เล่มที่ 7 บทที่ 208 ข้าจะขอหย่าเอง

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซี่ยยวี่หลัวมองเซียวยวี่ด้วยความตกตะลึง

ก่อนหน้านี้เขาเรียกนางว่าเซี่ยยวี่หลัว แค่ตอนบอกว่าเขาเชื่อนาง นางก็ตกตะลึงแล้ว

บัดนี้พอได้ยินเขาบอกว่าเชื่อภรรยาของเขา นี่เขายอมรับในฐานะของนางอย่างนั้นหรือ?

ยอมรับว่านางเป็นภรรยาของเขาต่อหน้าผู้คนมากมายถึงเพียงนี้?

เซียวหมิงจูผงะไป

ภรรยา ภรรยา ในใจของเขา เห็นเซี่ยยวี่หลัวเป็นภรรยาของเขามาโดยตลอด

“เซียวยวี่ เจ้า…” เซียวจินตะคอกเสียงดังด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? หา? ข้าบอกเจ้าด้วยความหวังดีว่าเซี่ยยวี่หลัวคบชายชู้ ทั้งยังสวมเขาให้เจ้า เจ้ายังจะไล่ข้าออกจากหมู่บ้านสกุลเซียว? หรือเจ้าจะโมโหจนเสียสติไปแล้ว? ”

เซียวจินชี้นิ้วไปทางเซี่ยยวี่หลัว กล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

เซียวยวี่เหยียดหลังตรงประหนึ่งด้ามพู่กัน ยืนอยู่ตรงหน้าเซี่ยยวี่หลัว ใช้ร่างกายอันซูบผอมของเขาขวางกั้นถ้อยคำด่าทอของเซียวจินแทนเซี่ยยวี่หลัว

ภายในใจเซี่ยยวี่หลัวรู้สึกสั่นสะท้านยิ่ง!

เขากำลังปกป้องนาง!

เซียวยวี่ปกป้องนางหรือนี่!

เซียวยวี่ไม่สนใจเซียวจิน แต่หันมามองเซียวจิ้งยี่ “หัวหน้าหมู่บ้าน ข้าไม่เชื่อว่าภรรยาของข้าจะทำเรื่องเช่นนั้น! ”

เซียวจิ้งยี่ทอดถอนใจ กล่าวพลางถอนหายใจ “ข้าก็ไม่เชื่อ แต่ว่า…”

เซียวจินหัวเราะอย่างเย็นเยียบ “เซียวยวี่ ประเดี๋ยวเจ้าเบิกตาให้กว้าง ดูให้ชัดเจนว่าคนที่มาคือใคร! เจ้าเชื่อเซี่ยยวี่หลัว? ช่างน่าขันนัก สตรีมากรักหลายใจเช่นนี้ เจ้ายังเห็นเป็นของล้ำค่า เซียวยวี่ เสียทีที่เจ้าอ่านตำราของปราชญ์มานานปี สิ่งที่เรียนมาคงอยู่ในท้องสุนัขหมดแล้ว”

เซียวยวี่ขมวดคิ้ว เผชิญหน้ากับคำด่าทอของเซียวจิน สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

ส่วนเซี่ยยวี่หลัวก็ตั้งสติจากความรู้สึกตกตะลึงเมื่อครู่ได้แล้ว นางถูกเซียวยวี่ทำเสียสับสนมึนงง

เซียวยวี่ช่วยนาง นางก็จะไม่ยอมให้คนอื่นด่าทอหยามเหยียดเซียวยวี่

“เมื่อครู่เจ้าบอกว่าข้าพาชายชู้เข้าบ้าน? ข้าอยากถามนัก ว่าเจ้าเห็นข้าพาใครไปที่บ้านข้ากัน? ”

เดิมทีเซี่ยยวี่หลัวจะรอให้เซียวยวี่ไม่เชื่อนาง แล้วจึงนำหนังสือแยกทางออกมา เพื่อยืนยันว่าระหว่างพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน ต่อให้นางคบชายชู้จริง ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเซียวยวี่

ตอนนี้นางไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นแล้ว

เซียวยวี่เชื่อนาง นางก็จะไม่ยอมให้คนอื่นดูหมิ่นเซียวยวี่เป็นอันขาด

เซียวจินหัวเราะอย่างเย็นเยียบ “ไกลเกินไป ข้าเห็นไม่ชัด” ต่อให้เขาเห็นชัด ก็ไม่มีทางพูดออกมา

เขาเห็นกับตาว่าซ่งฉางชิงเข้าบ้านนาง แต่หากพูดออกมา ถึงเวลาหากซ่งฉางชิงกล่าวโทษ เช่นนั้นความสัมพันธ์กับซ่งฉางชิงที่เขาสร้างขึ้นอย่างยากลำบากคงถูกตัดขาด

