ในเมืองโยวหลัน ท่านปู่เซียวและเซี่ยยวี่หลัว ทั้งสองคนอายุห่างกันคราวปู่กับหลาน สนทนาพลางดื่มน้ำชาอยู่หน้าประตู
ถึงแม้อายุจะห่างกันมาก เมื่อก่อนความสัมพันธ์ก็ไม่ดีนัก ทว่า ตั้งแต่ความสัมพันธ์ดีขึ้น ทั้งสองคนก็สามารถพูดคุยกันไม่รู้จบ โดยเฉพาะเซี่ยยวี่หลัวที่พูดคุยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน วาจาหนักแน่น ถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยออกมาก็น่าฟัง ท่านปู่เซียวฟังแล้วยิ้มจนตาหยี ทั้งสองคนนั่งอยู่หน้าประตูใหญ่ ดื่มน้ำชาพลางสนทนากันพักใหญ่
ตอนรถม้ามาจอดหน้าประตูร้านน้ำมันอาหารแห้งฟ่างซิน ท่านปู่เซียวก็ยิ้มจนหน้าบาน ชี้ไปยังรถม้าพร้อมกล่าวกับเซี่ยยวี่หลัว “ดูสิ เขากลับมาแล้ว ให้เขาส่งเจ้ากลับไป! ”
ท่านปู่เซียวตะโกนเรียก “เซียวเหลียง ส่งยวี่หลัวกลับไป! ”
เซียวเหลียงกระโดดลงจากรถม้า เห็นเซี่ยยวี่หลัวจึงเอ่ยเรียกก่อนกล่าว “มาในตัวเมืองอย่างนั้นหรือ? ”
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มก่อนกล่าว “มาซื้อเนื้อหมูและแป้งในตัวเมือง กลับไปจะทำเกี๊ยวให้เด็กสองคนกินเจ้าค่ะ”
“นางซื้อของมาเยอะ แม่หนูตัวน้อยจะแบกของมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร เจ้าส่งนางกลับไป! ” ท่านปู่เซียวกล่าว
เซียวเหลียงได้ฟังก็พยักหน้า “ได้ แต่ยวี่หลัว ถ้าอย่างไรเจ้ารอข้าก่อน ข้าต้องส่งแป้งยี่สิบกระสอบไปเซียนจวีโหลว เจ้ารอข้าที่นี่ก่อน”
ท่านปู่เซียว “ยังจะรออะไรอีก ให้ยวี่หลัวขึ้นรถไปพร้อมเจ้า รอเจ้าส่งสินค้าเสร็จ ค่อยส่งนางกลับบ้าน จะได้ไม่ต้องอ้อมกลับมาอีกรอบ”
เซียวเหลียงหันมองเซี่ยยวี่หลัว “ได้หรือไม่? ”
“ย่อมได้เจ้าค่ะ เพียงแต่เกรงว่าจะรบกวนท่านอาเซียวเหลียงทำงาน” เซี่ยยวี่หลัวเผยรอยยิ้มบางพร้อมกล่าว
“รบกวนอะไรกัน เจ้าอย่ารังเกียจที่บนรถเต็มไปด้วยแป้งก็พอ! ” เซียวเหลียงหัวเราะลั่น สั่งให้คนรีบขนแป้งยี่สิบกระสอบขึ้นรถม้า เพราะด้านหลังเต็มไปด้วยแป้ง เซี่ยยวี่หลัวจึงนั่งอยู่ด้านหน้ารถม้ากับเซียวเหลียง
รถม้าเคลื่อนที่ดังตึกๆ จนถึงประตูด้านหลังของเซียนจวีโหลว คนที่ออกมาเห็นว่าเป็นเซียวเหลียง จึงเอ่ยเรียกเถ้าแก่เซียว ก่อนบอกให้ลูกจ้างของเซียนจวีโหลวออกมาขนแป้งลงรถ
ยามนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญก่อนภัตตาคารจะเปิดช่วงเที่ยง ซ่งฉางชิงจะไปดูที่ครัวด้านหลังทุกวัน เวลานี้กำลังตรวจดูอยู่ในห้องครัว เซียวเหลียงขนแป้งสองกระสอบเข้าไปในห้องครัวด้วยตัวเอง พบซ่งฉางชิงพอดี ทั้งสองคนจึงกล่าวทักทายกัน
“เถ้าแก่ซ่ง แป้งยี่สิบกระสอบนี้ ท่านจะตรวจดูก่อนหรือไม่? ” เซียวเหลียงเชื่อมั่นในสินค้าของตัวเองมาก แสดงท่าทางเหมือนไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่กลัวว่าท่านจะตรวจดู
