ตอนที่ 164 ระเบิดพลีชีพจริงเสียด้วย

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

“ระวัง!”

อันหลินตะโกนลั่น แหวนมิติบนมือกะพริบ ก้อนอิฐสีดำลอยไปหาทังซือหยวน

ตูม!

ลูกไฟสีน้ำเงินระเบิด พลังงานอุณหภูมิสูงแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศ หลอมผืนดินในรัศมีสามจั้งให้ละลาย กลายเป็นหลุมดำสนิท

คลื่นพลังร้อนระอุทำให้ทังซือหยวนเบิกตากว้าง เปลวไฟแยกออกจากตัวนางเป็นสองทาง ความรู้สึกของการประจันหน้ากับความตายช่างรุนแรงเหลือเกิน

นางหันหลังช้าๆ เห็นอิฐสีดำก้อนมหึมาบังอยู่ข้างหลัง กำบังเปลวไฟอันน่ากลัวไว้

อันหลินช่วยนางเป็นครั้งที่สองแล้ว นางกัดฟันแน่น ถอยหลังอย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าอย่างไร นางจะเป็นภาระให้อันหลินอีกครั้งไม่ได้

อันหลินจ้องเบื้องหน้าด้วยความเคร่งขรึม ตรงนั้นมีหญิงผมงามรูปโฉมงามสะคราญกำลังเยื้องย่างมา รอบตัวนางเต็มไปด้วยทะเลเพลิงสีน้ำเงิน มือถือไข่มุกวิญญาณสีขาวที่เย็นเยียบน่าครั่นคร้าม

“นี่เป็นศัตรูระดับแปลงจิต ข้าจะถ่วงเวลานางเอง เจ้ารีบหาโอกาสหนีไปเสีย!” อันหลินบอกทังซือหยวนอย่างร้อนรน

ถูกยอดฝีมือระดับแปลงจิตหมายหัว เขาไม่มีวิธีอื่น นอกจากใช้พลังปราณอนธการอีกครั้ง เช่นนี้จึงจะเอาตัวรอดได้

ทังซือหยวนได้ฟังก็นัยน์ตาแดงก่ำ คิดว่าอันหลินจะเสี่ยงชีวิตเพื่อนาง กัดริมฝีปากแน่น ค้านหัวชนฝาทันทีว่า “ไม่ ข้าไม่ไป จะตายก็ตายด้วยกัน!”

อันหลิน “…”

ตายด้วยกันอะไร ความคิดของผู้หญิงคนนั้นเตลิดไปถึงไหนอีกแล้ว…

เขาเผลอตวาดออกไปอีกครั้งว่า “ใครจะไปพร้อมเจ้า ข้าหมายความว่าให้เจ้ารีบหนีไป ข้าค่อยหาโอกาสหนีต่างหากเล่า!”

“เอ่อ” ดวงตาสุกใสของทังซือหยวนกะพริบปริบๆ

ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น ลูกไฟสีน้ำเงินก็พัดหวีดหวิวมา โอบล้อมพวกเขาไว้ ปิดกั้นหนทางหนีของทั้งคู่

สวย…คราวนี้แม้แต่การหลบหนีก็มีปัญหาแล้ว

อันหลินแค่นยิ้ม ขณะที่กำลังจะใช้พลังปราณอนธการนั้น

ก็มีเสียงตะโกนคุ้นเคยดังมาจากท้องฟ้า

“ร้อยกระบี่ท่องเวหา!”

ชายชุดขาวถือกระบี่หนักไร้คม ระเบิดอานุภาพยิ่งใหญ่มหาศาล ภาพของมัจฉาคู่หยินหยางก็ปรากฏขึ้นด้านหลัง พลังธาตุแท้แห่งสรรพสิ่งผสานเป็นหนึ่งกับฟ้าดิน

กระบี่บินสีขาวร่วมร้อยเล่มปราดเปรียวยิ่งนัก ผุดขึ้นด้านหลังเขาอย่างเนืองแน่น จากนั้นก็พุ่งไปหาสาวหิมะบนพสุธาพร้อมกับคมกระบี่ที่ไร้เทียมทาน

เปลวไฟสีน้ำเงินภายในขอบเขตของสาวหิมะรับรู้ได้ถึงภัยคุกคามอันน่ากลัว จึงรีบเปลี่ยนเป้าหมาย มุ่งหน้าไปหากระบี่บินร้อยเล่มที่พุ่งเข้ามาในทันใด

