เล่มที่ 8 บทที่ 211 เจ้าพูดอะไรข้าก็จะเชื่อตามนั้น

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซียวจินกล่าวเสียงดังอย่างได้ใจ “เห็นหรือไม่ ข้ากล่าวไม่ผิด นางไปเซียนจวีโหลวเพื่อล่อลวงท่านซ่งเป็นว่าเล่น หญิงครองเรือนที่แต่งงานแล้วไปล่อลวงบุรุษอื่น หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านว่า เช่นนี้ถือเป็นการคบชู้สู่ชายหรือไม่? ”

เซียวจิ้งยี่ขมวดคิ้ว เขาไม่มีอะไรจะพูด

เถียนเอ๋อกล่าวกับเซียวยวี่ด้วยท่าทางลำพองใจ “เซียวยวี่ ได้ยินหรือไม่? ภรรยาของเจ้ามากรักหลายใจ รังเกียจที่เจ้ายากจน จึงหมายตาคนที่ดีกว่า”

เซียวยวี่ขมวดคิ้ว

เซียวจินกล่าวอย่างเย้ยหยัน “เซียวยวี่ เป็นอย่างไร? ข้าไม่ได้หลอกเจ้า ภรรยาของเจ้าคบชู้สู่ชาย ยังดีที่ท่านซ่งใฝ่ดีรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่สนใจสตรีที่มีสามีแล้ว มิเช่นนั้น หากเป็นบุรุษอื่น เกรงว่าคงสวมเขาให้เจ้าไปหลายคู่แล้ว”

เซียวยวี่กำหมัดแน่น หันมองไปทางเซี่ยยวี่หลัว

เซี่ยยวี่หลัวก็มองเขา แววตาเรียบสงบ

เซียวยวี่น้ำเสียงแหบแห้ง ขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยถามเซี่ยยวี่หลัว “เจ้าว่าอย่างไร? ”

เซี่ยยวี่หลัวย้อนถามเขา “เจ้าคิดว่าอย่างไร? ”

เซียวยวี่กำหมัดแน่น ก่อนคลายออก แล้วจึงกำแน่น ก่อนคลายออกอีกครั้ง เหมือนกำลังพยายามครุ่นคิดเรื่องนี้

“เซียวยวี่ นางยังไม่มีอะไรจะกล่าวเลย นางจะกล่าวอะไรได้? จนถึงตอนนี้เจ้ายังจะเชื่อนางอีกหรือ? ” มีคนกล่าวอย่างรู้สึกเสียดายอยู่ข้างๆ

เซี่ยยวี่หลัวเบ้ปากทีหนึ่ง นางไม่มีอะไรจะกล่าวจริงๆ สิ่งที่ซ่งฝูกล่าวมาเดิมทีก็ไม่ผิดอยู่แล้ว นางไปพบท่านซ่งที่เซียนจวีโหลวเป็นประจำ!

เซียวยวี่มองตรงไปทางเซี่ยยวี่หลัว “คำพูดของใครข้าก็ไม่เชื่อทั้งนั้น ข้าเชื่อเพียงคำพูดของเจ้า หากเจ้าบอกว่าเจ้าทำ ข้าจะเชื่อ หากเจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้ทำ ข้าก็เชื่อ! ”

น้ำเสียงของเซียวยวี่แหบแห้งเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ากำลังฝืนสะกดอารมณ์โทสะที่ถาโถมประหนึ่งคลื่นยักษ์

อีกฝ่ายมาหาถึงที่แล้ว เซียวยวี่ยังกล่าววาจาเช่นนี้ออกมาอีก ทำให้เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

“เจ้าเชื่อข้าจริงหรือ? ” เซี่ยยวี่หลัวย้อนถามเขา “ข้าพูดอะไรเจ้าล้วนเชื่อ? ”

“ข้าเชื่อ! ” เซียวยวี่กล่าวอย่างหนักแน่น คราวนี้ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

“ได้ ข้าไม่เคยทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อเจ้า ที่ผ่านมาไม่เคย ตอนนี้ไม่เคย และในอนาคตก็จะไม่มี! ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวช้าๆ ราวกับกำลังกล่าวคำสาบาน

ในที่สุดริมฝีปากบางของเซียวยวี่ก็ผ่อนคลาย เผยรอยยิ้มที่ดูแย่กว่าใบหน้าร้องไห้เสียอีก “ได้ ข้าเชื่อเจ้า” กล่าวจบ เขาหันมองเซียวจิน น้ำเสียงเย็นเยียบกว่าเมื่อครู่ “ข้าไม่เชื่อ! ”

