เมื่อเห็นซ่งฝูสีหน้าขาวซีด ก่อนเปลี่ยนเป็นสีแดง แล้วเปลี่ยนจากสีแดงเป็นถมึงทึง ภายในใจเซียวจินก็รู้สึกได้ใจ กล่าวตีไข่ใส่สีต่อ “เซี่ยยวี่หลัวผู้นี้เป็นคนไม่รู้จักอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ข้าได้ยินมาว่าเดิมทีตอนนางอยู่หมู่บ้านสกุลเซี่ย เคยให้ท่าบุรุษจำนวนไม่น้อย แต่เพราะไม่มีใครแต่งกับนาง เซียวยวี่จึงแต่งกับนาง ข้ายังได้ยินมาอีกว่า เซี่ยยวี่หลัวยังมีคนรู้ใจอีกหนึ่งคน ขอเพียงนางกวักนิ้วเรียก บุรุษผู้นั้นก็จะวิ่งมาเร็วกว่ากระต่ายเสียอีก! ”
“เรื่องราคีคาวของเซี่ยยวี่หลัวนั่น ให้พูดสักสามวันสามคืนก็ยังไม่หมด! ” เถียนเอ๋อกล่าว “ข้าได้ยินมาว่าเถ้าแก่ซ่งเป็นผู้มีความสามารถโดดเด่น อายุยังน้อยก็ประสบความสำเร็จเช่นนี้ ถึงแม้ว่าเซี่ยยวี่หลัวจะงดงาม แต่อย่าได้โดนนางจิ้งจอกเซี่ยยวี่หลัวนั่นหลอกเอาเชียว”
ซ่งฝูประสานมือขอบคุณทั้งสองคน “ขอบคุณทั้งสองท่านที่บอกความจริง แต่ทั้งสองท่านอย่าได้เชื่อวาจาเพียงข้างเดียวของเซี่ยยวี่หลัว คุณชายของข้ากับนาง เพียงแค่เคยพบกันไม่กี่ครั้ง นอกเหนือจากนั้น ไม่มีความสัมพันธ์อื่นใดกันอีก! ”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ข้าต้องหารือกับคุณชายของข้าก่อน จะปล่อยให้คนนอกทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ไร้มลทินของคุณชายข้าไม่ได้ หวังว่าทั้งสองท่านอย่าได้แพร่ข่าวลือ ทำลายชื่อเสียงคุณชายข้า”
“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น พวกเราจะไม่กล่าวอะไรทั้งนั้น เพียงแค่ไม่อาจทนดูการกระทำของเซี่ยยวี่หลัวได้ จึงมาเพื่อเตือนเถ้าแก่ซ่งโดยเฉพาะ” เซียวจินแสดงท่าทางเกรงอกเกรงใจ “ผู้คนล้วนกล่าวว่าเถ้าแก่ซ่งแห่งเซียนจวีโหลวในเมืองโยวหลันเป็นคนวางตัวดี กระทำการด้วยความสัตย์ซื่อบริสุทธิ์ ข้าเพียงแค่เกรงว่า หากข่าวลือเช่นนี้แพร่ออกจากหมู่บ้านสกุลเซียว แพร่เข้ามาถึงเมืองโยวหลัน จนผู้คนคิดว่าเถ้าแก่ซ่งมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสตรีที่มีสามีแล้ว จะไม่เป็นเรื่องใหญ่หรือ! ต้องรีบหยุดยั้งเรื่องนี้ทันที! อย่าให้ชื่อเสียงของเถ้าแก่ซ่งถูกทำลายจนป่นปี้เชียว! ”
เซียวจินทำท่าทางราวกับข้ากำลังคิดเผื่อท่าน ซ่งฝูได้ฟังดังนั้น ย่อมคิดจะตัดขาดกับเซี่ยยวี่หลัวอย่างชัดเจนในทันที เพียงแต่จะตัดขาดอย่างไร ยังต้องให้คุณชายตัดสินใจ
“ทั้งสองท่านพักผ่อนอยู่ในร้านครู่หนึ่ง เรื่องนี้ข้าต้องรายงานให้คุณชาย รอให้คุณชายของข้าตัดสินใจ หากคุณชายของข้าต้องการให้ท่านทั้งสองเป็นพยาน ขอให้พวกท่านช่วยอีกแรง”
