ตอนที่ 201 การรวมญาติอีกครั้ง (4)

หมอหญิงจ้าวดวงใจ

ตอนที่ 201 การรวมญาติอีกครั้ง (4)

เหยาเยี่ยนอวี่กำลังครุ่นคิดคำพูดเมื่อครู่ที่มารดาเอกและบิดากล่าว ทันใดนั้นก็รู้สึกตึงตรงแขนเสื้อเลยรีบหันไปมอง เห็นเหยาเชวี่ยหวาจับจอกเหล้าพลางมองตนเองด้วยรอยยิ้มพร้อมเอ่ยถาม “ท่านพี่ ท่านกำลังคิดสิ่งใดอยู่”

“เปล่า” เหยาเยี่ยนอวี่ยกจอกเหล้าขึ้นกับชนกับจอกของเหยาเชวี่ยหวาพร้อมคลี่ยิ้ม “ไม่เจอกันนาน น้องสาวสูงขึ้นไม่น้อย”

“ท่านพี่ ท่านดูสิ นี่เป็นสิ่งที่ท่านพี่ให้ข้า ข้าสวมไว้ตลอดเวลา” ขณะที่เหยาเชวี่ยหวากล่าวก็ยื่นข้อมือออกมา ทำให้เห็นพลอยแดงประวาลวรรณเลี่ยมทองคำ

เหยาเยี่ยนอวี่มองเพียงพริบตาเดียวแล้วเห็นว่าเป็นเศษพลอยแดงประวาลวรรณที่นางให้ช่างเอาไปเลี่ยมทองคำแล้วทำเป็นสร้อยข้อมือ ถึงแม้จะเป็นเศษพลอยทว่าสีและน้ำพลอยกลับดียิ่งนัก อีกทั้งยังเป็นงานฝีมือที่ช่างคิดช่างทำ กล่าวพูดได้ว่าเป็นสร้อยข้อมือที่ทำขึ้นอย่างพิถีพิถัน

ดังนั้นนางจึงจับมือของเหยาเชวี่ยหวาด้วยรอยยิ้ม สังเกตมองอย่างละเอียด พร้อมพูดขึ้น “ช่างงดงามเหลือเกิน ผิวพรรณที่ขาวผ่องของน้องสาวตอนสวมใส่ทองคำนั้นงดงามที่สุด”

“ในเมืองหลวง…เป็นสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองยิ่งนัก” เหยาเยี่ยนอวี่ครุ่นคิดไปสักพักแล้วใช้แค่คำว่า’เจริญรุ่งเรือง’ มาเปรียบเปรยถึงเมืองหลวงอวิ๋น

เหยาเชวี่ยหวากะพริบตาอย่างไร้เดียงสาแล้วเอ่ยถาม “เจริญรุ่งเรืองกว่าถนนเจิ้งอันในเจียงหนิงของพวกเราอีกหรือ”

เหยาเยี่ยนอวี่หลุดหัวเราะ “แน่นอนอยู่แล้ว”

เหยาเชวี่ยหวาแสดงท่าทีอิจฉาออกมา

จากนี้ซ่งฮูหยินผู้เฒ่า กับทางฝั่งหวางซื่อต่างก็ปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับงานเลี้ยงฉลองที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้า เหยาเยี่ยนอวี่ฟังแล้วรู้สึกเหนื่อยหน่ายจึงแค่นั่งชูคอรอคอยอยู่ตรงนั้น เจียงซื่อเห็นจึงเสวนากับหวางซื่อ “น้องรองเหนื่อยมาตลอดทางแล้ว ยังเสวนากับฮูหยินผู้เฒ่ามาครึ่งวันเช่นนี้ ตอนนี้ก็คงทนไม่ไหวแล้ว ให้พวกนางไปนอนหลับพักผ่อนก่อนเถอะ”

หวางซื่อรีบพูดขึ้น “ที่กล่าวก็ถูก พวกเราต่างก็เอาแต่พูดจึงละเลยเรื่องนี้ไป”

ด้วยเหตุนี้ เหยาเยี่ยนอวี่จึงหลุดพ้นจากการบทเสวนางานเลี้ยงเฉลิมฉลองได้เสียที นางกล่าวอำลาและกลับเรือนไปพร้อมกับเหยาเชวี่ยหวา

เรือนที่พักในวันนี้ยังคงเป็นเรือนที่นางพักอาศัยเมื่อก่อนหน้านี้ เป็นเรือนที่ติดกับของเหยาเชวี่ยหวา ต่างเป็นเรือนที่มีเรือนเล็กสามเรือน มีทั้งห้องข้างและเรือนปีกซ้ายขวาอย่างครบถ้วน เรือนเหล่านี้เป็นเรือนที่พักของพวกบ่าวไพร่ ส่วนเรือนขนาดเล็กที่อยู่ด้านหลังเป็นเรือนสำหรับเก็บของ พอรู้ว่านางจะกลับมา หวางซื่อจึงสั่งให้คนเก็บกวาดเรือนให้เรียบร้อยตั้งแต่เนิ่นๆ ของตกแต่งทุกอย่างในเรือนยังคงเหมือนเดิม มีเพียงฟูกที่นอนและมุ้งเท่านั้นที่เปลี่ยนเป็นอันใหม่

นางใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาสิบปี แน่นอนว่าต้องชินกับถนนหนทางอยู่แล้ว

เฝิงหมัวมัวสั่งให้คนเตรียมน้ำร้อนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ หลังจากเข้าเรือน ชุ่ยผิงและชุ่ยเวยก็มาคอยปรนนิบัติรับใช้เหยาเยี่ยนอวี่อาบน้ำ

ตอนที่แช่อยู่ในน้ำอุ่นหอมกรุ่น เหยาเยี่ยนอวี่สูดลมหายใจเข้าอย่างสบายและผ่อนคลายพร้อมหลับตาลง

“คุณหนูคงเหนื่อยแย่เลย ให้บ่าวนวดให้ท่านหน่อยเถอะเจ้าค่ะ” ชุ่ยเวยพูดพลางตรวจหาจุดชีพจรตรงไหล่และแขนนวดให้นาง

“ไม่รู้ว่าครั้งนี้กลับมาจะมีสักกี่วันที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข” เหยาเยี่ยนอวี่นอนพิงอยู่ในอ่างน้ำแล้วหลับตาครุ่นคิดถึงบรรยากาศอันครึกครื้นในจวนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ในงานเลี้ยง เหล่าฮูหยินและสะใภ้ในแต่ละจวนต่างก็ร่วมอวยพร ตนเองกับเชวี่ยหวาถูกฮูหยินผู้เฒ่าลากออกมาอยู่ท่ามกลางผู้คน จากนั้นก็ถูกเหล่าฮูหยินจากจวนต่างๆ วิพากษ์วิจารณ์ไปเรื่อยเปื่อย ลับหลังก็ยังแอบถามวันเกิดและแปดตัวอักษรของพวกนาง

ทำราวกับพวกนางเป็นสินค้าที่รอให้ราคาสูงแล้วค่อยจำหน่าย เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มขมขื่น เวลานี้นางกลับรู้สึกเสียใจที่ตอนนั้นไม่ได้ตอบตกลงเว่ยจาง หากกำหนดงานสมรสไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ยังให้เขาเป็นโล่คอยปกป้องตัวเองได้

เช้าตรู่วันที่สอง คุณหนูรองแห่งตระกูลเหยากลับป่วย ไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงอะไร แค่เป็นไข้ต่ำๆ ดูสะลึมสะลือและไร้ชีวิตชีวาเท่านั้น

ตั้งแต่เช้าตรู่ที่ตื่นขึ้นมาก็ไปเข้าพบฮูหยินผู้เฒ่าซ่ง ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นสีหน้าของนางไม่ดีนักจึงเอ่ยถาม “หลับไม่สนิทหรือไม่สบายตรงไหนเล่า”

เหยาเยี่ยนอวี่รีบพูดขึ้น “อาจจะเป็นเพราะว่าตอนอยู่บนเรือนอนหลับไม่ค่อยสนิท ตอนนี้ยังคงรู้สึกไม่มีชีวิตชีวาเจ้าค่ะ”

“เมื่อวานข้ายังเห็นว่าเจ้าสบายดีอยู่เลย” ซ่งฮูหยินฮูหยินขมวดคิ้ว “ตอนกลางคืนสะท้านหนาวหรือเปล่า”

เหยาเยี่ยนอวี่จึงถือโอกาสเอาเหตุผลนี้มาอ้าง “อาจจะใช่เจ้าค่ะ ในจวนอากาศร้อนกว่าบนเรือเจ้าค่ะ”

ซ่งฮูหยินผู้เฒ่าจึงโทษเฝิงหมัวมัว ชุ่ยผิง และคนอื่นๆ “คนเหล่านี้ไม่รับใช้นายหญิงดีๆ แม้กระทั่งนายหญิงป่วยยังไม่รู้ สมควรโดนตีจริงๆ”

เหยาเยี่ยนอวี่รีบพูดขึ้น “ข้าเองชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ เวลานอนไม่ได้ให้พวกนางมาเฝ้าในเรือนเจ้าค่ะ”

ซ่งฮูหยินผู้เฒ่าขมวดคิ้วและถอนหายใจทันที “เจ้ายังหัวดื้อเยี่ยงนี้ ไหนๆ ก็รู้สึกไม่สบายแล้วก็กลับเรือนไปพักผ่อนเถอะ” ขณะเอ่ยพูดก็หันไปสั่งเจียงซื่อ “รีบสั่งให้คนไปตามหมอมาดูอาการเสียหน่อย กินยาต้มสมุนไพรปรับสภาพร่างกาย อีกไม่กี่วันยังต้องจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองในจวนอีก!”