ซ่งฉางชิงพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าย่อมเชื่อเถ้าแก่เซียว”
เซียวเหลียงได้ฟังดังนั้น ก็มีความสุขจนยิ้มอย่างหน้าชื่นตาบาน “เถ้าแก่ซ่ง ท่านวางใจได้ ท่านทำการค้ากับข้า ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องมีความกังวลใจแน่นอน! ”
ซ่งฉางชิงพยักหน้า “ได้”
ทำการค้าก็เป็นเช่นนี้ หากตัดสินใจว่าจะร่วมงานกันแล้ว ย่อมต้องเลือกที่จะเชื่อ
เซี่ยยวี่หลัวยืนรออยู่ด้านนอก เห็นแป้งแต่ละกระสอบถูกขนเข้าไปด้านใน ลูกจ้างที่ตามออกมาตะโกนถาม “แป้งนี่ให้ขนไปที่ไหน? ”
“ห้องครัว”
“ได้เลย! ”
เซี่ยยวี่หลัวได้ฟังดังนั้น คิ้วงามก็ขมวดมุ่นทันที นางรีบขวางลูกจ้างที่เอ่ยถามเมื่อครู่ “แป้งยี่สิบกระสอบนี้จะนำไปวางในห้องครัวทั้งหมดอย่างนั้นหรือ? ”
“ใช่แล้ว”
“เช่นนั้นในห้องครัวมีเตาปรุงอาหารหรือไม่? ” เซี่ยยวี่หลัวถามต่อ
ลูกจ้างที่โดนถามกลับหัวเราะ “ห้องครัวจะไม่มีเตาปรุงอาหารได้อย่างไร? ไม่มีเตาปรุงอาหารจะเรียกว่าห้องครัวได้หรือ” กล่าวจบ ก็ย่อตัวลง แบกแป้งหนึ่งกระสอบเข้าไป
เซี่ยยวี่หลัวมองดูแป้งอีกสิบกว่ากระสอบที่เหลืออยู่ในรถ เพราะถูกขนย้าย ในอากาศจึงมีผงแป้งลอยฟุ้งอยู่ไม่น้อย หากเก็บรวบรวมไว้ในห้องครัวทั้งหมด ผงแป้งลอยฟุ้งไปในอากาศ ถ้าโดนเปลวไฟ ก็จะทำให้เกิดการระเบิดได้!
“พี่ชาย แป้งนี้ท่านจะวางไว้ในห้องครัวไม่ได้ มันอันตรายมาก! ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวกับลูกจ้างที่กำลังขนย้ายด้วยสีหน้าจริงจัง
“อันตราย? ” ลูกจ้างผู้นั้นหัวเราะพรืด “แป้งของเซียนจวีโหลวล้วนวางไว้ในห้องครัว จะใช้เมื่อไรก็หยิบจับได้ง่าย ไม่เคยมีอันตราย ปลอดภัยมากทีเดียว”
เซี่ยยวี่หลัวกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ไม่เคยเกิดอันตราย ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอันตราย พวกท่านเก็บแป้งมากมายถึงเพียงนี้ไว้ในห้องครัว หากมีประกายไฟกระเด็นออกมา ก็จะเกิดการระเบิดได้ง่ายมาก! ”
“ระเบิด? ” ลูกจ้างผู้นั้นได้ยินคำว่าระเบิด ขาก็สั่นทีหนึ่ง “นี่ท่านพูดจริงหรือพูดเล่น อย่าได้หลอกข้าเชียว! ”
“จริงแท้แน่นอน! ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ท่าทีจริงจังของเซี่ยยวี่หลัวทำให้ลูกจ้างผู้นั้นเกิดความระวังขึ้นอย่างอดไม่ได้ เขารีบกระโดดลงจากรถม้า กล่าวกับเซี่ยยวี่หลัวอย่างนอบน้อม “แม่นางท่านรอก่อน ข้าจะเข้าไปบอกหัวหน้างาน อีกเดี๋ยวรบกวนท่านอธิบายกับหัวหน้างานด้วย”
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า “ได้! ”
