ตอนที่ 457 เจ็บใจและโทสะ (9)/ตอนที่ 458 เจ็บใจและโทสะ (10)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 457 เจ็บใจและโทสะ (9)

แต่คำพูดของถังลั่ว ทำให้เฟิงหรูชิงระเบิดออกมา

ร่างนางไหววูบราวสายฟ้า ออกหมัดจู่โจมเข้าที่หน้าอกถังลั่ว

เพราะศึกก่อนหน้า ถังลั่วหมดสิ้นเรี่ยวแรงไปแล้ว จึงไม่อาจสกัดกั้นได้อีก หมัดนี้ทำเอากระดูกซี่โครงเขายุบตัวลงไป เจ็บจนหน้าตาบิดเบี้ยวเขียวคล้ำ

“เสด็จแม่ขาดน้ำ ผอมจนแห้งเช่นนี้ ดอกจื่อมู่มีสรรพคุณเช่นนี้อย่างนั้นหรือ อีกอย่างไม่ว่าดอก

จื่อยวนหรือจื่อมู่ ล้วนเป็นยาพิษ เพื่อบีบให้นางอยู่ต่อ เจ้าถึงกับวางยาพิษนาง ทำให้นางขาดอิสระในชีวิตไป ถังลั่ว นี่คือความรักที่เจ้ามีต่อนางอย่างนั้นหรือ”

นางกระทืบลงไปอีกครั้ง

กระดูกหัวไหล่ของถังลั่วถูกนางเหยียบเกิดเสียงดังกรอบแกรบ

แต่เขาคล้ายกับไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด เหม่อมองหรงเยียน

ถังอวี้…หลอกเขาหรือ

ทั้งที่บอกเขาว่า นั่นคือดอกจื่อมู่ หาใช่ดอกจื่อยวน แต่เยียนเอ๋อร์ใกล้ทนไม่ไหวอย่างชัดเจน!

ครั้นมองใบหน้าซูบเซียวของหรงเยียน หัวใจถังลั่วกระตุก เจ็บปวดอย่างร้ายกาจ ริมฝีปากสั่นระริก แววตาทรมาน

ระยะนี้เขาสังเกตว่าเยียนเอ๋อร์ผิดปกติไป

ทว่าเขาเชื่อลูกสาวจนเกินไป และยังกลัวนางจะจากไปจนเกินเหตุ…

ต่อให้รู้สึกถึงความผิดปกติ เขาก็ยังปลอบตัวเอง

ส่งผลให้เยียนเอ๋อร์เปลี่ยนไปอยู่ในสภาพน่าอนาถเช่นนี้…

นี่เป็นความผิดของเขาจริงๆ เขาไม่พบให้ไวกว่านี้! เขาคิดควบคุมอิสระของนางเท่านั้น ไม่เคยคิดเอาชีวิตนางเลย!

“เยียนเอ๋อร์ เยียนเอ๋อร์ของข้า…” ใบหน้าถังลั่วอาบไปด้วยน้ำตา

เขาลุกขึ้นมา เดินไปทางหรงเยียน

เขาเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ถูกเฟิงหรูชิงเตะกระเด็นอีกครั้ง

คราวนี้เขาพยายามหยัดกายหลายครั้ง ยังไม่อาจลุกขึ้นได้ พลังทั้งหมดเหือดหายไปจนสิ้นแล้วในชั่ววูบ สิ่งที่ตามมาด้วยยังมีหัวใจที่หยุดนิ่งพร้อมกับการจากไปของหรงเยียน…

ถังอิ่นก้าวออกมา จับมือเฟิงหรูชิงเบาๆ คิดบอกกับนางว่า ไม่ว่าเวลาไหน นางก็อยู่ข้างเดียวกับเฟิงหรูชิง

ไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่น เพียงเพราะอีกฝ่ายคือเฟิงหรูชิง!