การปะทะของพลังงานอันน่าคร้ามเกรงไม่เกิดขึ้น กระบี่บินถูกเปลวไฟแผดเผาจนบิดเบี้ยวเล็กน้อย แต่พลังทะลวงกลับแข็งแรงอย่างยิ่ง ทลายการโจมตีของเปลวไฟไปฟันร่างของสาวหิมะ

“เป็นไปได้อย่างไร” สาวหิมะแสดงอาการตื่นตระหนกออกมาเป็นครั้งแรก นี่เป็นบทพูดประโยคแรกหลังนางออกโรง เพิ่งพูดจบก็ถูกแสงกระบี่อันล้นหลามปกคลุม

แทบจะเพียงอึดใจเดียว กระบี่บินร้อยเล่มก็ทิ่มแทงร่างของสาวหิมะนางนี้อย่างไม่ปรานี

สังหารทันทีในกระบวนท่าเดียว

อันหลินจ้องชายบนท้องฟ้าอึ้งๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

ไม่ใช่เพราะความสามารถของเขาน่ากลัว แต่เป็นเพราะ…

“สหายอันหลิน เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”

ชายสวมชุดขาวคนนั้นเหาะลงมา พูดอย่างอ่อนโยน

ใช่แล้ว ชายหนุ่มที่สังหารสาวหิมะระดับแปลงจิตในเสี้ยววินาทีคือเซวียนหยวนเฉิง!

อันหลินส่ายหน้าหวือ โพล่งออกไปว่า “ไม่…ไม่เป็นไร พี่เฉิง ไยเจ้าถึงสุดยอดขนาดนี้แล้วล่ะ ใช้โปรแกรมโกงยี่ห้ออะไรหรือ”

เซวียนหยวนเฉิงชะงัก เมื่อได้สติก็ตบกระบี่หนักไร้คมในมือปุๆ ชี้แจงว่า “ต้องยกความดีความชอบให้กระบี่พิศวงที่ท่านพ่อเก็บไว้ที่สำนัก มันมีพลังจิตวิญญาณแห่งกระบี่ ข้าต้องใช้พลังแห่งสายเลือด จึงจะหยิบยืมพลังของมันได้!”

อันหลินได้ฟังก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา “สุดยอดไปเลย อาวุธเซียนของข้าไม่มีคุณสมบัติแบบนี้เลย…”

กระบี่พิชิตมารไม่มีจิตวิญญาณแห่งกระบี่ แต่ตะปูข้ามมิติของเขามีจิตวิญญาณนะ ทำไมเวลาเขาใช้ตะปูข้ามมิติถึงไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไรเลยล่ะ…

“จริงสิอันหลิน ขอบคุณเจ้ามากที่เสี่ยงอันตรายมาส่งข่าว ตอนนี้เจ้าพาทังซือหยวนออกจากที่นี่ก่อนเถอะ” เซวียนหยวนเฉิงพูดด้วยความซาบซึ้ง

อันหลินพยักหน้า เขาอยากไปจากที่นี่ตั้งนานแล้ว จึงขี่ก้อนอิฐสีดำออกจากยอดเขาแสงสวรรค์ที่ไฟสงครามยังคงดุเดือดทันที

ทังซือหยวนหมดแรง เหลือพลังต่อสู้ไม่เท่าไหร่แล้ว จึงไม่มีปฏิกิริยาอะไร ขี่กระบี่เหาะตามอันหลินไป

ในตอนนั้นเอง เสียงโหยหวนก็ดังไปทั่วสมรภูมิรบ

พญาหงส์น้ำแข็งตัวใหญ่ยักษ์ประดุจกระบี่คมสีฟ้าพุ่งขึ้นฟ้า ก่อให้เกิดลมหนาวทำลายล้างขุนเขาราวกับเป็นใบมีด ผู้อาวุโสระดับแปลงจิตหกคนที่พยายามขัดขวางพญาหงส์ ถูกกระแสลมหนาวอันน่ากลัวสะเทือนจนกระอักเลือดและตัวลอยกันเป็นระนาว

หลังพญาหงส์น้ำแข็งทลายแนวป้องกันแล้ว มันก็ตรงดิ่งไปยังหอสยบปีศาจอย่างไม่หยุดพัก!

