เซี่ยยวี่หลัวไม่มีปากเสียงกับเขาอีก และไม่ได้อาละวาดจนเกิดความวุ่นวายในบ้านอีก ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เซียวยวี่อยากได้ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ทุกครั้งที่เห็นเซี่ยยวี่หลัว ยามนางพบเขา ถึงแม้จะเผยรอยยิ้มบางอยู่ตลอด แต่รอยยิ้มนั้นกลับดูเหินห่างเหมือนคนแปลกหน้า
นางอยากให้เขาสอบผ่านได้เป็นซิ่วไฉมาตลอด เพื่อให้นางได้เป็นฮูหยินขุนนางไม่ใช่หรือ?
เช่นนั้นเหตุใดนางถึงไม่เข้าใกล้เขาเล่า? เหตุใดถึงเอาแต่แย้มรอยยิ้มทั้งวัน แต่ความจริงกลับเป็นความเย็นชาที่เหินห่าง นางอยากทำอะไรกันแน่?
แสร้งปล่อยเพื่อจับ?
เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงเป็นเรื่องที่เสียเวลาและไร้ประโยชน์ที่สุด เขาไม่มีแก่ใจจะสนใจเรื่องเหล่านี้
ในเมื่อเซี่ยยวี่หลัวแต่งกับเขาแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องที่สิ้นเปลืองกำลังและไม่ได้ประโยชน์เหล่านี้
เซียวยวี่เดินไปไกลมาก จวบจนเขาไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลังอีก เขาจึงหยุดฝีเท้าอย่างฉับพลัน หันขวับมองไปทางด้านหลัง
เซี่ยยวี่หลัวตามเขาไม่ห่างมาตลอด ระยะห่างระหว่างสองคนจะไม่เกินสองหมี่* แต่ตอนนี้ ทั้งสองคนอยู่ห่างกันสิบกว่าหมี่ เซี่ยยวี่หลัวยืนอยู่ข้างหลัง จ้องมองเขาด้วยแววตาเลื่อนลอย
เซียวยวี่หยุดยืน หันมองนาง
เซี่ยยวี่หลัวผงะไป เมื่อครู่นี้นางกำลังคิดเรื่องต่างๆ คิดอย่างตั้งใจเกินไป กว่านางจะรู้ตัว เซียวยวี่ก็อยู่ห่างจากนางมากแล้ว นางจึงถือโอกาสไม่เดินตาม ยืนอยู่ที่เดิม
นางกำลังคาดเดา ว่าเซียวยวี่จะกลับบ้านโดยลืมไปว่าด้านหลังเขายังมีคนเดินตามอยู่คนหนึ่งหรือไม่
หนึ่งหมี่ สองหมี่ สามหมี่…
เซียวยวี่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนถึงเจ็ดหมี่ แปดหมี่ เก้าหมี่ สิบหมี่…
เส้นทางในหมู่บ้านเลี้ยวลดคดเคี้ยว หากเซียวยวี่เดินห่างออกไปอีกหนึ่งถึงสองหมี่ เขาก็จะอ้อมผ่านเรือนหลังหนึ่ง เช่นนั้นเซี่ยยวี่หลัวก็จะถูกทิ้งห่างอยู่ด้านหลัง มองไม่เห็นอีก
เซียวยวี่หยุดนิ่ง มองนาง
ทั้งสองคนต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กัน จ้องมองอีกฝ่ายอยู่อย่างนี้
จวบจนเซียวยวี่เก็บคืนสายตา หันตัวไป
เซี่ยยวี่หลัวนึกว่าเขาจะสาวเท้าก้าวใหญ่เดินจากไป ใครจะรู้ว่าเซียวยวี่กลับวางตะกร้าลง ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับเขยื้อน
เซี่ยยวี่หลัวคิดอยู่ในใจ ว่าบุรุษคนหนึ่ง หาบตะกร้าหนักถึงเพียงนี้เดินมาตั้งไกล ก็ต้องหยุดพักผ่อนบ้าง
ไม่รู้ว่าทั้งคู่หยุดยืนอยู่ที่เดิมนานเพียงใด ก่อนที่เซี่ยยวี่หลัวจะสาวเท้าเดินไปด้านหน้าต่อ สิบหมี่ เก้าหมี่ เจ็ดหมี่…
จนถึงห้าหมี่ สี่หมี่ สามหมี่ สองหมี่…
เซียวยวี่ไม่ได้หันกลับมา แต่ขณะที่เซี่ยยวี่หลัวอยู่ห่างจากเขาเพียงประมาณแปดถึงเก้าก้าว จู่ๆ เขาก็ย่อตัวลง หาบไม้หาบขึ้น จากนั้นจึงยืนตัวตรง ขณะที่เซี่ยยวี่หลัวอยู่ห่างจากเขาเพียงห้าถึงหกเก้า เขาจึงสาวเท้าก้าวใหญ่เดินตรงไปข้างหน้า
เซี่ยยวี่หลัวหยุดเดิน ฝีเท้าของเซียวยวี่ที่อยู่ด้านหน้าก็ชะงักไป หยุดนิ่งเช่นกัน
เซี่ยยวี่หลัวยกเท้าก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ เพิ่งเดินได้สองก้าว เซียวยวี่ที่อยู่ด้านหน้าจึงเดินต่อ
เซี่ยยวี่หลัวขมวดคิ้ว หยุดเดินอีกครั้ง
ทำอย่างนี้ซ้ำๆ อยู่สามครั้ง เดี๋ยวหยุดเดี๋ยวเดิน เซี่ยยวี่หลัวพบเรื่องประหลาดเรื่องหนึ่ง
ที่เซียวยวี่หยุดเดิน คงไม่ใช่ว่ากำลังรอนางกระมัง?