เซี่ยยวี่หลัวหัวเราะอย่างเย็นเยียบเช่นกัน “อย่างนั้นหรือ? เห็นไม่ชัด? โบราณกล่าวไว้ จะจับคนคบชู้ต้องจับได้ทั้งสองฝ่าย เจ้าจับเขาไม่ได้ แล้วเอาอะไรมายืนยันว่าคนผู้นั้นเป็นชายชู้ของข้า? อาศัยสิ่งที่ตาเจ้าเห็น? เช่นนั้นก็ช่างประหลาดนัก ในหมู่บ้านของเรามีบุรุษมากมายขนาดนี้ พวกท่านไม่เคยเข้าบ้านคนอื่นเลยงั้นหรือ? หากคิดตามสิ่งที่เซียวจินกล่าวมา เช่นนั้นภรรยาของพวกท่านล้วนเคยล่อลวงชายชู้กลับบ้านใช่หรือไม่? ”

หากกล่าวถึงฝีปากกล้า ใครเล่าจะเทียบกับเซี่ยยวี่หลัวที่เคยอาศัยความสามารถของตนเพียงผู้เดียว โต้แย้งจนคู่โต้วาทีห้าคนกล่าวอะไรไม่ออกในงานโต้วาทีได้?

คิดจะพูดจาอ้อมค้อมกับนาง นางสามารถพาอ้อมจนวิงเวียนศีรษะได้เลย

และแล้ว นางเพิ่งกล่าวจบไม่นาน ภายในศาลบรรพชนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเริ่มมีคนก่นด่าเซียวจิน “เจ้าพูดบ้าอะไรของเจ้า บ้านเจ้าไม่เคยมีบุรุษเข้าไปหรืออย่างไร? ภรรยาของเจ้าก็ล่อลวงชายชู้ใช่หรือไม่? ”

เถียนเอ๋อใบหน้าแดงก่ำ “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร ข้าไม่มีทางทำเรื่องพรรค์นี้”

มีคนเริ่มหัวเราะ “เกรงว่าไม่ใช่ไม่มีทางทำ แต่ล่อลวงไม่ได้มากกว่ากระมัง? ฮ่าฮ่า”

คนในศาลบรรพชนต่างพากันหัวเราะ

อย่างไรเสีย ด้วยอายุและรูปลักษณ์หน้าตาของเถียนเอ๋อ เข้าหาคนอย่างเซียวเฉิงซานนั้นยังเป็นไปได้ ย่อมไม่มีทางเข้าตาคนอื่นๆ

“คาดว่าเซียวเฉิงซานคงยินดีถูกนางล่อลวง” มีคนปิดปากหัวเราะร่า

ภายในศาลบรรพชนเริ่มวุ่นวายแล้ว แต่ละคนพูดกันไปต่างๆ นานา ทว่าคนที่กล่าวโทษเซี่ยยวี่หลัวไม่ได้มีมากเหมือนเมื่อครู่แล้ว ต่างก็กำลังวิจารณ์วาจาของเซียวจินเมื่อครู่นี้

หญิงครองเรือนบางคนย่อมเคยพูดคุยกับบุรุษอื่น ทั้งยังพาบุรุษอื่นเข้าบ้าน ทว่า พวกนางล้วนมีธุระ ต่างบริสุทธิ์ใจ พอได้ฟังวาจาของเซี่ยยวี่หลัว ก็ตกใจจนเหงื่อเย็นซึมชื้นบนแผ่นหลัง

ยังดีที่ไม่โดนเซียวจินเห็นเข้า หากโดนเซียวจินเห็นเข้า ก็จะคิดว่าตัวเองคบชายชู้ลับหลังสามีด้วยหรือไม่?

“เซียวจิน เจ้ากล่าวเช่นนี้ไม่มีเหตุผลเสียเลย ภรรยาเซียวยวี่กล่าวไม่ผิด มีบุรุษเข้าบ้านน่าแปลกตรงไหนกัน ถ้าเป็นตามที่เจ้ากล่าวมา ขอเพียงคนที่เข้าบ้านไม่ใช่สามีของตัวเอง ก็กลายเป็นคบชายชู้หมดไม่ใช่หรือ? ”

หลิวซี่เหลียนภรรยาของเซียวลี่ก็พยักหน้าพร้อมกล่าวอย่างเห็นพ้อง “จริงด้วย จริงด้วย ต่อไปทุกคนอย่าได้ไปมาหาสู่กันโดยง่าย เยี่ยมบ้านกันกลายเป็นคบชายชู้ ความผิดใหญ่หลวงเช่นนี้ ใครจะรับไหว! ”

ทุกคนพูดกันคนละหนึ่งประโยคสองประโยค ว่ากล่าวจนเซียวจินพูดอะไรไม่ออก สุดท้ายถูกคนอื่นด่าจนโต้แย้งไม่ได้ ทำได้เพียงโวยวายขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าหมู่บ้าน “หัวหน้าหมู่บ้าน ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ท่านพูดอะไรบ้างสิขอรับ! ”

