เซียวยวี่พูดคุยกับเซียวจิ้งยี่เกือบสิบประโยคแล้ว เซี่ยยวี่หลัวเพิ่งเข้าศาลบรรพชนมาอย่างเชื่องช้า
ภายในศาลบรรพชนมีคนจำนวนไม่น้อย ล้วนแต่เป็นผู้สูงวัยที่ทุกคนเคารพและชาวบ้านหมู่บ้านสกุลเซียวจำนวนหนึ่ง มองผ่านๆ เกรงว่าจะมีอยู่ยี่สิบกว่าคน พอเห็นเซี่ยยวี่หลัวเข้ามา ต่างทอดสายตามองไปทางเซี่ยยวี่หลัว
บ้างก็มองด้วยสายตาเหยียดหยาม บ้างก็มองด้วยสายตาดูแคลน ยังมีบางคน ที่แววตาแฝงเร้นด้วยความเสียดาย แววตาของคนเหล่านั้น ล้วนกำลังบ่งบอกว่าเซี่ยยวี่หลัวกำลังจะเผชิญกับโชคร้ายแล้ว
เซียวหมิงจูและท่านป้าสี่ล้วนอยู่ เมื่อเห็นเซียวยวี่มา เซียวหมิงจูก็ตื่นเต้นอยากเข้าไปพูดคุยกับเขา ใครจะรู้ว่าโดนท่านป้าสี่กดไว้ นอกจากนั้น เซียวยวี่ก็กำลังพูดคุยกับหัวหน้าหมู่บ้าน เซียวหมิงจูจึงไม่กล้าวู่วาม
“มาแล้วงั้นหรือ? ” เมื่อเห็นเซี่ยยวี่หลัวมาแล้ว เซียวจิ้งยี่มองเซี่ยยวี่หลัว ได้แต่ถอนหายใจยาว
อย่าให้กล่าวเลยว่าภายในใจรู้สึกแย่เพียงใด
บัดนี้เขามองเซี่ยยวี่หลัว มองตรงไหนก็รู้สึกแย่ เมื่อก่อนรู้สึกว่าหญิงสาวผู้นี้เปลี่ยนเป็นคนดีแล้ว ใครจะรู้ ว่านั่นเป็นเพียงการหลอกลวง!
สุนัขบางตัว ต่อให้ห่มหนังมนุษย์ ก็ยังคงเป็นสุนัข แก้นิสัยกินอุจจาระไม่ได้ นี่เป็นหลักสัจธรรมที่มีมาแต่โบราณ
เซี่ยยวี่หลัวย่อตัวคำนับ “หัวหน้าหมู่บ้าน”
น้ำเสียงของนางเรียบสงบ ไม่มีความวิตกกังวลเพราะกำลังจะเกิดเรื่องใหญ่แม้แต่น้อย
ใครก็ตามได้เห็นสภาพการณ์เช่นนี้ ต่างก็ต้องตกใจกลัวจนขาสั่นไม่ใช่หรือ?
คนผู้นี้ถ้าไม่ใช่เก็บซ่อนได้ดีจนดูไม่ออก ก็คงทำเรื่องพรรค์นั้นจนเคยชิน ไม่รู้สึกละอายแม้แต่น้อย
แววตาลุ่มลึกของเซียวจิ้งยี่ละสายตาจากเซี่ยยวี่หลัวหันมองมาทางเซียวยวี่ กล่าวด้วยความใจเย็น “อายวี่ เจ้าเป็นความภาคภูมิใจของหมู่บ้านเราเสมอมา! ”
“หัวหน้าหมู่บ้าน…” เซียวยวี่รู้สึกสงสัยยิ่ง ไม่เข้าใจความหมายของเซียวจิ้งยี่
เซียวจิ้งยี่ตบบ่าของเซียวยวี่ ทอดถอนใจพลางกล่าว “มนุษย์เรา ในชีวิตต้องพบเจอคนเลวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ขอเพียงอยู่ห่างจากคนเลว ข้าเชื่อว่า เรื่องไม่ดีก็จะผ่านไปทั้งหมด! เจ้ายังอายุน้อย ชีวิตนี้ยังอีกยาวไกล ต่อไปเจ้าต้องได้พบกับหญิงสาวดีๆ ที่จริงใจต่อเจ้าแน่นอน! ”
เซี่ยยวี่หลัวไหวคิ้วทีหนึ่ง หัวหน้าหมู่บ้านท่านเคยเรียนดูดวงมาด้วยหรือ? ช่างดูได้แม่นยำเสียจริง!