เมื่ออันหลินเห็นฉากนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

คนที่ยืนเหนือพญาหงส์น้ำแข็งคือชายผมเงินที่บอกว่าจะระเบิดพลีชีพผู้นั้นเอง

มีแสงกระบี่ยิ่งใหญ่หนึ่งเส้นที่เพียงพอจะฟาดฟันสรรพสิ่งฟันชายผมเงินจากด้านบนในพริบตา แม้แต่มิติรอบตัวก็เริ่มบิดเบี้ยวขึ้นมา

“สายไปแล้ว” ชายผมเงินเอ่ยเสียงเรียบ แต่ร่างกายกลับพุ่งตรงไปหาหอสยบปีศาจโดยไม่ลังเล

แสงกระบี่ตัดร่างของชายผมเงินกับพญาหงส์น้ำแข็งใต้อาณัติเขาเป็นสองท่อนพร้อมกัน แม้แต่ยอดเขาแสงสวรรค์ที่อยู่เบื้องล่างก็ถูกฟันจนเกิดเป็นร่องลึกลุกลามไปร่วมร้อยเมตรที่ไม่รู้ว่าลึกปานใด!

แต่กระนั้น ร่างที่ถูกตัดเป็นสองท่อนกลับไม่หยุด ยังคงเหาะไปทางหอสยบปีศาจ ซ้ำยังส่องแสงสีขาวที่เจิดจ้าเป็นล้นพ้นอีกด้วย

ชั่วพริบตา ทั่วทั้งบริเวณก็กลายเป็นสีทองผ่องอำไพ

ในขณะเดียวกัน บนยอดเขาแสงสวรรค์ประหนึ่งมีดวงอาทิตย์ดวงน้อยที่แผ่แสงและความร้อนอย่างไม่สิ้นสุดปรากฏขึ้น

เซวียนหยวนเฉิงโผล่มาข้างๆ อันหลินกับทังซือหยวน เปิดสุดยอดค่ายกลกระบี่ปกคลุมทั้งสองคนไว้

ตูม!

พลังงานมหาศาลที่แฝงด้วยอานุภาพทำลายล้างม้วนตัวไปทั่วทุกสารทิศ

แผ่นดินสั่นสะเทือน ขุนเขาพังถล่ม

ณ บริเวณศูนย์กลางการระเบิด ลูกศิษย์มากเหลือคณานับของสำนักและสาวหิมะถูกพลังงานที่น่าสะพรึงทำลายล้าง แม้แต่ผู้คนที่ต่อสู้อยู่ไกลๆ ก็ถูกแรงกระแทกที่กระจายออกมาไกลนับหมื่นเมตรโจมตี บาดเจ็บกันเป็นทิวแถว

เซวียนหยวนเฉิงใช้ค่ายกลกระบี่ปกป้องอันหลินกับทังซือหยวน แต่ตัวเขากลับบาดเจ็บสาหัสเพราะค่ายกลกระบี่ กระอักเลือดเพราะถูกแว้งกัด

“พี่เฉิง!” อันหลินรับร่างของเซวียนหยวนเฉิงที่ล้มลงไว้ ในใจเริ่มกระวนกระวายไม่เป็นสุข

ฝุ่นธุลีค่อยๆ สลายหายไป

ยอดเขาแสงสวรรค์ราบเป็นหน้ากลอง เหลือเพียงความพินาศย่อยยับ

ภายในหลุมดำทะมึนขนาดใหญ่ หอสยบปีศาจขาวราวหิมะหมดสิ้นแสงสีรุ้ง รอยแตกกระจายไปทั่วทั้งหลังประหนึ่งใยแมงมุม กลิ่นอายเก่าแก่ไกลโพ้นกระจายออกจากหอคอย…

ผู้อาวุโสบางส่วนในสำนักต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นหอสยบปีศาจแตกร้าว

ความเจ็บปวดและความโกรธแค้นในคราแรกของเหล่าสาวหิมะที่เห็นพี่น้องมากมายล้มตายเพราะระเบิด แปรเปลี่ยนเป็นความตกใจหลังหอสยบปีศาจแตกร้าว สุดท้ายกลายเป็นความปีติยินดี

เมื่ออันหลินได้เห็นฉากนี้ ก็รู้แล้วว่าบอสใหญ่จะออกโรงแล้ว

สถานการณ์ของเขาเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

ตูม!

หอสยบปีศาจแหลกละเอียดอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นผลึกน้ำแข็ง ส่องแสงสีรุ้งระยิบระยับภายใต้แสงอาทิตย์ยามพลบค่ำ

อันหลินหายใจดังเฮือก มันจะออกมาแล้ว