ตอนที่ 128 สงครามเลือด

นายน้อยเจ้าสำราญ

ตอนที่ 128 สงครามเลือด

ฟู่เสี่ยวกวนขมวดคิ้ว ถือโอกาสที่ไฟยังมิดับมอด มองไปยังที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว

ไม่มีหน้าต่าง หากพี่สี่ต้องการจะวางเพลิงจริง ๆ การหนีเอาตัวรอดอาจจะพุ่งออกมาทางตรง หรืออาจจะออกไปทางหลังคา

หลังคาเป็นมุงจาก หากปีนขึ้นไปตามเสาหลักก็สามารถหนีออกไปได้มิยากนัก

เพียงแต่เขาต้องการมีดสักเล่มหนึ่ง

มีดของเจ้าเจ็ดนั้นอยู่ห่างจากเขาไปเล็กน้อย เขามิกล้าเอื้อมไปหยิบ ทำได้เพียงรอให้พี่สี่ห่างออกไปสักหน่อยเขาจึงจะหยิบได้

ด้านนอกมีเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามา ในมือเขายังคงถือคันธนูไว้มิได้วาง สายตาจับจ้องไปยังประตูบานนั้น

“ข้าจะเผาเจ้าให้ไหม้เกรียม ! เจ้าเจ็ด ข้าจะแก้แค้นให้เจ้าเอง ! ”

“ข้าจะเผาเจ้า ! ”

ฟู่เสี่ยวกวนได้กลิ่นน้ำมัน กลิ่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขารีบคว้ามีดที่ตกอยู่บนพื้นอย่างรวดเร็ว และไปยังเสาหลักต้นนั้น

เขาปีนขึ้นไปด้านบน ใช้ขาเกาะเกี่ยวเสาไว้ ธนูยังคงเล็งไปที่ประตู

เขายังมิได้ปีนขึ้นไปบนหลังคา แต่ยังคงตั้งตารอคอยให้พี่สี่วางเพลิง

ผ้าห่มผืนหนึ่งที่เต็มไปด้วยน้ำมันจุดไฟโยนเข้ามาด้านใน ฟู่เสี่ยวกวนจึงได้วางธนูลงและหยิบมีดออกมา ควันไฟลอยคลุ้ง เขากลั้นลมหายใจและรีบใช้มีดทำลายหลังคานี้ เขาโผล่หัวออกไปและรีบหดกลับมาโดยเร็ว

ฉึบ ! มีลูกธนูดอกหนึ่งยิงมาปักกลางหลังคา

ฟู่เสี่ยวกวนตกใจเสียจนเหงื่อตก เขาวางแผนผิดไป ไอ้บ้าเอ๊ย มันรู้ได้ยังไงเนี่ย !

แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดี ?

ควันที่ด้านล่างลอยขึ้นมาเรื่อย ๆ เขาปีนขึ้นไปตามขื่อ มีแสงแวววาวสะท้อนมาและมีดนั้นปักลงบนหลังคา !

เขาผู้นั้นอยู่บนหลังคา !

ฟู่เสี่ยวกวนขวัญเสีย เขาปล่อยมือและร่วงลงด้านล่าง

เขารีบลุกขึ้น เก็บมีดหยิบธนูและวิ่งตรงไปยังประตูนั้น เขายิงลูกธนูออกไปหนึ่งดอก

เขาย่องราวกับแมว ธนูดอกที่สองถูกยิงออกไป เขามองเห็นว่าประตูตรงหน้านี้อันตรายที่สุด

เขามิได้วิ่งผ่าออกไป แต่กลับย้อนมาหยิบร่างไร้วิญญาณของเจ้าเจ็ดมาบังเอาไว้และพุ่งออกไป

“ฉึบ…ฉึบ…ฉึบ… !”