เซียวยวี่ขมวดคิ้วเป็นปม “หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านกล่าวเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไรขอรับ? ”
เวลานี้เอง สองสามีภรรยาเซียวจินและเถียนเอ๋อเดินออกมาจากกลุ่มชาวบ้าน เซียวจิ้งยี่ทอดถอนใจ “อายวี่ เจ้านั่งลงก่อน”
ข้าเกรงว่าอีกเดี๋ยวเจ้าจะยืนไม่ไหว
เซียวยวี่รู้สึกราวกับกำลังเผชิญกับศัตรูร้าย!
พอเซี่ยยวี่หลัวเห็นเถียนเอ๋อ จึงไหวคิ้วงามเบาๆ ดูท่าคงเป็นเรื่องที่ท่านป้าเทียนเอ๋อผู้นี้ยุแยงอีกแล้ว!
เซียวจิ้งยี่เชื่อคำพูดของเซียวจินและเถียนเอ๋อ วันนี้จึงให้คนทั้งหมู่บ้านมา ถึงแม้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเสื่อมเสียศีลธรรม ต้องจัดการเงียบๆ แต่เรื่องนี้มีผลต่อหน้าตาของหมู่บ้านสกุลเซียว เกี่ยวข้องกับเซียวยวี่ เขาจะไม่ปล่อยให้เซี่ยยวี่หลัวทำอะไรตามอำเภอใจอีก
เซียวยวี่เป็นความหวังของหมู่บ้านสกุลเซียว เซียวจิ้งยี่ชื่นชมคนเรียนหนังสือ และสงสารครอบครัวตระกูลเซียวที่เผชิญกับเคราะห์ครั้งใหญ่ อย่างไรก็ไม่มีทางนิ่งดูดาย!
“พวกเจ้าสองคนพูดมา เกิดอะไรขึ้นกันแน่! ” เซียวจิ้งยี่กล่าว
เซียวจินมองเซียวยวี่แวบหนึ่ง กล่าวเตือนด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม “เซียวยวี่ เจ้าต้องนั่งดีๆ ล่ะ”
มือทั้งสองข้างของเซียวยวี่จับที่เท้าแขนของเก้าอี้เท้าแขนโค้งไว้แน่น ขมวดคิ้วมุ่น
“หัวหน้าหมู่บ้าน ทุกท่าน บัดนี้หมู่บ้านสกุลเซียวของเราเกิดเรื่องใหญ่โตเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องใหญ่ที่ตั้งแต่หมู่บ้านสกุลเซียวก่อตั้งมาก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” เซียวจินกระแอมทีหนึ่ง ก่อนเริ่มกล่าว “ภายใต้การควบคุมดูแลของหัวหน้าหมู่บ้าน หมู่บ้านสกุลเซียวของเรานับเป็นหมู่บ้านที่ดีอันดับต้นๆ ในบรรดาหมู่บ้านละแวกใกล้เคียง เรื่องผิดศีลธรรมอะไรก็ไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่บ้านของเรามาก่อน เรื่องอย่างการคบชู้สู่ชาย ก็ไม่เคยเกิดมาก่อนเช่นกัน สตรีที่จะออกเรือน ล้วนแต่พิจารณาหมู่บ้านสกุลเซียวของเราก่อน บุตรสาวจากหมู่บ้านสกุลเซียวของเรา แต่งไปที่ไหนก็มีแต่คนแย่งกัน ทุกคนว่าจริงหรือไม่? ”
ผู้คนในศาลบรรพชนต่างพยักหน้าอย่างเห็นพ้อง
เซียวจินเห็นว่ามีคนเห็นพ้องกับเขาจำนวนไม่น้อย จึงกล่าวต่อ “แต่วันนี้เรื่องที่ข้าจะบอกคือ ชื่อเสียงอันดีงามของหมู่บ้านสกุลเซียว กำลังจะถูกคนทำลายแล้ว นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับหมู่บ้านของเรา เกี่ยวข้องกับพวกเราทุกคน หากไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดี ต่อไปใครยังจะกล้าแต่งกับหญิงสาวจากหมู่บ้านของเราอีก? ”
“เซียวจิน นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ” มีชาวบ้านบางคนไม่เข้าใจ จึงเอ่ยถาม “ทำไมวาจาของเจ้า ข้าฟังแล้วจับต้นชนปลายไม่ถูก! ”
