ลู่ฝานเข้าใจแล้วว่าทำไมศิษย์พี่ฉู่สิง ศิษย์พี่ฉู่เทียน ไม่กล้าบอกอาจารย์อี้ชิงไปตรงๆ เรื่องที่จะยืมขวาน

คงเป็นเพราะว่าต้นไม้ที่พวกเขาจะตัด เป็นต้นไม้ล้ำค่าของคณะคนอื่น

ศิษย์พี่หานเฟิงเอาสองมือเท้าเอว ด่ากับศิษย์คณะนานา อย่างน้อยหลายสิบคน คิดไม่ถึงว่าพลานุภาพ ไม่ได้ด้อยกว่าเลยสักนิด

ลู่ฝานเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกว่าการด่าคน สามารถด่าได้อย่างเฉียบคมขนาดนี้ ศิษย์พี่หานเฟิงยืนพูดไม่หยุด ด่าไปครึ่งชั่วยามเต็มๆ คำที่ด่าไม่ซ้ำกันสักประโยค

กลับกัน ศิษย์คณะนานา โดนด่าจนเสียงเบาลงเรื่อยๆ บางคนโกรธจนจะเข้ามาหาเรื่องหานเฟิง

สุดท้ายหานเฟิงต่อยพวกเขา จนกลิ้งลงบนพื้น โดยไม่ต้องชักกระบี่ออกมาเลย

“ถุย พวกไม่เอาไหนอย่างพวกนาย กล้ามาลงมือกับฉัน กลับบ้านไปกินนมแม่ แล้วค่อยกลับมานะ”

หานเฟิงสู้จบ ก็ด่าขึ้นมาอีก ทำให้ศิษย์คณะนานา โกรธจนตาแดงก่ำ

ศิษย์คณะนานา รวมตัวเยอะขึ้นเรื่อยๆ เกินสองร้อยคนเข้าไปแล้ว

ลู่ฝานเห็นแล้วหนังตากระตุก พูดเบาๆ ว่า “ศิษย์พี่รอง ศิษย์พี่สาม พอได้แล้วมั้งครับ พวกเรารีบแยกย้ายเถอะ”

ศิษย์พี่ฉู่สิงพูดว่า “นายไม่ต้องรีบ หานเฟิงจะจัดการได้แล้ว”

“จัดการ จัดการอะไร”

“ในเมื่อพวกนายไม่ยอม สู้เรามาจัดการกันหน่อยไหม มาสู้กับฉัน ถ้าฉันชนะ พวกนายไสหัวกลับไปฝึกฝนต่อซะ ฉันจะเอาต้นปรงสาคูไป ถ้าฉันแพ้ จะคืนต้นปรงสาคูให้พวกนาย

“ใครว่าไม่มี ไอ้เลวคณะหนึ่งเดียว ฉันจะสั่งสอนนายเอง”

“ฉันด้วย”

……

กลุ่มคนถกแขนเสื้อขึ้น ดึงมีด กระบี่ออกมา เตรียมจะเข้ามา

ขณะนั้น เสียงตวาดดังขึ้นมา

“พวกนายจัดการได้เหรอ หลีกไปเลย!”

เสียงทรงพลัง กลุ่มคนหลีกทางให้ ชายถือดาบง้าวเดินออกมา

“ศิษย์พี่สิงคง!”

ศิษย์คณะนานา ดีใจเป็นอย่างมาก

“ศิษย์พี่สิงคง จัดการพวกเลวคณะหนึ่งเดียว เอาต้นปรงสาคูคืนมา”

“ศิษย์พี่สิงคงเป็นคนจัดการของเรา เขารับคำท้าแทนพวกเรา ไอ้เลวคณะหนึ่งเดียว นายตายแน่”

ศิษย์คณะนานา พูดตะโกนเสียงดัง หานเฟิงกลับยิ้มอย่างดูหมิ่น แล้วพูดว่า “ไม่เคยได้ยินชื่อสิงคง ดูใช้ได้นะ กล้ารับคำท้าหรือเปล่า”

สิงคงชี้ดาบง้าวตรงหน้าหานเฟิง แล้วพูดว่า “มีอะไรต้องกลัว มาสิ ให้ฉันดูหน่อยว่า ศิษย์คณะลำดับต่ำอย่างคณะหนึ่งเดียว มีความสามารถอะไร”

