อวิ๋นเจี่ยวเพิ่มความหนาแน่นให้ผนึกอีกครั้ง เช่นนี้ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนาน พลังของจื่อเฉินที่ควบคุมเอาไว้สลายไป พลังปีศาจของเหวปีศาจสีแดงก็จะไม่ปะทุอีก เสิ้งหวนยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร เขาก็ไม่มีปฏิกิริยา ราวกับจมอยู่ในความคิดอะไรบางอย่าง หลุดออกมาไม่ได้

หยวนเจียงถอนหายใจ การตายของจื่อเฉินทำให้คนรู้สึกเสียดาย แม้แต่คนดูอย่างพวกเขายังมีความรู้สึกเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสิ้งหวน ดูท่าทางเขาไม่อาจเดินออกมาได้แล้ว

“อาจารย์อาหยวน รบกวนท่านส่งเขาไปยังเมืองซิวหลิง” อวิ๋นเจี่ยวชี้ไปทางเสิ้งหวน ก่อนจะหันไปมองท้องฟ้า “ใกล้ค่ำแล้ว พวกเราจะกลับไปรอท่านที่สำนักชิงหยาง” พูดจบยังเหลือบมองอาจารย์ปู่ด้านข้างทีหนึ่ง

หยวนเจียงเข้าใจทันที เขาพยักหน้า “วางใจเถอะ ข้าติดต่อกับราชาเมืองซิวหลิงแล้ว เขาจะคอยรับข้าอยู่ทางยมโลก สภาพของเสิ้งหวนตอนนี้ก็คงก่อเรื่องไม่ได้ เสร็จแล้วข้าจะกลับไปสำนัก”

“ลำบากอาจารย์อา” อวิ๋นเจี่ยวหยิบยันต์ส่งสารออกมา “ชายแก่พวกเราไปได้แล้ว!” นางเรียกอีกฝ่าย

“กลับแล้วหรือ” ชายแก่ผงะไป ก่อนจะพูดขึ้น “พวกเราไม่ไปหาพี่สีแล้วหรือ”

“…”

ทั้งสองคนผงะไปพร้อมกัน

“แค่ก ศิษย์หลาน” หยวนเจียงกระแอมไอทีหนึ่ง “ศิษย์หลานไป๋พูดถูก ข้าคิดว่าพวกเรากลับยมโลกด้วยกันก่อนจะดีกว่า ศิษย์หลานเจ้าชำนาญข่ายพลัง คงมีที่ให้เจ้าช่วยเหลือ อีกทั้งราชาเมืองซิวหลิงเป็นถึงยมราช เขาคงจะช่วยพวกเราหาศิษย์หลานสีได้ อย่างไรก็ไม่ได้ใช้เวลามาก เจ้าว่าอย่างไร”

“ข้าว่าอาจารย์อาหยวนพูดมีเหตุผล!” อวิ๋นเจี่ยวตอบอย่างจริงจัง

“เช่นนั้นพวกเราออกเดินทางไปหาศิษย์หลานสีเถอะ”

“ได้!”

ชายแก่ “…” พวกท่านลืมศิษย์พี่สีอย่างแน่นอน ใช่แน่นอน!

凸(艹皿艹)

ดังนั้นพวกเขาจึงล้มเลิกแผนการกลับบ้านทำกับข้าว มุ่งไปยังเมืองซิวหลิงแทน

วิญญาณภายในป่าโบราณวั่นกู่เหล่านั้น ไม่มีร่างของเถิงสี ซึ่งเป็นการยืนยันว่าการหายตัวไปของเขาไม่เกี่ยวกับอสูรกลืนนภา อีกทั้งตอนที่พวกเขาไปยมโลกนั้น อสูรกลืนนภาถูกเสิ้งหวนพาออกไปแล้ว ดังนั้นคนที่จะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนก็คงจะมีเพียงราชาเมืองซิวหลิง

ราชาเมืองซิวหลิงดีใจอย่างยิ่ง วิญญาณทั้งหมดในเมืองกลับมาแล้วไม่พอ ตัวต้นเหตุยังถูกส่งมาด้วย ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าพวกเขากำลังหาวิญญาณ เขาจึงบอกให้ไว้ใจเขา

เขาไม่สนใจพลังที่เพิ่งฟื้นกลับมาของตนเอง “สหายทุกท่านวางใจ แค่เพียงสหายที่พวกท่านกำลังหายังอยู่ในเมืองซิวหลิง ข้าจะสัมผัสได้อย่างแน่นอน” อีกทั้งอีกฝ่ายยังเป็นวิญญาณมนุษย์ วิญญาณมนุษย์เดินไปมาอยู่ในเมืองซิวหลิงโดดเด่นอย่างมาก เขาหลับตาลงสัมผัสทันที

สักพักเขาผงะไป บนใบหน้าเผยความตะลึง “เอ๊ะ?”

“หาเจอหรือไม่ เขาอยู่ที่ใด” ชายแก่ถามขึ้น

สีหน้าของราชาเมืองซิวหลิงแปลกประหลาด ก่อนจะมองไปยังชายแก่ “คือ…หาเจอแล้ว แต่ตำแหน่งเขา…”

“ทำไม” ชายแก่ราวกับนึกอะไรได้ “หรือว่าไม่อยู่ในเมืองซิวหลิงแล้ว?”

