“พี่สาว(หลิวหลี)” โม่หลีกับหลงซินเยว่พูดขึ้นพร้อมกัน
“ท่านแม่ โม่หลี ข้ากลับมาแล้ว” บ้านหลังนี้เป็นสถานที่ที่ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นมากที่สุด
“พี่สาว พี่กลับมาแล้ว ดีจังเลย ข้าคิดถึงท่านจนตัวผอมแห้งไปหมดแล้ว” โม่หลีใช้หน้าอ้วนๆของตนเองออดอ้อนหลิวหลีเพื่อบ่งบอกให้พี่สาวรู้ว่านางคิดถึงอีกฝ่ายมาก คิดถึงจนร่างกายผ่ายผอม จำเป็นต้องได้รับการบำรุง หลงซินเยว่ที่อยู่ข้างๆหัวเราะจนตัวงอ
“อื้ม โม่หลีผอมลง วางใจเถอะ พี่จะทำของอร่อยๆให้โม่หลีกิน ให้กลับมาอ้วนเหมือนเดิม เค้กนึ่งนิ่มๆ กับแฮมเบอร์เกอร์สูตรเฉพาะของโม่หลี แล้วก็ยังมีน้ำผลไม้แสนอร่อยหลายรสชาติ พรุ่งนี้พี่ทำห่านตุ๋นบำรุงเจ้าหน่อยดีหรือไม่” หลิวหลีคิดเมนูอาหารให้โม่หลี นางกลืนน้ำลาย พี่สาวก็ยังคงรักนาง
“เจ้าค่ะ” โม่หลีรับคำอย่างไม่เกรงใจ คนมีพี่สาวจะเหมือนเด็กน้อยอยู่ตลอดเวลา
“มาสิมา ให้พี่ลองจับกระดูกของเจ้าดูเสียหน่อย โม่หลีได้ขี้เกียจหรือเปล่า ทดสอบแล้วว่า โม่หลีคือแกนวิญญาณคู่ธาตุลมกับธาตุไม้ โม่หลีร้ายกาจมาก แกนวิญญาณนี้ไม่ต่างอะไรจากแกนวิญญาณเดี่ยวเลย” หลิวหลีจับกระดูกของโม่หลีไปพลางชื่นชมนาง
“ไม่เก่งเท่าท่านพี่ ข้ารู้นะว่าท่านมีแกนวิญญาณเดี่ยวธาตุไฟ ทั้งยังเป็นร่างวิญญาณ ท่านแม่ลำเอียงจริงๆ ของดีๆส่งต่อให้พี่สาวหมดแล้วแน่ พอถึงทีข้าทุกอย่างเลยเปลี่ยนไปหมด” โม่หลีพูดพลางส่ายหัวราวเรื่องที่นางบ่นนั้นเป็นจริง
“พูดแบบนี้แปลว่าแม่ไม่ดีอย่างนั้นสิ” หลงซินเยว่แสร้งกล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“ไม่ใช่สิ ท่านแม่ ท่านแม่ดีที่สุด โม่หลีไม่ได้พูดว่าท่านแม่ไม่ดีนะ” โม่หลีรีบผละจากพี่สาว ไปปลอบท่านแม่ที่กำลังโมโห
“นังหนูคนนี้กล้าพูดทุกอย่างเลยจริงๆ” หลิวหลีพูดกลั้วหัวเราะ
“ท่านแม่ ท่านหลอกข้า” โม่หลีเพิ่งจะรู้ตัวว่าโดนหลอก จึงยื่นปากน้อยๆ
“นังหนู ต่อไปห้ามพูดจาเหลวไหลอีก” หลิวหลีลูบจมูกโม่หลีเบา ๆ
“หลิวหลี เจ้าจะพักผ่อนเลยหรือไม่ ศึกการจัดอันดับเพิ่งสิ้นสุดลง เจ้าคงจะเหนื่อยไม่น้อย” หลงซินเยว่มองลูกสาวคนโตด้วยความเป็นห่วง ลูกสาวคนโตของนางคงต้องเจอกับเรื่องยากลำบากมาไม่น้อย
