็นอย่างมาก

 

เครย์ลีบันในชาติก่อนเป็นคนที่จะได้รับสืบทอดตำแหน่งผู้ดูแลกลุ่มการค้าลอมบาร์เดียต่อจากโรมาเชีย ดิลลาร์ดผู้เป็นบิดา เขาจึงเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่

 

แม้แต่ร้านขายเสื้อผ้าเองก็เป็นท่านพ่อที่รับหน้าที่เป็นเหมือนป้ายร้าน ดังนั้นเครย์ลีบันจึงไม่ต่างอะไรจากการถูกกลบรัศมีฝังเอาไว้

 

เธอตบหลังของเครย์ลีบันเบาๆ เป็นการปลอบโยน

 

อดทนอีกหน่อยนะ

 

หากงานคราวนี้เสร็จสิ้นลง จะไม่มีใครที่ไม่รู้จักเครย์ลีบัน เพลเลสอีกต่อไป

 

เพราะร้านค้าเพลเลสที่ตั้งตามนามสกุลของเขาจะโด่งดังไปทั่วอาณาจักรยังไงล่ะ

 

ผ่านทางเดินที่ถูกปูด้วยพรมผืนนุ่มตามหลังพนักงานไป พวกเราก็เข้ามาถึงห้องด้านใน

 

การรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากขนาดที่ต้องใช้กุญแจหลายดอกถึงจะไขมันออกได้

 

พอประตูถูกเปิดออก แสงระยิบระยับจากชั้นวางอัญมณีก็สะท้อนส่องสว่างเป็นประกายระยิบระยับไปทั่ว

 

เธอพยายามควบคุมหัวใจที่เต้นโครมครามไม่หยุด แสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร ในขณะที่กวาดสายตามองสินค้าที่วางอยู่ในตู้กระจก

 

ถึงแม้จะเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสินค้าพิเศษด้านในร้านไอบัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นของจริงแบบนี้

 

“มีอัญมณีชิ้นไหนที่มองหาเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ”

 

“อืม…”

 

ฟีเรนเทียมองส่องเข้าไปข้างในตู้กระจก พยายามมองหาของที่เป็นชิ้นเป้าหมายในการมาเยือนของเธอวันนี้

 

พอเห็นเธอทำแบบนั้น ชายคนนี้จึงส่งหมอนรองใบเล็กที่มีอัญมณีหลากหลายชิ้นวางอยู่ยื่นมาให้ตรงหน้าเธอ

 

“อันนี้เป็นเช่นไรครับ”

 

เธอมองของพวกนั้น ก่อนจะหันไปมองชายคนนั้นอีกครั้ง

 

รู้สึกอยากจะหัวเราะชะมัด

 

คนคนนี้กำลังดูถูกเธออยู่สินะเนี่ย

 

อุตส่าห์วางใจ เห็นว่ายอมพาเข้ามาถึงห้องด้านในแล้วแท้ๆ

 

สิ่งที่พนักงานสวมถุงมือสีขาวให้เธอดู มันก็ใหญ่อยู่หรอก แต่มันเป็นแค่เศษชิ้นส่วนที่คัตติ้งออกมาไม่สวย และระดับความบริสุทธิ์ของอัญมณีนั้นถือว่าต่ำมากอีกด้วย

 

ท่าทางพนักงานชายคนนี้คงคิดที่จะทดสอบสายตาของเธอสินะ

 

ขนาดใหญ่ มองผิวเผินดูงดงามหรูหรา หากเป็นคนอื่นที่มองไม่ออกละก็ คงจะหลงซื้อไปโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นแค่ของเกรดต่ำ

 

บางทีคงจะดูถูกกันเพราะเห็นว่าเธออายุยังน้อยนั่นแหละ

 

ฟีเรนเทียพูดกับพนักงานที่ยังคงยืนรอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างหน้าไม่อาย โดยไม่ได้แสดงอาการโมโหหรือแสดงสีหน้าท่าทางไม่พอใจออกไป

 

เธอเพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงบ่งบอกว่าจะยอมปิดตาข้างหนึ่ง ช่วยมองข้ามความผิดพลาดมหันต์นี้ก็เท่านั้น

 

“จะให้โอกาสอีกครั้งนะคะ ไปเอาสินค้าที่เหมาะสมออกมาด้วยค่ะ”

 

“…ทราบแล้วครับ”

 

พนักงานหลุบสายตาลงต่ำ โค้งศีรษะลงด้วยความนอบน้อม

 

“ไม่ดีกว่า ข้าขอไปเลือกเองนะคะ”

 

เธอพูดแบบนั้น ก่อนที่จะค่อยๆ เดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าตู้กระจก

 

และผ่านไปได้ไม่นาน เธอก็หาสิ่งที่ต้องการเจอ

 

“อันนั้น”

 

มันเป็นอัญมณีชิ้นที่วางตั้งอยู่ตรงกลางท่ามกลางบรรดาสินค้าพิเศษ ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่แสงสว่างภายในห้องส่องกระทบลงมาเป็นประกายแวววาวได้อย่างชัดเจนที่สุด

 

มันแตกต่างจากสินค้าชิ้นอื่นที่ราบเรียบดูดาษดื่นจนจืดชืด ด้วยคัตติ้งที่ประณีตและละเอียดลออ จึงช่วยดึงเอาความงดงามของแร่อัญมณีออกมาได้มากที่สุด มันคือเพริโดไทต์สีเขียวอ่อน

 

“คนที่เจียระไนผลงานชิ้นนั้นออกมา ตอนนี้อยู่ที่นี่ใช่มั้ยคะ ข้าอยากพบเขา”

 

“เรื่องนั้นทราบได้ยังไง…ไม่สิ นั่นคงจะเป็นปัญหาเล็กน้อยครับ”

 

นึกอยู่แล้วว่าจะต้องออกมาเป็นแบบนี้

 

เจ้าตระกูลไอบันย่อมไม่มีทางปล่อยให้ใครหน้าไหนพบกับช่างฝีมือที่พวกเขาหวงแหนได้ง่ายๆ อยู่แล้ว

 

เพราะฉะนั้นเธอถึงได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี

 

ฟีเรนเทียหลีกทางไปด้านข้างครึ่งก้าว หันไปมองหน้าเครย์ลีบัน

 

เธอเคยเกริ่นกับเขาเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว เครย์ลีบันจึงเดินก้าวออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว

 

“ขอแนะนำตัวกันอีกครั้งก็แล้วกัน ผู้ดูแลร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันกับร้านค้าเพลเลส เครย์ลีบัน เพลเลสครับ”

 

“อา…”

 

พนักงานกะพริบตาปริบๆ ท่าทางจะตกใจมากเอาการ

 

คนที่เขาดูถูกและเมินเฉยคนนั้น ที่จริงแล้วเป็นถึงผู้ดูแลร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันอย่างนั้นเหรอเนี่ย

 

คงจะตกใจจนใจแกว่งไปเลยละสิ

 

เครย์ลีบันเรียกร้องด้วยเสียงทุ้มต่ำหนักแน่น ทั้งยังเย็นชาเป็นพิเศษคล้ายกับแก้แค้นเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้

 

“ช่างฝีมือที่เจียระไนอัญมณีชิ้นนี้ ช่วยบอกเขาได้มั้ยครับว่าข้าอยากพบ”