เล่มที่ 7 บทที่ 189 เหตุใดทุกคนถึงมองนางต่างจากเดิม

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

สภาพอากาศในเดือนห้านั้นไม่แน่นอน ช่วงบ่ายอากาศเปลี่ยนไป ด้านนอกมีฝนตกหนัก นอกจากนั้น ทางภูเขามีเมฆครึ้มปกคลุม ดูเหมือนว่าจะไม่หยุดตกในเร็วๆ นี้!

ฝนตกก็ปล่อยให้ตกไป เซี่ยยวี่หลัวไม่ร้อนใจ ในบ้านมีเสบียงอาหาร นางวาดแบบลวดลายอย่างตั้งอกตั้งใจ ตั้งแต่เซียวยวี่กลับมา นางไม่ได้ไปฮวาหม่านยีเจ็ดถึงแปดวันแล้ว

รอให้ฟ้าโปร่ง นางยังต้องนำแบบลวดลายไปส่งในตัวเมืองอีก!

ฝนตกติดต่อกันสามถึงสี่วัน เมื่อถึงช่วงบ่าย ฝนจึงหยุดตก รุ้งงามปรากฏอยู่ตรงขอบฟ้า อากาศบริสุทธิ์ แฝงเร้นด้วยกลิ่นหอมของหญ้าเขียวและดินโคลน

เซียวเหลียงส่งท่านปู่เซียวกลับมาอีกครั้ง

เมื่อคนในหมู่บ้านเห็นว่าฟ้าโปร่งแล้ว ฝนหยุดตก จึงหิ้วตะกร้าไปเก็บผักตี้เอ่อในท้องนา

ท่านปู่เซียวยังไม่กลับบ้าน สูบยาสูบพลางเดินไปบ้านเซี่ยยวี่หลัว

เมื่อเห็นเซียวยวี่กลับมาแล้ว ท่านปู่เซียวก็ทั้งตกใจทั้งดีใจ “อายวี่กลับมาแล้วงั้นหรือ? กลับมาตั้งแต่เมื่อไร? ”

เซียวยวี่เอ่ยเรียกท่านปู่เซียว ก่อนกล่าวตอบว่ากลับมาหลายวันแล้ว

ระยะนี้ท่านปู่เซียวอยู่ในตัวเมืองกับเซียวเหลียงตลอด ย่อมไม่รู้ว่าเซียวยวี่กลับมาแล้ว จึงพูดคุยกับเซียวยวี่ไม่หยุด คำถามที่ตอบได้เซียวยวี่ล้วนตอบทั้งหมด

“ดูเจ้าสิ ไปสอบมา เหมือนจะผอมลง! อยู่ข้างนอกคงลำบากไม่น้อยสินะ! ” ท่านปู่เซียวถือกล้องยาสูบไว้ในมือ หรี่ตาที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นมองเซียวยวี่อย่างพินิจ

ตอนเซียวยวี่เพิ่งไป ลำบากไม่น้อยจริงๆ ทั้งตัวมีเงินแค่สองตำลึง ใช้ชีวิตอย่างอัตคัดเสียยิ่งกว่าอะไร

แต่ในภายหลังเซี่ยยวี่หลัวให้เซียวเหลียงส่งเงินไปสิบกว่าตำลึง จึงสบายขึ้นไม่น้อย

เซียวยวี่สอบกลับมา ผอมลงเล็กน้อยจริงๆ ทว่า ได้เซี่ยยวี่หลัวทำอาหารอร่อยให้กินมาสิบกว่าวัน ถึงแม้จะผอม แต่ก็ดูมีพลังขึ้นไม่น้อย

เซียวยวี่กำลังจะกล่าวอะไรต่อ ท่านปู่เซียวไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสพูด หันไปกล่าวกับเซี่ยยวี่หลัว “นี่ยวี่หลัว สามีเจ้ากลับมาแล้ว ต้องทำอาหารอร่อยให้เขาบำรุงร่างกายมากหน่อย เรียนหนังสือต้องใช้สมอง ครั้งก่อนเจ้าบอกว่ากินปลาจะบำรุงสมองใช่หรือไม่? เจ้าทำปลาให้อายวี่กินมากๆ ทั้งน้ำแกงปลาและปลาตุ๋นน้ำแดงที่เจ้าทำออกมาได้หลากหลายรูปแบบ ล้วนแต่อร่อย เจ้าก็ทำให้เขากินทุกวัน! ”

ขณะท่านปู่เซียวพูดคุยกับเซี่ยยวี่หลัว เห็นได้ชัดว่าเหมือนผู้สูงวัยที่มีเมตตาและรักใคร่เอ็นดู

เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมขานตอบ “ข้ารู้แล้วเจ้าค่ะ ท่านปู่เซียว! ”

ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนดีขึ้นแล้วงั้นหรือ?

