ตอนที่ 201 การคมนาคมของเสวียนเหมิน

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

สำหรับเรื่องการเปิดโรงเรียนของเสวียนเหมิน เหล่าเจ้าสำนักแสดงออกถึงความกระตือรือร้นอย่างมาก นอกจากการจัดระเบียบตารางเรียนและเอกสารประกอบการเรียนที่ต้องให้อวิ๋นเจี่ยวเป็นคนลงมือแล้ว นอกจากนั้น ตั้งแต่การรับสมัครจนถึงการแบ่งหน้าที่การสอนล้วนเป็นหน้าที่ของสำนักเทียนซือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าเจ้าสำนักที่สอบได้ห้าสิบอันดับแรก พวกเขามารวมตัวกันที่สำนักเทียนซือ เตรียมความพร้อมในทุกด้านตั้งแต่เนิ่นๆ

บอกได้ว่าทุกอย่างเตรียมพร้อม รอคอยการเปิดเรียนเท่านั้น! ในขณะที่ทุกคนกำลังวางแผนออกข้อสอบนั้น พวกเขาถึงได้พบปัญหาสำคัญปัญหาหนึ่งขึ้น

“การขับไล่ปีศาจและการฝึกฝนไม่อาจทำร่วมกันได้?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ มองไปยังเหล่าเจ้าสำนักที่ทำหน้าโศกเศร้า “ทำไม”

“สหายอวิ๋นไม่รู้อะไร” เจ้าสำนักสวีถอนหายใจออกมาทีหนึ่งก่อนพูด “ถึงแม้ลูกศิษย์เสวียนเหมินมีจำนวนไม่น้อย แต่ว่าพวกเขาล้วนกระจายไปทั่วทุกแห่งหน เมื่อคิดคำนวณแล้วจำนวนคนจึงมีไม่มาก มีบางสำนักต้องดูแลเมืองใหญ่หลายเมือง ดังนั้นลูกศิษย์ที่ขึ้นทะเบียนมักได้รับภารกิจที่ต้องปฏิบัติแทบจะทุกเดือน ลูกศิษย์ที่มีความเก่งกาจมากขึ้นอย่างระดับดอกไม้ ยิ่งต้องออกไปปฏิบัติภารกิจทุกสิบวัน อีกทั้งเหล่าลูกศิษย์ที่เรากำหนดให้เดินทางมาฝึกฝนมีจำนวนถึงพันคน ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเทียนซือระดับดอกไม้ หากมีคนหายไปจำนวนมากขนาดนี้ในครั้งเดียว เช่นนั้นจะมีภารกิจจำนวนมากที่ไม่มีคนรับผิดชอบ”

“ถูกต้อง” เจ้าสำนักคนหนึ่งพูดขึ้น “ถึงแม้ระยะนี้ยมโลกและโลกปีศาจจะสงบลงไม่น้อย ภารกิจที่ไหว้วานสำนักเทียนซือและสำนักต่างๆ ล้วนน้อยลงแล้ว แต่หากลูกศิษย์จำนวนมากเช่นนี้ล้วนเดินทางมาฝึกฝนที่สำนักเทียนซือ จะส่งผลให้กำลังคนไม่เพียงพอ”

“เช่นนั้นเราจะกำหนดวันหยุด” อวิ๋นเจี่ยวเสนอ “ครั้งที่แล้วพวกเราได้ทำการหารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กำหนดให้หนึ่งปีมีสองภาคเรียน จากนั้นทุกเจ็ดวันจะมีการพักผ่อนสองวันไม่ใช่เหรอ เช่นนั้นเราสามารถสลับเวลาของแต่ละห้องไม่ให้ตรงกัน เช่นนี้จำนวนคนที่เข้าเรียนจริงจะมีเพียงแค่สองถึงสามห้องเท่านั้น”

สีหน้าของเจ้าสำนักสวีกลับไม่ได้ผ่อนคลายลงนัก เขาถอนหายใจอีกครั้ง “เช่นนี้ก็คงดี เพียงแต่เดิมนั้นภารกิจที่สำนักเทียนซือมอบหมายออกไป มักเลือกสำนักที่อยู่ภายในพื้นที่นั้นๆ จากนั้นส่งลูกศิษย์ที่เหมาะสมเดินทางไป แต่ต่อจากนี้เหล่าลูกศิษย์ล้วนรวมตัวกันอยู่ในสำนักเทียนซือ หากสถานที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ห่างไกล อาจทำให้ล่าช้าได้”

