พื้นที่ราบที่กว้างขวางแห่งนี้ เคยเป็นสถานที่ชั้นยอดสำหรับผู้เล่นที่ต้องการจะมาอัพเลเวลโดยตลอด ภายในเขตนี้ มันน่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่แมพที่จะมีมอนสเตอร์เกิดใหม่เร็วที่สุด นี่ถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ผู้เล่นที่พยายามจะอัพเลเวลได้เป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ รอบ ๆ นี้ยังมีหินก้อนใหญ่หรือภูเขาเตี้ย ๆ ให้เห็นประปราย ผู้เล่นสามารถเลือกหินสักก้อนแล้วขึ้นไปนั่งเพื่อพักผ่อนและรับชมทัศนียภาพของเกมได้ด้วยหากพวกเขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการเก็บเลเวล

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันก่อนพื้นที่ราบนี้ก็เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงมอนสเตอร์เองก็หายไปหมดเพราะมีแคมป์ของผู้เล่นถูกก่อตั้งขึ้นที่นี่ ถึงแม้ว่ามันจะเพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน แต่แคมป์นี้ก็จัดว่าใหญ่พอที่จะเรียกว่าเมืองขนาดย่อมได้

มันกินพื้นที่เป็นวงกว้างซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหยิ่งผยองของผู้เป็นเจ้าของแคมป์เป็นอย่างดี

แต่แล้วภาพที่ไม่คุ้นตานี้ก็หายไปโดยเร็ว สองวันให้หลังมอนสเตอร์ปริมาณมหาศาลได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งภายในพื้นที่ราบแห่งนี้ พวกมันทั้งหมดต่างพากันเริ่มโจมตีแคมป์ของผู้เล่นที่ตั้งอยู่ ณ ใจกลางของแม็ปและก่อกวนวิถีชีวิตของผู้คน

นั่นคือคำโปรยของสงครามป้องกันแคมป์ หากกิลด์มิดซัมเมอร์ประสบความสำเร็จในการป้องกันมอนสเตอร์เหล่านี้ บริเวณรอบ ๆ แคมป์ของพวกเขาก็จะไม่มีมอนสเตอร์มาป้วนเปี้ยนอยู่อีก เป็นสัญญาณว่าพื้นที่ราบแห่งนี้กลายเป็นของกิดล์มิดซัมเมอร์โดยสมบูรณ์แล้ว

แต่ถ้ามอนสเตอร์เหล่านี้บุกเข้ามาทำลายแคมป์ภายในได้ ที่แห่งนี้ก็จะไม่มีแคมป์ของกิลด์อยู่อีก และพื้นที่ราบก็จะกลับเป็นปกติอีกครั้ง

ในตอนนี้เหล่าผู้เล่นกำลังสู้กับมอนสเตอร์ที่ถาโถมเข้ามาโจมตีแคมป์จากทั้ง 4 ทิศ เมื่อทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกันหนักหน่วงมากขึ้น ผู้เล่นที่คอยหนุนหลังก็ต้องเริ่มกระจายออกไปทางปีกข้างเพื่อคอยรับมือกับฝูงมอนสเตอร์ที่ไหลเข้ามาทางนั้นด้วย

มีผู้เล่นมากมายที่ต้องกลายเป็นศพและสลายกลายเป็นแสงไป ในขณะเดียวกันก็มีมอนสเตอร์มากมายที่กลายเป็นศพด้วย หากแต่ศพของมันจะไม่ได้หายไปไหนจนกว่าจะถึงเวลาปล่อยมอนสเตอร์เวฟใหม่ออกมา

[มอนสเตอร์เวฟที่ 30 ได้ถูกกิลด์มิดซัมเมอร์กำจัดหมดแล้ว เวฟที่ 31 จะถูกปล่อยออกมาในอีก 10 นาที! กรุณาเตรียมตัวให้พร้อม! ท่านจะชนะก็ต่อเมื่อสามารถป้องกันการโจมตีของมอนสเตอร์ได้ แต่ท่านจะพ่ายแพ้หากมอนสเตอร์สามารถบุกเข้าไปทำลายศูนย์บัญชาการของท่านได้!]

