บทที่ 193 คุณสมบัติที่เหนือกว่าระดับ A

ไหปีศาจ

บทที่ 193
คุณสมบัติที่เหนือกว่าระดับ A

ด้านในสำนักงานมณฑล

มีทูตเฉียนหลงที่สวมหน้ากากมังกรดำนั่งอยู่บนบัลลังก์
อย่างไรก็ตามผู้คนในสำนักมณฑลก็ไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด พวกเขาแสดงความเคารพอย่างสูงต่อทูตจากเฉียนหลง
จงอย่าดูถูกทูตเฉียนหลง
เฉพาะผู้ที่มีความแข็งแกร่ง ความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นคลั่งไคล้เท่านั้น ที่จะกลายเป็นทูตของเฉียนหลงได้
นายเหลียงหนึ่งในผู้คุมสอบกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่รู้ว่าข้าคิดไปเองรึเปล่า แต่ดูเหมือนว่าในคราวนี้จะมีเด็ก ๆ ผู้มีความสามารถมากกว่าครั้งก่อน ๆ ”
“ นั่นก็เป็นเรื่องที่ดี แต่มันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเช่นกัน” ทูตเฉียนหลงกล่าวอย่างใจเย็น

นายเหลียงสับสน
หมายความว่ายังไงกัน? การมีผู้มีพรสวรรค์มากขึ้นนี่มันไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอกหรือ

ทูตเฉียนหลงนั้นรู้ดีว่าทุกครั้งที่ความโกลาหล กำลังใกล้เข้ามาเหล่าอัจฉริยะก็จะเริ่มปรากฏตัวกันออกมาอย่างบ้าคลั่ง เหมือนกับเมื่อ 400 ปีก่อน
“นั่นมัน?”
ทูตเฉียนหลงได้สังเกตเห็นหญิงสาวขี้อายคนหนึ่งในชุดสีเขียวกำลังอุ้มแมวสีดำที่มีลายจุดหิมะสีขาวยืนอยู่นอกประตูเหมือนกำลังรอใครบางคนอยู่

แมวผี?
มันเป็นสัตว์วิญญาณที่หาได้ยาก
นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสัตว์วิญญาณซึ่งเป็นที่โปรดปรานของเหล่าผู้ที่มุ่งมั่นจะใช้เส้นทางแห่งการลอบสังหาร
เฉียนหลงใช้ทักษะที่เหมือนกับการก้าวพริบตาเดินมาที่หลี่หยิน
หลี่หยินสะดุ้งจนก้าวถอยหลังไป แมวผีในอ้อมแขนของนางเองก็ตื่นขึ้นในทันที มันกระโดดขึ้นมาพร้อมต่อสู้ ดวงตาสีอำพันของมันตื่นตัวจ้องเขม็ง
“ไม่ต้องกลัวไป ตัวข้าไม่ได้มีอันตรายกับเจ้านายของเจ้าแต่อย่างใด” ทูตเฉียนหลงโบกมือ
ปล่อยพลังวิญญาณอันอ่อนโยนพัดขับไล่แมวผีไป
ทูตเฉียนหลงถามอย่างสงสัย “ทำไมเจ้าถึงมายืนอยู่ที่นี่แทนที่จะเข้าร่วมการทดสอบคุณสมบัติล่ะ”
“ข้าทำไม่ได้แบบนั้นไม่ได้เจ้าค่ะ ข้ากำลังรอนายน้อยของข้ากลับมาเจ้าค่ะ” หลี่หยินส่ายหัวของนาง