ลูกจ้างผู้นี้เพิ่งมาใหม่ ไม่รู้จักเซี่ยยวี่หลัว และไม่รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบของเซียนจวีโหลว เขารีบเข้าไปหาซ่งฝู
ซ่งฝูได้ฟังเรื่องราวก็ทำสีหน้าบึ้งตึงทันที “แป้งจะระเบิดหรือ? ใครบอกกัน? ”
ลูกจ้างกล่าวด้วยท่าทางหวั่นเกรง “เป็นแม่นาง แม่นางผู้หนึ่งที่อยู่ข้างนอก นาง… นางบอกขอรับ! ”
ซ่งฝูเหลือบมองลูกจ้างแวบหนึ่ง “แป้งของเซียนจวีโหลวเก็บไว้ในห้องครัวมากี่ปีแล้ว ไม่เคยเกิดเรื่องราวใดๆ มาก่อน ใครกันที่พูดจาเพ้อเจ้อ บอกว่าจะระเบิด? เหลวไหลทั้งเพ เจ้าอีกคน คำพูดเหลวไหลอะไรก็เชื่อหมด”
ลูกจ้างก้มหน้านิ่งเงียบ ได้แต่ปล่อยให้ซ่งฝูว่ากล่าวสั่งสอน
ซ่งฝูต่อว่าเขาครู่หนึ่ง ก็ให้เขาไปทำงานต่อ “รีบกลับไปขนแป้ง ช่วงเที่ยงก็ต้องใช้แล้ว”
ลูกจ้างคำนับทีหนึ่งก่อนวิ่งออกไป ซ่งฝูบ่นพึมพำ “ระเบิด? แป้งน่ะหรือจะระเบิด? ไม่เคยได้ยินมาก่อน! ”
เซี่ยยวี่หลัวยังรอคอยอย่างร้อนรนอยู่ที่ประตูด้านหลัง
ลูกจ้างวิ่งออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ พอเห็นเซี่ยยวี่หลัว ก็ระบายความอัดอั้นใจที่โดนต่อว่าเมื่อครู่ออกมา “แม่นาง ท่านทำข้าลำบากนัก จะระเบิดอะไรกัน แป้งของพวกเราวางไว้ในห้องครัวมานานหลายปีแล้ว ไม่เคยเกิดเรื่องแม้แต่ครั้งเดียว ท่านกลับบอกว่าจะระเบิด ทำให้ข้าโดนหัวหน้างานต่อว่า เช่นนี้เท่ากับทำให้ข้าลำบากไม่ใช่หรือ? ”
เซี่ยยวี่หลัวเห็นว่าลูกจ้างไม่เชื่อ จึงกล่าวด้วยความร้อนใจ “จะระเบิดจริงๆ ท่านต้องเชื่อข้า! ”
ลูกจ้างเพียงทำราวกับเซี่ยยวี่หลัวเป็นคนเสียสติ กระโดดขึ้นรถไปขนย้ายแป้งต่อ ไม่สนใจว่าเซี่ยยวี่หลัวจะกล่าวอะไร “ท่านรีบไปเถอะ อีกเดี๋ยวหากพี่ซ่งฝูได้ยินเข้า จะต่อว่าข้าอีก”
เซี่ยยวี่หลัวเห็นว่าเขาไม่เชื่อ ก็ไม่คิดอธิบายอีก สาวเท้าจะเดินเข้าเซียนจวีโหลว ลูกจ้างผู้นั้นเห็นเข้า จึงรีบขวางนางไว้ “ท่านจะทำอะไร? คนแปลกหน้าเข้าเซียนจวีโหลวไม่ได้”
“ข้าจะพบซ่งฝู! แป้งจะวางไว้ในห้องครัวไม่ได้ จะเกิดเรื่องใหญ่! ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวด้วยสีหน้าขึงขัง หากวางแป้งทั้งยี่สิบกระสอบไว้ในห้องครัว ถ้าเกิดการระเบิด อย่าว่าแต่เซียนจวีโหลวเลย แม้แต่ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณรอบข้างก็คงยากจะหนีพ้นจากชะตากรรมอันเลวร้าย
ลูกจ้างได้แต่ทำสีหน้าขมขื่น “แม่นาง ท่านเข้าไปไม่ได้ เช่นนี้เท่ากับทำให้ข้าลำบากใจไม่ใช่หรือ? พี่ซ่งฝูไม่เชื่อ ท่านไปหาก็ไม่มีประโยชน์”
เสียงถกเถียงด้านนอกดังไปถึงลานด้านใน ซ่งฉางชิงรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงที่คุ้นเคย จึงหันไปมองทางประตูด้านหลังอย่างฉับพลัน