ภายในใจเซี่ยยวี่หลัวรู้สึกอบอุ่นราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน บุปผาทั่วภูเขาล้วนผลิบาน

ซ่งฝูยิ้มทีหนึ่ง “หัวหน้าหมู่บ้าน คุณชายของข้าเป็นคนเรียบง่ายไม่ชอบเอิกเกริก ฮูหยินเซียวผู้นี้บอกกล่าวไปทั่วว่านางรู้จักคุณชายของข้า รู้จักก็ส่วนรู้จัก แต่ป่าวประกาศไปทั่วอย่างเอิกเกริกเช่นนี้ อย่างไรก็ยังส่งผลเสียต่อชื่อเสียงคุณชายของข้า เห็นหรือไม่ ฮูหยินเซียวรู้จักคุณชายของข้า ก็ถูกคนมองว่าล่อลวงคุณชายของข้า หากปล่อยให้ข่าวลือนี้แพร่ต่อไป เกรงว่าจะมีแต่ผลเสียไม่ส่งผลดี! ถูกต้องหรือไม่? หัวหน้าหมู่บ้าน คาดว่าทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าคุณชายของข้ารู้จักกับฮูหยินเซียว”

“ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย วันนี้หากไม่มีเรื่องนี้ พวกเรายังไม่รู้จักเถ้าแก่ซ่งแห่งเซียนจวีโหลวด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้น ภรรยาเซียวยวี่อยู่แต่ในบ้านมาตลอด นางเคยบอกพวกเราตั้งแต่เมื่อไรกันว่านางรู้จักเถ้าแก่ซ่ง? พวกเจ้าเคยได้ยินหรือไม่? ” กวั่นซื่อเอ่ยถาม

หลิ่วซี่เหลียนส่ายหน้าราวกับกลองป๋องแป๋งก็มิปาน “ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน นอกจากจะได้พบภรรยาเซียวยวี่ตอนซักผ้า นางก็ดูแลเด็กสองคนอยู่ในบ้านทั้งวัน ไม่เคยได้ยินนางกล่าวเรื่องที่นางรู้จักเถ้าแก่ซ่งมาก่อนเลย”

ซ่งฝูรู้สึกตกใจเล็กน้อย “อะไรนะ นางไม่เคยบอก? ” กล่าวจบ เขาหันมองไปทางเซียวจินด้วยความประหลาดใจ “ท่านบอกข้าว่าฮูหยินเซียวอยู่ที่หมู่บ้านสกุลเซียวคุยโตโอ้อวดเรื่องที่นางรู้จักคุณชายของข้าไปทั่วไม่ใช่หรือ? ท่านยังบอกอีกว่านางกล่าวอย่างได้ใจว่าสนิทกับคุณชายของข้ามาก ทั้งยังบอกว่านางคุยโตว่าแค่กวักนิ้วเรียก คุณชายของข้าก็ต้องวิ่งแจ้นมาหา วาจาเหล่านี้ท่านบอกว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นคนกล่าวไม่ใช่หรือ? ”

ซ่งฝูบอกเล่าวาจาที่เซียวจินเคยกล่าวออกมาทั้งหมด สีหน้าท่าทางดูประหลาดใจยิ่งนัก

เซียวจิ้งยี่ได้ฟังดังนั้น ก็โมโหจนตบโต๊ะ “เซียวจิน นี่คือสิ่งที่เจ้าบอกกับเถ้าแก่ซ่งหรือ? เซี่ยยวี่หลัวกล่าววาจาเหล่านี้? เซี่ยยวี่หลัวเคยกล่าววาจาเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อไร? พวกเจ้ามีใครเคยได้ยินบ้าง? ”

ทุกคนต่างหันมองกันไป หันมองกันมา ถึงแม้ปกติพวกเขามักจะรวมตัวพูดคุยสนทนากันเป็นประจำ แต่ไม่เคยพบเห็นภรรยาเซียวยวี่เลย!