เมื่อได้ยินเสียงประกาศที่ดังก้องไปทั่วนั้น มอนสเตอร์ที่บุกอย่างบ้าระห่ำก็เกิดความเปลี่ยนแปลง มันถอยกลับพร้อมกันราวกับถูกควบคุมไว้ เหลือทิ้งไว้เพียงผู้เล่นที่ยังคอยป้องกันแคมป์ต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีภัยคุกคามอยู่อีก

ตอนนี้ ผู้เล่นทุกคนตระหนักได้ถึงความร้ายกาจของมอนสเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้น! พวกเขาเหลือผู้เล่นไม่ถึง 200,000 คนแล้วในแต่ละทิศ ผู้เล่นทั้งแนวหน้าและแนวหลังต่างผสมปนเปกันไปหมด แถมผู้เล่นบางส่วนก็ยังหมดไฟที่จะสู้ต่อหรือคนที่พอจะมีแรงใจจะสู้ต่อก็ไม่มีอาวุธเพียงพอ

“เร็วเข้า! ตั้งขบวนใหม่อีกครั้ง! แนวหน้ากลับไปด้านหน้า ส่วนแนวหลังก็ถอยกลับมาที่เดิม!”

ที่ด้านนอกนั้นมีผู้เล่นกว่าแสนคนกำลังประจำการอยู่ ในขณะนั้นเองเหล่าผู้เล่นระดับสูงรวมไปถึงประธานกิลด์มิดซัมเมอร์อย่างโรสเองต่างก็พากันขี่ม้าออกไปยังแนวหลังของแต่ละทัพเพื่อเสริมสร้างกำลังใจให้กับผู้เล่นยังทิศทางนั้น ๆ ด้วย

“เหลือมอนสเตอร์อีกแค่ 6 เวฟแล้ว! พวกเราต้องต้านทานมันไว้ให้ได้! ไม่ต้องไปฆ่ามอนสเตอร์พวกนั้นให้หมดก็ได้! สิ่งเดียวที่เราต้องทำให้ได้ก็คือ…ยืนค้ำพวกมันไว้จนกว่าพวกมันจะถอยกลับไป!”

แต่ดูเหมือนว่าการปลุกใจครั้งนี้จะไม่ได้ผล หลังจากการต่อสู้ที่ยิงยาวมาถึง 5 ชั่วโมง เหล่าสมาชิกกิลด์มิดซัมเมอร์แนวหน้านั้นต่างก็เหน็ดเหนื่อยกันไปหมดแล้ว

ความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ที่เข้าโจมตีจะอิงตามลำดับเวฟที่มันโผล่ออกมา อย่าง 10 เวฟแรกนั้นจะยังเป็นมอนสเตอร์ที่สามารถรับมือได้ง่าย ๆ พวกมันทั้งหมดเป็นเพียงมอนสเตอร์เลเวล 10 เท่านั้น มอนสเตอร์ระดับนี้ต่อให้มีมากขนาดไหนก็ไม่คณามือผู้เล่นและกลายเป็นบ่อค่าประสบการณ์ในท้ายที่สุด ซึ่งด้วยความที่มันมีปริมาณมากเช่นนี้ ผู้เล่นบางคนก็เลเวลอัพกันระหว่างสู้เลย แต่โชคร้ายที่พวกมันไม่ได้ดร็อปอะไรทิ้งไว้ ถึงอย่างนั้นผู้เล่นของมิดซัมเมอร์ก็ยังมีแรงใจที่จะสู้ต่ออยู่ดีเพียงเพราะรู้สึกว่ามันง่าย

แต่หลังจากเวฟที่ 10 มาแล้ว แม้มอนสเตอร์จะยังเป็นเลเวล 10 แต่พลังของมันก็แข็งแกร่งขึ้นมาก และด้วยพลังนี้มันก็กดดันผู้เล่นที่ต้องเผชิญหน้ากับมันไว้จนสู้ด้วยยากเลยทีเดียว

