ตอนที่ 313 อยู่ตรงไหนก็ตายเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? / ตอนที่ 314 แฟนฉันจะหึง

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 313 อยู่ตรงไหนก็ตายเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?

 

 

“ไฮ แฟนสาวในข่าวฉาว ทำไมถึงไม่ขึ้นรถล่ะ?”

 

 

คำว่า ‘ขึ้นรถ’ ของเฉินเจามู่…เมื่อเข้าหูหลินเยียนช่างเหมือนกับคำว่า ‘ไปดีเถอะนะ’ อย่างไรอย่างนั้น

 

 

ให้เธอขึ้นรถคันนี้?

 

 

ล้อเล่นอะไรกันยะ!

 

 

เดิมทีหลินเยียนยังรู้สึกดีใจ เพราะถึงแม้กองถ่ายนี้จะมีกับระเบิดมากมาย แต่เธอแค่แสดงกับเว่ยสวีเฟิงและเผยหนานซวี่เท่านั้น ส่วนคนที่เหลือ ถ้าไม่เกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้นก็ไม่น่าจะเจอกัน

 

 

การเจอหันอี้เซวียนครั้งนั้นเป็นความบังเอิญเช่นกัน…

 

 

ใครจะไปคิดว่าสวรรค์ไม่เล่นตลกก็ช่างมันเถอะ แต่พอเล่นตลกก็เล่นเสียใหญ่โตขนาดนี้เชียว!

 

 

เพื่อเร่งเวลาถ่ายทำ กองถ่ายจึงแบ่งเป็นทีม เอ และ บี เพื่อถ่ายทำพร้อมกัน หลินเยียนอยู่ทีม บี ส่วนคนอื่นๆ นั้นอยู่ทีม เอ คาดว่าคนพวกนี้คงถ่ายทำที่กองใกล้ๆ กัน เนื่องจากต้องไปร่วมงานเลี้ยง เลยได้นั่งรถกองถ่ายไปด้วยกันพอดี

 

 

“คือว่า…ไม่…ไม่ต้องแล้ว…ฉันไปเองก็ได้…” คำว่าปฏิเสธอยู่เต็มใบหน้าหลินเยียน

 

 

เมื่อเฉินเจามู่เห็นหลินเยียนแสดงสีหน้าเหมือนเห็นอสรพิษและสัตว์ป่าดุร้ายอยู่ในรถก็อดขำไม่ได้ “เธอแน่ใจ? ที่นี่มันห่างไกลมากเลยนะ เรียกรถไม่ได้หรอก ถ้าเธอคิดจะเดินไปจนถึงสถานี คิดว่าฟ้าคงมืดแล้วล่ะ”

 

 

หลินเยียนหลุบตามองขาซ้ายของตัวเองโดยอัตโนมัติ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยสภาพร่างกายของเธอนี้ไม่สะดวกที่จะเดินมากไปกว่านี้แล้ว

 

 

นอกจากนี้กองถ่ายไม่มีทางจัดรถให้เธอคนเดียวแน่…

 

 

เมื่อเฉินเจามู่เห็นรูปการณ์ก็ยกมุมปากพร้อมพูดว่า “ถ้าเธอยืนอยู่ที่ประตูไม่ยอมขึ้นรถต่อไป ถ้าถูกคนถ่ายรูปได้…”

 

 

หลินเยียนมีสีหน้าตึงเครียดทันที สุดท้ายจึงได้แต่ฝืนใจ กัดฟันแล้วขึ้นรถไป!

 

 

อย่างไรเสียพออยู่ในรถก็ไม่มีทางถูกถ่ายได้! แถมยังประหยัดเงินได้ด้วย!

 

 

รถกองถ่ายคันนี้หรูหราและกว้าขวางมาก ด้านหลังติดตั้งไว้หกที่นั่ง แบ่งเป็นสามแถว แต่ละแถวมีสองตัว มิหนำซ้ำยังติดตั้งโหมดนวดอัตโนมัติอีกด้วย

 

 

มีเจ้าหน้ากองถ่ายนั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับคนหนึ่ง คนที่นั่งอยู่แถวแรกคือเว่ยสวีเฟิงกับเฉินเจามู่ คนที่นั่งแถวที่สองคือถังจยาเยี่ย ส่วนหันอี้เซวียนนั่งอยู่แถวที่สาม

 

 

บนรถยังเหลือที่นั่งอีกสองตำแหน่ง ข้างถังจยาเยี่ยกับข้างหันอี้เซวียน

 

 

ดังนั้นตอนนี้หลินเยียนจึงเผชิญกับทางเลือกสองทาง

 

 

เธอจะนั่งตรงไหน ข้างถังจยาเยี่ย หรือว่าข้างหันอี้เซวียน?

