ฟางเจิ้งขมวดคิ้ว มหาวิทยาลัยของจ้าวต้าถงห่างจากภูเขาเอกดรรชนีไกลมาก เจ้านี่จะให้เขาช่วย? แปลกๆ นะ เขาไม่ควรไปหาบุพการี อาจารย์ หรือตำรวจอะไรพวกนี้เหรอ? แต่ฟางเจิ้งก็ยังตอบกลับไป “ช่วยอะไรเหรอ?”

“ไต้ซือ ฟางอวิ๋นจิ้งเกิดเรื่อง ตอนนี้คิดอยากตายทั้งวัน วันนี้แทบจะกระโดดตึก ตอนนี้ทุกคนสับเปลี่ยนกันดูเธออยู่…กลัวว่าถ้าไม่ระวังเธอจะหายไป ตอนนี้มหาวิทยาลัย อาจารย์ ตำรวจมากันหมด แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย เธอไม่ยอมพูด ไม่กินข้าว จิตแพทย์ก็ไม่มีประโยชน์…ผมคิดไปคิดมาก็นึกถึงแต่ท่าน พอมีวิธีช่วยเธอไหมครับ?” จ้าวต้าถงถาม

ฟางเจิ้งได้ยินดังนั้นจึงคลำหัวโล้นตัวเอง ถอนหายใจ ‘ยุ่งยากอยู่บ้างล่ะนะ’ มหาวิทยาลัยของจ้าวต้าถงอยู่นครเอกของมณฑลจี๋หลินซึ่งอยู่นอกเมืองเฮยซาน ไกลขนาดนั้นเขามีค่าเดินทางไม่พอหรอก!

“ระบบ ความฝันยามต้มข้ามฟ่างไปได้ไกลขนาดนั้นไหม?” วิธีเดียวที่เขาจะช่วยได้ก็มีแค่อภินิหารนี้

“ไม่ได้ แต่ว่าถ้านายยกระดับอภินิหาร จะทำผ่านช่องทางอื่นได้” ระบบตอบ

ฟางเจิ้งได้ยินพลันดีใจเกินคาด “ความฝันยามต้มข้าวฟ่างยกระดับได้?”

“แน่นอน” ระบบตอบอย่างตรงไปตรงมา

“ยกระดับยังไง?”

“ง่ายมาก จ่ายเงินจบ”

ฟางเจิ้งได้ยินหน้าพลันมืดทะมึน เจ้าระบบนี่มีจะตอบอย่างกระตือรือร้นแค่ตอนได้รับเงินเท่านั้น! แต่การช่วยคนก็เหมือนกับการดับเพลิง เขาจึงถาม “ใช้เงินเท่าไร”

“ไม่มาก ห้าแสนพอดี” น้ำเสียงระบบดูมีความสุขอยู่เล็กน้อย

บนหน้าผากฟางเจิ้งขึ้นเป็นเส้นสีดำทั้งหมด เจ้านี่มันจงใจ! เรียกราคาตามเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าเขา! ฟางเจิ้งจึงเอ่ยด้วยความโมโห “ระบบ นายคิดว่าทำแบบนี้มันสนุกนักรึไง?”

“ก็พอได้” ระบบว่า

ฟางเจิ้งมองบน เหมือนเห็นหางปีศาจชั่วร้ายโผล่มาจากก้นระบบ เจ้านี่มันใช่ระบบพระพุทธองค์ที่ไหนกัน เห็นๆ อยู่ว่าเป็นระบบปีศาจแห่งความละโมบทรัพย์!

ฟางเจิ้งสูดลมหายใจเข้าลึก “ฉันต้องการคำอธิบายที่เหมาะสม นายจะเรีบกราคาตามอำเภอใจแบบนี้ไม่ได้”

ระบบว่า “เรียกราคาตามอำเภอใจ? นายคิดว่าอภินิหารมันถูกนักรึไง? ในอภินิหารทั้งหมด เนตรสวรรค์ถือว่ามีประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่สุด แต่ระบบของเนตรสวรรค์ก็มากที่สุดเหมือนกัน การจะยกระดับเนตรสวรรค์ไปถึงจุดสูงสุด ราคาจะทำให้นายเข้าใจคำว่าหาเงินยาก ความฝันยามต้มข้าวฟ่างไม่ได้มีระดับมากขนาดนั้น มีแค่สามระดับ ตอนนี้นายระดับศูนย์ แต่ไประดับหนึ่งใช้ห้าแสน ไประดับสองใช้ห้าสิบล้าน ไประดับสามใช้ห้าพันล้าน!”