เขายังกล่าวไม่จบ ก็ถูกหญิงชาวบ้านที่อยู่ข้างๆ ปิดปากไว้ “เจ้าจะโวยวายอะไร ฟังเซียวจินพูดให้จบสิ! ”
บุรุษส่วนใหญ่ล้วนจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หญิงชาวบ้านเหล่านั้นรู้ วาจาที่เถียนเอ๋อกล่าวกับพวกนางก่อนหน้านี้ พวกนางยังจดจำได้อย่างแม่นยำ
หญิงชาวบ้านจำนวนไม่น้อยต่างหันมองไปทางเซี่ยยวี่หลัวราวกับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า แววตาเต็มไปด้วยความดูแคลนและเย้ยหยัน
เซียวยวี่ก็สัมผัสได้ถึงแววตาไม่ประสงค์ดีจากรอบข้าง จึงหันมองเซี่ยยวี่หลัว
เซี่ยยวี่หลัวกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสบายอารมณ์ ราวกับเป็นต้นสนโบราณที่อยู่บนหน้าผา แฝงเร้นด้วยความหยิ่งทะนง
“ทุกท่าน ในหมู่บ้านของเรามีหญิงครองเรือนคบชู้สู่ชายแล้ว! ” เซียวจินโยนระเบิดลูกใหญ่ออกมา จนคนทั้งหมู่บ้านผงะไป
“ใครกัน ใครกัน ใครที่ไร้ยางอายเช่นนี้! ”
“ไร้ยางอายเกินไปแล้ว บุรุษคนไหนกันที่แต่งภรรยาทำตัวผิดศีลธรรมเช่นนี้ ช่างโชคร้ายเสียจริง”
“หากเป็นภรรยาของข้า ข้าจะตีนางให้ตายเสีย กล้าสวมเขาให้ข้า ข้าจะตีนางจนหัวแตก! ”
เหล่าบุรุษกล่าวกันคนละประโยคสองประโยค ส่วนหญิงชาวบ้านเหล่านั้นราวกับปรึกษากันไว้แต่แรกอย่างไรอย่างนั้น ต่างพากันหันมองไปทางเซี่ยยวี่หลัว เมื่อสังเกตเห็นสายตาของพวกนาง บุรุษเหล่านั้นที่ส่งเสียงโวยวายต่างก็ทยอยกันปิดปากเงียบ หันมองไปเช่นเดียวกัน
เห็นเซี่ยยวี่หลัวที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี
เซียวจินชี้เซี่ยยวี่หลัวในเวลาประจวบเหมาะ “นางนั่นแหละ สตรีไร้ยางอายคนนี้กำลังจะทำลายชื่อเสียงหมู่บ้านสกุลเซียวของเรา! ”
เซียวยวี่เหมือนได้ยินเสียงดังตึงในหัว ราวกับมีอะไรบางอย่างระเบิดในหัวของเขา เขาหันมองเซี่ยยวี่หลัว ลุกพรวดขึ้น ไพล่มือขวาไว้ด้านหลัง ชี้นิ้วไปทางเซียวจินพร้อมตะคอกด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เซียวจิน อย่าได้พูดจาเหลวไหล! ”
เซี่ยยวี่หลัวได้ยินคนอื่นบอกว่าตนเองคบชู้สู่ชาย นางไม่รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่เซียวยวี่ช่วยพูดแทนนาง เรื่องนี้ช่างน่าแปลกประหลาดนัก!
เซียวยวี่ในยามนี้ ควรจะพุ่งพรวดเข้ามา ตบนางสักสองฉาดเพื่อระบายโทสะก่อนไม่ใช่หรือ?
เซี่ยยวี่หลัวหันมองเซียวยวี่ด้วยความสงสัย เขาสีหน้าแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าโมโหไม่น้อย
ช่างประหลาดนัก ระหว่างพวกเขาไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อกัน เขาจะโมโหทำไม!
เพียงชั่วพริบตาเดียว เซี่ยยวี่หลัวก็เข้าใจทันที ภรรยาคบชู้สู่ชาย หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับผู้ใดก็ตาม หรือต่อให้นางกับเซียวยวี่มีความขัดแย้งไม่อาจอยู่ร่วมกัน เซียวยวี่ก็ไม่มีทางสงบใจได้
อย่างไรเสียตอนนี้นางยังได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาอยู่!