นี่ทำให้ทูตเฉียนหลงแปลกใจ
แม่นางคนนี้เป็นเพียงสาวใช้อย่างนั้นเหรอ
นางยังเด็กมากและความแข็งแกร่งของนางคือระดับเงิน มิติ 4 นางมีความสามารถที่ไม่เลวเลย ดูยังไงก็มีคุณสมบัติที่จะได้เข้าร่วมการทดสอบคุณสมบัติ ในแขนงของผู้ใช้พลังวิญญาณชัด ๆ
“ไหน ๆ เจ้าก็มาที่นี่แล้ว ไปลองทดสอบคุณสมบัติหน่อยเถอะ” ทูตเฉียนหลงกล่าว
นายเหลียงรู้สึกประหลาดใจ “ทูตของเฉียนหลง ท่านทำแบบนั้นไม่ได้นี่ มันเป็นการละเมิดกฎไม่ใช่หรือ มีเพียงแค่ผู้ที่ตระกูลใหญ่แนะนำเท่านั้น ถึงจะมีคุณสมบัติในการเข้าร่วมการสอบคัดเลือกเฉียนหลง”
“สิ่งที่สำนักเฉียนหลงต้องการคือพรสวรรค์ ไม่ใช่กฎเกณฑ์ไร้สาระ มีคำเชิญมากมายที่ถูกมอบให้แก่คนอื่น ๆ ในทุก ๆ ปี ซึ่งมันไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้งแน่ ๆ” ทูตเฉียนหลงไม่สนใจ
“แต่การพูดเช่นนั้น จะก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ผู้ได้รับสิทธิ์”
“ถ้าใครไม่พอใจก็ให้เขามาคุยกับข้าด้วยตัวเอง” ทูตเฉียนหลงกล่าว
นายเหลียงหุบปากไปในทันที
ทูตเฉียนหลงนั้นเป็นตัวแทนของสำนักเฉียนหลง ใครจะกล้าคัดค้านเขาได้

หลี่หยินกำลังสับสน “ถ้าอย่างนั้น ข้าไปหานายน้อยของข้าได้แล้วใช่ไหมเจ้าคะ?”
“ใช่แล้วไปสิ” ทูตเฉียนหลงกล่าว
หลี่หยินรู้สึกตื่นเต้น นางขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้นก็เดินไปยังบริเวณที่ทำการทดสอบคุณสมบัติ
การเข้ารับบททดสอบของนางได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนตรงนั้นเป็นอย่างมาก

“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ข้าไม่เคยเห็นนางมาก่อน”
“ดูเหมือนข้าจะเคยเห็นนางรออยู่ที่ประตู นางอาจจะเป็นสาวใช้ของผู้เข้าร่วมการทดสอบสักคนก็ได้”
“สาวใช้เข้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน”
“นางมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมการคัดเลือกเฉียนหลงด้วยงั้นเหรอ ?”
บางคนเริ่มกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ
ที่นี่เป็นสถานที่ที่ผู้คนจำนวนมากได้ใช้พลังงานและเวลามากมายในแย่งชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งโอกาสที่จะได้เข้ารับการศึกษา นี่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่พอใจ
อย่างไรก็ตาม หลี่หยินไม่สนใจ ทันทีที่นางเห็นร่างของ ฉูจงฉวนนางก็เดินเข้าไปหาเขา
“ท่านฉู” หลี่หยิน
ฉูจงฉวนประหลาดใจ “หลี่หยินเจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
หลี่หยินอธิบายให้เขาฟัง จากนั้นฉูจงฉวนก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้านี่ช่างโชคดีจริง ๆ”
“ว่าแต่ท่านฉู นายน้อยของข้าอยู่ที่ไหนเหรอเจ้าคะ” หลี่หยินมองไปรอบ ๆ

ฉูจงฉวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “นายน้อยของเจ้าเข้าร่วมการทดสอบของผู้ปรับแต่งพลังวิญญาณอยู่น่ะ ตรงนี่คือส่วนของการทดสอบผู้ใช้พลังวิญญาณ ไม่แปลกหรอกที่เขาจะไม่ได้อยู่ที่นี่”
“อ่า … ” หลี่หยินก้มหน้าด้วยความผิดหวัง
นายน้อยไม่อยู่ที่นี่
“งั้นข้าจะไปรอนายน้อยอยู่ข้างนอกนะเจ้าคะ” หลี่หยิน พร้อมจะออกเดิน
ผู้คนเริ่มไม่พอใจกันมากขึ้น

