เมื่อผู้คนรอบข้างได้ฟังคำพูดประโยคนั้นของเซียวหมิงจู ต่างก็ทยอยกันหันมองไปทางเซียวหมิงจู เห็นเพียงดวงตาคู่โตประหนึ่งผลซิ่งของแม่หนูผู้นี้จ้องมองเซียวยวี่ด้วยความอ่อนโยนประหนึ่งสายน้ำ แววตาแฝงเร้นด้วยความรักอย่างที่ไม่อาจซ่อนเร้นได้
เรื่องมาถึงขั้นนี้ ใครบ้างจะไม่เห็นดวงตาคู่นั้นที่เต็มเปี่ยมด้วยประกายแห่งความรัก!
แม่เจ้า เซียวหมิงจูผู้นี้มีใจให้เซียวยวี่!
เซี่ยยวี่หลัวขมวดคิ้ว “เจ้า… ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้! ข้าไปก็พอแล้ว”
หมู่บ้านสกุลเซียวเป็นสถานที่พักพิงสุดท้ายของเซียวยวี่ หากเปลี่ยนเป็นที่อื่น ไม่คุ้นเคยกับผู้คนและสถานที่ ทั้งยังต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
เซียวยวี่ไม่มองนางด้วยซ้ำ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าทำเพื่ออาเซวียนและอาเมิ่ง”
เขากล่าวประโยคนี้จบ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่เชื่อ
“แต่ถ้าข้าทำเรื่องที่ผิดต่อเจ้าจริงเล่า? ” เซี่ยยวี่หลัวก้มหน้าพึมพำ
เซี่ยยวี่หลัวก้มหน้าอยู่ ย่อมไม่เห็นว่าเซียวยวี่ที่อยู่อยู่ตรงหน้านาง ร่างกายสั่นไหวทีหนึ่ง
“ดี เจ้าเป็นคนพูดเอง! ” เซียวจินตบมือใหญ่ทีหนึ่ง “ตกลงตามนี้ หากข้าผิดข้าจะไสหัวออกจากหมู่บ้านสกุลเซียวทันที หากพวกเจ้าผิด พวกเจ้าก็ต้องออกจากหมู่บ้านสกุลเซียว นับแต่นี้ห้ามกลับมาอีก! ”
เซียวจิ้งยี่ไม่ได้กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว ก้มหน้าทอดถอนใจไม่หยุด!
เซียวยวี่กล่าววาจาเช่นนี้ออกมา หากเขายังจะคัดค้านอีก เช่นนั้นก็จะไม่ยุติธรรมจริงๆ
“เซียวยวี่ ท่านทำเพื่อสตรีผู้นี้ คุ้มกันหรือ? ” ดวงตาคู่โตของเซียวหมิงจูมีน้ำตาคลอเบ้า หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงมาไม่หยุดราวกับสร้อยไข่มุกที่เชือกร้อยขาดอย่างไรอย่างนั้น
เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งจ้องมองเซียวหมิงจูด้วยความระแวง โอบแขนเซี่ยยวี่หลัวไว้แน่น หันไปกล่าวกับเซียวหมิงจู “พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าเป็นคนดี ใต้หล้านี้มีแต่พี่ใหญ่ของข้าถึงจะคู่ควรกับพี่สะใภ้ใหญ่ของข้า และมีแต่พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าที่คู่ควรกับพี่ใหญ่ของข้า! ”
เซียวหมิงจูมองเซียวยวี่ด้วยอาการเหม่อลอยราวกับไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น “ท่านพูดอะไรบ้างสิ คุ้มกันแล้วหรือ? ทั้งที่ท่านก็รู้ว่า…”
“หมิงจู เซี่ยยวี่หลัวเป็นภรรยาของข้า นางเป็นภรรยาของข้า ข้าก็จะเชื่อนางโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ นางบอกว่านางไม่ได้ทำ ข้าก็เชื่อตามนั้น! ” เซียวยวี่กล่าวอย่างหนักแน่น เสียงของเขาไม่ดังมากนัก แต่กลับให้ความรู้สึกมั่นคงและสงบใจ