“ไม่ต้องหรอก ท่านแม่ ยาศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าทิ้งไว้ให้ท่านกับท่านพ่อพอใช้หรือไม่” หลิวหลีส่ายหัว นางไม่เหนื่อยจริงๆ พอมาถึงช่วงพลังนี้แล้วนางต้องรอโอกาสเท่านั้น
“ท่านพี่ พี่ไม่เห็นถามข้าเลยว่ายาของข้าพอหรือไม่” โม่หลีแสดงท่าทางไม่พอใจ ทำไมไม่ถามถึงนางบ้าง
“เจ้าน่ะไม่ต้องเป็นห่วง ยาที่พี่เตรียมไว้ให้เจ้า เจ้าใช้จนถึงอายุ 20 ก็ยังเหลือเลย แต่ส่วนใหญ่แล้ว ข้ามอบให้ท่านแม่ช่วยดูแล เจ้าแค่ไม่รู้เท่านั้นเอง” หลิวหลีไม่ได้แค่ลูบจมูกน้องสาว แต่ดีดแทน
“ไม่อยากจะเชื่อว่าท่านแม่จะไม่บอกข้า”
“จะบอกเจ้าไปทำไม สมบัติมากมายขนาดนั้นจะปล่อยให้คนมาปล้นเจ้าหรือ เพื่อนๆในสำนักฝึกฝนของสกุลรู้เข้าไม่ปล้นเจ้าถึงจะแปลก”หลิวหลีพูดจบ สีหน้าหลงซินเยว่กับโม่หลีก็แปลกไป
“เกิดอะไรขึ้น มีคนมารังแกโม่หลีหรือ เป็นอย่างที่ข้าเดาไว้จริงๆ มีคนมาแย่งของของโม่หลีงั้นหรือ” สีหน้าหลิวหลีจริงจัง คนคิดสั้นคนไหนถึงได้กล้าแย่งสิ่งของของน้องนาง
“หลิวหลี ไม่ต้องพูดถึงก็ได้ ต่อไปเจ้าก็คิดเสียว่าในบ้านสกุลจ้าน เจ้ามีญาติเพียงคนเดียวที่นั่นก็คือท่านลุงของเจ้าเป็นญาติก็พอ คนสกุลจ้านที่เหลือไม่รู้จักรู้คุณคน เสียแรงที่ลูกของข้าปรุงยาให้พวกเขา ในฐานะที่เป็นแม่ ข้าจัดการเรียบร้อย โดยไม่ส่งยาศักดิ์สิทธิ์ไปให้บ้านสกุลจ้านอีก” พูดถึงเรื่องนี้หลงซินเยว่ก็รู้สึกหัวเสีย สุดท้ายส่งท่านลุงใหญ่มาโน้มน้าวเสียที่ไหน มาพูดจาข่มขู่พวกเขาชัด ๆ จึงไม่บอกนังหนูไม่เช่นนั้นนางอาจไปถล่มบ้านสกุลจ้านอีกครั้งก็เป็นได้
“จะไม่ส่งผลกระทบต่อคนผู้นั้นหรือ?” เฮ้อ ก็ยังเรียกพ่อไม่ลง
“ไม่ต้องเป็นห่วง พ่อเจ้าพูดแล้ว พ่อของเจ้าไม่ใช่คนโง่ รังแกลูกสาวเขาแล้วยังจะใช้ยาศักดิ์สิทธิ์ของลูกสาวคนโตของเขาอีก พวกเขาไปเอาความกล้านี้มาจากไหน” หลงซินเยว่เหยียดหยามพฤติกรรมของคนสกุลจ้าน
“รังแกน้องสาวของข้า ยังกล้ามาพูดจาข่มขู่พ่อแม่ของข้า เรื่องนี้รอข้ากลับไปคิดบัญชีได้เลย จริงสิ ท่านแม่ ท่านยังไม่ได้บอกเลยว่ายาศักดิ์สิทธิ์ของท่านพอใช้หรือไม่” แม่ของนางพาออกนอกทะเลไปอยู่นาน