“พวกเราไป”

เฟิงหรูชิงไม่มองคนเบื้องหลังอีกสักนิด นางเดินตามติดเฟิงเทียนอวี้ออกไป

“อิ่นเอ๋อร์”

ถังอู่อึ้งเล็กน้อย ก่อนจะตระหนักได้เรียกถังอิ่นไว้

ถังอิ่นชะงักฝีเท้าลง ยืนหันหลังเอ่ยกับคนด้านหลังว่า

“ข้าคิดมาตลอดว่าคนตระกูลถังก็แค่เห็นแก่ตัว กลัวตายเท่านั้น อย่างไรความรู้สึกเหล่านี้ก็คือเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ข้าไม่อาจออกความเห็นมากความ แต่ตอนนี้…ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตระกูลถังทำลงไป เกินกว่าที่ข้าจะรับได้แล้ว”

เพื่อรั้งหรงเยียนไว้ ไม่เสียใจที่ทำให้นางเสียความทรงจำ ซ้ำยังวางยาพิษนาง ตระกูลถังที่น่ากลัวเช่นนี้ กลับเป็นตระกูลของนาง

“ดังนั้น…” เสียงของถังอิ่นหาสดใสเหมือนเคย แฝงไปด้วยความหนักแน่นและเย็นชา “ภายหน้า ข้าจะไม่กลับมาอีกแล้ว เสี่ยวชิงจะจัดการกับตระกูลถังอย่างไร ข้าก็ไม่สนใจ พวกท่านรักษาตัวเองให้ดีเถอะ”

นางอยู่ตระกูลถังมาหลายปี หากบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดนั่นคือคำหลอกลวง

ดังนั้นนางสามารถไม่กลับตระกูลถังได้ แต่ไม่มีทางไม่สนใจความเป็นความตายของตระกูลถัง

มาจนถึงครั้งนี้…

ตระกูลถังทำผิดรุนแรงเกินไป กระทั่งนางเห็นสภาพน่าอนาถของหรงเยียน ยังโมโหจนสั่น แล้วเสี่ยวชิงเล่า

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าเสี่ยวชิงตัดสินใจอย่างไร นางล้วนสนับสนุน ไม่มีทางทำให้เสี่ยวชิงผิดหวังแน่นอน!

ถังอิ่นเม้มปาก เดินจากไป

“คุณหนู รอข้าด้วย” เชียนหนิงรีบร้อนไล่ตามนางออกไปอย่างว่องไว

…………………….

ตอนที่ 458 เจ็บใจและโทสะ (10)

ก่อนนางจากไป ยังไม่ลืมหันมาถลึงตาใส่ถังลั่ว

น่าขยะแขยง สารเลว!

พรากคนรักจากกันเป็นสมควรตายเป็นหมื่นครั้ง!

ถังลั่วสีหน้าหมดหวังความรู้สึกไร้กำลังปะทุขึ้นมาในหัวใจ มือเขาปิดหน้าน้ำตาไหลอย่างไร้เสียง

ต่อมาน้ำตาไหลเงียบ กลายเป็นเสียงสะอื้นเจ็บปวด

ทั่วทั้งตระกูลถังมีเพียงเสียงร้องไห้เจ็บปวดของเขาก้องไปทั่ว

ไม่มีใครเห็นใจเขา แม้กระทั่งพวกถังซื่อ คราวนี้ก็ไม่ช่วยเหลือเขาอีก

ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะตัวเขาเอง ทำตระกูลถังลำบากไปด้วย…

คฤหาสน์เมืองเยว่

ถังอิ่นหยุดเดิน เม้มปากเอ่ยว่า “ท่านลุงฮ่องเต้ เสี่ยวชิง เพราะร่างกายเป็นเหตุทำให้ข้าออกไปข้างนอกน้อยครั้งนัก สถานที่เดียวที่พำนักอยู่หลังออกมาจากตระกูลถังแล้วก็คือคฤหาสน์หลังนี้ พวกเจ้าวางใจเถอะ ที่นี่เป็นถิ่นของข้า พวกเจ้าดูแลท่านป้าฮองเฮาได้อย่างสบายใจ”

“ขอบคุณ…” เฟิงเทียนอวี้เสียงแหบพร่า

ถังอิ่นรีบร้อนเอ่ยว่า “ไม่ต้องขอบคุณ ข้าผิดเอง หาก…หากข้าแอบไปที่หลังเขาได้สักเที่ยวหนึ่ง หากข้า…ได้พบท่านป้าฮองเฮาไวกว่านี้ บางทีข้าอาจรู้ความสัมพันธ์ของนางกับเสี่ยวชิงไปตั้งนานแล้ว”

