ตอนที่ 317 สถานที่ที่ใช้แอบนัดเจอเหมาะๆ / ตอนที่ 318 มานี่…

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 317 สถานที่ที่ใช้แอบนัดเจอเหมาะๆ

 

 

นอกประตูห้องจัดเลี้ยง

 

 

คนที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์นั้นไม่รู้ว่าพูดอะไร ใบหน้าเผยหนานซวี่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “อะไรนะ…อยากเจอตอนนี้เลยเหรอครับ? เอ่อ…นี่เกรงว่าคงไม่ค่อยสะดวกนะครับ…แต่ว่า ไม่เป็นไรๆ ผมหาวิธีก็ได้! ผมจะไปจัดการให้เรียบร้อย!”

 

 

เมื่อวางสายไปแล้ว เผยหนานซวี่ก็กดโทรอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเรียกผู้ช่วยของตัวเองมา

 

 

“พี่ซวี่ พี่เรียกผมเหรอครับ?”

 

 

“นายช่วยฉันหาหน่อย…” เผยหนานซวี่ครุ่นคิดคำพูด คิดว่าจะเอ่ยปากอย่างไรดี

 

 

“หาอะไรเหรอครับ พี่ซวี่?” ผู้ช่วยไม่เข้าใจ

 

 

เผยหนานซวี่กระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง “หาว่าที่โรงแรมนี้มีที่เหมาะๆ ที่เหมาะๆ ที่จะนัดคุยส่วนตัว แถมต้องรับประกันว่าจะไม่มีทางถูกนักข่าวถ่ายได้หรือเปล่า!”

 

 

ผู้ช่วยยังไม่ค่อยเข้าใจบ้างอยู่ดี “นัดคุยส่วนตัว? สถานที่ที่ต้องใช้คุยธุระน่ะเหรอครับ?”

 

 

เผยหนานซวี่หมดหนทาง ดังนั้นจึงได้แต่บอกออกไปตามตรง “สถานที่ที่เหมาะกับการแอบพบกันน่ะ”

 

 

เมื่อผู้ช่วยได้ยินก็มีสีหน้าตกใจ “อะ…แอบพบ!? พี่ซวี่ พี่ถามเรื่องนี้ทำไมเหรอครับ?”

 

 

หรือว่าพี่ซวี่ของพวกเขาจะไปแอบพบผู้หญิงคนไหน?

 

 

ผู้ช่วย “นะ…ในโรงแรมนี้เหรอครับ?”

 

 

เผยหนานซวี่ “อืม”

 

 

ผู้ช่วยทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “พี่ซวี่ พี่อย่าเหลวไหลสิครับ พี่ซวี่ หรือพี่จะแอบเจอผู้หญิง? ต่อให้จะแอบเจอใคร ก็ไม่เห็นต้องรีบร้อนขนาดนี้ก็ได้นี่นา?”

 

 

 

 

 

เผยหนานซวี่ “นายไปจัดการก็พอ อย่าถามเรื่องที่ไม่ควรถามให้มากความ”

 

 

ผู้ช่วยมีท่าทีอ้ำอึ้ง ทว่าสุดท้ายก็ยังไม่กล้าขัดคำสั่ง ได้แต่ไปทำตามคำขอของเผยหนานซวี่

 

 

ผ่านไปสักพัก ในที่สุดผู้ช่วยก็หอบแฮ่กแฮ่กกลับมา “ถ้าเป็นห้องในโรงแรม โอกาสที่จะถูกถ่ายได้มีสูงมากเลยครับ แถมถ้าถูกถ่ายตอนเข้าห้องได้ นั่นคงอธิบายลำบากแล้วแน่ ดังนั้นจึงไม่เหมาะสมแน่นอนครับ

 

 

ผมเพิ่งจะไปลองคลำหาดูด้วยตัวเอง ทางเดินหนีไฟที่ชั้นสิบสามลึกลับมาก มีห้องเก็บของที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ห้องหนึ่ง ไม่มีทางถูกเจอแน่นอนครับ…”