อวิ๋นเจี่ยวผงะ ก่อนจะกวาดตามองอีกฝ่ายอย่างแปลกประหลาด จากนั้นถึงได้พูดขึ้น “เรามียันต์ขนส่งและข่ายพลังขนส่งไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ใช้” สิ่งนั้นสะดวกมาก แวบเดียวก็ถึงแล้วไม่ใช่เหรอ

ทุกคนต่างผงะไป ก่อนจะพูดขึ้น “ยันต์ขนส่งปกติใช้สำหรับเหตุการณ์คับขันระหว่างการต่อสู้ อีกทั้งข่ายพลังขนส่งมีระยะทางจำกัด หากสำนักนั้นอยู่ห่างไกล คงยากที่จะ…” ก็คงมีเพียงระดับอาจารย์อวิ๋นเท่านั้นถึงจะทำได้

“เช่นนั้นก็วางหลายอัน!” อวิ๋นเจี่ยวพูด “ส่งไปไกลมากไม่ได้ เช่นนั้นก็จัดตั้งสถานีเปลี่ยนเส้นทาง ส่งหลายครั้งคงจะดีกว่าพวกท่านเดินทางด้วยเท้าเปล่า?”

“…” เหมือนจะมีเหตุผล

“ข่ายพลังขนส่งไม่ได้เป็นเพียงข่ายพลังระดับกลางเท่านั้นเหรอ แค่เพียงวางข่ายพลังขนส่งในแต่ละสำนักหรือเมืองขนาดใหญ่สำหรับการเชื่อมต่อแต่ละสถานที่ เช่นนั้นระยะทางของสถานที่ใกล้ไกลก็ไม่มีความแตกต่าง”

“…”

“ทั้งที่พวกเรามีเทคโนโลยีการขนส่งที่ก้าวหน้าเช่นนี้ แต่กลับไม่รีบผลักดัน พวกท่านคิดอะไรกันอยู่” หากเป็นโลกที่นางอยู่ก่อนหน้านี้ คงใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีมีรถไฟความเร็วสูงวิ่งรอบโลกแล้ว

“…” เฮ้ย!

จริงด้วย!

เหล่าเจ้าสำนักต่างตะลึงงัน พวกเขารู้สึกเหมือนได้เปิดประตูโลกใหม่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำไมพวกเขานึกไม่ถึงจุดนี้กัน!

ข่ายพลังขนส่งเป็นข่ายพลังที่สะดวกอย่างมาก เพียงแต่ไม่นิยมใช้กันระหว่างสำนัก เหมือนดังที่อวิ๋นเจี่ยวกล่าวไว้ สาเหตุหลักเป็นเพราะว่าถึงแม้มันจะเป็นข่ายพลังระดับกลาง แต่ไม่ใช่ใครก็วางได้ เมื่อวางเสร็จเรียบร้อย แค่เพียงมีพลังลมปราณก็สามารถใช้ข่ายพลังในการขนส่งได้

ดังนั้นจึงอาจเกิดความวุ่นวายที่ไม่ว่าใครก็สามารถใช้ข่ายพลังขนส่งข้ามมาได้ อีกทั้งเมื่อหลายปีก่อน ยังเกิดเหตุการณ์ลักลอบเข้าสำนักอื่นเพื่อศึกษาวิชา สำนักที่มีข่ายพลังขนส่งมักเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นในแต่ละปี

ดังนั้นนอกจากสำนักที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันถึงจะมีข่ายพลังขนส่งเชื่อมต่อกันและกัน

แต่เสวียนเหมินในปัจจุบัน…

ยังจะมีใครแอบใช้ข่ายพลังขนส่งลักลอบเข้าสำนักคนอื่นกัน! ขอแค่เพียงมีคนตะโกนในกลุ่มส่งสารก็มีคาถาวิชาส่งมาให้ทันที ส่วนอาวุธวิเศษต่างๆ โรงเรียนเสวียนเหมินยินดีต้อนรับ รับรองว่านอกจากจะหลอมอาวุธได้แล้ว ยังสามารถผูกพลังลมปราณของเจ้าของเอาไว้ ดีเสียยิ่งกว่าของที่ขโมยมาร้อยเท่า

ดังนั้น…ข่ายพลังขนส่งต้องวาง! ต้องวางอย่างแน่นอน! อีกทั้งยังต้องวางให้มากด้วย!