“ยังอยู่!” ราชาเมืองซิวหลิงสีหน้าลังเล “เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในเมือง”

“อยู่ไหน” หยวนเจียงถาม

ราชาเมืองซิวหลิงชี้ไปยังใต้เท้า “อยู่นรก! ชั้นสุดท้าย…”

“ฮะ?” ทั้งสามคนผงะ นั่นเป็นที่กักขังวิญญาณร้ายไม่ใช่หรือ

“ไม่รู้ว่าสหายของท่านคือใคร ตัวไร้บาปกรรมแต่กลับไปยังนรก” เขาสัมผัสถึงคลื่นวิญญาณแปลกประหลาดในนรกถึงรู้ได้

“พี่สีไม่ได้ถูกส่งไปที่อื่นที่หน้าประตูเมืองหรือ ทำไมถึงถูกขังในนั้น” ชายแก่พูด

“ประตูเมือง!” ราชาเมืองซิวหลิงผงะ ราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ หันไปมองซากปรักหักพังของเมือง จากนั้นท่องคาถา เห็นเพียงแสงสีแดงลอยออกมาจากตรงนั้น เมื่อมาถึงมือของเขา กลายเป็นสมุดเล่มสีดำ จากนั้นเขาทำหน้าเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา “เช่นนี้นี่เอง”

เขาหันหน้าไปมองเสิ้งหวนที่ถูกมัดเอาไว้ “ไม่คิดว่าเจ้าจะซ่อนสมุดบันทึกความตายไว้ที่ประตูเมือง”

ทุกคนมองไปยังสมุดเล่มนั้น ก่อนจะเข้าใจขึ้นมา เสิ้งหวนคิดจะควบคุมเมือง นอกจากต้องรับมือกับยมราชแล้วก็ต้องรับมือกับยมทูต สมุดบันทึกความตายของเมืองซิวหลิงจึงตกอยู่ในมือเขา

เสิ้งหวนวางข่ายพลังไว้ที่ประตูเมือง เพื่อส่งพวกเขาไปยังนรกเพื่อยื้อเวลาเท่านั้น เพราะว่านรกนั้น มีเข้าไม่มีออก นอกจากยมราชของเมืองแล้ว ถึงแม้จะเป็นท่านเทพอย่างหยวนเจียง ก็คงต้องใช้เวลากว่าจะออกมาได้ ไม่คิดว่าดันเจออวิ๋นเจี่ยวที่เชี่ยวชาญด้านข่ายพลัง ดังนั้นจึงส่งเถิงสีเข้าไปคนเดียว

“หาเจอก็พอ เดี๋ยวข้าพาทุกท่านไปนำเขาออกมา” ราชาเมืองซิวหลิงเสนอ นรกค่อนข้างอันตราย แต่อย่างน้อยเขาเป็นราชาเมืองซิวหลิง นรกเมืองซิวหลิงไม่มีผลอะไรต่อเขา

“ลำบากราชาเมืองซิวหลิง!” ชายแก่กล่าวขอบคุณ

“ราชาโยวหลิงไม่ต้องเกรงใจ!” อีกฝ่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะใช้สมุดบันทึกความตายในมือเปิดเส้นทางลงไปยังด้านล่าง

“เจ้าหนู ไป!” ไป๋อวี้เป็นห่วงความปลอดภัยของเถิงสี เขารีบเดินไปยังหลุมนั้น

หยวนเจียงรั้งอวิ๋นเจี่ยวที่อยู่ด้านข้างเอาไว้อย่างรวดเร็ว “เดี๋ยว! ศิษย์หลานไปไม่ได้”

“ทำไม?” ไม่เพียงชายแก่ แม้แต่อวิ๋นเจี่ยวก็ผงะไป

หยวนเจียงส่งสายตามองคนโง่ให้ไป๋อวี้ “นรกแตกต่างจากเมืองผี พลังวิญญาณและแรงอาฆาตด้านในหนาแน่นและอันตรายมากกว่าเมืองผีเป็นร้อยเท่า บนตัวเจ้ามีป้ายยมราช ข้าเป็นร่างเทพ อาจารย์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่ศิษย์หลานเป็นมนุษย์ธรรมดา จะไปเสี่ยงอันตรายได้อย่างไร” หากเข้าไปคงได้กลายเป็นวิญญาณจริงๆ แล้ว

“ใช่ สหายอวิ๋นไม่เหมาะที่จะไปนรก” ราชาเมืองซิวหลิงพยักหน้า “อีกทั้งแค่ไปรับวิญญาณเท่านั้น ใช้เวลาไม่นาน”

“อ่อ” ชายแก่หันไปมองเจ้าหนู รู้สึกว่าไม่มีเจ้าหนูอยู่ เขาไม่มั่นใจ ก่อนจะกำชับอย่างจริงจัง “เช่นนั้นเจ้าหนู เจ้ารอพวกข้าอยู่ที่นี่ อย่าทิ้งพวกข้าไปก่อนนะ จำไว้นะ”

อวิ๋นเจี่ยว “…” ท่านยังไม่หย่านมหรือไง

“รีบไปรีบกลับ ฟ้าจะมืดแล้ว!” อวิ๋นเจี่ยวเร่งเร้า ยังไม่ได้กินข้าวเย็น

ชายแก่ถึงได้พยักหน้า ก่อนจะหันไปหาคนด้านข้าง “เช่นนั้นอาจารย์ปู่ พวกเรา…”

เขายังพูดไม่ทันจบ อีกฝ่ายกลับเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว พร้อมส่งสายตาเย็นชาให้คนทั้งสอง เขาใช้การกระทำบอกว่า หากศิษย์หลานไม่ไป เขาไม่มีทางไปกับคนโง่อย่างแน่นอน

ชายแก่ “…” รู้สึกถูกรังเกียจอีกแล้ว

หยวนเจียง “…” ทั้งที่ยืนไกลสุด แต่ทำไมถึงรู้สึกโดนด้วย