 

 

เผยหนานซวี่ผงกศีรษะ “รู้แล้ว”

 

 

พอพูดจบ เผยหนานซวี่ก็กดโทรศัพท์เพื่อโทรออกไป

 

 

เมื่อโทรศัพท์เสร็จแล้ว เผยหนานซวี่ก็ส่งข้อความอีกข้อความหนึ่ง เมื่อทำเสร็จหมดแล้ว เขาถึงผ่อนลมหายใจโล่งอก ผลักประตูแล้วกลับเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงอีกครั้งหนึ่ง

 

 

ขณะเดียวกัน หลินเยียนซึ่งกำลังเค้นหัวสมองครุ่นคิดว่าจะตอบเผยอวี้เฉิงอย่างไรดีภายในห้องจัดเลี้ยง จู่ๆ ก็ได้รับข้อความมาข้อความหนึ่ง

 

 

ข้อความส่งโดยเผยหนานซวี่ เนื้อหาค่อนข้างแปลกประหลาด

 

 

เผยหนานซวี่ [พี่สะใภ้ใหญ่ พี่ช่วยไปที่ห้องเก็บของที่ทางเดินหนีไฟชั้นสิบสามทีครับ]

 

 

หลินเยียนมองข้อความด้วยด้วยความประหลาดใจ

 

 

ให้เธอไปที่นั่นทำไมกัน?

 

 

เผอิญว่าตอนนี้เผยหนานซวี่ผลักประตูกลับมานั่งประจำที่พอดี หลินเยียนจึงเงยหน้าพร้อมส่งสายตาสงสัยให้เผยหนานซวี่โดยอัตโนมัติ

 

 

เผยหนานซวี่ผงกศีรษะให้เธอเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้นิ้วเคาะโทรศัพท์มือถือ เป็นสัญญาณให้เธอรีบไป

 

 

ถึงแม้คำขอของเผยหนานซวี่จะประมาทเหลือเกิน ทว่าหลินเยียนไม่เคยสงสัยคำพูดเผยหนานซวี่แม้แต่น้อย

 

 

 

 

 

ในเมื่อเผยหนานซวี่พูดแบบนี้ จะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างถึงจะถูก

 

 

ดังนั้นหลินเยียนจึงลุกขึ้นทันที จากนั้นก็เดินออกไปนอกห้องจัดเลี้ยง

 

 

“หลินเยียน เธอจะไปไหนน่ะ? ใกล้จะเริ่มงานแล้วนะ!” เจียงอีหมิงถาม

 

 

“ฉะ…ฉันจะไปห้องน้ำค่ะ!” หลินเยียนตอบอย่างขอไปทีประโยคหนึ่ง จากนั้นก็รีบจากไป

 

 

หลินเยียนกังวลว่าจะทำให้ธุระสำคัญบางอย่างของเผยหนานซวี่ล่าช้า ดังนั้นจึงรีบรุดไปถึงสถานที่ที่ เผยหนานซวี่บอกเอาไว้อย่างเร็วรี่

 

 

ทางเดินเวิ้งว้างว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่สักคนเดียว มีแค่เสียงฝีเท้าที่หลินเยียนจงใจผ่อนให้เบาเท่านั้น

 

 

สุดท้ายก็หาห้องที่แขวนป้าย ‘ห้องเก็บของ’ เจอ หลินเยียนยืนอยู่ตรงประตู กะพริบตามองดูประตูเหล็กที่ขึ้นสนิมและผุพังนั้น ความสงสัยยิ่งเพิ่มพูนขึ้น 

 

 

เผยหนานซวี่เรียกเธอมาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่นะ?

 

 

ถึงแม้จะเป็นคำขอจากไอดอล แต่ว่า…ออกจะแปลกเกินไปแล้วหรือเปล่า?

 

 

ถ้าเป็นคนอื่นนัดเธอมาที่แบบนี้ เธอต้องสงสัยว่าแอนตี้แฟนจะใช้ห้องมืดๆ มาฆ่าเธอทิ้งแน่!

