เล่มที่ 8 บทที่ 212 ขุดหลุมฝังตัวเอง

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซี่ยยวี่หลัวย่อมเข้าใจความหมายของหัวหน้าหมู่บ้าน แต่หากบอกว่าเป็นนางตั้งแต่แรก เกรงว่าอาจเกิดเรื่องวุ่นวายมากกว่านี้เสียอีก

นางแย้มรอยยิ้ม ปอยผมตรงหน้าผากร่วงลงมาปิดข้างแก้ม นางเอื้อมมือปาดปอยผมนั้นไปคาดไว้หลังใบหู ก่อนกล่าวอย่างเรียบสงบ “เซียวยวี่ไม่อยู่บ้าน ข้าเป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว จะปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนก็ไม่ดี ดังนั้น จึงไปขอให้ท่านปู่เซียวช่วย บอกว่าเซียวเหลียงรับซื้อ ยิ่งไปกว่านั้น หากบอกว่าข้าเป็นคนรับซื้อ ข้าเกรงว่าชาวบ้านจะไม่เชื่อข้า จึงใช้วิธีการนี้เจ้าค่ะ! ”

เซียวจิ้งยี่รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก นางครุ่นคิดได้รอบคอบยิ่งนัก!

นางคอยหลีกเลี่ยงการปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนอยู่ตลอดเวลา ไม่อยากมีสัมพันธ์กับคนมากเกินไป ไม่อยากให้เซียวยวี่ขายหน้า แต่เซียวจินเล่า กลับยังมุ่งหมายจะใส่ความนางอีก!

ชาวบ้านที่อยู่ในศาลบรรพชน ครอบครัวไหนบ้างที่ไม่เคยเก็บผักตี้เอ่อ พอได้ยินว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นคนมอบโอกาสนี้ให้ ความรู้สึกผิดและตำหนิตัวเองก็ถาโถมเข้ามาในใจ

นี่พวกเขากำลังเนรคุณต่อผู้มีบุญคุณ ช่างไม่สมควรเสียเลย!

คราวนี้ไม่ต้องกล่าวอะไรอีก เซียวจิ้งยี่ถลึงตามองเซียวจิน แทบจะพ่นไฟออกมา “เซียวจิน ไหนเจ้าลองอธิบายให้ชัดเจน! บอกมาว่าเซี่ยยวี่หลัวป่าวประกาศกับคนในหมู่บ้านว่านางรู้จักเถ้าแก่ซ่งอย่างไร ใครเป็นคนสร้างข่าวลือนี้? เจ้าลองบอกมา ว่าเซี่ยยวี่หลัวล่อลวงเถ้าแก่ซ่งอย่างไร คนอื่นคุยธุระกันถูกเจ้ากล่าวหาว่าเป็นการล่อลวง เจ้าลองบอกมา ว่าบ้านเจ้าไม่เคยขายผักตี้เอ่อ ไม่เคยหาเงินได้งั้นหรือ? หากไม่ใช่ภรรยาเซียวยวี่ที่หาโอกาสดีๆ เช่นนี้กลับมาให้เรา เจ้าคิดจะหาเงินจากพืชผักที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติได้หรือ? ”

จากตอนแรกที่เซียวจินลำพองใจ จนถึงตอนนี้ที่กระวนกระวายใจ ทั้งที่คุยกันไว้แล้ว ว่าเถ้าแก่ซ่งจะกล่าวโทษเซี่ยยวี่หลัวที่ล่อลวงเขา เหตุใดตอนนี้ถึงไม่กล่าวโทษเล่า?

“ท่านซ่งน้อย เหตุใดเถ้าแก่ซ่งถึงไม่มา? เถ้าแก่ซ่งบอกว่าเซี่ยยวี่หลัวล่อลวงเขาไม่ใช่หรือ? ทำไมเขาถึงไม่ยอมรับเล่า? ” เซียวจินคิดจะไปจับมือซ่งฝู

ซ่งฝูรู้วิชาป้องกันตัว เขาเบี่ยงกายเล็กน้อย เซียวจินจึงจับไม่โดน เขากล่าวด้วยความประหลาดใจ “ท่านว่าอะไรนะ? คุณชายของข้าบอกกับท่าน? คุณชายของข้าเคยพบท่านตั้งแต่เมื่อไร? ”

เซียวจินเข้าใจทันที จริงด้วย วันนั้นเขาไม่ได้พบซ่งฉางชิงเลย มีแต่ซ่งฝูที่อยู่ตรงหน้าบอกกล่าววาจาแทน!

