“เย็นนี้อาหยวนก็จะมา! ” ท่านป้าสี่กล่าวอย่างมีความสุข “คุยกันไว้ว่าเย็นนี้จะมากินอาหารที่บ้านเรา ตอนบ่ายเขาเก็บผักตี้เอ่อกับข้าในท้องนามาตลอดช่วงบ่าย เก็บได้หนึ่งตะกร้าเต็ม แต่ไม่เอาไป มอบให้พวกเราทั้งหมด คาดว่าจะขายได้สิบเจ็ดถึงสิบแปดอีแปะเชียว! ข้าจึงเชิญเขามากินข้าวที่บ้าน! ”
“ควรเชิญ ควรเชิญ พอดีเลย พวกเราจะได้ทำความรู้จักกับเด็กคนนี้มากขึ้น ยายแก่ ข้ารู้สึกว่าสายตาเจ้าไม่เลวเลย อาหยวนเด็กคนนี้เป็นเด็กดี! ”
พอได้ยินสามีตนเองบอกว่าเซียวหยวนดี ท่านป้าสี่จึงหัวเราะอย่างได้ใจ “ข้าจะมองคนผิดได้อย่างไร หากหมิงจูได้แต่งกับอาหยวน ชีวิตนี้ต้องมีความสุขแน่! ”
“ตึ้ง…”
เซียวหมิงจูโยนกระบวยน้ำเต้าลงในโอ่งน้ำอย่างแรง น้ำในโอ่งกระเด็นออกมาไม่น้อย แม้แต่เสื้อก็เปียกแล้ว
ท่านป้าสี่ “นางเด็กบ้า เจ้าทำอะไรกัน? ”
เซียวหมิงจูถลึงตาใส่ท่านป้าสี่ด้วยแววตาดุดัน ชนไหล่นางขณะเดินออกไป “เสื้อเปียกแล้วข้าจะไปเปลี่ยนเสื้อ! ”
ท่านป้าสี่โมโหแทบตาย กลับไม่กล้ากล่าววาจาหนักแม้แต่ประโยคเดียว หากสองแม่ลูกทะเลาะกัน สามีของนางที่อยู่ในบ้านต้องได้ยินแน่
ท่านป้าสี่ได้แต่จุดฟืนและทำอาหารเอง เซียวหมิงจูเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อก็ไม่ออกมาอีก
เดิมทีท่านป้าสี่คิดอยากนำผักตี้เอ่อมาทำอาหารลองชิมดู แต่ไม่รู้ว่าทำอย่างไร ได้แต่ปล่อยไป ยิ่งไปกว่านั้น นางเสียดาย ผักตี้เอ่อหนึ่งจินคิดเป็นเงินสามอีแปะ หากนำมาทำอาหาร คงต้องใช้สักสองจิน คิดเป็นเงินถึงหกอีแปะ แพงเกินไป
ในบ้านยังมีไข่ ท่านป้าสี่ผัดไข่สามฟอง ก่อนผัดเนื้อหมูอีกหนึ่งอย่าง เนื้อหมูแพงกว่าผักตี้เอ่อ แต่อีกฝ่ายให้ผักตี้เอ่อมาหนึ่งตะกร้า สามารถซื้อเนื้อหมูได้หนึ่งจินกว่า ท่านป้าสี่ตัดใจ หั่นเนื้อหมูมาสองเหลี่ยงเพื่อผัดเป็นอาหาร
ผัดอาหารสองอย่างเสร็จแล้ว ท่านป้าสี่เรียกหมิงจู แต่อีกฝ่ายไม่สนใจนาง ประตูห้องปิดสนิท ทำอย่างไรก็ไม่สนใจนาง
ท่านป้าสี่ไม่กล้าทะเลาะกับนาง ได้แต่ปล่อยไป ยกอาหารเข้าไปด้วยตัวเอง
“มา อาหยวน ดื่มสุรากับลุงก่อน”
ท่านลุงสี่ “สุราที่อาหยวนนำมาคราวก่อน ยังไม่ได้เปิดไหไม่ใช่หรือ? พอดีเลย วันนี้จะได้เปิดไห! ”
เซียวหยวนที่อยู่ข้างๆ กล่าวอย่างเห็นพ้อง “ท่านลุงสี่ สุรานั่นดี ดื่มแล้วสามารถทำให้อายุยืนขอรับ! ”
ท่านป้าสี่นำสุรามาให้อย่างมีความสุข ท่านลุงสี่รับมา เปิดไหสุรา กำลังจะรินให้เซียวหยวนที่อยู่ข้างๆ
เซียวหยวนยิ้มอยู่ตลอด พอเห็นท่านลุงสี่ยกไหสุรากำลังจะรินในถ้วยเล็กของเขา สีหน้าของเซียวหยวนก็เปลี่ยนไป เขารีบหยิบถ้วยเล็กมา ใช้มือปิดปากถ้วยไว้ “ข้าไม่ดื่มขอรับ! ”
เขากล่าวอย่างรวดเร็ว แฝงเร้นด้วยความตื่นตระหนก น้ำเสียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ท่านลุงสี่และท่านป้าสี่หันมองเซียวหยวนด้วยความประหลาดใจ ต่างก็ผงะไป
แค่ดื่มสุราไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงมีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้ ราวกับจะรินยาพิษให้เขาอย่างไรอย่างนั้น!