เมื่อครู่นางนึกว่าเซียวยวี่หยุดเพื่อพักผ่อน แต่นางลองคิดอีกครั้ง นางเดินเซียวยวี่ก็เดิน นางหยุดเซียวยวี่ก็หยุด ไม่เหมือนกำลังพักผ่อน!
หากไม่ใช่พักผ่อน เช่นนั้นก็กำลังรอนาง
พอความคิดนี้ผุดขึ้นมาในห้วงภวังค์ เซี่ยยวี่หลัวก็รู้สึกตกใจยิ่งนัก
เซียวยวี่หรือจะรอนาง?
เป็นเรื่องที่นางไม่กล้าแม้แต่จะคิด
พระเอกผู้เป็นที่โปรดปรานของเทพแห่งโชคชะตากลับสนใจนางที่เป็นเพียงตัวประกอบ สวรรค์ทรงโปรด
ทั้งสองคนเงียบขรึมไม่กล่าวอะไร คนหนึ่งอยู่ข้างหน้า อีกคนอยู่ข้างหลัง ตรงกลางมีระยะห่างห้าถึงหกก้าวตลอด
เส้นทางสายเล็กที่ไม่ไกลนัก ทั้งสองคนเดินอย่างเชื่องช้า รู้สึกว่ายาวนานประหนึ่งเดินมาครึ่งค่อนชีวิต ในที่สุด ก็เห็นประตูใหญ่ ถึงบ้านแล้ว
เซียวยวี่หาบของไว้บนบ่า ท่าทางของเขาเปิดประตูไม่สะดวก เซี่ยยวี่หลัวรีบเดินขึ้นหน้าสองก้าว หยิบกุญแจออกมาปลดแม่กุญแจที่ปิดบ้านไว้
จากนั้นจึงหันออกด้านข้าง เซียวยวี่ถึงประตูบ้านพอดี ทั้งสองคนรู้จังหวะกันเป็นอย่างดี เซียวยวี่หาบตะกร้าเข้าบ้านพอดี นำตะกร้าไปวางไว้ในห้องโถง ดึงไม้หาบออก วางไว้ด้านหลังประตู
เดิมทีเซียวยวี่คิดจะออกบ้านไปทันที แต่สายตาของเขามองลอดผ่านหน้าต่าง ก็หยุดยืนไม่ได้เคลื่อนไหวอีก
เซี่ยยวี่หลัวที่ปิดประตูเสร็จแล้วไม่ได้เข้าห้องโถงพร้อมเซียวยวี่ แต่กำลังล้างมืออยู่ด้านนอกเพื่อถ่วงเวลา
ถูจนหนังแทบจะหลุดลอกออกมาหนึ่งชั้นแล้ว ยังไม่เห็นเซียวยวี่ที่อยู่ในห้องโถงออกมา
เซี่ยยวี่หลัวเบ้ปากทีหนึ่ง แสดงสีหน้าไม่พอใจ นางไม่รู้เลยว่า เซียวยวี่ในยามนี้ กำลังยืนอยู่ริมหน้าต่าง หน้าต่างหันไปทางตำแหน่งที่เซี่ยยวี่หลัวล้างมือพอดี นางย่อตัวอยู่ตรงนั้น เซียวยวี่เห็นสีหน้าจากใบหน้าด้านข้างของนางอย่างกระจ่างแจ้งและชัดเจน
หลังจากใช้มือสองข้างถูสบู่ ถูด้านบน ก่อนถูด้านล่าง ใช้นิ้วมือประสานกันแล้วจึงถู ทั้งยังถูหลังมือ และฝ่ามือ ถูเสร็จหนึ่งรอบยังไม่พอ ยังเริ่มถูใหม่อีกครั้ง
เซียวยวี่มองแล้วถึงกับขมวดคิ้ว มือสองข้างรวมกันยังไม่ใหญ่เท่าฝ่ามือเดียวของเขาด้วยซ้ำ ล้างยากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? ถูจนหนังแทบจะหลุดลอกแล้ว ยังจะถูอีก!
