บทที่ 195 สี่นิ้วกำราบมาร[รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 195 สี่นิ้วกำราบมาร[รีไรท์]

สายลมกระโชกแรงและหิมะปลิวว่อน บรรยากาศมีแต่ความเงียบงัน เงียบจนได้ยินเสียงหิมะตกพื้น

โครม!

กำแพงหินถล่มลงมา พลังลมปราณส่งเศษหินที่แตกกระจายพุ่งออกไปทุกทิศทุกทางเหมือนกับลูกกระสุน หลังจากม่านฝุ่นจางตัวลงไป ทุกคนก็เห็นคนผู้หนึ่งนอนอยู่ในกองกำแพง คนผู้นั้นก็คือฉู่ชวิ๋น เขาได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ชายหนุ่มกระอักเลือดออกมาอีกคำใหญ่

ด้วยการรวมพลังจากขั้นปรมาจารย์ระดับ 7 ถึง 4 คน ผู้ขั้นปรมาจารย์ระดับ 8 อีก 3 คน และขั้นปรมาจารย์ระดับ 6 อีกหลายสิบคน ฉู่ชวิ๋นจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกประตู

หลงอ๋าวจ้องมองด้วยความโกรธแค้น ภาพนี้ด้วยความโกรธแค้น ฉู่เทียนเหอกำมือเป็นหมัดแน่นและจ้องมองฉู่ชวิ๋นที่กำลังบาดเจ็บอยู่ในกองซากกำแพง

แต่สีหน้าของฉู่ชวิ๋นยังคงเยือกเย็น เขาจ้องมองไปยังกลุ่มศัตรูด้วยสายตาอาฆาตแค้น ซึ่งทำให้คนกลุ่มนั้นรู้สึกตัวเย็นเฉียบขึ้นมาในทันใด

“ฉู่ชวิ๋น วันนี้คือวันตายของแก คนรักของแกก็ตายไปแล้ว พวกเราใจดีมากพอที่จะส่งพวกแกให้ไปอยู่ด้วยกันในนรก ไม่คิดจะขอบคุณฉันหน่อยหรือไง ฮ่า ๆ…” เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นได้รับบาดเจ็บหนัก หวูฉางเฟิงก็ระเบิดเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งออกมาด้วยความตื่นเต้น

“ฉู่ชวิ๋น ไม่เคยมีใครกล้ามาอวดดีในภูเขาเซวียนฉีมาก่อน ไม่ว่าใครก็ตามที่มาอวดดีในภูเขาเซวียนฉี มันผู้นั้นจะต้องตาย แม้แต่แกก็ไม่มีข้อยกเว้น วันนี้แหละ พวกฉันจะเอาแกมาทำปุ๋ยให้กับต้นไม้ในภูเขาเซวียนฉี” เฉินหวูฮุยพูดด้วยความเหยียดหยาม

“พวกแกมันชั่วช้าเกินไปแล้ว” น้ำเสียงของฉู่ชวิ๋นแหบแห้ง นี่คือครั้งแรกที่เขาพูดอะไรออกมาหลังเริ่มการต่อสู้

เมื่อพูดจบ ชายหนุ่มก็หมุนมือเป็นวงกลม โคจรพลังลมปราณเต็มกำลัง มวลอากาศปั่นป่วน กล่าวได้ว่าฉู่ชวิ๋นกำลังจะใช้ท่าไม้ตายออกมาแล้ว!

ตู้ม!

สายลมปั่นป่วน หิมะปลิวกระจาย นิ้วมือขนาดยักษ์ที่มีพลังลมปราณห่อหุ้มปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศและพุ่งลงมาหาพวกของเฉินหวูฮุยด้วยความน่าสยองขวัญ

“ฉู่ชวิ๋น อย่าพยายามดิ้นรนเลยดีกว่า นอนรอความตายซะเถอะ” เฉินหวูฮุยคำราม แล้วออกคำสั่งว่า “ทุกคนมาช่วยฉันหน่อยเร็วเข้า” ในวินาทีนั้นกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวก็ส่งพลังลมปราณเข้าสู่ร่างกายของเฉินหวูฮุยอีกครั้ง

พลันเฉินหวูฮุยก็มีพลังลมปราณในระดับที่สะเทือนฟ้าดิน เขาสะบัดฝ่ามือปล่อยพลังลมปราณออกไปใส่นิ้วมือขนาดยักษ์ที่พุ่งเข้ามา

พลังลมปราณแต่ละลูกที่พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา มีขนาดเท่ากับเสาหินต้นใหญ่ๆ พุ่งเข้าปะทะกับนิ้วมือขนาดยักษ์ที่กำลังพุ่งตกลงมาอย่างแรง

ตู้มมมมม!