เซียวหยวนรู้ว่าสีหน้าท่าทางของตัวเองเมื่อครู่นี้ผิดปกติเกินไป รีบแย้มร้อยยิ้ม กล่าวอย่างร่าเริง “ท่านลุงสี่ ข้าดื่มสุรานั่นไม่ได้ขอรับ! ”
“สุรามีไว้ให้คนดื่มไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้าถึงดื่มไม่ได้? ” ท่านลุงสี่เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ ท่านป้าสี่ก็หันมองเขาด้วยท่าทีสงสัย
เซียวหยวนใจเต้นแรง ก่อนจะกลับสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็ว “สุรานั่น… สุรานั่นมีไว้ให้คนสูงวัยเช่นท่านบำรุงร่างกาย ข้า… ข้าอายุยังน้อย บำรุงมากเกินไป… ไม่… ไม่ค่อยดีขอรับ! ”
ท่านลุงสี่เข้าใจทันที “อ่ออ่ออ่อ เข้าใจๆ ๆ ! เช่นนั้นก็ได้ แม่หมิงจู เจ้าเอาสุราอื่นมาให้อาหยวน”
สุราที่ดื่มครั้งก่อนยังดื่มไม่หมด จะได้ให้อาหยวนดื่มพอดี
ตรงหน้าเซียวหยวนและท่านลุงสี่มีถ้วยใบเล็กวางอยู่ รินจนเต็ม เซียวหยวนเคยกล่าวไว้ ว่าสุรานี่ดื่มมากเกินไปไม่ได้ จะบำรุงมากเกินไป ต้องค่อยๆ บำรุง ค่อยๆ ดื่ม
ท่านลุงสี่ยกถ้วยเล็กขึ้นมาจิบหนึ่งคำ ส่งเสียงแจ๊บทีหนึ่ง “แจ๊บๆ สุรานี่รสชาติไม่เลวจริงๆ …”
เซียวหยวนยิ้มทีหนึ่ง “ไม่เลวจริงขอรับ ท่านผู้เฒ่าในบ้านนายท่านคนก่อนของข้า ดื่มแต่สุรานี่…”
ท่านป้าสี่มาพอดี ท่านลุงสี่ยิ้มพร้อมกล่าว “เห็นหรือไม่ ข้าได้ดื่มสุราเหมือนท่านผู้เฒ่าในอำเภอเชียว…”
“ก็มีแต่อาหยวนที่จะมอบสุราดีเช่นนี้ให้เจ้า เด็กคนนี้ ไม่เลวจริงๆ ” ท่านป้าสี่ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกพึงพอใจ
ท่านลุงสี่คิดถึงวาจาที่ท่านป้าสี่กล่าวก่อนหน้านี้ บัดนี้เห็นเซียวหยวนทั้งว่าง่ายทั้งรู้ความ ก็รู้สึกพึงพอใจเสียยิ่งกว่ากระไร
ก่อนนางจะออกไป ส่งสายตาให้ท่านลุงสี่ ท่านลุงสี่ก็เข้าใจแล้ว
“อาหยวน คือ ลุงสี่จะถามอะไรเจ้าหน่อย…” ท่านลุงสี่จิบสุราอีกหนึ่งคำก่อนกล่าว
“ท่านลุงสี่เชิญกล่าวขอรับ” เซียวหยวนวางตะเกียบลง มองท่านลุงสี่อย่างตั้งใจ ทำท่าทางเหมือนตั้งตารอฟัง
ท่านลุงสี่กระแอมสองที คำพูดนี้ช่างกล่าวออกมาได้ยากนัก แต่ที่ภรรยาของเขากล่าวมาก็ไม่ผิด เด็กดีขนาดนี้ หากพลาดไปคงน่าเสียดายแย่