ดูไปแล้วเหมือนเซี่ยยวี่หลัวกำลังล้างมือ ความจริงกำลังฟังเสียงเซียวยวี่อยู่ตลอด รออยู่ครู่ใหญ่ ไม่เห็นเขาออกมา เวลานี้นางก็เห็นเซียวยวี่แล้วเช่นกัน
พอเห็นเขาขมวดคิ้ว นึกว่าเขากำลังไม่พอใจที่นางล้างมือช้า เซี่ยยวี่หลัวจึงรีบกล่าว “คือ ในห้องของเจ้าก็มีน้ำ! ”
มีทั้งสบู่และน้ำสะอาด ไม่จำเป็นต้องรอข้า! เจ้าไม่เห็นหรืออย่างไรว่าข้ายังล้างไม่เสร็จ?
เซียวยวี่เหลือบมองนางแวบหนึ่ง จากนั้นจึงกลับห้องของตัวเอง
พอเห็นเขาเข้าห้องไป จิตใจของเซี่ยยวี่หลัวที่วิตกอยู่ตลอดจึงผ่อนคลายลง
เอาล่ะ ในที่สุดนางก็สามารถล้างมือให้เสร็จได้แล้ว หากถูต่อไป ผิวคงหลุดลอกออกมาจริง
เซี่ยยวี่หลัวรีบนำน้ำสะอาดมาล้างมือ ใช้ผ้าเช็ดมือสะอาดเช็ดครู่หนึ่ง ก่อนกลับเข้าห้องไปอย่างมีความสุข
นางไม่ทันสังเกตเห็น ว่าเซียวยวี่ยืนอยู่ในห้องของเขา ก็สามารถมองเห็นนางผ่านหน้าต่างได้เช่นกัน เห็นสีหน้าเบิกบานใจบนใบหน้านาง เมื่อครู่ยังล้างมืออย่างตั้งอกตั้งใจ พอเขาเดินจากไป นางก็ล้างเสร็จแล้ว
จะไม่เสร็จได้หรือ หากยังล้างต่อไป ผิวคงถูกนางถูจนหลุดลอกแล้ว
ภายในห้องมีน้ำสะอาดอ่างหนึ่ง เซียวยวี่ถกแขนเสื้อขึ้น แช่มือลงไปในอ่าง
ความเย็นแผ่ขยายมา เซียวยวี่รู้สึกถึงความผิดปกติเล็กน้อย
เมื่อครู่นี้ เหตุใดเขาถึงยืนอยู่ในห้องโถงมองเซี่ยยวี่หลัวล้างมือ เขากำลังรอที่ล้างมือ?
น่าจะเป็นเช่นนั้น
เซี่ยยวี่หลัวล้างมือสะอาดแล้วจึงเข้าห้องไปดูของสองตะกร้าใหญ่
ตะกร้าเป็นใบใหม่ น่าจะเพิ่งสานเสร็จไม่นาน ไม้ไผ่ที่ใช้สานมีความหนาและความกว้างไม่สม่ำเสมอกัน รูปร่างตะกร้าที่สานออกมาก็ดูไม่เป็นทรงเท่าไร ดูไปแล้วแปลกพิกล
ช่างน่าประหลาดใจนัก ตะกร้าที่ดูน่าเกลียดเช่นนี้ยังมีคนนำออกไปขาย ขายก็ยังไม่เท่าไร แต่กลับมีคนซื้อจริง!
—————————–
เชิงอรรถ
*หมี่ หรือ เมตร ซึ่งเป็นหน่วยวัด