“ท่านอาวุโสเจียว ท่านมีลูกศิษย์มาก ตอนนี้พวกท่านเริ่มออกเดินทางไปวางข่ายพลัง เริ่มจากสำนักบริเวณโดยรอบก่อน!” เจ้าสำนักสวีหันไปสั่งกำชับ

“รับทราบ เจ้าสำนัก!” ท่านอาวุโสเจียวพยักหน้าอย่างแรง “ข้าจะไปจัดลูกศิษย์ออกเดินทางเดี๋ยวนี้”

“ข้าไปด้วย! ท่านอาวุโสเจียว สำนักข้าก็มีลูกศิษย์ที่ชำนาญข่ายพลังอยู่บ้าง” เจ้าสำนักอีกท่านพูดขึ้น คนอื่นๆ ก็เช่นกัน

“ใช่ หากมีเพียงสำนักเทียนซือคงไม่รู้ต้องวางถึงเมื่อใด ข้าจะบอกกล่าวภายในสำนักให้เตรียมตัวกันเอาไว้”

“ใช่ๆๆ ข้าก็ด้วย! ถึงแม้ข่ายพลังข้าจะไม่สู้หัวหน้าห้องเจียว แต่ข่ายพลังขนส่งข้ายังพอวางได้อยู่”

“ข้าด้วย!”

“ข้าด้วย!”

“ไปๆๆ ไปกันตอนนี้เลย!”

พูดจบ คนทั้งตำหนักต่างกระจัดกระจายกันไป แต่ละคนทำหน้าจริงจังเคร่งขรึม เตรียมตัวเดินทางไปสร้างการคมนาคมของเสวียนเหมินแล้ว

ไม่ว่าอย่างไร ไม่อาจชะลอการทดสอบเปิดภาคเรียนได้! พวกเขาออกข้อสอบเอาไว้หมดแล้ว!

(。。•˘_˘•。。)

เมื่อมีเจ้าสำนักเป็นผู้นำ คนทั้งเสวียนเหมินจึงเริ่มกระตือรือร้นกับการมีส่วนร่วมกับการสร้างการคมนาคม หัวหน้าห้องเจียวนำเหล่าลูกศิษย์ข่ายพลังเดินทางไปทั่วสำนักน้อยใหญ่นับร้อย ก่อนจะจัดวางข่ายพลังขนส่งขนาดใหญ่ไว้ในแต่ละสำนัก

ยังไม่ทันได้รู้สึกตัว พวกเขาก็สร้างเครือข่ายการขนส่งไปทุกทิศทั่วทางได้สำเร็จแล้ว การเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายที่เดิมต้องใช้เวลากว่าสี่ห้าวันนั้น ตอนนี้ใช้เวลาเพียงหนึ่งถึงสองวันก็สามารถไปถึงได้แล้ว ถือเป็นการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและความศรัทธาของเสวียนเหมินอย่างยิ่ง ส่งผลให้ลูกศิษย์ใหม่ของแต่ละสำนักก็เพิ่มขึ้นมามากไม่น้อย

อวิ๋นเจี่ยวยินดีเป็นอย่างยิ่งกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่นางได้รับส่วนแบ่งจากค่าเรียนของภาคเรียนที่หนึ่งที่ทำให้นางพอใจมากยิ่งขึ้น ในขณะที่นางกำลังคิดแผนการรับสมัครนักเรียนภาคเรียนต่อไปนั้น ชายแก่กลับเดินถือจดหมายฉบับหนึ่งเดินเข้ามา

“ภารกิจจากสำนักเทียนซือ?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ มองไปยังจดหมายบนมือเขา

“ใช่!” ชายแก่พยักหน้า มีความสงสัยเล็กน้อย “ตั้งแต่พวกเราขึ้นทะเบียน สำนักเทียนซือไม่ได้มอบหมายภารกิจให้พวกเรามานานมากแล้ว ทำไมถึงได้มอบหมายมากะทันหัน มีอะไรผิดพลาดหรือไม่”

“อ่อ” อวิ๋นเจี่ยวตอบกลับ “ข้าให้พวกเขามอบหมายเอง!”

“อา! ฮะ?” ชายแก่เบิกตาโต เหลือบมองนางทีหนึ่ง “ทำไมกัน?!”

ออกข้อสอบเบื่อแล้ว? ดังนั้นจึงต้องการไปขับไล่ปีศาจเป็นการพักผ่อนหรือ