ลูกธนูสามดอกปักเข้าที่ร่างของเจ้าเจ็ด ฟู่เสี่ยวกวนหาที่หลบภัยหลังเขาหิน

เขารีบวิ่งไปยังด้านหลังหินนั้น โยนร่างของเจ้าเจ็ดลงและหยิบคันธนูขึ้นมา

กระท่อมหลังนั้นถูกเผาเป็นผุยผง แสงไฟเจิดจ้า เขาพิงอยู่ที่ด้านหลังของหินด้วยความสงบ ใช้สมาธิตั้งมั่นคอยฟังเสียง

มีเสียงคนวิ่งเข้ามา ระยะห่างประมาณ 50 ก้าว

เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ดังมาจากด้านขวา ระยะห่าง 30 ก้าว

เสียงวนไปทางซ้าย ระยะห่างประมาณ 40 ก้าว เขาคือยอดฝีมือ

เสียงฝีเท้าเงียบลง ฟู่เสี่ยวกวนขมวดคิ้ว ขยับตัว เตรียมธนู ยิง !

“ฉึบ… !”

“ติ๊ง….. !”

เขาไม่รู้ว่าธนูดอกเมื่อครู่ยิงถูกเป้าหมายหรือไม่ แต่ธนูของคู่ต่อสู้ยิงเฉียดใบหูของเขาปักเข้าที่หิน เขาเหงื่อออกท่วมตัว

เขาหยิบลูกธนูออกมาอีกดอกหนึ่งแล้วตั้งใจฟังเสียง

มีเสียงลมมาจากด้านบน เขายิงธนูออกไปโดยมิคิดและวิ่งออกมาอย่างสุดแรงเกิด “ฉึบ…… !” เขามิได้หันหลังไปมอง แต่กลับเตรียมลูกธนูออกไปอีกหนึ่งดอก ให้ตายสิ ! พี่สี่นั่นมีวิชาตัวเบาด้วยหรือ !

ธนูดอกนั้นถูกพี่สี่ใช้มีดปัดตกลงสู่พื้น ร่างของเขาร่อนลงสู่พื้น ปลายเท้าทั้งสองแตะเบา ๆ เขาเก็บมีดและเตรียมธนู จากนั้นลอยตัวติดตามไป

พี่สี่เองก็ปวดหัวเช่นกัน ! ใครเล่าบอกว่าเขาเป็นเพียงผู้ร่ำเรียนหนังสือ มีพวกนักปราชญ์คนไหนยิงธนูได้แม่นเช่นนี้กัน ?

ขาของเขาได้รับบาดเจ็บจากลูกธนู เขาไม่เข้าใจเสียจริงว่าเจ้าหมอนั่นรู้ตำแหน่งของเขาได้อย่างไรกัน ?

ฟู่เสี่ยวกวนคล้ายกับถูกบางสิ่งขัดขาจนสะดุดล้ม ลูกธนูของพี่สี่นั้นลอยเหนือเขาบนอากาศ เขาแอบสบถอยู่ในใจว่าซวยแล้วสิ !

ฟู่เสี่ยวกวนนอนราบลงที่พื้น จากนั้นปล่อยลูกธนูออกไป

พี่สี่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ คันธนูในมือเขายังมิได้หยิบลูกธนู เขากำลังจะหยิบมันขึ้นมาแต่สายธนูถูกลูกธนูของฟู่เสี่ยวกวนปักเข้าเสียจนขาด ! ลูกธนูนั้นเฉียดหูเขาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น

ฟู่เสี่ยวกวนรีบลุกขึ้นวิ่งไปยังบนภูเขา

บนภูเขานั้นมีต้นไม้ เขาคาดว่าในป่าไม้เช่นนี้เขาจะสามารถเอาชนะยอดฝีมือนี้ได้

พี่สี่โมโหเป็นที่สุด เจ้านั่นมิได้รับอันตรายแม้แต่น้อย แต่เขากลับเกือบเอาชีวิตไม่รอด !

หากเรื่องนี้แพร่ออกไป เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด ?

เมื่อไม่มีคันธนู เขาจึงได้หยิบลูกดอกแล้วปาไปทางฟู่เสี่ยวกวน

ฉึบ ! ฟู่เสี่ยวกวนสูดปาก ให้ตายสิ !  ลูกดอกปักเข้าที่ก้นของเขา !