มันเย่อหยิ่งเกินไป
จู่ ๆ ก็จะเดินออกไปเสียอย่างนั้น
ทั้งที่นางโชคดีพอที่จะได้รับคุณสมบัติในการเข้าร่วมการทดสอบคัดเลือกเฉียนหลง แต่กลับยอมแพ้เพราะนายน้อยของนางไม่ได้อยู่ที่นี่เนี่ยนะ?
สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเป็นอย่างมากมันดูไร้ค่าในสายตาของสาวใช้คนนี้อย่างนั้นเหรอ? มันช่างน่าเจ็บใจจริงๆ
“ดูเหมือนว่าสาวใช้ของลั่วอู๋ก็หยิ่งพอ ๆ กับเจ้านายของนางเลยสินะ” เสียงฮัมเย็น ๆ ดังขึ้นซึ่งแน่นอนว่าคนที่พูดมันขึ้นมาก็คือมู่เฉิง
เขาจงใจชี้ให้ทุกคนสนใจไปที่หลี่หยิน
เมื่อสาวใช้ทำตัวไม่สมเหตุสมผล ผู้ที่ต้องรับผิดชอบก็คือเจ้านาย
ทันใดนั้นผู้คนก็เริ่มรู้สึกเกลียดชังลั่วอู๋
“ลั่วอู๋ที่เจ้าพูดถึงมันเป็นใคร ทำไมแม้แต่สาวใช้ของเขาก็ยังกล้าดูหมิ่นการคัดเลือกเฉียนหลง เจ้านายของนางเองก็ต้องเป็นคนที่หยิ่งผยองเช่นกัน”

นี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด
หลี่หยินดูลุกลี้ลุกลน นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมทุกคนถึงได้ตั้งเป้าไปที่นาง
ฉูจงฉวนก้าวไปข้างหน้าออกหน้าปกป้องหลี่หยิน ในเมื่อลั่วอู๋ไม่อยู่ที่นี่เขาจะต้องเป็นคนปกป้องหลี่หยิน
“การตรวจสอบคุณสมบัตินั้นเป็นงานของคนอื่นไม่ใช่พวกเจ้า อีกอย่างนางก็ไม่ได้มาขัดขวาง ไม่ให้พวกเจ้าผ่านการคัดเลือกซะหน่อย” ฉูจงฉวนด่ากราดฝูงชนอย่างเย็นชา
หลายคนโกรธ แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการมีเรื่องกับฉูจงฉวน พวกเขาจึงเงียบ

ในรอบแรกของการทดสอบคุณสมบัติ ฉูจงฉวนได้เกรด A ในทุก ๆ ด้าน ซึ่งหมายความว่าคุณสมบัติทั้งความเร็ว ทั้งการควบคุมสัตว์วิญญาณ ของเขานั้นมาถึงเกรด A ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในการทดสอบรอบแรก

บุคคลเช่นนี้ถูกกำหนดให้เป็นผู้แข็งแกร่ง
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นนายน้อยตระกูลฉู โดยมีทั้งตระกูลฉูหนุนหลังอยู่ และที่นี่คือมณฑลหมิงหนาน แดนทางตอนใต้ที่มีชื่อเสียง หลายคนจึงไม่สามารถยั่วยุคนในตระกูลฉูอย่างเขาได้
“ก็นะ แต่มันเป็นการดูถูกสำนักเฉียนหลง พวกเราก็แค่ขุ่นเคือง” มู่เฉิงพูดขึ้นมาแม้จะเป็นการขัดต่อประสงค์ของทูตเฉียน หลงที่ให้หลี่หยินเข้ามารับการทดสอบ
เขาไม่สนใจว่ามันจะทำให้ตระกูลฉูและฉูจงฉวนโกรธหรือไม่อยู่แล้ว
ฉูจงฉวนหัวเราะเยาะ “มู่เฉิง เจ้าเพิ่งผ่านการทดสอบรอบแรก ก็เริ่มทำตัวเป็นตัวแทนของสำนักเฉียนหลงแล้วงั้นเหรอ?”
ชัดเจนว่าพวกเขากำลังจะทะเลาะกันอีกครั้ง