เซียวจิ้งยี่ทำสีหน้าบึ้งตึง “เรื่องนี้ภรรยาเซียวยวี่กล่าวได้ไม่ผิด”

ที่ผ่านมาผู้คนในหมู่บ้านสกุลเซียวมีวิถีชีวิตเรียบง่าย ชาวบ้านรักใคร่กลมเกลียว ยามว่างก็ไปมาหาสู่กัน ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ หากเป็นดั่งที่เซี่ยยวี่หลัวกล่าวมา ขอเพียงบุรุษที่เข้าบ้านไม่ใช่สามีของตัวเอง ก็ถูกกล่าวหาว่าพาชายชู้เข้าบ้าน หากเขาเชื่อตามนี้ ต่อไปหมู่บ้านนี้จะกลายเป็นอย่างไร!

บ้านใครบ้างที่ไม่มีบุรุษอื่นเข้าบ้าน เช่นนั้นหญิงครองเรือนทั้งหมู่บ้าน ล้วนเคยลอบคบชู้เช่นนั้นหรือ?

ภรรยาเซียวยวี่กล่าวได้ไม่ผิด

พอเห็นว่าหัวหน้าหมู่บ้านไม่เข้าข้างตัวเอง เซียวจินได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนยอมรับเรื่องนี้ “ดี ก็ได้ ถือว่าคำพูดนี้ข้าพูดผิดไป ไม่มีชายชู้เข้าบ้านเจ้า แต่เจ้าจะอธิบายอย่างไร มีบุรุษผู้หนึ่งบอกว่าเจ้าล่อลวงเขา ทำให้เขาลำบากใจจนพูดไม่ออก! ”

เซี่ยยวี่หลัวหัวเราะอย่างเย็นเยียบ “บุรุษผู้หนึ่ง? แซ่ผู้นามว่าหนึ่ง? ข้าไม่รู้จักบุรุษแซ่ผู้นามหนึ่ง”

เซียวจิน “…”

เซี่ยยวี่หลัวฝีปากกล้า จู่ๆ ก็ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

เซียวยวี่อยู่ข้างๆ แทบจะผงะไป

หากกล่าวถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในช่วงเริ่มแรก เซี่ยยวี่หลัวเปรียบเหมือนกอหนามที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคม รู้จักแต่ทิ่มแทงผู้อื่น

เมื่อได้พบกันอีกครั้ง เซี่ยยวี่หลัวเป็นเหมือนดอกกล้วยไม้ที่งดงามและเงียบสงบ มาบัดนี้ นางคิดการรอบคอบ ยามเอื้อนเอ่ยวาจา กิริยาท่าทางประหนึ่งดอกกุหลาบที่มีหนาม

งามสดใสสูงสง่า แต่ก็ไม่อาจเข้าใกล้

เซียวยวี่ไม่เข้าใจ คนผู้นี้เปลี่ยนแปลงได้ถึงเพียงนี้เชียว?

หลังจากไปสอบกลับมา เขาก็พบความเปลี่ยนแปลงของเซี่ยยวี่หลัว นางเปลี่ยนไปมาก ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างไรอย่างนั้น

เซียวจินโมโหจนแทบยืนไม่ติด “เจ้า… เจ้าฝีปากกล้า ข้า… ข้าเถียงสู้เจ้าไม่ได้ เจ้า… เจ้ารอก่อนเถอะ จะมีคนมาจัดการเจ้าเอง! ”

เซียวจินหันมองไปนอกศาลบรรพชนด้วยความร้อนใจ ด้านนอกมีคนแปลกหน้าเสียที่ไหน เขาร้อนรนจนเหงื่อซึมบนหน้าผาก เถ้าแก่ซ่งบอกว่าจะมาแต่เช้าไม่ใช่หรือ? เหตุใดตอนนี้ถึงยังไม่มาอีก? เขาจะมาคิดบัญชีกับเซี่ยยวี่หลัวไม่ใช่หรือ?

ข้างนอกไม่มีคนมา เซียวจินจะปล่อยให้เรื่องจบไม่ได้ ลูบเหงื่อบนใบหน้าทีหนึ่ง “เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจ หากคนผู้นั้นมาแล้ว บอกว่าเจ้าล่อลวงเขาจะทำอย่างไร? ”

เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดด้วยซ้ำ กล่าวอย่างหนักแน่น “ข้าจะขอหย่าเอง และออกจากหมู่บ้านสกุลเซียวทันที นับแต่นี้จะไม่ย่างกรายเข้าสู่หมู่บ้านสกุลเซียวอีกแม้แต่ก้าวเดียว”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงของนาง เซียวยวี่ก็หันขวับมองนางอย่างฉับพลัน แววตาฉายประกายโทสะอย่างที่เขาไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำ

เซียวยวี่กำหมัดแน่น เส้นเลือดบนมือปูดขึ้น

นางยังคงอยากไปจากที่นี่อย่างอดรนทนไม่ไหวเช่นเคย!