เซียวหมิงจูใช้มือปิดปาก หยาดน้ำตาไหลริน ร่ำไห้พร้อมวิ่งออกจากศาลบรรพชนไป
เซียวยวี่ไม่มีความหวั่นไหว
ทุกคนหันมองกันไป หันมองกันมา
ที่แท้หญิงงามมีรัก แต่บุรุษไร้ใจ เซียวยวี่มีภรรยาผู้เลอโฉมอยู่แล้ว ใครเล่าจะสนใจเซียวหมิงจู
เซียวหมิงจูพุ่งพรวดออกจากศาลบรรพชน ไม่ทันเห็นเลยว่าในตำแหน่งที่ไม่ห่างนักมีคนแปลกหน้าสองคนยืนอยู่ โดยเฉพาะบุรุษที่อยู่ด้านหน้าซึ่งมีบุคลิกสง่างามดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
ซ่งฝูมองซ่งฉางชิงด้วยความสงสัย “คุณชาย พวกเรามานานขนาดนี้แล้ว ยังไม่เข้าไปอีกหรือขอรับ? ”
ตั้งแต่เซี่ยยวี่หลัวเริ่มพูด ซ่งฉางชิงก็มาถึงแล้ว
พอเห็นทุกคนใส่ความเซี่ยยวี่หลัว ซ่งฉางชิงแทบอยากพุ่งพรวดเข้าไปช่วยเซี่ยยวี่หลัวทันที เพียงแต่ เขารู้ว่าเซียวยวี่ก็อยู่ข้างใน เขาจึงไม่ได้เข้าไป
แต่เกิดความรู้สึกสงสัยใคร่รู้ อยากรู้ว่าเซียวยวี่จะจัดการเรื่องครั้งนี้อย่างไร
พอได้ยินเซียวยวี่บอกว่าเขาเชื่อเซี่ยยวี่หลัวตั้งแต่ต้นจนจบ ซ่งฉางชิงก็รู้แล้วว่า เขาจะเข้าไปหรือไม่ล้วนไม่สำคัญแล้ว
เขาขึ้นรถม้าช้าๆ ก่อนกล่าวกับซ่งฝู “เจ้าเข้าไปเถอะ”
“คุณชาย ข้า? ข้าคนเดียวหรือขอรับ? ”
“อืม ช่วยข้านำของไปมอบให้ฮูหยินเซียว ขอบคุณที่นางช่วยดูแลในระยะนี้ ทำให้นางเดือดร้อนแล้ว ถือเป็นการแสดงความขอโทษจากข้า” ซ่งฉางชิงน้ำเสียงเรียบสงบ แฝงเร้นด้วยความเหนื่อยอ่อนเล็กน้อย
เขาหลับตาเบาๆ ปกปิดความรู้สึกเหนื่อยอ่อนและอ้างว้างในดวงตาทั้งคู่
ซ่งฝูไม่เห็นความอ้างว้างในดวงตาคุณชาย เขาเพียงเบ้ปากด้วยความรู้สึกไม่ยุติธรรม
คุยกันแล้วว่าจะมาหาเรื่องเซี่ยยวี่หลัว ใครจะรู้ว่ากลับมาเพื่อมอบของให้เซี่ยยวี่หลัว ดูจากเจตนาของคุณชาย ครั้งก่อนที่บอกว่าจะมาคิดบัญชีกับเซี่ยยวี่หลัว ก็เพียงแค่หลอกสองสามีภรรยานั่นเท่านั้น
ตอนนี้สามีภรรยาคู่นั้นกำลังได้ใจ เกรงว่าอีกเดี๋ยวคงต้องร่ำไห้จนน้ำมูกไหล
ซ่งฝูค่อยๆ ขนข้าวของสองตะกร้าลงจากด้านหลังรถม้า ภายในตะกร้าเต็มไปด้วยข้าวของหลากหลายชนิด ของกินของใช้เสื้อผ้าของเล่น ยังมีเครื่องประดับและผ้าทอของสตรี เต็มสองตะกร้าใหญ่ ล้วนแต่เป็นของที่คุณชายให้คนส่งมาในช่วงสองวันนี้
แม้แต่ตะกร้าสองใบนี้ก็เป็นของใหม่ ไม่รู้ว่าคุณชายไปซื้อมาจากที่ไหน
ซ่งฝูไม่เคยเห็นคุณชายสนใจเรื่องเหล่านี้มาก่อน ปกติแล้ว เขาเป็นคนที่จะไปตัดเสื้อสักหนึ่งตัวยังรู้สึกว่ายุ่งยาก
ช่างน่าแปลกนัก ซื้อของมากมายขนาดนี้ กลับไม่บ่นแม้แต่คำเดียว
เซียนจวีโหลวมีผู้จัดหาวัตถุดิบมากมาย ยังไม่เคยเห็นคุณชายมอบเส้นด้ายให้ผู้อื่นแม้แต่เส้นเดียวด้วยซ้ำ!
เขารู้สึกไม่เข้าใจจริงๆ นอกจากนั้น ยังต้องพูดจาเข้าข้างเซี่ยยวี่หลัวอีกต่างหาก
วันนั้นคุยกันแล้ว ว่าจะมาคิดบัญชีกับเซี่ยยวี่หลัวไม่ใช่หรือ?
