ตอนที่ 199 : การดิ้นรนก่อนตาย

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่199 : การดิ้นรนก่อนตาย

จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยมองหน้ากันก่อนจะรีบถอยกลับทันที

หลงปู้หยู๋และคนอื่น ๆ ไม่เข้าใจคำพูดของหวังเย่า พวกเขาอยู่ห่างจากจระเข้นั่น 300 เมตรแล้ว ดังนั้นพวกเขาไม่น่าจะเป็นอะไร

แต่ตอนนั้นกลับมีระเบิดก่อตัวขึ้นมา ที่พื้นรอบตัวจระเข้เกราะทองนั้นกลับบวมขึ้นราวกับว่าทุ่นระเบิดได้ทำการระเบิดออกมาจากใต้พื้นดิน

หลงปู้หยู๋และคนอื่น ๆ ต่างก็หน้าถอดสี

เพราะเสียงแตกของพื้นดินยังดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ใต้พื้นดินนี้มีแรงระเบิดมหาศาลที่ทำให้การระเบิดของพื้นดินกระจายตัวออกมาอย่างรวดเร็ว

ภายใน 2 วินาทีพื้นที่ในระยะ 200 เมตร จากจระเข้เกราะทองนั้นก็แตกออกและยังลามมาถึงพวกเขา

“ รีบถอยกลับ ”  หลงปู้หยู๋ตะโกนออกมา เขาไม่คิดเลยว่าจระเข้เกราะทองนั้นจะมีการโจมตีที่รุนแรงแบบนี้อยู่ด้วย

แต่สุดท้ายพวกเขาก็หนีไปได้แค่ไม่กี่สิบเมตรก่อนจะตัดสินใจกระโดดขึ้นเพื่อหลบการโจมตี

หวังเย่าย่นคิ้ว สกิลนี้เป็นการโจมตีแบบหมู่ พลังของมันกระจายตัวกันออก ดังนั้นจึงไม่ส่งผลกระทบต่อร่างคิงคองของหงอคงที่แม้แต่กระสุนเจาะเกราะยังทำอะไรไม่ได้  จึงเป็นธรรมดาที่พลังของคลื่นพลิกปฐพีนี่จะทำอะไรไม่ได้ด้วย

ตอนที่คลื่นพลิกปฐพีแผ่มาถึงการ์ฟิลด์ การ์ฟิลด์ก็ได้กระโดดขึ้นสูงกว่า 400 เมตรและหลบการโจมตีไปได้อย่างง่ายดาย

เป็นธรรมดาที่หวังเย่าซึ่งนั่งอยู่บนหลังของการ์ฟิลด์จะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ

แต่หลงปู้หยู๋และคนอื่น ๆ หนีกันได้ช้า ส่วนใหญ่ไม่มีความสามารถในการบิน พวกเขาจึงรับการโจมตีจากคลื่นพลิกปฐพีและบาดเจ็บไป บางคนถึงกับกระอักเลือดออกมา

ตอนที่บาดเจ็บนั้นพวกเขาก็พากันหดหู่ ถ้าไม่ใช่เพราะได้ชุดระดับ B มา ถ้าไม่มีการป้องกันของชุดพวกนี้ เกรงว่าพวกเขาคงตายไปแล้ว

สีหน้าของหลงปู้หยู๋บิดเบี้ยวไป เป็นธรรมดาที่เขาจะหนีได้ทันและไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก แต่เพราะเขาตัดสินใจช้าจึงทำให้ทีมของเขาต้องบาดเจ็บ ตอนนั้นเขาได้แต่โทษตัวเอง

เมื่อเห็นว่ายังไม่มีใครตาย หวังเย่าก็โล่งอก ผลลัพธ์นี้ถือว่าดีแล้ว

หลงปู้หยู๋ไม่ได้อยู่นิ่ง เขาสั่งให้ลูกน้องถอยกลับไปที่แนวหลัง เพราะเขาไม่กล้าจะประมาทอีกต่อไป

“ไม่คิดเลยว่าจะมีสกิลที่แรงแบบนี้ ฉันเดาว่าถึงเราทุกคนจะร่วมมือกันแต่ก็คงทำอะไรจระเข้นี่ไม่ได้”  ก่อนหน้านี้หลงปู้หยู๋อยากจะขอหวังเย่าให้พวกเขาจัดการกับมัน  แต่ตอนนี้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าหลงตัวเองเกินไป

เมื่อช่วยพวกที่บาดเจ็บมาได้ หลงปู้หยู๋และคนอื่น ๆ ก็ได้แต่มองดูการต่อสู้อยู่ห่าง ๆ

ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็พบว่าหวังเย่าและการ์ฟิลด์ได้ขึ้นไปยืนอยู่บนผาเพื่อจับตาดูการต่อสู้ด้านล่างแล้ว

จระเข้เกราะทองรู้สึกได้ว่าหงอคงไม่เป็นอะไร มันจึงได้ใช้สกิลคลั่งทำให้เลือดในตัวเดือดดาลทันที

ตอนนั้น ความสามารถในการโจมตีของมันพัฒนาขึ้นมาอย่างมาก กรงเล็บและฟันของมันดูคมขึ้น มันว่องไวกว่าเดิม ราวกับไม่ได้เป็นจระเข้แต่กลับเหมือนสิงโตที่ว่องไวแทน