“ห้าพันล้าน?!” ฟางเจิ้งตาเหลือกแทบจะหมดสติไป คนที่รวยเป็นอันดับหนึ่งของโลกมีไม่เกินหลายหมื่นล้านเท่านั้น แม้มีคนมาก รวมสมบัติทุกอย่างแล้วจะมีเป็นแสนล้านหรือล้านล้านก็ตาม แต่สมบัติเหล่านั้นจะมีเท่าไรเชียวที่แปลงเป็นเงินเอาออกมาใช้ได้ทันที? นอกจากประเทศแล้ว ไม่มีใครทำได้!

แต่ฟางเจิ้งเป็นสามเณร มีวัดเก่าๆ แห่งหนึ่ง คิดจะหาเงินห้าพันล้าน? ให้เขานับนิ้วดู กดจนกระดูกแตกเลือดไหลก็ยังไม่มีหวังในชาตินี้

“ระบบ อุบาทว์เกินไปรึเปล่า?” ฟางเจิ้งถามด้วยความไม่ยอม

“แล้วจะยังไง? อภินิหารละหนึ่งหยวนเหรอ? อภินิหารเหนือกว่าความรู้ทั่วไปของโลกนี้ ความสามารถแบบนี้ห้าพันล้านถือว่าถูกแล้ว” ระบบว่า

ฟางเจิ้งตรึกตรอง มันก็มีเหตุผล ปัญหาคือมันแพงจริงๆ…

ตอนนี้เองวีแชตสั่นอีกครั้ง

เป็นวิดีโอส่งมาจากจ้าวต้าถง เห็นว่าในวิดีโอมีเด็กสาวคนหนึ่งยืนอยู่บนยอดตึก ชั่วขณะที่จะกระโดดลงมานั้น พนักงานดับเพลิงโผเข้าไปกอดเธอไว้! สองคนตกลงไปกลางอากาศ แต่เชือกดึงพนักงานดับเพลิงไว้ สองคนจึงถูกแรงเหวี่ยงไปชนกับผนัง ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้พนักงานดับเพลิงใช้หลังเป็นปราการเนื้อให้เธอ เด็กสาวจึงไม่บาดเจ็บ ถึงจะอยู่ไกลเล็กน้อย เป็นเงาเห็นหน้าตาไม่ชัด แต่เห็นรางๆ ว่าเป็นฟางอวิ๋นจิ้ง

พอเห็นภาพน่าหวาดเสียวแบบนั้น ฟางเจิ้งถอนหายใจ พนักงานดับเพลิงกับเด็กสาวคนนั้นไม่ได้รู้จักมักจี่กัน แต่ยอมเสี่ยงชีวิตช่วยกันในช่วงเวลาสำคัญ เขาเป็นหลวงจีนตะโกนบอกจะช่วยคนกลับใจทุกคน  สร้างบุญกุศลทำความดี สั่งสมบุญกุศลเพื่อสึก…ตอนนี้มีเรื่องให้เขาทำแล้ว แต่กลับมัวยืดยาด! น่าขายหน้าจริงๆ

เมื่อนึกถึงฟางอวิ๋นจิ้งที่ตอนแรกขึ้นเขามากับพวก สีหน้าสุภาพและสงบเสงี่ยม อ่อนโยนถ่อมตัวแถมยังหน้าตาดีอยู่บ้าง เขายากจะมองว่าเด็กสาวที่จะกระโดดตึกเป็นคนเดียวกับฟางอวิ๋นจิ้ง ถ้าเอามารวมกัน นอกจากความเสียดายแล้วก็มีแต่ความเสียดาย…

ฟางเจิ้งกล่าว “ช่างเถอะ วัดซ่อมช้าหน่อยแล้วกัน ระบบ เอาเงินแสนไปเลย ยกระดับความฝันยามต้มข้าวฟ่างให้ฉัน!”

“นายเตรียมตัวพร้อมรึยัง?” ระบบว่า

ฟางเจิ้งหน้าอึมครึม “เวลาแบบนี้นายยังเล่นอีก? อย่าเล่นให้มาก ยกระดับเลย!”

“ติ๊ง! ในการยกระดับอาจจะเจ็บหน่อยนะ…”

“โอ๊ย…นี่น่ะเหรอเจ็บนิดเดียว? อ๊าก…”

นกป่าบนเขาเอกดรรชนีบินว่อน หมาป่าเดียวดายกระโดดไปมา กระรอกตกใจจนวิ่งออกมาดูสถานการณ์…

“โอย…ระบบ เจ็บมานานเท่าไรแล้ว?” ฟางเจิ้งกุมหัว เจ็บจนน้ำตานอง

“หนึ่งนาที” ระบบตอบ

ฟางเจิ้งร้องอย่างตกใจ “หนึ่งนาที? ทำไมฉันรู้สึกเหมือนผ่านไปปีหนึ่งเลย? เจ็บโว้ย…ระบบ ยกระดับครั้งต่อไปถ้าเจ็บมาก รบกวนนายเตือนฉันก่อนนะ! แล้วก็นี่ไม่ได้เจ็บนิดเดียว แต่มันเจ็บจะตายเลย นายเข้าใจไหม?” ฟางเจิ้งกุมหัว เน้นเสียงสองคำหน้าโดยเฉพาะ

“เข้าใจ ครั้งหน้าจะเตือน” ระบบว่า

“ครั้งหน้า? เหอะๆ รอสักวันที่ฉันมรณภาพก่อน ฉันจะไปให้นายยกระดับความฝันยามต้มข้าวฟ่าง”

“ทำไมต้องรอถึงตอนจะมรณภาพล่ะ?”