ไม่เพียงแค่ทำลายชื่อเสียงคุณชายของเขา ตัวเองยังล่อลวงชายชู้เข้าบ้าน ช่างไร้ยางอายสิ้นดี
ต่อให้ซ่งฝูไม่พึงพอใจ และไม่ชอบใจเพียงใด ก็ได้แต่ทำตามที่คุณชายบอก ย่อตัวหาบของขวัญสองตะกร้าใหญ่ เดินเข้าไปในศาลบรรพชน
เซียวจินหันมองออกไปด้านนอก กล่าวพึมพำ “ทำไมเถ้าแก่ซ่งถึงยังไม่มาอีก? ”
เพิ่งสิ้นเสียง เงาร่างที่คุ้นเคยก็เดินเข้ามาจากด้านนอก เซียวจินเห็นคนมาแล้ว ดวงตาพลันลุกวาว “มาแล้ว มาแล้ว คนมาแล้ว! ”
ทุกคนต่างหันมองออกไป ก็เห็นบุรุษอายุประมาณสิบเจ็ดถึงสิบแปดปีหาบของเดินมาช้าๆ จากตำแหน่งที่ไม่ห่างนัก
เมื่อเซียวจินเห็นกล่องผ้าหลากหลายรูปแบบที่กองจนแทบล้นตะกร้า ก็ยิ้มพร้อมกล่าวอย่างได้ใจ “เห็นหรือไม่? ข้าช่วยเถ้าแก่ซ่งชี้แจงข้อเท็จจริง เขาจึงมอบของขวัญตอบแทนให้ข้า! ”
เถียนเอ๋อเห็นข้าวของที่ใส่ไว้เต็มสองตะกร้าใหญ่ ก็หันมองด้วยความรู้สึกยินดี รีบพุ่งพรวดออกไปข้างนอกพร้อมเซียวจิน
เซียวจินพุ่งขึ้นหน้า จะไปรับไม้หาบจากมือซ่งฝู ซ่งฝูโบกมือทีหนึ่ง เบี่ยงตัวเล็กน้อย ไม่ให้เขาแตะ
เซียวจินได้ใจยิ่งนัก นี่อีกฝ่ายรู้สึกขอบคุณเขา จึงไม่อยากให้เขาต้องเหนื่อย ท่านซ่งช่างรู้จักวางตัวเสียจริง!
ซ่งฝูหาบของมาถึงศาลบรรพชน วางตะกร้าลง
เถียนเอ๋อเห็นข้าวของเต็มสองตะกร้าใหญ่ ล้วนแต่ถูกบรรจุไว้ในกล่องผ้า จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ กองเต็มสองตะกร้า ของเหล่านี้เถ้าแก่ซ่งแห่งเซียนจวีโหลวเป็นคนให้ เช่นนั้นของเหล่านี้ต้องเป็นของชั้นดีที่ไม่อาจดีกว่านี้ได้อีกแล้ว!
นางถูมือไปมา ดวงตาลุกวาว หากไม่ใช่เพราะที่นี่มีคนมากเกินไป เกรงว่าอีกเดี๋ยวอาจต้องแบ่งออกไป นางคงอดรนทนไม่ไหว คิดอยากไปเปิดดูว่าในนั้นเป็นของดีอะไรนานแล้ว
ไม่รีบ ไม่รีบ ถึงอย่างไรของสองตะกร้านั้นล้วนเป็นของพวกเขา!
ดวงตาของเถียนเอ๋อจ้องของสองตะกร้าไม่ละสายตา เซียวจินปล่อยวางได้มากกว่า ยิ้มประจบพร้อมกล่าว “ท่านซ่งน้อย เถ้าแก่ซ่งไม่มาอย่างนั้นหรือ? ”
“อ่อ คุณชายของข้ามีธุระหลายอย่าง เขามาไม่ได้ เพียงบอกให้ข้ามาก็เหมือนกัน! ” ซ่งฝูกล่าวอย่างเรียบสงบ
เซียวจินถูมือพร้อมยิ้มประจบประแจง “ใช่ใช่ใช่ ท่านเป็นคนที่อยู่ข้างกายเถ้าแก่ซ่งตลอด ท่านมาก็เท่ากับเถ้าแก่ซ่งมา เหมือนกัน เหมือนกัน! ”
ซ่งฝูพยักหน้าเบาๆ “อืม เหมือนกัน! ”
เซียวจิ้งยี่ที่อยู่ข้างๆ กระแอมสองที “เจ้าบอกว่าเถ้าแก่ซ่งมาก็เริ่มได้เลยไม่ใช่หรือ? เวลานี้ยังไม่เริ่มอีก? ”
เซียวจินส่งเสียงหัวเราะร่า จากนั้นจึงชี้ไปที่เซี่ยยวี่หลัวพร้อมกล่าว “ท่านซ่งน้อย คนที่ไปเซียนจวีโหลวเป็นประจำ คือสตรีผู้นี้ใช่หรือไม่? ”
เขาชี้ไปทางเซี่ยยวี่หลัวพร้อมเอ่ยถามซ่งฝู
ซ่งฝูหันมองไป เห็นเซี่ยยวี่หลัว จึงพยักหน้าพร้อมกล่าว “ใช่! ”