แต่ละคนส่ายหน้าราวกับกลองป๋องแป๋งก็มิปาน ต่างก็บอกว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน

เซียวจิ้งยี่โมโหแทบตาย “เซียวจิน เจ้าจะอธิบายอย่างไร? ”

เผชิญกับคำไต่ถามจากเซียวจิ้งยี่ เซียวจินฝืนกล่าวต่อ “ท่านซ่งน้อย เมื่อครู่ท่านบอกเอง เซี่ยยวี่หลัวผู้นี้ไปหาท่านซ่งที่เซียนจวีโหลวเป็นประจำ นางไปล่อลวงท่านซ่ง ถูกต้องหรือไม่? ”

ซ่งฝูหัวเราะเบา “ฮูหยินเซียวเคยไปพบคุณชายของข้าจริง แต่หากจะบอกว่าล่อลวง ก็คงไม่ใช่ ถึงอย่างไรทุกครั้งที่พวกเขาสองคนพบปะกัน ข้าจะอยู่ด้วยตลอด! หากข้าอยู่ด้วยระหว่างที่พวกเขาสองคนสนทนากัน เช่นนี้… ถือว่าล่อลวงหรือไม่? ”

“จะเป็นการล่อลวงได้อย่างไร! ” มีคนหัวเราะพร้อมกล่าวออกมา

ซ่งฝูก็หัวเราะเช่นกัน “ข้าก็คิดว่าไม่ใช่”

เซียวยวี่แสยะริมฝีปากเล็กน้อย เหมือนกำลังยิ้ม มือที่เมื่อครู่นี้กำจนแน่น ในที่สุดก็คลายออกแล้ว

เซียวจินไม่คาดคิดเลยว่าซ่งฝูจะกล่าววาจาเหล่านี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร ก่อนหน้านี้เขายืนกรานว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นสตรีไร้ยางอาย เขาเอ่ยถามอย่างไม่ยอมจำนน “ในเมื่อตอนนี้เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้ล่อลวงเถ้าแก่ซ่ง ต้องเป็นเพราะมีท่านอยู่ด้วยเป็นแน่ หากท่านไม่อยู่ด้วย ไม่แน่ว่าเซี่ยยวี่หลัวคงโผเข้าใส่แล้ว นางเป็นเพียงหญิงชาวบ้านจากชนบท นางไปหาเถ้าแก่ซ่ง นอกจากให้ท่าแล้ว ยังจะทำอะไรได้อีก? ”

ซ่งฝูกล่าวอย่างเรียบสงบ “ขายผักตี้เอ่ออย่างไรเล่า! หรือว่าพวกท่านไม่รู้ เรื่องที่หมู่บ้านสกุลเซียวรับซื้อผักตี้เอ่อ ฮูหยินเซียวเป็นคนนำโอกาสนี้มาให้? นางนำผักตี้เอ่อไปขายที่เซียนจวีโหลวด้วยตัวเอง ทั้งยังบอกวิธีปรุง คุณชายของข้าจึงให้เซี่ยยวี่หลัวเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบ เก็บผักตี้เอ่อขายให้เซียนจวีโหลว! ทำไม หรือว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่ได้บอกพวกท่าน? ”

เซียวยวี่หันมองเซี่ยยวี่หลัว นางก้มหน้าลูบศีรษะเด็กสองคน เผยรอยยิ้มบางที่มุมปาก บนกายราวกับมีประกายแสงสาดส่องอย่างไรอย่างนั้น ทั้งอ่อนโยนและมีเมตตา

นางอายุเพียงสิบหกปีเท่านั้น เซียวยวี่กลับเห็นความรักความเมตตาของมารดาในอดีตจากตัวนาง

ศาลบรรพชนที่เดิมทีเงียบสงบ บัดนี้ราวกับมีผึ้งบินเข้ามาหนึ่งรัง เต็มไปด้วยเสียงวิจารณ์ดังอื้ออึง “อะไรนะ ภรรยาเซียวยวี่เป็นคนนำโอกาสนี้มางั้นหรือ? ไหนบอกว่าเป็นเซียวเหลียงไม่ใช่หรือ? ”

เซียวจิ้งยี่ก็ตกใจเป็นอย่างมาก เขานึกว่าเซียวเหลียงเป็นคนนำโอกาสนี้มาให้ทุกคนมาโดยตลอด ใครจะรู้…

“ภรรยาเซียวยวี่ ที่ท่านซ่งน้อยกล่าวมาเป็นความจริงหรือ? เรื่องผักตี้เอ่อนั่นเจ้าเป็นคนนำโอกาสมาให้ทุกคน? ” เซียวจิ้งยี่เอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า “เจ้าค่ะ เป็นข้าเอง”

“เช่นนั้นเหตุใดตอนนั้นเจ้าถึงไม่บอกว่าเจ้าเป็นคนรับซื้อ? ทำไมต้องบอกว่าเป็นเซียวเหลียงด้วย? ” เซียวจิ้งยี่ไต่ถามต่อ

ก่อให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมามากมายขนาดนี้!