เซียวยวี่ไม่อยากเชื่อเลยว่าสองคนนี้จะสามารถพูดคุยกันอย่างสบายอารมณ์ได้

เมื่อสามเดือนกว่าที่แล้ว เซียวยวี่และเซี่ยยวี่หลัวทะเลาะกันทุกวัน ในบ้านวุ่นวายไม่เคยสงบสุข ท่านปู่เซียวก็มักจะมาช่วยไกล่เกลี่ยเป็นประจำ เซี่ยยวี่หลัวกลับชี้หน้าท่านปู่เซียว ด่าเขาว่าแก่แล้วยังชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านอีก ท่านปู่เซียวโมโหแทบแย่ ทั้งสองคนเห็นหน้ากันเป็นต้องมีปากเสียง

คนหนึ่งด่าอีกคนว่าแก่แล้วยังไม่อยู่เฉย อีกคนก็ด่ากลับว่าโหดเหี้ยมอำมหิตเหมือนนางอสรพิษ

ใครจะรู้ ว่าสองคนนี้…

กลับอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้!

ฟังจากวาจาของท่านปู่เซียว เหมือนว่าจะเคยกินอาหารที่เซี่ยยวี่หลัวทำด้วย

ท่านปู่เซียวคุยกับเซียวยวี่เสร็จ จึงไปหาเซี่ยยวี่หลัว ทั้งสองคนไปคุยกันอีกด้านหนึ่ง กดเสียงให้ต่ำ เหมือนจงใจไม่ให้เซียวยวี่ได้ยิน

“นี่ยวี่หลัว เจ้าจะยังรับซื้อผักตี้เอ่ออีกหรือไม่? ” ที่ท่านปู่เซียวกลับมาคราวนี้ก็เพื่อรับซื้อผักตี้เอ่อ

เซี่ยยวี่หลัวก็กล่าวด้วยความกลัดกลุ้ม “ครั้งก่อนเซียนจวีโหลวบอกว่าหาคนจัดหาวัตถุดิบได้แล้ว แต่ในภายหลังกลับบอกให้ข้าจัดหาอีก ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าเซียนจวีโหลวทำอะไรกันแน่! ”

“เช่นนั้นเจ้าจะรับซื้อผักตี้เอ่อหรือไม่? ” ท่านปู่เซียวบอกเล่าเรื่องที่ตอนเขามายังเห็นชาวบ้านจำนวนไม่น้อยหิ้วตะกร้าไปเก็บผักตี้เอ่อในท้องนา “ผักตี้เอ่อจะช่วยเพิ่มรายได้ให้คนในหมู่บ้าน เวลานี้คนทั้งหมู่บ้านล้วนคาดหวังว่าจะหาเงินเพิ่มได้จากการเก็บผักตี้เอ่อ! ข้าเห็นว่ามีหลายครอบครัวที่พาทั้งคนสูงวัยทั้งเด็กเล็กออกไปช่วยกันเก็บ! ”

เซี่ยยวี่หลัวกัดฟันทีหนึ่ง “เช่นนั้นก็รับซื้อแล้วกัน! ยังรับราคาเดิม จินละสามอีแปะ! ”

หากถึงเวลาเซียนจวีโหลวไม่เอา นางก็จะตากแห้ง เก็บไว้ค่อยๆ กินเอง

“เช่นนั้นเจ้าจะรับซื้อเอง หรือจะให้ข้าช่วยรับต่อ? เจ้าดูสิ อายวี่ก็กลับมาแล้ว ในบ้านมีบุรุษช่วยแบกรับภาระ เจ้ารับซื้อผักตี้เอ่อเอง คนอื่นจะได้ไม่นินทาว่าร้าย”

เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้า “ไม่ให้เขาไปจะดีกว่าเจ้าค่ะ เขาต้องอ่านตำรา อย่าให้เขาเสียสมาธิเลย เรื่องในบ้านมีข้าจัดการก็พอแล้ว ถึงเวลาข้าจะบอกกล่าวกับเขาเองเจ้าค่ะ! ”

ไม่เลว เป็นภรรยาที่ดี เซียวยวี่ต้องอ่านตำรา เรื่องราวทั้งภายในและภายนอกบ้าน นางจัดการคนเดียวทั้งหมด ให้เซียวยวี่ทุ่มเทสมาธิทั้งหมดกับการอ่านตำรา

เซียวยวี่ไม่ได้แต่งภรรยาผิดเลย!