เซียวจินรีบพยักหน้าโค้งคำนับ แสดงเจตนาว่าตัวเองมีใจภักดี “ถือเป็นการช่วยอะไรกัน ขอเพียงเถ้าแก่ซ่งต้องการ อย่าว่าแต่เป็นพยานเลย ให้ข้าขึ้นเขาลงห้วยยังได้”
ซ่งฝูให้ทั้งสองคนอยู่ต่อ หันขวับเดินขึ้นชั้นสองไป
เพราะเขาโมโหคุกรุ่น จึงเดินเข้าไปโดยไม่เคาะประตูด้วยซ้ำ
ซ่งฉางชิงกำลังดูสมุดบัญชีอย่างละเอียด จู่ๆ ก็ถูกรบกวน กำลังจะกล่าวตำหนิ
“คุณชาย เซี่ยยวี่หลัวนั่นช่างไร้ยางอายสิ้นดี! ” ซ่งฝูกล่าวเสียงดังทันที “ช่างหน้าไม่อาย ข้าไม่เคยพบเห็นสตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน! ”
มือของซ่งฉางชิงจับสมุดบัญชีไว้แน่น เก็บวาจาที่กำลังจะกล่าวตำหนิไว้ เส้นเลือดหลังมือปูดขึ้น “เจ้าว่าอะไรนะ? ”
ซ่งฝูกล่าวด้วยอารมณ์โทสะ “คุณชาย ท่านไม่รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวนั่นอาศัยเรื่องที่ลงนามในสัญญากับท่าน แพร่ข่าวลือไปทั่ว บอกว่าท่านสนิทกับนางมาก ทั้งยังบอกว่าขอเพียงนางกวักนิ้วเรียก ท่านก็ต้องรีบวิ่งแจ้นไปหานาง! ”
ซ่งฉางชิงไหวคิ้วทีหนึ่ง
ซ่งฉางชิงไม่ได้กล่าวอะไร ซ่งฝูนึกว่าคุณชายของตนเองก็โมโหเช่นเดียวกัน คุณชายรังเกียจสตรีที่ลุ่มหลงในชื่อเสียงอำนาจเป็นที่สุด และไม่มีความรู้สึกดีต่อสตรีที่อาศัยว่ามีรูปลักษณ์งดงาม ก็เข้ามาข้องเกี่ยวอย่างหน้าไม่อายแม้แต่น้อย
เซียนจวีโหลวเป็นสถานที่เช่นไร แม้ต่อให้ไม่ใช่อันดับหนึ่งหรืออันดับสองในเมืองโยวหลัน แต่ต้องติดสามอันดับแรกแน่นอน เพราะมีรากฐานที่นายท่านซ่งสร้างไว้ ตระกูลซ่งก็ถือเป็นตระกูลมีชื่อในเมืองโยวหลัน ยิ่งไปกว่านั้น คุณชายยังเป็นจวี่เหรินด้วย!
“คุณชาย สตรีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ ท่านว่าควรทำเช่นไรขอรับ หากนางสร้างข่าวลือข้างนอกอีก ช้าเร็วข่าวลือนี่ต้องแพร่มาถึงเมืองโยวหลันแน่! ” ซ่งฝูไม่มีแก่ใจจะสนใจเรื่องรักษาหน้าตาแล้ว บอกเล่าวาจาทั้งหมดของสองสามีภรรยาเซียวจินให้ฟัง “เซี่ยยวี่หลัวนั่นก็เป็นสตรีที่มีสามีแล้ว ยังลากท่านให้ตกต่ำเช่นนี้ เช่นนี้เท่ากับทำลายชื่อเสียงของท่านไม่ใช่หรือ? ”
ซ่งฝูโมโหจนแทบยืนไม่ติด
เมื่อก่อนก็มีสตรีบากหน้ามาหา ล้วนถูกคุณชายจับโยนออกไป ทว่า เมื่อก่อนต่อให้ไม่พอใจเพียงใด ก็ยังเป็นสตรีบริสุทธิ์ที่ยังไม่ออกเรือน ตอนนี้กลับเป็นสตรีที่มีสามีอยู่แล้ว
หากข่าวลือแพร่ออกไป คนที่จะเสียหายไม่ได้มีแค่เซี่ยยวี่หลัว ยังมีคุณชายของเขาอีก!
คบชู้สู่ชาย มีสัมพันธ์กับสตรีที่แต่งงานแล้ว นี่เป็นความผิดที่ต้องถูกจับใส่กรงถ่วงน้ำ ต้องถูกผู้คนประณาม!