ความสนุกที่สามารถสู้ได้อย่างไร้เทียมทานนั้นทำให้พวกเขาไม่รู้สึกเลยว่ามอนสเตอร์เหล่านี้จะสามารถฆ่าเขาได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม จนกระทั่งหลังจากที่ลำดับเวฟนั้นสูงขึ้น ความสนุกก็เริ่มหายไปจนหมด พวกเขาเริ่มกลายเป็นฝ่ายถูกไล่ฆ่ากันเยอะขึ้น โดยเฉพาะหลังจากเวฟที่ 20 ความสิ้นหวังก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาชัดเจน

สมรภูมิตรงหน้านี้ถูกเติมเต็มไปด้วยมอนสเตอร์อยู่ตลอดเวลาจนพวกเขาไม่มีเวลาถอยกลับมาตั้งหลักเลย เหล่านักบวชเองก็ถึงขีดจำกัดและเหน็ดเหนื่อยไม่แพ้กัน พวกเขาไม่สามารถดูแลผู้เล่นหลักแสนคนตรงหน้านี้ได้ในเวลาเดียวกัน เพราะงั้นแล้วผู้เล่นที่ออกไปสู้ ต้องหวังพึ่งโพชั่นของตนเองเท่านั้นเพื่อให้อยู่รอดต่อไป

ยิ่งลำดับเวฟเพิ่มสูงขึ้น ผู้เล่นของกิลด์มิดซัมเมอร์ก็ต้องรับแรงกดดันมากขึ้น มันกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เสียแล้วที่จะดันเหล่ามอนสเตอร์พวกนั้นกลับไป เอาจริง ๆ แค่จะต้านเอาไว้ไม่ให้เข้ามาได้นี่ก็เต็มกลืนแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มมีผู้เล่นที่เลือกจะถอยกลับไปเมื่อมอนสเตอร์มันแข็งแกร่งเกินกว่าพวกเขาจะรับมือ

จำนวนผู้บาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น มาพร้อมกับขบวนทัพที่พังทลาย ด้วยกฎของเกมที่ตั้งไว้ว่า ผู้เล่นจะสูญเสียค่าประสบการณ์และอาวุธอุปกรณ์หากถูกฆ่าโดยมอนสเตอร์ จึงทำให้ตอนนี้มีผู้เล่นหลายคนสูญเสียทั้งอุปกรณ์และเลเวลจนทำให้เขาไม่สามารถสู้ได้เต็มไปหมด

ภายในแคมป์กิลด์มิดซัมเมอร์ไม่มีจุดเทเลพอร์ตก็จริง แต่เพราะโรสยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อตั้งจุดเทเลพอร์ตขึ้นมาสำหรับลูกกิลด์ของเธอที่มีชื่อกิลด์ประดับอยู่บนหัวโดยเฉพาะ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สมาชิกกิลด์ที่ถูกฆ่าและกลับไปเกิดใหม่ที่เมืองเทียนหลง จะได้สามารถใช้จุดเทเลพอร์ตนี้กลับมาร่วมปกป้องแคมป์กันได้อย่างรวดเร็วหลังจากเตรียมพร้อมอีกครั้ง

เมื่อเวลาผ่านไป มอนสเตอร์เองก็ทั้งเลเวลมากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ สวนทางกับเหล่าผู้เล่นที่ยังพร้อมสู้ ที่มีจำนวนน้อยลงไปแทน หากฝั่งผู้เล่นจะมีอะไรสักอย่างที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น เห็นทีคงจะหนีไม่พ้นจำนวนคนเจ็บที่กำลังเพิ่มอย่างไม่หยุด ณ ตอนนี้

ผู้เล่นที่ถูกฆ่าตายสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอาวุธหรือค่าประสบการณ์ และยิ่งพวกเขาต้องตายหลายรอบมากขึ้น เขาก็เริ่มสูญเสียความมั่นใจในการสู้ไปด้วย