เขาแทรกตัวเข้าไปยังในป่าแล้วหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ อดทนกับความเจ็บปวดที่ก้น เขาก้มลงเตรียมลูกธนู และคอยฟังเสียงจากรอบทิศ ค้นหาตำแหน่งของพี่สี่

ที่แห่งนี้อยู่ห่างจากกระท่อมหลังนั้นค่อนข้างไกล แสงไฟมิอาจส่องมาถึงได้ ทำให้ทุกด้านมืดมิด

เขาทำจิตใจนิ่งสงบเพื่อฟังได้ชัดเจนขึ้น พี่สี่เองบัดนี้ก็ไม่รู้ว่าเป้าหมายของเขาอยู่ที่ใด หากฟู่เสี่ยวกวนไม่ขยับตัว เขาก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าฟู่เสี่ยวกวนซ่อนตัวอยู่ที่ไหน

แต่เขาจำเป็นจะต้องออกค้นหา ทำการล่อเหยื่อออกมา มิเช่นนั้นรอให้ฟ้าสางอาจมีเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบ และอาจทำให้ล้มเหลวได้ง่ายๆ

ทางซ้าย 80 ก้าว 70 ก้าว 50 ก้าว 30 ก้าว……ยิง ! ฉึบ…… เขาหลบไปยังอีกฟากหนึ่งของต้นไม้ ฉึบ ! ธนูดอกหนึ่งปักลงที่ต้นไม้

ยิง !

ยิงต่อไป !

เขายิงธนูและวิ่งหนีไปพร้อม ๆ กัน ด้านพี่สี่ก็ปัดลูกธนูและวิ่งไล่ตามไป คนเล่า ?

มันหายไปไหนอีกแล้ว !

ฟู่เสี่ยวกวนหลบอยู่หลังก้อนหินก้อนหนึ่งแล้วเล็งไปด้านหน้า นี่คือลูกธนูดอกสุดท้ายแล้ว

50 ก้าว 30 ก้าว 20 ก้าว……10 ก้าว !

ยิง !

อึก !

เขายิงถูก ! ฟู่เสี่ยวกวนรีบหยิบมีดออกมาและแทงไปยังฝ่ายตรงข้ามท่ามกลางความมืดมิด

“อ๊าก !” ธนูดอกนั้นปักเข้าที่ท้องของพี่สี่จนแทบทะลุ แต่เขายังคงยืนถือดาบแกว่งไปมาท่ามกลางความมืดมิด เช้ง !……มีดดาบทั้งสองกระทบกัน ฟู่เสี่ยวกวนจับมีดเอาไว้และรวบรวมพลังทั้งหมด เขาเตะเข้าไปยังท้องของพี่สี่ที่มีลูกธนูปักอยู่

“อ๊ากกก……” ธนูดอกนั้นปักทะลุช่องท้องของพี่สี่ ร่างของเขาก็กระเด็นด้วยแรงถีบ ร่างนั้นตกกระทบลงสู่พื้น แต่เขากลับใช้แรงปามีดออกไปทางฟู่เสี่ยวกวน

“ไปตายซะ !”

ฟู่เสี่ยวกวนรีบลุกขึ้นหวังจะวิ่งหนี แต่มีดลอยมาอย่างรวดเร็ว ฟู่เสี่ยวกวนหมอบลงกับพื้น และดึงลูกดอกที่ปักอยู่ตรงก้นออกมาโดยไม่มีเวลาแม้แต่จะครุ่นคิด ตอนนั้นเองมีดของพี่สี่ก็ลอยมายังฟู่เสี่ยวกวนที่นอนอยู่บนพื้น

“เจ้าสิ ! ไปตายซะ !” ฟู่เสี่ยวกวนใช้ลูกดอกนั้นแทนลูกธนู และปาออกไปทันที ลูกดอกปักเข้าที่กลางใจของพี่สี่ !

“อึก !”

ฟู่เสี่ยวกวนรีบกลิ้งไปกับพื้น พี่สี่ล้มลง ก่อนเขาจะตายได้ปล่อยหมัดสุดท้ายอันทรงพลังมายังบ่าข้างซ้ายของฟู่เสี่ยวกวน

“กร๊อบ !” เสียงกระดูกดังขึ้น กระดูกที่บ่าของฟู่เสี่ยวกวนแตก เจ็บเสียจนเขาเหงื่อท่วมตัว

ให้ตายเถอะเจ้านี่ !

ไอ้บ้าเอ๊ย !

มาพลาดท่าเอาวินาทีสุดท้าย !

ฟู่เสี่ยวกวนลุกขึ้นมาด้วยท่าทางเจ็บปวด เขาหยิบดาบของพี่สี่ขึ้นมาและฟันมันลงไป หัวของพี่สี่กลิ้งไปตามพื้นดิน