“พอใช้สิ แม่เป็นคนที่วาสนาดี เจ้าเป็นคนมีความสามารถ น้องสาวของเจ้าก็เป็นเด็กเชื่อฟัง แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว” หลงซิวเยว่มองลูกสาวทั้งสองด้วยความพึงพอใจ นี่คือความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของนาง
“โม่หลี ตอนนี้เจ้าได้เชิญอาจารย์มาสอนแล้วหรือยัง จะไม่ให้น้องได้อยู่กับคนรุ่นเดียวกันเลยก็คงจะไม่ได้ใช่หรือไม่ ท่านแม่” ประโยคแรกถามโม่หลี ประโยคหลังถามแม่ของนาง
“ไม่เป็นไร ตอนนี้โม่หลีเรียนที่สำนักฝึกฝนของสกุลหลง ตอนท่านตากับลุงทั้งสามของเจ้าได้ยินเรื่องนี้เข้า เกือบจะพากันไปถล่มบ้านสกุลจ้าน แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ก็เถอะ ลูกศิษย์สกุลหลงรับเคราะห์ไปด้วยต้องถูกตาของเจ้าตักเตือนทุกคน” หลงซินเยว่นึกถึงสีหน้าของท่านพ่อในตอนนั้น ก็พลันรู้สึกอุ่นใจ ถึงแม้หลานสาวคนเล็กจะไม่ได้มีโดดเด่นเช่นหลิวหลี แต่บิดาของนางก็ปฏิบัติกับหลานสาวทั้งสองอย่างเท่าเทียมกัน
“ท่านตาทำถูกต้องแล้ว ข้ามียาศักดิ์สิทธิ์มากก็จริง แต่ก็ไม่อยากจะให้คนไม่รู้คุณคน ต่อไปไม่ต้องให้ยาศักดิ์สิทธิ์สกุลจ้านอีก หากมีมากเกินก็เก็บไว้ให้น้องใช้ในอนาคต หากเนิ่นนานนัก ข้ายอมให้โม่หลีโยนเล่น แต่ไม่ให้คนพวกนั้น”
“จริงด้วย ตอนนี้มีคนพยายามตีสนิทแม่ เพราะประโยคที่เจ้าบอกว่าหากไม่ชอบหน้าใครก็เอายาทุบหัวเขาเลย ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีคนกี่คนที่คุกเข่าขอให้แม่เอายาทุบหัวเขา” เมื่อนึกถึงคำพูดไร้สาระของลูกสาว หลงซินเยว่ก็อยากจะหัวเราะออกมา
“ท่านแม่” หลิวหลีหน้าแดงน้อยๆ
“แค่กๆ โม่หลี เจ้าอย่าเลียนแบบเอายาผงของเจ้าไปทุบใครเข้าล่ะ” หลงซินเยว่เตือนลูกสาวคนเล็กที่ฟังอย่างออกรสออกชาติ
“ท่านแม่ ข้าไม่ทำหรอก ถึงแม้ว่าตอนนี้สำหรับพี่สาวแล้วการทำยาผงถือเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ว่าก็ไม่ควรจะฟุ่มเฟือย” โม่หลีแสดงออกว่าตนเองไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่
“โม่หลีเด็กดี” หลิวหลีลูบหัวโม่หลีเบา ๆ
“ท่านแม่ มียาตัวหนึ่งสามารถเอาให้โม่หลีใช้ได้แล้ว” หลิวหลีครุ่นคิดแล้วกพูดขึ้น