เจียงซื่อคลี่ยิ้ม “ตอนนี้ทั้งเมืองเจียงหนิงเกรงว่าคงจะหาหมอที่มากฝีมือเท่าน้องรองไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ”

ซ่งฮูหยินคลี่ยิ้ม “ข้าแก่เฒ่าจนสมองเลอะเลือนไปแล้ว!” แล้วก็มีคนเอ่ยถามเหยาเยี่ยนอวี่ “เจ้ารู้สึกเช่นไรบ้าง อาการหนักหรือไม่”

เหยาเยี่ยนอวี่รีบพูดขึ้น “อาจแค่รู้สึกเหนื่อย นอนพักผ่อนสักสองวันก็ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ”

ซ่งฮูหยินผู้เฒ่าอุทาน “ไหนๆ ก็เป็นเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นก็กลับเรือนไปนอนพักหน่อยเถอะ นั่งเรือมาตลอดทางเช่นนี้ก็คงจะเหนื่อยหน่ายจริงๆ”

เหยาเยี่ยนอวี่กล่าวอำลาแล้วรีบกลับเรือนที่พัก

หลายวันมานี้นางก็รู้สึกเหนื่อยจริงๆ หลังจากกลับมาก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและนอนลงบนเตียง ให้ชุ่ยเวยนวดเส้นเอ็นให้ ผ่านไปไม่นานก็หลับไป

จากนั้นก็หลับสนิทไปทั้งบ่าย ตอนตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วเพิ่งกินโจ๊กไปไม่กี่คำก็ได้ยินเสียงของเหยาเชวี่ยหวา “ข้ามาดูอาการพี่รอง นางตื่นหรือยัง” นางกล่างพลางเข้ามาถึงประตูแล้ว

เหยาเยี่ยนอวี่คลี่ยิ้ม พิงอยู่บนตั่งไม้ “น้องสามมาแล้ว รีบนั่งเถอะ”

เหยาเชวี่ยหวานั่งลงบนเก้าอี้กลมตรงหน้าเหยาเยี่ยนอวี่ มองพี่สาวกินโจ๊กไปหนึ่งถ้วยจึงพูดขึ้น “สีหน้าของพี่สาวดูดีขึ้นเยอะ”

“นอนหลับพักผ่อนไปแล้วก็รู้สึกดีขึ้น ทว่ายังคงขี้คร้านจะขยับไปไหนมาไหน” เหยาเยี่ยนอวี่บ้วนปากแล้วพิงอยู่บนตั่งไม้อย่างเกียจคร้าน

เหยาเชวี่ยหวาอุทาน “ตลอดทั้งทางพี่สาวก็เหนื่อยมากแล้ว พักผ่อนไม่กี่วันก็คงหาย”

เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “โชคดีที่ข้าไม่ค่อยเมาเรือ ไม่เช่นนั้นก็คงจะทรมานแทบแย่”

“ช่วงที่พี่สาวไม่อยู่ข้าเฝ้าคำนึงถึงพี่ทุกวี่ทุกวัน” เหยาเชวี่ยหวากะพริบตากลมโตแล้วมองเหยาเยี่ยนอวี่ด้วยสายตาลึกซึ้ง

คุณหนูสามท่านนี้เกิดมาหน้าตาเหมือนมารดาของนาง รูปลักษณ์ภายนอกละมุนละไมและน่าดึงดูดยิ่งนัก โดยเฉพาะดวงตากลมโตคู่นี้ นัยน์ตาวาวใส ใบหน้าเหมือนตะขอที่เกี่ยววิญญาณผู้คนไปได้ตลอดเวลา

ทว่าก็เพราะเช่นนี้ ทำให้หวางซื่อไม่โปรดปรานเหยาเชวี่ยหวา จะกล่าวว่าหวางซื่อเป็นฝ่ายผิดก็ไม่ได้ เหยาเชวี่ยหวามีรูปลักษณ์ภายนอกเช่นนี้ จะถูกเกลียดชังก็ไม่แปลก

เหล่าสตรีในราชวงศ์ต้าอวิ๋นต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญตามลำดับดังต่อไปนี้ ต้องมีคุณธรรมจริยธรรมวาจา มีฝีมือในการเย็บปักถักร้อย และมีรูปลักษณ์หน้าตาที่งดงาม ‘รูปลักษณ์หน้าตาที่งดงาม’ ถูกจัดอยู่ในลำดับสุดท้าย อีกทั้งตามคุณสมบัติมาตรฐานของสตรีในตระกูลเลื่องชื่อคือต้องเป็นสตรีที่สง่าผ่าเผย สตรีที่มีคุณสมบัติเฉกเช่นหันหมิงชั่นถูกจัดอยู่ในกลุ่มสตรีชั้นสูง ส่วนสตรีเฉกเช่นเหยาเยี่ยนอวี่ก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ถือว่าไม่เลว