 

 

หลินเยียนค้อมเอว รักษาท่าทางการก้าวขึ้นรถ รู้สึกลำบากใจขึ้นมาทันที

 

 

เว่ยสวีเฟิงซึ่งกำลังหลับตาพักผ่อนลืมตาขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมเหล่มองหลินเยียนแวบหนึ่ง ถังจยาเยี่ยซึ่งนั่งอยู่แถวที่สองกำลังเปิดโต๊ะขนาดเล็กที่อยู่บนเก้าอี้ มีแบบทดสอบชั้นม.6 กองอยู่บนโต๊ะ กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนอย่างขะมักเขม้น เหมือนกำลังเร่งทำการบ้านอยู่ หันอี้เซวียนนั่งแถวสุดท้ายริมหน้าต่าง สายตาที่มองเธอยังคงมืดมน แฝงความเย็นชาที่แทบจะสัมผัสไม่ได้เหมือนเดิม

 

 

เฉินเจามู่ซึ่งนั่งอยู่แถวแรกข้างประตูที่อยู่ใกล้เธอมากที่สุดใช้มือเกยคาง ใช้สีหน้ากำลังดูอะไรสนุกๆ อยู่ เขากะพริบตาแล้วพูดว่า “เป็นอะไร? แฟนสาวในข่าวฉาว เลือกจนตายลายงั้นเหรอ?”

 

 

หลินเยียนหน้าบึ้งเล็กน้อย ตานี่ เลิกพูดสักที คำก็ว่าแฟนสาวในข่าวฉาว สองคำก็ว่าแฟนสาวในข่าวฉาว

 

 

หลินเยียนค้อนใส่เฉินเจามู่อย่างอับจนถ้อยคำครั้งหนึ่ง สุดท้ายเธอก็ขึ้นรถและนั่งอยู่ข้างหลังเฉินเจามู่ หรือก็คือข้างถังจยาเยี่ย

 

 

เฉินเจามู่เมื่อเห็นแบบนั้นก็เลิกหัวคิ้วเล็กน้อย แสดงสีหน้าเหนือความคาดหมาย ยื่นหน้าไปหาหลินเยียนที่อยู่ข้างหลังแล้วพูดว่า “แหมๆ ฉันนึกว่า…เธอจะนั่งแถวสุดท้ายเสียอีก”

 

 

เฉินเจามู่พูดไปพลาง มองหันอี้เซวียนที่อยู่แถวสุดท้ายด้วยนัยยะแฝงอันลึกซึ้งแวบหนึ่งไปพลาง

 

 

พอหลินเยียนได้ยินก็มองเฉินเจามู่ พูดด้วยสีหน้าปราศจากความอาลัยอาวรณ์ “ต่างกันด้วยเหรอ? อยู่ตรงไหนก็ตายเหมือนกัน ยังต้องเลือกที่ด้วยหรือไง?”

 

 

เฉินเจามู่ “…”

 

 

ถังจยาเยี่ย “…”

 

 

หันอี้เซวียน “…”

 

 

เว่ยสวีเฟิง “…”

 

 

 

 

ตอนที่ 314 แฟนฉันจะหึง

 

 

“ตายด้วยเงื้อมมือแฟนคลับของนายคนไหนก็ตายเหมือนกันไม่ใช่หรือไง มีอะไรแตกต่างกัน…” หลินเยียนพึมพำเสียงค่อย

 

 

เฉินเจามู่คิดไม่ถึงว่าหลินเยียนจะตอบแบบนี้ เขาอึ้งก่อน จากนั้นก็ส่งเสียหัวเราะออกมา มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความสนอกสนใจ “ฮ่าๆๆ”

 

 

หญิงสาวเปลือยหน้าสด มัดผมหางม้าอย่างง่ายๆ แต่การแต่งตัวธรรมดาแบบนี้ก็ปิดบังโฉมหน้าอันงดงามของเธอไม่ได้ โดยเฉพาะดวงตาวาววับคู่นั้นกับบุคลิกเกียจคร้านทำอะไรตามใจชอบ แต่ก็แฝงความดุเดือดรุนแรงเอาไว้ ไม่ได้อ่อนแอเอาแต่ดรามาเหมือนข่าวลือแม้แต่น้อย ตรงข้าม แค่มองเพียงแวบเดียวก็ดึงดูดใจคนได้แล้ว…

 

 

มิหนำซ้ำหลินเยียนคนนี้ไม่เพียงหน้าตาต่างจากคลิปและรูปถ่ายที่อยู่ในเน็ตก่อนหน้าพวกนั้นโดยสิ้นเชิง แม้แต่นิสัยใจคอก็เหมือนจะต่างกันลิบลับ…

 

 

เฉินเจามู่เอามือเกยคาง สำรวจผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าราวกับเป็นจิ้งจอกเฒ่าพูดกระเซ้าขึ้นมาว่า “ไอ้หยา จู่ๆ ฉันก็เห็นว่าวันนี้คนอยู่กันครบเลยนะเนี่ย! ขาดแค่ราชาภาพยนตร์เผยเท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นแฟนหนุ่มในข่าวฉาวของเธอที่มีอยู่ในกองถ่ายนี้ก็จะอยู่ครบหมดเลย!”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ ใบหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มของหลินเยียนก็บึ้งตึงสุดๆ ทันที

 

 

น้ำเสียงเขาเหมือนจะเสียดายมากอีกด้วย?