“ก็ใกล้จะตายแล้วไง หนึ่งนาทีเท่ากับผ่านไปหนึ่งปีได้ ไม่ดีเหรอ?” ฟางเจิ้งเอ่ยอย่างไม่จริงใจ

ระบบหัวเสียแล้ว

“ไต้ซือ เป็นยังไงบ้างครับ ได้ไหม?” จ้าวต้าถงเร่ง

ฟางเจิ้งสงบลง เจ็บก็เจ็บไปแล้ว ได้อภินิหารมาแล้ว รีบช่วยคนดีกว่า หลังจัดระเบียบความคิดแล้วจึงตอบไปว่า “ไอ้ได้มันก็ได้ แต่ถ้าจะช่วยเธอต้องมีใช้ของบางอย่าง อีกเดี๋ยวอาตมาจะให้คนไปส่ง ถึงตอนนั้นเดี๋ยวจะบอกโยมอีกทีว่าใช้ยังไง”

“จริงเหรอครับ? ขอบคุณมากครับไต้ซือ!” จ้าวต้าถงเห็นดังนั้นพลันดีใจที่พบเรื่องเกินคาด!

ฟางเจิ้งหัวเราะแห้งๆ เขาไม่มีความมั่นใจมากนัก เจ้านี่ก็จริงๆ เลย ดันเชื่อด้วย! เอาเถอะ ในเมื่ออีกฝ่ายเชื่อใจตน เขาจะทำลายความเชื่อใจของอีกฝ่ายไม่ได้ เลยตอบไป “เดี๋ยวโยมเล่าเรื่องฟางอวิ๋นจิ้งให้อาตมาฟังหน่อย จำเอาไว้ว่ายิ่งละเอียดเท่าไรยิ่งดี อาตมาจะไปเตรียมของ จากนั้นจะให้ส่งเร็วเอาของไปให้”

“ครับ!” จ้าวต้าถงตอบกลับมาคำหนึ่งแล้วลากหูหานเข้ามา

“ต้าถง นายทำอะไร? ฉันไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้วเนี่ย จะเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้ว!” หูหานเงยหน้าขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ซ้ำยังต่อว่าด้วยความโมโห

“เช้าแล้วจะนอนทำไม ตื่นนอนมาเล่นกัน!” จ้าวต้าถงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ หัวเราะเสียงดังลั่น

“เล่นปู่แกสิ! ให้ฉันนอน! นายอยากเล่น เดี๋ยวฉันจะเล่นกับนายพรุ่งนี้เช้า ถ้าไม่เล่นด้วยจะถือว่าขี้กากเลย!” หูหานง่วงจริงๆ เมื่อคืนวานเขาเฝ้ายาม อดหลับอดนอนมาน้อยมากมีความรู้สึกว่าสมรรถนะร่างกายทั้งหมดใกล้จะชำรุด ไม่อยากทำอะไรเลย แค่อยากนอน อีกทั้งวันนี้มาถึงเวรจ้าวต้าถงเฝ้ากลางคืนแล้ว

“พรุ่งนี้เล่นก็เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ แต่ไต้ซือว่าจะช่วยแล้วนะ ฉันว่าแก้ปัญหาเรื่องฟางอวิ๋นจิ้งได้แล้ว” จ้าวต้าถงตอบ

หูหานหัวเราะเหอะๆ สองที “ไต้ซือเก่ง แต่อยู่ไกลเป็นพันลี้ จะบินมารึไง? ที่สำคัญนะไต้ซือไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา หรือว่าจะให้เขาใช้แขนกิเลนคู่ฟาดจนฟางอวิ๋นจิ้งคิดได้? อย่าเสียงดัง ให้ฉันนอนเถอะ…”

พูดจบหูหานก็นอนหลับสนิทบนเตียง

เดิมทีจ้าวต้าถงกำลังเร่าร้อน แต่ถูกน้ำเย็นจากหูหานราดจึงเหลือเพียงประกายไฟเล็กๆ เขาไม่มั่นใจในฟางเจิ้งจริงๆ แค่รู้สึกว่าฟางเจิ้งมหัศจรรย์มาก จึงไปหาอย่างมีความหวังลมๆ แล้งๆ

“ช่างเถอะ ไต้ซือบอกว่าจะช่วยก็ต้องดูที่ผลล่ะ ฉันก็ต้องเต็มที่เหมือนกัน…เฮ้อ คืนนี้ฉันอดนอนแล้ว…ผิวหน้าเนียนสวยของฉัน…” จ้าวต้าถงว่าจบก็นอนหลับบนเตียง!