 

 

 

 

ตอนที่ 318 มานี่…

 

 

หลินเยียนยืนอยู่ตรงประตูห้องเก็บของ กลืนน้ำลายด้วยความตื่นเต้น

 

 

คงไม่มีแอนตี้แฟนสวมโม่งคลุมหัวโผล่ออกมาอัดเธอจากข้างในหรอกนะ?

 

 

จะมาโทษว่าเธอคิดฟุ้งซ่านเหลวไหลไม่ได้ ที่สำคัญคือเผยหนานซวี่ให้เธอมาที่แบบนี้กะทันหัน มันช่างน่าแปลกเสียเหลือเกิน…

 

 

หลินเยียนสะบัดหน้า ไล่ความคิดฟุ้งซ่านเหลวไหลที่มีในสมองออกไป ตอนที่เพิ่งจะเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงก็ยืนยันต่อหน้าเผยหนานซวี่ไปแล้ว เผยหนานซวี่ต้องมีธุระอะไรบางอย่างแน่

 

 

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลินเยียนจึงรีบเดินไปยังห้องเก็บของ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปดันประตูห้องเก็บของอย่างช้าๆ พร้อมกับดูลาดเลาไปด้วย

 

 

มีฝุ่นร่วงกราวจากประตูบานนั้นเต็มไปหมด กุญแจที่อยู่ข้างนอกก็ขึ้นสนิม หลินเยียนแค่ผลักเบาๆ ก็แง้มเปิดเป็นช่องแล้ว ดูท่าคงแค่ปิดหลอกๆ เอาไว้แค่นั้น

 

 

หลินเยียนเห็นแบบนี้จึงออกแรงเพิ่มอีกนิด วินาทีต่อมาก็เกิดเสียงดัง ‘แอ๊ด’ ครั้งหนึ่ง ประตูห้องเก็บของก็ถูกผลักเปิดออกไปจนสุด

 

 

หลินเยียนก้าวเดินเข้าไป

 

 

ภายในห้องเก็บของไม่ได้เปิดไฟ มืดมิดไปหมด มีเพียงลำแสงที่ส่องลอดผ่านหน้าต่างบานเล็กๆ บานหนึ่งเพียงไม่กี่สายเท่านั้น ทำให้มองเห็นเฟอร์นิเจอร์เก่าที่กองสุมอยู่ภายในห้องอย่างเลือนลาง ภายในห้องรกและยุ่งเหยิงไปหมด เต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ ดูเหมือนจะไม่ได้มีคนใช้งานมานานมากแล้ว

 

 

ขณะที่หลินเยียนกำลังคิดถึงวัตถุประสงค์ของเผยหนานซวี่อยู่นั้น ขณะนี้เองก็มองเห็นประกายแสงสีแดงจุดหนึ่งท่ามกลางความมืดมิด

 

 

แสงนั้นกะพริบวูบไหวท่ามกลางราตรี

 

 

หลังจากหลินเยียนปรับสายตาให้เข้ากับความมืดได้เล็กน้อยแล้ว ในที่สุดก็มองเห็นว่าแสงสีแดงนั้นเป็นบุหรี่ที่ถูกจุดอยู่มวนหนึ่ง

 

 

และในความมืดมิดนี้ มีเงาคนที่ทอดเฉียงยาวมาจากด้านข้างตู้สูงที่เก่าและผุพังหลังหนึ่ง

 

 

สายลมยามราตรีพัดเมฆดำให้กระจายออกไป ลำแสงที่ลอดผ่านหน้าต่างเล็กบานนั้นสว่างเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน

 

 

คนคนนั้นสวมเสื้อกันลมขนาดใหญ่ หลุบตาลงเล็กน้อย นิ้วคีบบุหรี่อยู่มวนหนึ่ง ปลายบุหรี่เผาไหม้อย่างสงบนิ่ง จุดสีแดงกะพริบวูบไหวท่ามกลางความมืด