ทุก ๆ คนล้วนแต่มีความเห็นแก่ตัวเป็นของตนเอง แม้ว่าการปกป้องแคมป์กิลด์จะถือเป็นความรับผิดชอบของผู้คน แต่การที่พวกเขาต้องไปสู้โดยไร้ซึ่งอุปกรณ์นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับเอาตัวเองเข้าไปลดเลเวลและค่าใช้จ่ายของการตายครั้งหลัง ๆ นี้มันมากเกินไป

ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้จำนวนผู้ที่กลับมาสู้หลังถูกฆ่าตายนั้นมีจำนวนลดน้อยลงกว่าเดิมอีกเรื่อย ๆ จากแต่เดิมที่ควรจะมีผู้เล่นประจำการในแต่ละทิศมากถึง 500,000 นาย ในตอนนี้เหลือเพียง 200,000 นายแล้ว ยังไงเสียสมาชิกกิลด์ตอนนี้ส่วนมากก็ล้วนเป็นผู้มาใหม่อยู่แล้ว ดังนั้นการที่พวกเขาจะไม่ได้รู้สึกหวงแหนหรืออยากจะเสียสละชีวิตเพื่อกิลด์มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่

การลดลงของจำนวนสมาชิกทำให้แนวหน้าที่เหลือได้รับความกดดันหนักขึ้นมาก ๆ และมันทำให้การตั้งรับครั้งนี้ยากขึ้นอีกเป็นไหน ๆ สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือถอยกลับทีละนิด ๆ เพราะถึงพวกเขาจะถอยกลับ พวกเขาก็ยังเป็นฝ่ายชนะอยู่ดีหากสามารถต้านไว้ได้จนถึงเวลากำหนด มากสุดมันก็แค่ 10 นาทีเท่านั้น

เพราะสงครามป้องกันแคมป์ จะมีเวลาให้มอนสเตอร์เข้าจู่โจมเวฟละ 10 นาที หากมันทำไม่สำเร็จ มันจะถูกเรียกตัวกลับไปยังจุดเกิด และหลังจากที่ปล่อยให้ผู้เล่นได้พักสักครู่หนึ่ง มอนสเตอร์เวฟใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมก็จะถูกปล่อยออกมาเพื่อทำลายแคมป์อีกครั้ง!

“ดูเหมือนว่ามิดซัมเมอร์จะรับความเสียหายเพิ่มไปกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ แม้จะเป็นเวฟที่ 31 แล้ว แต่มันยังเหลืออีกตั้ง 6 เวฟเลยนะ”

“ตั้งแต่เวฟที่ 30 ขึ้นมามอนสเตอร์มันก็อัพเลเวลเป็น 24 แล้ว แสดงว่าเวฟต่อจากนี้ก็น่าจะเลเวล 25 เป็นไปได้ว่าในสงครามครั้งนี้ เลเวลสุดท้ายน่าจะมากถึง 30 เลยแน่ ๆ ฉันเชื่อว่าไม่มีกิลด์ไหนในตอนนี้สามารถรับมือกับมอนสเตอร์เลเวล 30 จำนวนมหาศาลได้หรอก”

“ดูท่าพวกประธานกิลด์จะต้องคิดให้รอบคอบกันมากขึ้นแล้วสิก่อนจะตั้งกิลด์อย่างเป็นทางการ อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะให้เลเวลของผู้เล่นสูงกว่ามอนสเตอร์ส่วนใหญ่ เพราะงั้นอย่าเพิ่งรีบร้อน ไว้รอเวลานั้นมาถึงค่อยตั้งแคมป์กิลด์น่าจะโอเคกว่า”

“ฉันไม่คิดแบบนั้นนะ จริง ๆ ฉันว่าเราไม่จำเป็นต้องฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดก็ได้ สิ่งเดียวที่เราต้องทำก็คือป้องกันให้ได้จนครบ 10 นาที พอครบ 10 นาที พวกมอนสเตอร์ก็จะพากันหายไปเอง เรื่องพวกนี้กิลด์ใหญ่ ๆ อย่างไดนาสตี้กับกิลด์กลอรี่น่าจะทำได้ง่าย ๆ ด้วยซ้ำ พวกเขาน่ะมีคนเยอะจะตายไป”