 

 

ช่างเป็นพวกที่ชอบดูเรื่องสนุกโดยไม่กลัวว่าจะลุกลามใหญ่โตเสียจริง…

 

 

เฉินเจามู่ยิ้มร่าพร้อมเอ่ยว่า “เพียงแต่ไม่เป็นไร พวกเราสี่คนก็ครบขาโต๊ะไพ่นกกระจอกแล้ว!”

 

 

หลินเยียน “…” นายช่วยหุบปากทีสิยะ!

 

 

หลินเยียนใช้สายตาคมกริบกวาดมองไป จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชาออกมาว่า “จะเทียบกับรุ่นพี่เฉินได้ยังไงกันคะ แฟนสาวในข่าวฉาวรวมกันแล้วพอที่จะเรียกเทพมังกรได้เลย!”

 

 

เนื่องจากเฉินเจามู่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่หล่อเหลาสง่างาม ปากหวานแถมยังเจ๊าะแจ๊ะเก่ง ดังนั้นจึงถูกเลือกให้เป็นคนรักที่ดีที่สุดภายในใจของเหล่าแฟนคลับ

 

 

และเพราะชีวิตส่วนตัวค่อนข้างมีสีสันมากเกินไป ข่าวชู้สาวมีเต็มไปหมด เปลี่ยนแฟนอยู่บ่อยครั้ง เป็นเพลย์บอยคนดังในวงการบันเทิง ศิลปินหญิงที่เคยคบหากับเขามีมากมายก่ายกอง

 

 

เฉินเจามู่คล้ายจะภาคภูมิใจมาก “ชมเกินไปแล้วๆ! คลื่นลูกใหม่ซัดคลื่นลูกเก่า อีกไม่นานฉันต้องถูกคุณหลินไล่ซัดกระแทกชนหาดทรายจนตายแน่นอน!”

 

 

“…” ซัดกับผีน่ะสิ!

 

 

หลินเยียนมุมปากกระตุก รูดซิปขึ้นมาจนสุดปิดบังใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็ดึงฮู้ดลงต่ำมาอีกสักนิด ไม่เหลือบแลแยแสเฉินเจามู่อีกต่อไป

 

 

เฉินเจามู่เห็นแบบนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “รถคันนี้ติดฟิล์ม ข้างนอกมองไม่เห็นข้างใน ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้นฉันไม่ถือสาที่จะมีข่าวฉาวเพิ่มขึ้นอีกหลายข่าวนะ…”

 

 

เขาเป็นพวกต่อให้มีปัญหามากก็ไม่เดือดร้อน ดังนั้นจึงไม่ใส่ใจแน่นอน…

 

 

แต่เธอไม่เหมือนกัน!

 

 

หลินเยียนมองเฉินเจามู่อย่างอับจนคำพูด จากนั้นจึงพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ออกมาทันที “ฉันถือสา ขอบคุณค่ะ”

 

 

เมื่อหลินเยียนพูดจบก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เพื่อไม่ให้เฉินเจามู่เปรียบเทียบอะไรเพ้อเจ้ออีกต่อไป เธอจึงพูดต่อไปว่า “แฟนฉันจะหึงเอาได้ค่ะ”

 

 

หายากนัก ในที่สุดหลินเยียนก็เริ่มรู้สึกตัวเสียทีว่าตัวเองมีแฟนกับเขาด้วย

 

 

ประเด็นสำคัญคือคราวก่อนนั้นเผยอวี้เฉิงน่ากลัวเกินไป เธอจะไม่จดจำก็ไม่ได้

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หันอี้เซวียนซึ่งนั่งอยู่แถวหลังก็ขมวดคิ้วอย่างที่แทบจะมองไม่ออก เว่ยสวีเฟิงเองก็หรี่ตาลงเล็กน้อย

 

 

เฉินเจามู่เลิกหัวคิ้วเล็กน้อย “เธอมีแฟนแล้ว?”

 

 

หลินเยียนเหล่มองเขา “มีปัญหาเหรอคะ”

 

 

ถึงเธอจะให้คนอื่นรู้สถานะของแฟนเธอไม่ได้ แต่เธอก็ไม่คิดที่จะปิดบังเรื่องที่ตัวเองมีแฟนเช่นกัน

 

 

พอเฉินเจามู่ได้ยินก็เผยสีหน้าตื่นตระหนก “เป็นไปไม่ได้น่า! ในหมู่พวกเรากลับมีคนหนึ่งที่เป็นตัวจริงอย่างงั้นเหรอ”

 

 

เส้นเอ็นบนหน้าผากหลินเยียนเต้นตุบๆ ทันที

 

 

นี่มันความสามารถในการทำความเข้าใจอะไรของเขากันเนี่ย เธอบอกว่าแฟนเธอคือหนึ่งในพวกเขาตอนไหนกัน

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเจามู่ คนอื่นที่อยู่ภายในรถก็ใช้สายตามองหลินเยียนโดยอัตโนมัติทันที แม้แต่ถังจยาเยี่ยที่กำลังเขียนการบ้านอยู่ก็เงยหน้าขึ้นด้วยเช่นกัน