สำหรับโหมดคลั่งของจระเข้ หงอคงไม่ใช่แค่ไม่กลัวแต่กลับฮึกเหิมขึ้นมาอีกด้วย ในที่สุดมันก็จะได้ลงมืออย่างเต็มที่ มือข้างหนึ่งของมันจับกระบอง ส่วนมืออีกข้างคอยควบคุมผลทองให้พุ่งเข้าใส่จระเข้เกราะทองโดยเล็งไปที่ตาของมัน

ผลทองนี้แม้ว่าจะมีขนาดเท่ากับหัวคนแต่มันกลับหนักและแข็งอย่างมาก มันเทียบได้กับก้อนทองจริง ๆ มันจึงสามารถสร้างความเสียหายให้กับจระเข้เกราะทองได้

แม้ว่าจระเข้จะมีชั้นเกล็ดเกราะทองอยู่แต่ยังไงซะมันก็หนาแค่ 1 นิ้ว ความหนานี้เพียงพอจะรับมืออาวุธทั่วไปได้ แม้แต่กรงเล็บของการ์ฟิลด์ก็เดาว่าคงไม่อาจจะทลายการป้องกันของมันได้ แต่ต่อหน้าผลทองรวมไปถึงกระบองทมิฬแล้ว ชั้นเกล็ดนี้ก็ยังไม่แข็งพอ

ทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด  ผ่านไปครึ่งนาทีพวกมันก็เข้าปะทะกันมากกว่าสิบครั้ง

ด้วยการปะทะกันที่รุนแรงเช่นนี้ก็ทำให้เดาได้ง่ายว่าใครจะชนะรึแพ้

ใบหน้าของจระเข้นั้นเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดที่ไหลออกมา แต่หงอคงเองก็ใช่ว่าจะสมบูรณ์ดี ด้านข้างลำตัวนั้นถูกฟันของจระเข้กัดเข้าและฉีกเนื้อออกไป

แต่โดยรวมแล้วความเสียหายของทั้งคู่อยู่ที่ระดับ 3 ต่อ 7   หงอคงเป็นฝ่ายได้เปรียบ ยังไงซะอาวุธของหงอคงก็ทรงพลังกว่า

เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น จระเข้เกราะทองก็แสดงสายตาหวาดกลัวออกมา หากยังสู้แบบนี้ต่อไปคงเป็นมันที่จะต้องตายก่อน มันใช้กรงเล็บตะปบไปข้างหน้าโดยคิดจะสร้างบาดแผลให้กับหงอคง

หงอคงเห็นว่าหากรับการโจมตีนี้ไป มันคงบาดเจ็บหนักจึงเลือกที่จะหลบ

จระเข้เห็นแบบนั้นก็รีบหันหลังพร้อมกับใช้หางรับมือกับกระบองของหงอคงเอาไว้พร้อมกับหนีออกไป

ยังไงซะมันก็ยากที่หงอคงจะตามมันทัน เพราะมันมีถึง 6 ขา

หงอคงไม่ยอมอยู่เฉย มันได้ควบคุมผลทองและใช้สกิลอาณาเขตราชาศิลา มันควบคุมหินในอาณาเขตให้เข้าโจมตีจระเข้ เมื่อไม่สามารถตามทัน งั้นก็ต้องขัดขวางอีกฝ่ายเอาไว้

ครั้งนี้จระเข้เกราะทองเหมือนจะฉลาดกว่าเดิม มันหลบหินที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่มันมี

ถ้ามันไม่บาดเจ็บ มันคงไม่คิดจะหลบ แต่ในเมื่อมันบาดเจ็บหนักแบบนี้และการป้องกันของเกล็ดก็ไม่อาจจะใช้ได้ผล จึงเป็นธรรมดาที่มันจะไม่กล้ารับการโจมตีนี้เอาไว้

เมื่อเห็นว่าจระเข้เกราะทองกำลังจะหนีไปได้ หวังเย่าที่ยืนอยู่บนผาก็ได้ไล่ตามไปทันที เขาพลิกฝ่ามือก่อนจะล้วงเอาลูกแก้ววิญญาณไฟออกมา

“เผาไหม้”  หวังเย่าตะโกนออกมาพร้อมกับลูกแก้ววิญญาณไฟที่รวบรวมพลังไฟรอบ ๆ ก่อนจะพ่นไฟเข้าใส่จระเข้เกราะทอง ตัวของมันโดนเผาอย่างรวดเร็ว

จระเข้เกราะทองดิ้นไปมา ปากของมันยังคงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่มันก็ไม่อาจจะดับไฟพวกนี้ไปได้ราวกับว่าไฟนี้เผาไหม้จากด้านในของตัวมัน

“กรรรร ! ”  จระเข้เกราะทองกดความเจ็บปวดเอาไว้ก่อนจะเงยหน้ามองหวังเย่า  จากนั้นมันก็ใช้กรงเล็บซ้ายส่งกรงเล็บบินพุ่งเข้าใส่หวังเย่าที่อยู่ห่างออกไป 400 เมตร

สีหน้าของหวังเย่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาคิดถึงสกิลที่สี่ของมันนั่นก็คือกรงเล็บบิน

ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ใส่ใจอะไร ทว่าเมื่อจระเข้เกราะทองกำลังจะตาย มันกลับใช้สกิลนี้ออกมา

สกิลนี้มีพลังมิติอยู่ด้วย มันจึงโผล่มาตรงหน้าหวังเย่าแทบจะทันที มันแทบไม่มีเวลาให้เขาเตรียมตัวเลยด้วยซ้ำ

หวังเย่าใจสั่น เขารีบใช้สกิลของหงอคงทันที  ร่างคิงคอง !