“ตัวไหนหรือ” หลงซินเยว่ไม่รู้จริงๆ ลูกสาวคนโตให้ยาผงนางมามากเกินไป
“ยาผงล้างไขกระดูก ถึงแม้ตอนนี้ข้าจะสามารถปรุงยาเม็ดล้างไขกระดูกได้แล้ว แต่น้องยังเด็กอาจทนฤทธิ์ยาไม่ไหว ยาผงล้างกระดูกเป็นสูตรที่เบาลงมา ค่อนข้างอ่อนโยน มีประสิทธิภาพต่อเด็กที่เพิ่งฝึกบำเพ็ญ เพียงแต่อาจเจ็บปวดเล็กน้อย โม่หลีเจ้ากลัวเจ็บหรือไม่” หลิวหลีถามขึ้น
“ไม่กลัว ข้าไม่กลัวเจ็บหรอก เป็นของที่ท่านพี่เตรียมไว้ให้ข้า อีกอย่างเจ็บแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก หากเจ็บแค่นี้ยังทนไม่ได้ ก็ไม่ต้องบำเพ็ญเพียรแล้ว” โม่หลีพูดอย่างหนักแน่น
“สมแล้วที่เป็นน้องสาวข้า กล้าหาญเหลือเกิน” หลิวหลีชื่นชมน้องสาวตนเองอย่างตรงไปตรงมา
“โม่หลี เจ้าจะต้องรีบๆโต พี่กับท่านแม่ไม่อาจปกป้องเจ้าไปได้ตลอด” หลิวหลีตอนนี้รับรู้ถึงความลำบากจากพลังบำเพ็ญเพียรที่ก้าวหน้าเร็วเกินไป น้องสาวยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ตัวนางเองอาจจะบรรลุเป็นเซียนแล้ว หลังๆ มานี้ พลังบำเพ็ญเพียรของท่านพ่อท่านแม่ยิ่งสูงขึ้น ก็ยิ่งต้องการทรัพยากร จึงไม่มีเวลาดูแลโม่หลี
“ท่านพี่ พี่ไม่ได้บรรลุขั้นอีกแล้วใช่หรือไม่” โม่หลีเดาได้เพียงความเป็นไปได้นี้เท่านั้น ตั้งแต่นางเริ่มบำเพ็ญเพียร ก็เข้าใจว่าความน่ากลัวในพรสรรค์ของพี่สาว คนอื่นอายุเท่าพี่สาวของนางอยู่ในช่วงแยกจิต ก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว แต่ท่านพี่ของนางอยู่ในช่วงรวมกายาแล้ว ช่วงรวมกายาเป็นอย่างไรอย่างนั้นหรือ ก็คือระดับขั้นเดียวกับลุงของนาง ท่านตาอดีตผู้นำสกุลของนาง
“ก็พัฒนาอยู่ คิดว่าอีกไม่นาน พี่น่าจะสามารถปรุงยาศักดิ์สิทธิ์ระดับ 9 ให้เจ้าเล่นได้แล้ว”
“หลิวหลี เจ้าซึมซับเพลิงอัคคีอีกประเภทแล้วหรือ พลังบำเพ็ญเพียรของเจ้าตอนนี้อยู่ในช่วงชำระล้าง ถือเป็นพลังบำเพ็ญเพียรระดับขั้นปรมาจารย์แล้ว” หลงซินเยว่อ้าปากค้าง ลูกสาวของนางเป็นปรมาจารย์ช่วงชำระล้างแล้ว สวรรค์
“เจ้าค่ะ ออกไปครั้งนี้ได้อะไรกลับมาไม่น้อยเลยท่านแม่ จริงสิ โม่หลีเจ้าสวมสร้อยลูกประคำเส้นนี้ไว้ นี่เป็นของที่นักบวชผู้ทรงคุณธรรมมอบให้ จะสามารถคุ้มครองเจ้าให้ปลอดภัย” หลิวหลีนึกถึงลูกประคำของหยวนเจิน จึงล้วงออกมาแล้วสวมไปที่ข้อมือขวาของน้องสาว