ทางด้านฟางเจิ้งก็เริ่มยุ่งเหมือนกัน เขาโทรศัพท์ไปหาหวังโอ้วกุ้ย ให้ช่วยซื้อกระดาษเหลืองกับชาด[1]มาให้

ไม่นานหวังโอ้วกุ้ยขึ้นมา เอากระดาษเหลืองปึกหนึ่งกับชาดกล่องหนึ่งส่งให้ฟางเจิ้ง “แกจะเอาไปทำอะไร?”

ฟางเจิ้งหัวเราะเหอะๆ “อาตมาเป็นนักบวช จะเอาไปทำอะไรได้? ว่างๆ เลยเขียนยันต์น่ะ”

“เขียนยันต์? มันมีประโยชน์ยังไง? วัดอื่นมีแจกยันต์วิญญาณนะ แต่ไม่เคยเห็นว่ามีประโยชน์อะไรเลย ฉันว่านะก็แค่เพื่อให้จิตใจสงบรึเปล่า?” หวังโอ้วกุ้ยว่า

ฟางเจิ้งยิ้ม “ให้จิตใจสงบและก็เป็นของขวัญ ทำไมโยมหวังต้องเอาจริงเอาจังด้วยล่ะ”

หวังโอ้วกุ้ยคิดว่าฟางเจิ้งพูดมีเหตุผล “ถ้าอย่างนั้นก็ดี แกเขียนเสร็จให้ฉันแผ่นนึงนะ ขอยันต์ปลอดภัย”

“ไม่เป็น” ฟางเจิ้งตอบอย่างตรงไปตรงมามาก

“ไม่เป็น? นะ…นี่น่าจะเป็นยันต์ที่ง่ายที่สุดนี่? นักพรตเต๋าที่เดินทางมาเป็นบางครั้งยังเขียนเป็นเลย แต่แกเขียนไม่เป็น? แล้วแกเขียนอะไรเป็นบ้าง?” หวังโอ้วกุ้ยงงงัน

ฟางเจิ้งตอบ “อาตมาเหรอ เขียนยันต์ผีเป็น ใช้ดีไหมยังไม่แน่ใจ เพิ่งเรียนได้สองวัน จากนี้ก็คงเขียนได้ อาตมาจะให้โยมแผ่นหนึ่ง” ฟางเจิ้งไม่อยากอธิบายมากเพราะมันอธิบายยาก

หวังโอ้วกุ้ยไม่อะไรกับเรื่องนี้เหมือนกัน คิดว่าฟางเจิ้งว่างเบื่อๆ เลยจะเขียนยันต์เล่น จึงยิ้ม “ได้ จะรอแกเรียนเสร็จแล้วส่งมาให้นะ อ้อ ถ้าไม่มีอะไรทำก็ตั้งใจฝึกเขียนอักษรล่ะ อักษรแกมันสวยมากจริงๆ นะ! คนที่มาบ้านฉันเห็นคำกลอนคู่ของแกต่างร้องตกใจกันหมด ครั้งหน้าเขียนให้ฉันตัวใหญ่ๆ เลย ฉันจะเอาไปติดกับกระดาษแข็งแล้วแขวนโชว์ ไม่แน่นะหลายปีจากนี้อาจมีราคาสูงก็ได้”

ฟางเจิ้งหัวเราะ ไม่ได้คิดอะไร อักษรเขาสวย แต่เทียบกับอักษรพุทธองค์มังกรจริงๆ แล้วเป็นแค่อุจจาระกองหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นเขาเลยตอบไปโดยไม่คิด “โยมหวัง อีกเดี๋ยวอาตมามีของต้องส่ง โยมช่วยอาตมาส่งลงเขาไปได้ไหม?”

“เลี้ยงน้ำไหม?” หวังโอ้วกุ้ยไม่ตอบ แต่ถามกลับ

ฟางเจิ้งยิ้ม “เลี้ยง”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหา โอ้ รอจนแกขยายวัดก่อน ถ้าว่างฉันจะมาอยู่กับแก จึ๊ๆ ข้าวนั่น…” หวังโอ้วกุ้ยมีสีหน้าใฝ่ฝัน

……………………….

[1] ชาด เป็นวัตถุให้สีแดง ได้มาจากแร่ชินนาบาร์ นิยมใช้ในงานเครื่องเขินและจิตรกรรม