ท่านปู่เซียวรู้สึกพึงพอใจยิ่งนัก ยกเท้าขวาขึ้น นำกล้องยาสูบที่สูบไปเมื่อครู่ไปเคาะข้างเท้า “เช่นนั้นก็ได้ พรุ่งนี้เช้าไปรับซื้อผักตี้เอ่อที่บ้านข้าต่อ! ”

เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า “ท่านอาเซียวเหลียงยังอยู่หรือไม่เจ้าคะ? ”

“เขาอยู่ วันนี้เขาไม่กลับไป บอกว่าจะอยู่กับข้าหนึ่งคืน พรุ่งนี้หลังจากรับซื้อผักตี้เอ่อเสร็จ ข้ายังต้องตามเขากลับไปอีก”

เช่นนี้เท่ากับจงใจกลับมาเพื่อช่วยนาง!

เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่ง “เช่นนั้นก็พอดี หากพรุ่งนี้คนของเซียนจวีโหลวไม่มา ยังต้องรบกวนท่านอาเซียวเหลียงไปส่งผักตี้เอ่อที่เซียนจวีโหลวกับข้าอีก”

“วางใจได้ ข้ากลับไปแล้วจะบอกท่านอาเซียวเหลียงของเจ้าให้” ท่านปู่เซียวกำลังจะไป

เซี่ยยวี่หลัวไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายเปล่าๆ “ท่านปู่เซียว ถ้าอย่างไรช่วงเย็นท่านกับท่านอาเซียวเหลียงก็มากินข้าวบ้านข้าแล้วกัน พี่ชายจื่อเซวียนก็กลับมาพอดี พวกท่านสามคนจะได้ดื่มสุราร่วมกัน! ”

มากินข้าวงั้นหรือ?

ท่านปู่เซียวย่อมตอบรับเต็มปากเต็มคำ แค่ได้ยินว่าจะได้มากินข้าว น้ำลายก็แทบไหลจนเป็นแม่น้ำแล้ว “ได้ได้ได้ ไม่ได้กินอาหารที่เจ้าทำมานานแล้ว ท่านอาเซียวเหลียงของเจ้ายังเอ่ยถึงเป็นประจำ ข้าจะกลับไปบอกเขาเดี๋ยวนี้! ”

“ได้เจ้าค่ะ ท่านปู่เซียว ท่านค่อยๆ เดินนะเจ้าคะ! ” เซี่ยยวี่หลัวไปส่งท่านปู่เซียวถึงหน้าประตูใหญ่ด้วยความเคารพ เห็นเขาเดินไปไกลแล้ว จึงปิดประตูบ้าน ขณะนางหันกลับมากำลังจะเดินไป หางตาก็เหลือบไปเห็นว่ามีคนกำลังจ้องตัวเองอยู่ นางหันไปยังทิศที่สายตาเพ่งมองมาตามสัญชาตญาณ เซียวยวี่ยืนอยู่ใต้ชายคา กำลังมองนางด้วยสีหน้าแปลกประหลาด

เซี่ยยวี่หลัวยิ้มแก้เก้อ “เย็นนี้ท่านปู่เซียวและท่านอาเซียวเหลียงจะมากินข้าว” จากนั้นจึงกลับห้องของตัวเอง

เซียวยวี่รู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก ระหว่างที่เขาไม่อยู่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ท่านลุงสี่บอกว่าเขาได้แต่งภรรยาที่ดี บัดนี้แม้แต่ท่านปู่เซียวยังอยู่ร่วมกับนางได้อย่างสันติ นอกจากนั้น ยังสนิทสนมกันถึงขั้นสามารถร่วมกินข้าวบนโต๊ะตัวเดียวกัน ทั้งยังมีเรื่องให้กระซิบคุยกันได้อีก

เซียวยวี่แสดงสีหน้าฉงนสงสัย คิ้วเข้มที่ดูดีค่อยๆ ขมวดเป็นปม

เซี่ยยวี่หลัวผู้นี้ นางทำอะไรกันแน่ ถึงทำให้ทุกคนมองนางต่างจากเดิมได้!