หานเฟิงหัวเราะ ยกกระบี่ฟ้าครามขึ้นมาตรงหน้า

ฉู่สิง ฉู่เทียน ที่อยู่ด้านหลังก็หัวเราะ ฉู่เทียนพูดเสียงเบาว่า “ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าแค่หานเฟิงตอบรับไอ้ยักษ์นี่ เราจะได้เอาต้นปรงสาคูกลับไปได้ ศิษย์น้องลู่ฝาน อีกไม่นาน จะมีบ้านที่ทำจากต้นปรงสาคูให้นายแล้ว”

ลู่ฝานยิ้มแหย “ที่แท้นี่คือแผนของศิษย์พี่หานเฟิงเหรอ ยั่วยุอีกฝ่ายก่อน แล้วค่อยพนัน ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ อย่างมากแค่ขอโทษ จากนั้นกลับไปอย่างปลอดภัย”

ฉู่สิงหัวเราะ แล้วพูดว่า “ใช้ได้ผลมาก ไม่ใช่หรือไง กลับกัน แค่ศิษย์ของคณะนานาพวกนั้นไม่มา หานเฟิงต้องชนะแน่นอน”

ลู่ฝานพยักหน้า เรื่องนี้เขาไม่สงสัย พละกำลังของศิษย์พี่หานเฟิง ประมาณกำลังภายในขั้น6 นักบู๊ทั่วไป ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา บวกกับกระบวนท่ากระบี่ที่แข็งแกร่งของเขา แม้นักบู๊แดนปราณนอกมา ก็ไม่น่าจะกลัวเท่าไร

ตอนนี้ สิงคงแห่งคณะนานา ปล่อยกำลังภายในออกมา พลังปราณที่รวมตัวกัน น่าจะประมาณกำลังภายในขั้น 5-6

ดูจากพลังปราณ ระดับของทั้งสองคนไม่ต่างกัน

ย๊าก!

สิงคงแผดเสียงออกมา มือทั้งสองข้างง้างดาบง้าวขึ้นสูง เคลื่อนไหวราวกับบินได้ รวดเร็วเหมือนลมหมุน

จากนั้น ดาบพุ่งมาทางหานเฟิง

แสงดาบตัดจนพื้นกลายเป็นรอยร้าวครึ่งวงกลม

หานเฟิงยกกระบี่ฟ้าครามขึ้นมาขวางดาบง้าวเอาไว้

กล้ามเนื้อบนแขนทั้งสองข้างของสิงคงเป็นมัดๆ เส้นเลือดปูดขึ้นมา เขาเพิ่มแรงเข้าไปอีก

ตัวของหานเฟิงนิ่งไม่ขยับ ถือกระบี่ด้วยมือเดียว ไม่ว่าสิงคงจะเพิ่มแรงยังไง เขาก็ไม่ขยับไปไหน

ศิษย์คณะนานาบริเวณรอบๆ สีหน้าตกตะลึง พวกเขาคิดไม่ถึงว่า คณะลำดับต่ำในสถาบันสอนวิชาบู๊ อย่างคณะหนึ่งเดียว จะมียอดฝีมือแบบนี้ด้วย

หานเฟิงพลิกข้อมือ จนเกิดเป็นประกายกระบี่ โจมตีจนดาบง้าวของสิงคงเด้งออกไป

แสงกระบี่สว่างวาบ สิงคงโดนโจมตีสามกระบี่

แต่ขณะนั้น ดาบง้าวที่กระเด็นออกไป ร่วงลงมาอีกครั้ง

ฟ้าถล่มดินทลาย

เมื่อกระบี่ร่วงลงมา หานเฟิงหมุนตัวหลบ

แต่รอยร้าวใต้เท้าของเขา ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงระเบิดดังขึ้น พื้นดินแตกกระจาย ฝ่าเท้าหานเฟิง จมลงไปในพื้นดินที่ถล่ม

ปราณอันแข็งแกร่ง ปกคลุมตัวหานเฟิงเอาไว้ แม้การเคลื่อนไหวของหานเฟิงจะรวดเร็ว แต่กลับไม่สามารถหลบได้

ในสถานการณ์คับขัน กระบี่ฟ้าครามในมือหานเฟิง มีวงแหวนสีฟ้าสว่างวาบขึ้นมา

หานเฟิงเอากระบี่ ปักลงไปบนพื้น วงแหวนสีฟ้าแตกกระจายทันที