“มิดซัมเมอร์น่ะยังไม่แข็งพอ อีกอย่างพอเวลาผ่านไปนาน ๆ จำนวนคนก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ ด้วย ดูยังไงพวกเขาก็เอาชนะสงครามป้องกันแคมป์ครั้งนี้ไม่ได้แน่ ๆ พวกเราคงไม่ต้องเข้าไปปั่นป่วนอะไรแล้วล่ะ”

“มันก็ยังไม่แน่หรอก พวกเขายังมีพวกสมาชิกหลักที่มีอุปกรณ์ระดับสูงอยู่ในกิลด์ ฉันเชื่อว่าพวกเขาน่ะแข็งแกร่งพอที่จะยันมอนสเตอร์พวกนี้ไว้ได้ 10 นาทีแน่ๆ ”

“ถ้างั้นแสดงว่าเรายังต้องไปทำลายทัพหน้าของมิดซัมเมอร์อยู่สินะ? แล้วค่อยไปโบ้ยว่าเป็นฝีมือพวกมอนสเตอร์ที่ยังหายไปไม่หมดก็ได้ จะได้มั่นใจได้ว่าสงครามป้องกันแคมป์ครั้งนี้จะไม่สำเร็จแน่ๆ ”

“ดูท่าจะมีคนหมายหัวมิดซัมเมอร์ไว้ไม่น้อยเลยเหมือนกันนะเนี่ย เพราะงั้น…มาช่วยกันทลายการป้องกันของมิดซัมเมอร์กันดีกว่า!”

“ฮ่า ๆ! มิดซัมเมอร์น่ะ ไม่ได้ติด 1 ในท็อป 40 กิลด์ของเขตฮัวเซียเสียด้วยซ้ำ! กล้าดียังไงถึงมาซื้อโทเค่นกิลด์ก่อนกิลด์อื่น ฮะ!”

หลาย ๆ คนที่เข้ามารับชมการป้องกันแคมป์ในครั้งนี้ ส่วนมากนั้นมีจุดประสงค์ร้าย ๆ แอบแฝงกันหมด และในตอนนี้พวกเขาเหล่านี้ก็กำลังแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่อย่างลับ ๆ จากนั้นก็หันไปจับจ้องที่แคมป์ของมิดซัมเมอร์ด้วยแววตาที่เยือกเย็นจากบนก้อนหินก้อนใหญ่หรือภูเขาลูกเล็กที่พากันยืนอยู่

ในที่สุด เซียวเฟิงก็เดินทางมาถึงพื้นที่ราบพร้อมกับภาคีพาลาดินเป็นที่เรียบร้อย ด้วยความเร็วของเหล่าภาคี ทำให้พวกเขามาถึงที่นี่ได้ทันเวลา 1 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนที่สงครามป้องกันแคมป์จะจบลง

“เละเทะไปหมดเลยแฮะ”

แคมป์ของมิดซัมเมอร์มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เซียวเฟิงมองไปยังเมืองขนาดย่อมตรงหน้าก่อนจะหันไปพูดกับกัปตันโบลตัน “รอผมอยู่ตรงนี้สักพักนะครับ”

กัปตันโบลตันพยักหน้า แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรออกไป คำพูดนั้นก็ต้องถูกหยุดลงก่อนเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ

[มอนสเตอร์เวฟที่ 31 กำลังจะถูกปล่อยออกมา! กรุณาเตรียมตัวให้พร้อม! ท่านจะชนะก็ต่อเมื่อสามารถป้องกันแคมป์ไว้ได้ แต่ท่านจะแพ้หากมอนสเตอร์สามารถเข้าไปโจมตีศูนย์บัญชาการภายในแคมป์ของท่านได้!]