ครั้งแรกที่ถังลั่วเห็นเสี่ยวชิงแล้วตกใจถึงขั้นนั้น น่าจะ…เพราะนางและท่านป้าฮองเฮาคล้ายกันมาก

หากรู้แบบนี้แต่แรก นางจะยอมเสี่ยงถูกผู้อาวุโสตระกูลถังตำหนิไปหลังเขาสักเที่ยวหนึ่ง

กันไม่ให้ฮองเฮาได้รับความทุกข์ทรมานมากมาย

“เสด็จพ่อ พวกท่านรอข้าอยู่ด้านนอกก่อน ข้าจะพาเสด็จแม่ไปพักผ่อนในห้อง” เฟิงหรูชิงสะกดความกระวนกระวายในดวงตา สั่งการด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เฟิงเทียนอวี้รู้ถึงพลังความสามารถของเฟิงหรูชิงในตอนนี้เป็นอย่างดี หลังจากฟังคำพูดนางแล้ว แววตาทอประกายความหวังวูบมา

“ชิงเอ๋อร์ เยียนเอ๋อร์ยังช่วยได้ใช่หรือไม่”

เฟิงหรูชิงสีหน้าขมขื่น

หาก…ให้เวลานางมากกว่านี้อีกหน่อย ต่อให้เป็นคนที่ขาข้างหนึ่งเหยียนเข้าตำหนักเหยียนอ๋อง[1] ไปแล้ว นางก็ยังช่วยดึงกลับมาได้

ทว่า…เวลานี้…สายเกินไปมากแล้วจริงๆ

เฟิงหรูชิงมองให้หน้าเปี่ยมไปด้วยความหวังของเฟิงเทียนอวี้ ไม่อาจหักใจทำร้ายเขา เพียงแต่ตอนด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจว่า “ข้าจะลองดู แต่ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่”

เมื่อเฟิงหรูชิงไม่กล้ารับปากเขา แต่ขอเพียงไม่ปฏิเสธชัดเจน ความหวังทะลักทะลวงอยู่ในหัวใจเฟิงเทียนอวี้

ต่อให้เป็นความหวังเพียงเล็กน้อย ก็มากพอให้เขายืนหยัดต่อไป

เฟิงหรูชิงไม่คิดเสียเวลาอีก รับหรงเยียนจากมือเฟิงเทียนอวี้ ผลักประตูห้องเดินเข้าไป

ขณะที่นางเดินไปก็กล่าวทิ้งท้ายไว้อีกประโยคว่า

“อย่าให้ใครเข้ามารบกวน”

สิ้นเสียง นางปิดประตู เดินไปที่เตียงอย่างระวัง ค่อยๆ วางร่างหรงเยียนลงไป

“ฝูเฉิน ชิงหาน”

เสียงของเฟิงหรูชิงดังขึ้นมาในห้อง

ตามมาแสงไฟสองสายสว่างวาบ ในแสงไฟมีเด็กน้อยที่เหมือนเซียนเด็กใบหน้าวิจิตรประดุจหยกสลักปรากฏอยู่เบื้องหน้านาง

ชิงหานนิ่งไปชั่วครู่ มองเฟิงหรูชิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างปลอดภัยไร้เรื่องราวอย่างไม่เชื่อสายตา

นางเบะปากน้อยๆ หยาดน้ำตาเสมือนไข่มุกไหลพร่างพรายลงมา

“ท่านแม่ ท่านแม่…” น้ำเสียงของนางสั่นเทา “ท่านยังมีชีวิตอยู่ ฮื่อๆ ท่านแม่ ท่านยังมีชีวิตอยู่…”

ฝูเฉินเองก็กระบอกตาแดงก่ำ

ใครต่างก็รู้ว่า ยามที่เฟิงหรูชิงส่งพวกเขากลับไปอยู่ในห้วงเวลานั้น ในทางกลับกันหมายถึงว่าตัวนางกำลังเผชิญอันตราย

หัวใจเขาสิ้นหวังและเจ็บปวดมากเพียงใด

แต่ชิงหานเอาแต่ร้องไห้ เขาจึงไม่สามารถปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกออกมา ได้แต่ฝืนตัวเองเข้มแข็ง ปลอบใจเสี่ยวหาน

…………………………..

[1] ตำหนักเหยียนอ๋อง เปรียบเป็น ยมบาล