พลังลมปราณจากฝ่ามือกระแทกเข้าใส่นิ้วมือขนาดยักษ์ลูกแล้วลูกเล่า หลังจากนั้น ก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่กลางอากาศ แรงระเบิดแผ่รัศมีในวงกว้าง ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนเหมือนกับเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว

เมื่อเจอพลังลมปราณจากฝ่ามือเข้าไป นิ้วมือขนาดยักษ์ก็แตกสลายหายวับไปกลางอากาศ

ฉู่ชวิ๋นยังคงหมุนวนมือของเขาต่อไป ก่อนที่จะชี้มือขึ้นไปกลางอากาศอีกครั้ง

นี่คือพลังที่สามารถสะเทือนแผ่นฟ้าและสะท้านแผ่นดินได้อย่างแท้จริง!

ตู้มมมมม!

นิ้วมือขนาดยักษ์อีกหนึ่งนิ้วปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศและพุ่งดิ่งลงมาหมายจะทับทุกสิ่งทุกอย่างให้บี้แบน

“ฉู่ชวิ๋น แกกำลังเสียเวลาเปล่า ไม่มีใครมาช่วยเหลือแกได้ทั้งนั้น แกจะให้ฉันเก็บศพของแกไว้ดี ๆ หรืออยากจะให้ฉันฉีกกระชากศพแกจนไม่เหลือชิ้นดีกันล่ะ” เฉินหวูฮุยที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่งกล่าววาจาดูถูก ในขณะเดียวกัน ก็ยิงพลังลมปราณจากฝ่ามือพุ่งขึ้นไปปะทะกับนิ้วมือขนาดยักษ์ ที่กำลังตรงดิ่งลงมาหาพวกเขาด้วยความช่วยเหลือจากบรรดาบริวาร เฉินหวูฮุยดีดตัวขึ้นจากพื้นดินลอยขึ้นไปกลางอากาศ พร้อมกับยิงพลังออกจากฝ่ามือได้อย่างน่ามหัศจรรย์

บนท้องฟ้าเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ทำให้ภูเขาทั้งลูกสั่นสะเทือน เกิดเหตุการณ์ก้อนหินถล่ม เนินเขาทลายอย่างน่าหวาดกลัว

ดวงตาแดงก่ำของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายแวววาว มือของเขาหมุนวนโคจรพลังลมปราณอย่างว่องไว

และนี่คือพลังที่สามารถข่มขวัญเทพเจ้าได้อย่างแท้จริง!

ตู้มมมมม!

นิ้วมือขนาดยักษ์อีกหนึ่งนิ้วปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ ลอยตัวอย่างโดดเด่นอยู่ท่ามกลางความชุลมุนโดยรอบ เฉินหวูฮุยสะบัดฝ่ามือออกไป โดยปราศจากความหวาดกลัว

เกิดการระเบิดกลางอากาศอย่างต่อเนื่อง เสียงของการระเบิดแต่ละครั้งฟังดูเหมือนเสียงฟ้าคำราม พื้นดินสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหวไม่มีหยุด

ฉู่ชวิ๋นใช้พลังลมปราณควบคุมนิ้วมือขนาดยักษ์ด้วยความรวดเร็วที่มากขึ้นและมากขึ้น

เฮือก!

ในทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มก็กระอักเลือดออกมาจากปากเป็นจำนวนมาก แต่มือของเขายังคงหมุนวนต่อไป ร่างกายของเขาเปล่งแสงสว่างเหมือนกับเป็นดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก แผ่รัศมีอันตรายออกไปในบรรยากาศรอบตัว

เฮือก!