มอนสเตอร์ปริมาณมหาศาลปรากฏตัวขึ้นมาที่ด้านนอกแคมป์ทันทีหลังเสียงประกาศนั้น และพวกมันเองก็วิ่งเข้าใส่แคมป์อย่างไม่รอช้าด้วย

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ทำไมถึงไม่มีมอนสเตอร์ล่ะ?”

ทว่า มีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อมอนสเตอร์จำนวนมากมายปรากฏตัวและวิ่งเข้าโจมตีอย่างบ้าระห่ำจากทั้ง 3 ทิศ แต่ทิศที่เขายืนอยู่นั้นกลับไม่มีอะไรปรากฏขึ้นมาเลย

“ท่านอาร์คบิชอป…”

ด้วยความประหลาดใจ เซียวเฟิงรีบหันกลับไปตามเสียงของกัปตันโบลตันที่อยู่ด้านหลังในทันที และทันใดนั้นเขาก็ต้องตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ

“เวรเอ้ย!? นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!?”

ชื่อของภาคีพาลาดินทั้งหมด รวมถึงกัปตันโบลตันนั้นกลายเป็นสีแดงไปแล้ว!

เกิดอะไรขึ้น?

ภายในเกมมิธ พลังชีวิตจะมี 3 สี สีแดงจะปรากฏอยู่บนหัวของเหล่ามอนสเตอร์หรืออะไรก็ตามที่เป็นศัตรูกับผู้เล่น สีเหลืองจะเป็นของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะเห็นได้จากสัตว์ตัวเล็ก ๆ เช่น ไก่ และสีเขียวเป็นของพันธมิตร NPC ทั้งหมดภายในเมืองหลักเองก็มีพลังชีวิตเป็นสีเขียวด้วย และกัปตันโบลตันเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

แต่ ณ ตอนนี้ จู่ ๆ พลังชีวิตของกัปตันโบลตันและ NPC ในแม็ปนี้ก็เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงกันไปหมด!

“นายจะทำอะไรน่ะ? กลับมาปกป้องฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

เซียวเฟิงรู้สึกกังวลและตกใจเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

“ท่านอาร์คบิชอป…ภายในเมืองนั้น มีบรรยากาศแห่งความมืดแอบแฝงอยู่เป็นจำนวนมาก…และข้า…ต้องรีบไปกำจัดมันเดี๋ยวนี้”

“ใช่แล้ว…พวกเราก็รู้สึกเหมือนกัน”

โชคยังดีที่แม้หลอดพลังชีวิตของกัปตันโบลตันจะกลายเป็นสีแดงแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีสติมากพอจะอธิบายเหตุผลให้เซียวเฟิงฟังได้

เมื่อพยายามมองหาต้นตอของสิ่งผิดปกติที่เกิดกับเหล่าภาคีพาลาดิน สิ่งเดียวที่พอจะคิดออก นั่นก็คือ…

พวกเขาถูกระบบขอให้ทำเช่นนี้…

การ ‘ขอ’ ของระบบก็ไม่ต่างอะไรกับการยืมมือ อย่างเช่น การที่ระบบขอมอนสเตอร์ในละแวกนี้ ให้เข้าร่วมกับการโจมตีแคมป์กิลด์ผู้เล่นดังที่เห็น

สิ่งนี้คือวัฒนธรรมของเกมออนไลน์เลยก็ได้ เพราะเกมออนไลน์ที่เกิดมาก่อนหน้านี้ ยังเคยมีเหตุการณ์ที่ระบบขอบอสมังกรที่มีเลเวลสูงสุดภายในเกมให้เข้าร่วมกับการโจมตีแคมป์กิลด์ขนาดใหญ่จนนำพามาซึ่งความพ่ายแพ้แก่ผู้เล่นอย่างยับเยินมาแล้ว…

แต่เซียวเฟิงไม่คาดคิดจริง ๆ ว่ากัปตันโบลตันที่อยู่ฝั่งผู้เล่นมาตลอดเองก็จะถูกระบบขอเช่นนี้ด้วย…!