 

 

เหมือนสัมผัสถึงเสียงฝีเท้าของหลินเยียนได้ ชายที่กำลังสูบบุหรี่จึงเบือนหน้ามาทางหลินเยียนเล็กน้อย

 

 

ท่ามกลางกลิ่นใบยาสูบบางๆ แม้หลินเยียนจะยังมองเห็นโฉมหน้าของผู้ชายคนนี้ไม่ชัดเจน แต่ก็ยังจำได้ทันทีอยู่ดี

 

 

เผย…อวี้เฉิง…

 

 

ในความมืดมิด ความรู้สึกภายในดวงตาของชายหนุ่มคล้ายจะหนาแน่นยิ่งกว่าราตรีนี้เสียอีก

 

 

ห้องเก็บของที่ถูกทิ้งร้างเงียบสงัด เงาที่ทอดเฉียงมาท่ามกลางความมืดนั้นมีเสน่ห์ยวนเย้าจนทำให้ใจเต้นรัว

 

 

ขณะที่หลินเยียนกำลังนิ่งอึ้งด้วยใบหน้าตื่นตะลึงอยู่ตรงนั้นก็มีเสียงต่ำและแหบพร่าของชายหนุ่มแว่วเข้าสู่ใบหู…

 

 

“มานี่”

 

 

สายลมยามค่ำคืนพัดเมฆดำกระจายหายจนหมดสิ้น

 

 

ในที่สุดหลินเยียนก็มองเห็นใบหน้าของชายหนุ่มได้ชัดเจน

 

 

ชายหนุ่มมีสีหน้าอ่อนล้าเล็กน้อย เขาสวมชุดกันลมตัวหลวมใหญ่อย่างไม่ใส่ใจ ฝุ่นเกรอะไปทั้งตัว สายตาที่มองเธอคล้ายเรียบเฉยเย็นชา ทว่ากลับจุดร่างกายเธอให้ลุกไหม้ภายในชั่วพริบตา เสียงต่ำและแหบพร่านั้นยิ่งทำให้เธอเกร็งไปทั้งตัว

 

 

หลินเยียนกะพริบตา เดินเข้าหาชายหนุ่มทีละก้าวโดยไม่รู้ตัว เดินไปพลาง เอ่ยปากถามด้วยสีหน้าประหลาดใจไปพลาง “เอ่อ คุณเผย? เป็นคุณจริงเหรอ! จู่ๆ ราชาภาพยนตร์เผยให้ฉันมาที่นี่ เมื่อกี้ฉันยังประหลาดใจอยู่เลยว่ามีเรื่องอะไรกันแน่…”

 

 

ใต้เท้าหลินเยียนมีข้าวของระเกะระกะสารพัดอย่าง เธอเดินหลบของพวกนั้นและเดินเข้าหาเผยอวี้เฉิงด้วยความระมัดระวัง ตอนนี้เธออยู่ห่างจากเผยอวี้เฉิงแค่สองสามก้าวเท่านั้น

 

 

“คุณเผย สัปดาห์หน้าคุณถึงจะกลับมาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลับประเทศมากะทันหันล่ะ? แถมยังมาที่นี่…”

 

 

พูดยังไม่ทันจบ วินาทีต่อมา เอวของหลินเยียนพลันถูกกระชับแน่น คำพูดที่เหลืออยู่ทั้งหมดล้วนจุกอยู่ที่ลำคอ

 

 

สายตาของชายหนุ่มเย็นชาดังเดิม เขามองหญิงสาวอย่างสงบนิ่ง โยนบุหรี่ขนาดเท่าปลายนิ้วทิ้งไปด้วยท่าทางสบายๆ จากนั้นก็ขยี้ให้ดับ

 

 

หลินเยียนยังเดินมาไม่ถึงข้างหน้า แขนยาวก็ยื่นออกไป ใช้แรงดึงเธอเข้ากอดอยู่ในอ้อมอก…