“เจ้าอยู่ข้างนอก มีหญิงสาวที่หมายตาหรือไม่? ” ท่านลุงสี่เอ่ยปากอย่างระมัดระวัง
เซียวหยวนส่ายหน้า ใบหน้าขึ้นสีแดงด้วยความเขินอาย “ยังไม่มีขอรับ สนใจแต่ทำงานตลอด ยัง… ยังไม่… ไม่ได้คิด… คิดเรื่องอื่นขอรับ! ”
ท่านลุงสี่รู้สึกยินดียิ่ง “เจ้าอายุไม่น้อยแล้ว ควรคิดเรื่องใหญ่ในชีวิตตัวเองได้แล้ว”
เซียวหยวนกล่าวด้วยท่าทางเก้อเขิน “ข้าไม่ได้กลับหมู่บ้านมานาน ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง! ”
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ท่านป้าสี่ของเจ้าเป็นคนใจดี ถึงเวลาให้ท่านป้าสี่ของเจ้าช่วยดูให้ ดีหรือไม่? ”
เซียวหยวนรีบยกถ้วยตรงหน้าขึ้น ดื่มให้ท่านลุงสี่ “เช่นนั้นขอบคุณท่านลุงสี่มากขอรับ ข้าจะดื่มให้หมด”
กล่าวจบ จึงแหงนหน้าดื่มสุราในถ้วยเล็กตรงหน้าจนหมด
ท่านลุงสี่ก็ดื่มสุราตรงหน้าจนหมด เซียวหยวนรีบไปหยิบสุรามารินให้ใหม่
“หากให้ท่านป้าของเจ้าเห็นเข้า จะว่าข้าอีก” ท่านลุงสี่ไม่กล้า
เซียวหยวนหัวเราะร่า “เช่นนั้นก็ไม่ให้ท่านป้าเห็นขอรับ ถือเสียว่านี่ยังเป็นถ้วยแรก แต่ดื่มแค่ถ้วยนี้เท่านั้น ไม่ดื่มมากกว่านี้ขอรับ”
“ได้! ” ท่านปู่เซียวชักมือออกอย่างมีความสุข
ทั้งสองคนดื่มด้วยกันอีก ท่านป้าสี่เข้ามา ไม่รู้ว่าทั้งสองคนเคยดื่มไปหนึ่งถ้วยแล้ว
ชายชาตรีสองคน รู้ดีแก่ใจ ปิดบังท่านป้าสี่ ลุงหลานสองคนเหมือนมีความลับที่รู้กันสองคนอย่างไรอย่างนั้น ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากขึ้น
“ท่านลุงของเจ้า ตอนหนุ่มเจ็บป่วยหนักจนร่างกายแย่ ทั้งชีวิตมีหมิงจูเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว ท่านป้าของเจ้าก็ไม่รังเกียจข้า อยู่กับข้ามาชั่วชีวิต รักบุตรสาวเหมือนแก้วตาดวงใจ เฮ้อ พูดตามตรง ข้าก็อยากได้บุตรชายเหมือนกัน รอให้บุตรชายเติบใหญ่ ก็สามารถดื่มสุรากับข้าได้ ทั้งสองคนคุยเรื่องของผู้ชายกัน ไม่มีเรื่องกังวลใจอะไร” ท่านลุงสี่ทำสีหน้าเหมือนกำลังจินตนาการ
ในหมู่บ้านชนบท การไม่มีบุตรชายสักหนึ่งคน ก็เหมือนไร้ซึ่งทายาท