“อ๋อ นี่เจ้ากำลังปั่นหัวข้า! ” เซียวจินชี้ซ่งฝูพร้อมตะคอกเสียงดัง “ยังมีซ่งฉางชิงอีกคน พวกเจ้าล้วนกำลังปั่นหัวข้า? ”

ซ่งฝูแสดงสีหน้าเหมือนถูกปรักปรำ “พี่ชายท่านนี้พูดเป็นเล่น ในหนึ่งวันคุณชายของข้าต้องพบเจอผู้คนเป็นร้อย งานรัดตัวจนแทบไม่มีเวลาว่าง ไหนเลยจะมีเวลามาหยอกล้อกับบุคคลไร้ชื่อเสียงเรียงนามเยี่ยงท่าน? ”

เซียวจินได้แต่ทนดูผลประโยชน์ต่างๆ ที่กำลังจะได้มามลายหายไปจนสิ้นในชั่วพริบตา ทั้งโมโหทั้งหวาดกลัว เขาไม่อยากออกจากหมู่บ้านสกุลเซียว

เซียวจินที่เมื่อครู่ยังดูองอาจดุดันประหนึ่งพยัคฆ์ บัดนี้กลับหวาดกลัวราวกับลูกแมวน้อยที่ยังไม่หย่านมอย่างไรอย่างนั้น

ขาทั้งคู่ของเซียวจินอ่อนยวบ คุกเข่าลงตรงหน้าเซียวจิ้งยี่ดังตุบ ด่าตัวเองไปพลางตบตัวเองไปพลาง “หัวหน้าหมู่บ้าน ขอโทษขอรับ ข้าหน้ามืดตามัวหลงผิดไป ไม่ควรปรักปรำภรรยาเซียวยวี่ ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว หัวหน้าหมู่บ้าน ขอร้องล่ะ ให้โอกาสข้าได้แก้ตัวด้วยขอรับ! ”

เซียวจิ้งยี่โมโหเกรี้ยวกราดจนเตะใส่เขา “แม้แต่ข้ายังถูกเจ้าหลอก! ”

เซียวจินถูกเตะจนล้มกองบนพื้น เขารีบคลานเพื่อลุกขึ้น ร่ำไห้ตะโกนพร้อมจับขาเซียวจิ้งยี่ไว้ ร้องไห้อ้อนวอนไม่หยุด “หัวหน้าหมู่บ้าน ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ ข้าผิดไปแล้ว ต่อไปข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว! ”

เมื่อครู่เถียนเอ๋อจ้องมองข้าวของในสองตะกร้าใหญ่อยู่ตลอด แววตาฉายประกายละโมบ ถึงแม้ของในตะกร้ายังปิดสนิทอยู่ แต่เถียนเอ๋อก็จินตนาการถึงของด้านในไว้แล้ว

“นางหญิงบ้า เจ้ายังไม่ขอร้องภรรยาเซียวยวี่อีก! ” เซียวจินตะคอกเสียงดัง เถียนเอ๋อที่กำลังวาดฝันไปไกลเพิ่งเรียกสติคืนกลับมาได้ เห็นเซียวจินคุกเข่าบนพื้น ก็รู้สึกงุนงง “ท่านพี่ นี่ท่านกำลังทำอะไร? ทำไมถึงคุกเข่าบนพื้น? เซี่ยยวี่หลัวยอมรับหรือยัง? ”

เมื่อครู่คนที่องอาจดุดันคือพวกเขาไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้สามีของตนเองถึงคุกเข่าบนพื้นส่งเสียงร่ำไห้ขอร้องอ้อนวอน

เซียวจินแทบกระอักเลือด “นางหญิงบ้า เจ้ามัวคิดอะไรอยู่! ”

หลิวซี่เหลียนหัวเราะคิกคัก “เกรงว่ากำลังจินตนาการว่าของในตะกร้าเป็นอะไรกระมัง! ”

“ภรรยาเซียวจิน ของเหล่านั้นเถ้าแก่ซ่งมอบให้ภรรยาเซียวยวี่ ไม่ได้มอบให้เจ้า! ” ชาวบ้านพากันหัวเราะเสียงดังครืน

“จริงด้วย ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า เจ้าคิดไปก็ไม่ได้อยู่ดี! ” ผู้คนที่มุงดูอยู่ต่างหัวเราะลั่น

ซ่งฝูหาบตะกร้าไปถึงตรงหน้าเซี่ยยวี่หลัว กล่าวอย่างนอบน้อม “ฮูหยินเซียว นี่คือของขวัญแทนคำขอบคุณที่เถ้าแก่ของข้ามอบให้ท่าน เป็นเพราะสูตรอาหารสองสูตรของท่าน บัดนี้กิจการของเซียนจวีโหลวดีขึ้นไม่น้อย คุณชายของข้าบอกอีกว่า หากฮูหยินยังมีสูตรอาหารอีก ต้องรบกวนท่านร่วมงานกับเซียนจวีโหลวอีก เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย”

เซี่ยยวี่หลัวไม่อยากรับไว้ “ขอให้ท่านซ่งน้อยนำกลับไปด้วย หากมีสูตรอาหาร ข้าย่อมร่วมงานกับเซียนจวีโหลวอีก เพียงแต่สิ่งของเหล่านี้ ข้ารับไว้ไม่ได้! ”

นางวางตัวเหมาะสม รู้กาลเทศะ คนอื่นเห็นของสองตะกร้านั้นคงขาอ่อนจนเดินไม่ไหวนานแล้ว แต่นางกลับไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ไม่สนใจสักนิด

นี่สิถึงจะเป็นเรื่องที่คนรู้จักวางตัวทำกัน!

หวนคิดถึงสองสามีภรรยาเซียวจินและเถียนเอ๋อ ดูเสียว่าทำอะไรลงไป ทนดูไม่ได้จริงๆ !

ซ่งฝู “ขอฮูหยินเซียวอย่าทำให้ข้าน้อยลำบากใจ นี่เป็นของที่คุณชายกำชับว่าต้องมอบให้ท่าน ไม่ใช่ของล้ำค่าอะไร เป็นเพียงอาหารและของเล่นจำนวนหนึ่ง ฮูหยินเซียวรับไว้เถอะ มิเช่นนั้นข้ากลับไปคุณชายต้องตำหนิข้าเป็นแน่! ”

พอคิดถึงท่านซ่งที่ไม่รู้จักยิ้มแย้มด่าคน เซี่ยยวี่หลัวก็หัวเราะพรืดออกมา “เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ฝากท่านซ่งน้อยขอบคุณท่านซ่งแทนข้าด้วย! ”

นางและซ่งฉางชิงไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน

ซ่งฉางชิงจะกล่าวอะไร ก็ไม่เกี่ยวกับนาง

แต่ตอนนี้ซ่งฝูมาที่นี่ เพื่อช่วยล้างมลทินให้นาง ดูท่า เถ้าแก่ซ่งขุดหลุมขนาดใหญ่ไว้ รอให้สองสามีภรรยาเซียวจินเหลิงจนลืมตัว กระโดดลงไปเอง

ถือว่าช่วยนางไว้มากทีเดียว

ซ่งฝูนำของมาส่งแล้ว คำพูดก็บอกกล่าวไปแล้ว จึงเดินจากไป

เซียวจินและเถียนเอ๋อเห็นซ่งฝูไปแล้ว ต่างก็ร่ำไห้อย่างน่าเวทนา “ท่านซ่ง ท่านทำให้พวกเราลำบากแทบแย่ หัวหน้าหมู่บ้าน ข้าผิดไปแล้ว ข้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ ขอร้องท่านล่ะ อย่าไล่ข้าออกจากหมู่บ้านสกุลเซียวเลย หากข้าออกจากหมู่บ้านสกุลเซียว ท่านจะให้ข้าไปอยู่ที่ไหน? พวกเราสามคน ต้องหิวตายเป็นแน่! ”

เถียนเอ๋อก็คุกเข่าอยู่ข้างๆ ทั้งร่ำไห้ทั้งโวยวาย “หัวหน้าหมู่บ้าน พวกเราผิดไปแล้ว ครั้งนี้ท่านปล่อยพวกเราไปเถอะ พวกเราไม่กล้าทำอีกแล้ว”

ภายในศาลบรรพชน เมื่อครู่เป็นพวกเขาที่โหวกเหวกโวยวาย บัดนี้ยังคงเป็นพวกเขาที่อ้อนวอนราวภูตผีร่ำไห้หมาป่าเห่าหอน ส่งเสียงไม่หยุดหย่อนอย่างแท้จริง