“มีพลังแห่งธรรมไม่น้อย โม่หลีช่างมีวาสนาจริงๆ” ลูกสาวคนเล็กของนางได้พี่สาววางพื้นฐานให้จึงทำให้นางมีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพี่” โม่หลีชอบสร้อยเส้นนี้มาก กลิ่นอายบนสร้อยทำให้นางรู้สึกสบายอย่างมาก กระทั่งภายหลังหยวนเจินได้มาเจอเด็กสาวที่หน้าตาละม้ายคล้ายหลิวหลีถึง 5 ส่วน หยวนเจินถึงเพิ่งนึกออกว่าหลิวหลีเคยบอกว่าจะมอบลูกประคำนี้ให้กับน้องสาวนาง
“โม่หลี เจ้าจะต้องใส่ไว้ตลอด นอนก็ต้องใส่ล่ะ บำเพ็ญฝึกฝนก็ต้องใส่ไว้ สร้อยประคำเส้นนี้จะคุ้มครองเจ้าจากมารร้ายทั้งปวง” หลิวหลีกำชับ
“รู้แล้วเจ้าค่ะ”
“เอาล่ะ อยากจะไปบ้านท่านตากับพี่หรือไม่ คิดว่าตอนนี้ท่านตากับพวกท่านลุงน่าจะกำลังรอข้าอยู่” หลิวหลีเดา เพราะนางถือเป็นทายาทสกุลหลง การที่นางเป็นผู้ถูกเลือกอันดับ 1 ถือว่าเป็นการเชิดหน้าชูตาให้สกุลหลง
“ท่านพี่ ท่านโกหก เค้กนึ่งนุ่มนิ่ม แฮมเบอร์เกอร์สูตรเฉพาะ แล้วก็น้ำผลไม้ของข้าล่ะ” โม่หลีเบะปาก พี่สาวโกหก
“ก็ได้ ไปทำของอร่อยให้โม่หลีก่อน แล้วค่อยไปบ้านท่านตาดีหรือไม่” หลิวหลีลูบหัวน้อยๆของน้องสาว
“ดี ก็ท่านพี่สัญญากับโม่หลีแล้วนี่นา” โม่หลีอธิบาย
“ใช่แล้วล่ะ พี่อยากจะทำของอร่อยให้โม่หลีเด็กน่ารักของพี่เอง” หลิวหลีพูดรับช่วงต่อน้องสาว
“ถ้าเช่นนั้น ท่านแม่ ข้าพาโม่หลีไปที่ครัวก่อนแล้วกัน”
“ได้ อย่าตามใจนังหนูมากนักเลย” หลงซินเยว่กลัวเหลือเกินหากตามใจนางจนทำนางเสียคน ทำลายอนาคตของนาง
“ท่านแม่ เด็กดีจะไม่ถูกตามใจจนเสียคนหรอกเจ้าค่ะ” หลิวหลีรู้สึกว่าเด็กที่รู้เรื่องจะไม่ถูกตามใจจนเสียคน น้องสาวของนางเป็นเด็กดี เพราะฉะนั้นนางจึงไม่กังวลว่าโม่หลีจะถูกตามใจจนเสียคน
“ใช่ โม่หลีเป็นเด็กดี ไม่ถูกตามใจจนเสียคนหรอก” โม่หลีพยักหน้า นางเป็นเด็กดี นางมีไม่ทางเสียคนแน่นอน
“จ้ะ จ้ะ จ้ะ แม่คิดมากไปเอง” หลงซินเยว่หัวเราะแล้วพูดขึ้น ลูกสาวคนเล็กของนางเป็นเด็กดี ไม่ถูกตามใจจนเสียคนแน่นอน นางย่อมเชื่อคำพูดลูกสาวคนโตของนางกล่าว
…………………………