ซ่งฉางชิงไม่ละสายตาจากสมุดบัญชีในมือ ดูผิวเผินเหมือนจะไม่มีความรู้สึกใดๆ ความจริงกลับเหมือนมีคลื่นยักษ์ถาโถมนานแล้ว
ต่อให้ไม่อยากยอมรับ ไม่อยากไปหวนคิด แต่ซ่งฝูกล่าววาจาเหล่านี้ ทำให้ซ่งฉางชิงได้เข้าใจเรื่องหนึ่งที่เขาครุ่นคิดอยู่ตลอดแต่ก็ไม่ยอมรับมาตลอด
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวได้ไม่ผิด
หากนางกวักนิ้วเรียก เขาคงวิ่งแจ้นไปหานางจริง
นี่หมายถึงอะไร?
วาจาของซ่งฝู ไม่เพียงแต่ไม่ได้ยั่วยุให้ซ่งฉางชิงเกิดความรู้สึกไม่พอใจ ตรงกันข้าม เขารู้สึกยินดี ยินดีจนเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ปกติเสียด้วย
เหตุใดเขาถึงมีความคิดเช่นนี้ได้
เรียนหนังสือมาสิบกว่าปี เรื่องมารยาทและยางอายหายไปอยู่ในท้องสุนัขหมดหรืออย่างไร?
“คุณชาย ท่านอย่าเพิ่งโมโห ท่านคิดว่าควรจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี ทางเซี่ยยวี่หลัวนั่นจะร่วมงานไม่ได้อีกเด็ดขาด หากยังร่วมงานต่อ ใครจะรู้ว่านางยังจะกล่าววาจาน่าโมโหอะไรออกมาอีก! ” ซ่งฝูแค้นจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แค้นจนอยากถลกหนังชำแหละกระดูกเซี่ยยวี่หลัว กลืนหญิงสำส่อนที่หน้าไม่อายผู้นี้ทั้งเป็นเสีย
“เรื่องนี้ใครเป็นคนบอกเจ้า? ” ซ่งฉางชิงวางสมุดบัญชีในมือลง เอ่ยถามช้าๆ
นัยน์ตาของเขานิ่งสงบ ดูไม่ออกว่าเขาโมโหถึงขีดสุด หรือไร้ความรู้สึกต่อเรื่องนี้กันแน่
“คนที่นำผักตี้เอ่อมาขายครั้งก่อนขอรับ ครั้งนี้พวกเขาสองสามีภรรยามาพร้อมกัน บอกว่าเดิมทีตอนเซี่ยยวี่หลัวยังไม่ออกเรือนก็ไม่รู้จักสงบเสงี่ยม ให้ท่าบุรุษไว้ไม่น้อย ในภายหลังเพราะไม่มีคนแต่งกับนาง จึงต้องแต่งกับเซียวยวี่ขอรับ” ซ่งฝูกล่าวอย่างรังเกียจ
ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าเซี่ยยวี่หลัวคิดคำนวณได้เร็ว เขายังรู้สึกสงสัยใคร่รู้ในตัวสตรีผู้นี้อยู่เลย!
แต่หากสตรีผู้หนึ่งมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ ต่อให้นางเป่าลมปากออกมาเป็นบุปผา ก็มีแต่จะทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่านางน่ารังเกียจ
อยู่หมู่บ้านสกุลเซี่ยไม่มีใครแต่งด้วยงั้นหรือ?
ซ่งฉางชิงหวนคิดถึงคำบอกเล่าของเซียวเหลียง เขาเอนหลังพิงบนพนักเก้าอี้เท้าแขนโค้ง “สามีภรรยาคู่นั้นยังอยู่หรือไม่? ”
“อยู่ขอรับ ข้ารั้งตัวพวกเขาสองคนไว้ หากมีเรื่องอะไร ก็สามารถให้พวกเขาเป็นพยานได้”
“เช่นนั้นก็ลงไปบอกสองสามีภรรยานั่น ว่ามะรืนนี้ข้าจะไปยังหมู่บ้านสกุลเซียว”
“ไปหมู่บ้านสกุลเซียวทำอะไรขอรับ? ” ซ่งฝูรู้สึกสงสัยยิ่งนัก “คุณชาย หรือว่าท่านยังจะไปหาสตรีมากรักหลายใจอย่างเซี่ยยวี่หลัวอีกหรือขอรับ? ”
ซ่งฉางชิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ถึงแม้ซ่งฝูจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ก็ได้แต่หุบปากไม่กล่าวอะไร
“เจ้าเพียงบอกว่า เซี่ยยวี่หลัวทำให้ชื่อเสียงของข้าเสื่อมเสีย ข้าก็จะไปหมู่บ้านสกุลเซียวด้วยตัวเองเพื่อขอคำชี้แจง” ซ่งฉางชิงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบสงบ