เล่มที่ 7 บทที่ 207 ข้าเชื่อภรรยาของข้า

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซียวจินหัวเราะร่า “น้องเซียวยวี่ เจ้าอย่าได้โมโห หากข้าไม่มีหลักฐาน มีหรือจะกล้าพูดจาส่งเดช? ต่อให้ข้าพูดจาส่งเดช เจ้าไม่เชื่อหัวหน้าหมู่บ้านหรือ? หากหัวหน้าหมู่บ้านไม่เชื่อ วันนี้เขาจะเรียกทุกคนมาอย่างนั้นหรือ? เจ้าไม่เชื่อข้า ก็ควรเชื่อหัวหน้าหมู่บ้าน! ”

สมองของเซียวจินฉลาดขึ้นแล้ว กล่าววาจาออกมาได้เป็นชุด เดิมทีทุกคนยังมีข้อกังขาอยู่บ้าง พอเขากล่าววาจาเหล่านี้ ข้อกังขาเหล่านั้นพลันหายไปในชั่วพริบตา

เซียวจินอาจทำอะไรซี้ซั้ว แต่หัวหน้าหมู่บ้านไม่มีทางทำเช่นนั้น!

ตรงกันข้าม เรื่องที่หัวหน้าหมู่บ้านทำย่อมผ่านการไตร่ตรองมาอย่างละเอียดแล้ว เรื่องนี้ต้องไม่ผิดแน่

ทุกคนหันมองเซียวยวี่ด้วยความสงสาร ราวกับว่าเขาคู่นั้นถูกสวมอยู่บนศีรษะเซียวยวี่แล้วอย่างไรอย่างนั้น

“ถุย ทำไมหมู่บ้านของเราถึงได้มีคนไร้ยางอายเช่นนี้! ” เถียนเอ๋อถ่มน้ำลายไปทางเซี่ยยวี่หลัว

เซี่ยยวี่หลัวเบี่ยงหลบออกด้านข้างเล็กน้อยอย่างรวดเร็ว น้ำลายนั่นจึงพุ่งไปด้านหลัง ตกกระทบบนคางของบุรุษที่ยืนอยู่ด้านหลังเซี่ยยวี่หลัว เขาลูบคางทีหนึ่ง ก่อนกล่าวอย่างสะอิดสะเอียน “นี่ภรรยาเซียวจิน เจ้าจะพูดก็พูดสิ จะถ่มน้ำลายทำไม กระเด็นเต็มหน้าข้าแล้ว! ”

ทั้งยังจงใจใช้มือลูบใบหน้า ก่อนสะบัดทิ้ง

ทุกคนพากันหัวเราะจนดังครืน เถียนเอ๋ออับอายอย่างหนักจึงด่าอีกหนึ่งประโยค “ถุย ใครใช้ให้เจ้ายืนตรงนั้นเอง สมน้ำหน้า”

กลุ่มคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามเถียนเอ๋อเกรงว่าอีกเดี๋ยวจะโดน ‘ล้างหน้า’ จึงรีบขยับออกข้างอย่างว่าง่าย มิเช่นนั้นอีกเดี๋ยวอาจโดนลูกหลงได้

เซี่ยยวี่หลัวยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ เม้มริมฝีปากยิ้มทีหนึ่ง “เมื่อครู่นี้ท่านป้าเทียนเอ๋อกำลังว่าข้าเช่นนั้นหรือ? ”

“ไม่ว่าเจ้ายังจะว่าใครได้อีก? ตัวเจ้าเองทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงอะไร เจ้าจะไม่รู้เชียวหรือ? เจ้าเป็นสตรีผู้หนึ่ง บิดามารดาเจ้าไม่เคยสั่งสอนหรือ ว่าต้องใฝ่ดีรักษาความบริสุทธิ์ ยึดหลักปฏิบัติทั้งสามคุณธรรมทั้งสี่* และรักนวลสงวนตัว? เจ้าคิดดูว่าเจ้าทำเรื่องขัดต่อศีลธรรมเช่นนี้ เจ้าผิดต่อเซียวยวี่หรือไม่? ” เถียนเอ๋อกล่าวหาเซี่ยยวี่หลัวว่ามีความผิดถึงสามกระทง

เซี่ยยวี่หลัวกะพริบตาปริบๆ หันมองเซียวยวี่ที่อยู่ข้างๆ

เห็นเพียงเซียวยวี่ทำสีหน้าถมึงทึง ขมวดคิ้วมุ่น เหมือนว่าจะโมโหไม่น้อย

เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดจะโต้เถียงกับเถียนเอ๋อ คนอื่นจะว่านางอย่างไร นางไม่สนใจ ยิ่งไปกว่านั้น คนอื่นว่านาง เนื้อนางก็ไม่หายไปสักก้อน เส้นผมไม่หายไปสักเส้น

ในจำนวนผู้คนหลายสิบคน สำหรับนาง มีเพียงวาจาของเซียวยวี่ที่มีน้ำหนักบ้าง

น้ำหนักไม่มาก เบาหวิวยิ่งนัก

“เจ้าคิดเห็นเช่นไร? ” เซี่ยยวี่หลัวเงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่โตมองไปทางเซียวยวี่ เอ่ยถามเขา

เซียวยวี่เงยหน้าขึ้น มองไปทางเซี่ยยวี่หลัว

เซี่ยยวี่หลัวกำลังมองเขาพอดี ริมฝีปากสีแดงชุ่มฉ่ำ ไม่แต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉม เม้มปากเบาๆ เผยรอยยิ้มเบาบาง แววตาของนางสงบดั่งผิวน้ำทะเลสาบที่นิ่งสงบ ไม่มีคลื่นน้ำกระเพื่อมแม้แต่น้อย

นางเพียงมองเขาอย่างเรียบสงบ กำลังรอคอยคำตอบของเซียวยวี่

ในเสี้ยววินาทีนั้น เพลิงโทสะของเซียวยวี่พลันสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

นั่นเป็นครั้งแรกที่เซียวยวี่จ้องมองดวงตาของเซี่ยยวี่หลัวอย่างตั้งใจ

ดวงตาของนางทั้งโตและสว่างสดใส บริสุทธิ์ลุ่มลึก สีสันสะดุดตา ราวกับเป็นดวงดาราที่สุกสกาวที่สุดบนท้องฟ้ายามราตรี สาดส่องจนจุดที่มืดบอดที่สุดภายในใจเซียวยวี่สว่างเจิดจ้า

เขาไม่เคยรู้มาก่อน ว่าดวงตาของเซี่ยยวี่หลัว จะสว่างพร่างพรายประหนึ่งหมู่มวลดาราบนท้องนภา

เซียวยวี่ไม่ได้กล่าวอะไร เพียงมองเซี่ยยวี่หลัวด้วยอาการเหม่อลอย

เซี่ยยวี่หลัวไม่รู้ว่าเซียวยวี่โมโหจนเสียสติแล้วหรือโมโหจนหมดสติไปแล้ว นางเอ่ยถามอีกครั้งอย่างใจเย็น “เซียวยวี่ เจ้าเชื่อข้าหรือไม่? ”

นางเอ่ยถามอย่างเรียบสงบ ไม่มีเจตนาว่าอยากได้คำตอบจากเซียวยวี่เลยแม้แต่น้อย

บัดนี้หนังสือหย่าอยู่ในมือนาง หากเซียวยวี่ไม่เชื่อนาง เซียวจินและเถียนเอ๋อทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของนาง เช่นนั้นนางสามารถนำหนังสือหย่าฉบับนั้นออกมา ไม่ข้องเกี่ยวกับครอบครัวตระกูลเซียวอีก นางจะไปให้ไกล หาสถานที่อันงดงามเพื่อใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุข

ก่อนนางจะไป น้องชายและน้องสาวของเซียวยวี่ยังสบายดี นางยังดูแลพวกเขาอย่างดี เซียวยวี่ย่อมไม่โกรธแค้นนางอีก อย่างมากก็โมโหที่นางสวมเขาให้เขาเท่านั้น…

ก็ยังไม่ถูกอยู่ดี นางไม่ได้สวมเขาให้เซียวยวี่ พวกเขาแยกทางกันแล้ว ต่อให้ตอนนี้นางมีสัมพันธ์ไม่ชัดเจนกับบุรุษอื่น ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับเซียวยวี่อีก

เซียวยวี่มองเซี่ยยวี่หลัวด้วยอาการนิ่งอึ้ง สีหน้าแปลกพิลึก

เถียนเอ๋อกล่าว “เซียวยวี่ เจ้าอย่าโดนนางหลอกเอา สตรีผู้นี้ รูปลักษณ์งดงาม แต่มากรักหลายใจ สามีของข้าเห็นกับตา ช่วงที่เจ้าไม่อยู่บ้าน มีบุรุษผู้หนึ่งเข้าบ้านของนาง ผ่านไปนานสองนานยังไม่ออกมา! ใครจะรู้ว่าพวกเขาอยู่ข้างในทำเรื่องไม่ดีงามอะไรบ้าง! ”

เซียวจินก็กล่าวเสียงดัง “ใช่แล้ว เซียวยวี่ เจ้าเป็นบัณฑิต ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและความบริสุทธิ์มากที่สุด เซี่ยยวี่หลัวผู้นี้สวมเขาให้เจ้า เจ้ายังจะทนได้อีกหรือ? หากเป็นข้า ข้าคงขับไล่ไสส่งนางออกไปทันที! สตรีเช่นนี้ เห็นแล้วน่าสะอิดสะเอียน”

เดิมทีเซียวซานเห็นว่ามีเรื่องสนุก จึงวิ่งตามคนอื่นมาดูด้วย พอเห็นทุกคนว่าร้ายเซี่ยยวี่หลัวเช่นนี้ เขาก็โมโหจนใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำ

คนมากมายรังแกพี่สะใภ้ใหญ่ของจื่อเซวียน เซียวซานทนไม่ไหว แอบออกจากศาลบรรพชน วิ่งไปทางบ้านของเซียวยวี่

เซียวหมิงจูยืนอยู่ในกลุ่มคน พอได้ยินทุกคนด่าทอเซี่ยยวี่หลัว ก็รู้สึกทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจจนใบหน้าขึ้นสีแดง

สวรรค์ไม่เคยตัดหนทางผู้ใดจริงๆ ขอเพียงเรื่องที่เซี่ยยวี่หลัวคบชายชู้ได้รับการยืนยัน พี่อายวี่ต้องหย่าขาดกับเซี่ยยวี่หลัวเป็นแน่ ขอเพียงเซี่ยยวี่หลัวไสหัวไปเสีย เช่นนั้นต่อไปนางต้องได้เป็นภรรยาของพี่อายวี่แน่!

เซียวหมิงจูยิ่งคิดยิ่งตื่นเต้น จ้องมองเซียวยวี่ด้วยแววตาเป็นประกาย เมื่อเห็นเซียวยวี่กำลังสับสน เซียวหมิงจูดิ้นรนจนหลุดจากมือของท่านป้าสี่ พุ่งพรวดไปถึงตรงหน้าเซียวยวี่ กล่าวด้วยความรู้สึกลึกซึ้งอย่างเต็มเปี่ยม “พี่อายวี่ ท่านเป็นคนดีถึงเพียงนี้ ท่านคู่ควรกับสิ่งที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้ ท่านไม่จำเป็นต้อง…”

“ข้าไม่เชื่อ เซี่ยยวี่หลัวไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดต่อข้า! ” เซียวยวี่ไม่รอให้เซียวหมิงจูกล่าวจบ หันมองเซียวจิ้งยี่ น้ำเสียงทุ้มต่ำทรงพลัง แฝงเร้นด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่

เซี่ยยวี่หลัวผงะไป หันมองเซียวยวี่

เซียวยวี่ไม่ได้มองนาง เพียงยืนอยู่เบื้องหน้า เหลือไว้เพียงแผ่นหลังที่ซูบผอมแต่เหยียดตรงให้นาง

ก่อนหน้านี้เซี่ยยวี่หลัวไม่คาดหวังว่าเซียวยวี่จะกล่าวอะไรแม้แต่น้อย บัดนี้เมื่อเซียวยวี่เอื้อนเอ่ยวาจา กลับทำให้นางรู้สึกคาดไม่ถึง

เมื่อครู่ เซียวยวี่บอกว่า เขาเชื่อนาง?

เช่นเดียวกับเซี่ยยวี่หลัว คนที่ตกอยู่ในภวังค์นิ่งอึ้งยังรวมถึงชาวบ้านทั้งหมดที่อยู่ในที่นี้ด้วย ทุกคนต่างหันมองกันไป มองกันมา ถูกวาจาเหล่านี้ของเซียวยวี่สะกดจนนิ่งไป

คำพูดประโยคหลังของเซียวหมิงจูติดอยู่ในลำคอ จ้องมองเซียวยวี่ด้วยอาการนิ่งอึ้ง

“ข้าเชื่อเซี่ยยวี่หลัว นางไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดต่อข้า! ” เซียวยวี่กล่าวย้ำอีกครั้ง

ศาลบรรพชนที่เงียบสงบ เงียบกริบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มตกกระทบพื้นได้

“พี่อายวี่ ท่านเชื่อนางหรือ…” เซียวหมิงจูเบิกตากว้าง มองเซียวยวี่อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

เถียนเอ๋อและเซียวจินหันสบตากัน จากนั้นจึงหัวเราะลั่น “เซียวยวี่ หรือเจ้าจะอ่านตำราจนกลายเป็นคนโง่เขลา เซี่ยยวี่หลัวสวมเขาให้เจ้า เจ้ายังจะนึกเสียดายนาง”

“เจ้ามีหลักฐานหรือไม่? ตามกฎหมายแห่งต้าเยว่ ผู้ทำลายชื่อเสียงของผู้อื่นให้หม่นหมอง ต้องถูกขับออกจากสกุล! เจ้ามีหลักฐานหรือไม่ หากเจ้าไม่มีหลักฐาน ปรักปรำภรรยาของข้าจนชื่อเสียงได้รับความเสื่อมเสีย เจ้าต้องถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านสกุลเซียว เจ้าจะยอมรับหรือไม่? ” เซียวยวี่กล่าวอย่างฉะฉาน ไม่ปล่อยให้เหลือทางรอดแม้แต่น้อย

ก่อนหน้านี้เขาเรียกเซี่ยยวี่หลัวด้วยชื่อเต็ม แต่ตอนนี้ยามเอ่ยถึงเซี่ยยวี่หลัว กลับเรียกภรรยา

พอจะพิสูจน์ได้ว่า เซียวยวี่ยอมรับในตัวเซี่ยยวี่หลัว

ทั้งยังเห็นนางเป็นภรรยาของตนเอง

——————————

เชิงอรรถ

*หลักปฏิบัติทั้งสามคุณธรรมทั้งสี่ คือสิ่งที่สตรีในยุคโบราณต้องยึดถือปฏิบัติตาม โดยหลักปฏิบัติทั้งสามได้แก่ ก่อนออกเรือนเชื่อฟังบิดา หลังออกเรือนเชื่อฟังสามี สามีตายเชื่อฟังบุตรชาย ส่วนคุณธรรมทั้งสี่ได้แก่ มีคุณธรรม วาจาไพเราะ รูปโฉมงดงาม เป็นงานบ้านงานเรือน