“ทุกคนจงเงียบ”
เสียงหนาดังออกมา

ทันใดนั้นก็ทุกคนก็เงียบลง
เนื่องจากนั่นเป็นเสียงของทูตเฉียนหลงผู้คุมการทดสอบของผู้ใช้พลังวิญญาณ
ผู้คุมการทดสอบมองไปที่หลี่หยิน “ไหน ๆ เจ้าก็อยู่ที่นี่แล้ว มาทดสอบคุณสมบัติของเจ้ากันเถอะจะได้ไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้”
หลี่หยินลังเล แต่ฉูจงฉวนก็ผลักให้นางขึ้นไปอย่างรวดเร็ว แม้นางจะทำอะไรไม่ถูกเพียงแต่ก็เดินขึ้นไปบนแท่นทดสอบ

ฝูงชนต่างมองเย้ย
แบบนี้ฉูจงฉวนคงจะปกป้องเจ้าต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ
ในฐานะสาวใช้พวกเขาไม่คิดว่าคุณสมบัติของนางจะสูงได้สักเท่าไหร่
ทว่าฉูจงฉวนนั้นไม่ได้กังวลเลย
เขารู้ดีว่าสาวใช้ของลั่วอู๋มีฝีมือแค่ไหน

“นี่คือแท่นทดสอบพลังวิญญาณ หากเจ้าจับมันไว้ เราจะสามารถตรวจจับความสามารถในการดูดซับและควบคุมพลังวิญญาณของเจ้าได้ ซึ่งเป็นการวัดคุณสมบัติในการฝึกฝน” ผู้ตรวจสอบกล่าวเบา ๆ
ในความเป็นจริงเขาเองก็ไม่พอใจกับท่าทีของหลี่หยิน แต่นี่คือหน้าที่ของเขา และเขาก็ไม่สามารถบ่นอะไรได้
อย่างไรก็ตามเขาคิดสงสัยว่าสาวใช้ตัวน้อย คนนี้มาเข้ารับการตรวจสอบคัดเลือกเฉียนหลงได้ยังไง เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าเบื้องบนคิดอะไรอยู่
คงต้องทำให้นางได้รู้ถึงช่องว่างระหว่างคุณสมบัติของนางและเหล่าผู้มีความสามารถสักหน่อยแล้ว

มันคือลูกแก้วพลังวิญญาณ ที่มีแสงหลากสี ทั้งใสและสวยงาม

หลี่หยินกดมือของนางลงบนลูกแก้วอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้นแสงก็ส่องสว่างออกเป็นลำแสงทั้งเจ็ด ลอยขึ้นไปปกคลุมทั่วทั้งสถานที่ทดสอบคัดเลือกทั้งหมดราวกับว่าดวงอาทิตย์ มันสว่างพอ ๆ กับดวงอาทิตย์เลยทีเดียว
ดวงตาของผู้เข้าสอบทุกคนต่างเบิกกว้าง “นางเป็นผู้มีคุณสมบัติ!”
ทันใดนั้นเสียงแห่งความประหลาดใจก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ

พวกเขาทั้งหมดต่างก็ไม่เชื่อสายตาตนเอง
ผู้มีคุณสมบัติทั้งหมดมีไม่เกินห้าหรือหกคน และพวกเขาทุกคนล้วนเป็นผู้ที่มีความสามารถเลื่องชื่อและเป็นที่รู้จัก
ใครกันจะไปคิดว่าสาวใช้ตัวน้อยนั้นก็ได้ผ่านการทดสอบนี้ด้วยเช่นกัน