ฉู่ชวิ๋นกระอักเลือดออกมาจากปากอีกครั้ง ร่างกายเริ่มโงนเงน ดวงตามีประกายแปลกประหลาดเพิ่มมากขึ้น ทุกคนจ้องมองไปที่ฉู่ชวิ๋นเป็นตาเดียว ในตอนนี้ฉู่ชวิ๋นเป็นเหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์ เพียงแค่จ้องมอง ก็รู้สึกได้ถึงความอันตรายสุดขีดแล้ว

“มาช่วยฉันฆ่ามันเร็ว ทุกคน!!!” เฉินหวูฮุยรู้สึกได้ถึงความอันตรายเช่นกัน บริวารของเขาเข้ามาช่วยส่งมอบพลังทันที

เฉินหวูฮุยคำรามในลำคอ พลังลมปราณจากทุกคนไหลรินเข้าสู่ร่างกายของเขา ถ้าไม่มีเคล็ดวิชาลับช่วยเหลือร่างกายของเขาคงระเบิดไปนานแล้ว

“ฉู่ชวิ๋น แกตายซะเถอะ!”

เฉินหวูฮุยระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความบ้าคลั่ง พลังลมปราณพุ่งออกจากฝ่ามือตรงเข้าไปหาฉู่ชวิ๋น

ในตอนที่นิ้วมือขนาดยักษ์อีกหนึ่งนิ้วปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ มันก็ทำให้มวลอากาศในรัศมีหลายร้อยเมตรสั่นไหว ทุกอย่างปลิวกระจาย กลุ่มคนผู้รับชมการต่อสู้รู้สึกได้ถึงอำนาจแห่งการทำลายล้าง แม้จะอยู่ห่างไกลไปหลายร้อยเมตรก็ตาม ดวงตาของพวกเขาจ้องมองไปยังนิ้วมือขนาดใหญ่ หัวใจเต้นสั่นระรัวเหมือนกลองตี

เพียงพริบตาเดียว นิ้วมือขนาดยักษ์นิ้วนี้ก็ดูเหมือนจะแผ่รัศมีของการทำลายล้างได้ทั่วถึงสามโลกเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน ฉู่ชวิ๋นเงยหน้าขึ้นมาแล้ว เฉินหวูฮุยจ้องมองตรงไปที่ฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นที่เสียงที่แหบแห้งตะโกนออกมา “วิชาดัชนี กระบวนท่าสี่นิ้วกำราบมาร!!!”

ตู้มมม!

เสียงระเบิดดังกัมปนาท เหมือนกับมีใครบางคนเปิดประตูหินโบราณ มวลอากาศปั่นป่วนกินพื้นที่ไปหลายกิโลเมตร ในวินาทีนี้ ทุกอย่างดูหยุดนิ่งไปหมด แม้แต่สายลมกับหิมะก็ตาม ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวแล้ว

นิ้วมือยักษ์ที่เหมือนกับเสาหินขนาดใหญ่ พลันปรากฏตัวขึ้นมากลางอากาศ ปลายข้างหนึ่งของมันฝังอยู่ใต้พื้นดิน ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งอยู่สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า นิ้วมือนิ้วที่สี่ นี้มีลำแสงสีดำเคลื่อนไหวขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา

“ฆ่าพวกมันให้หมด!”

เส้นขนทุกเส้นบนร่างกายของฉู่ชวิ๋นชี้ชันในขณะที่เขาตะโกนออกมาเสียงดัง นิ้วมือที่เหมือนเสาหินนั้นเคลื่อนไหวตอบสนองต่อคำสั่งของเขา เพียงแค่มันเอียงตัวเล็กน้อย พื้นดินก็เกิดรอยแตกร้าวน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง

โครม!

หอคอยเก็บดาราที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสามของภูเขาเซวียนฉี และเป็นที่อยู่อาศัยของเฉินหวูฮุย ถูกนิ้วมือในรูปลักษณ์เสาหิน ลอยขึ้นไปพังทลายจนกลายเป็นเพียงซากปรักหักพังในพริบตา

ดวงตาของเฉินหวูฮุยแดงก่ำ หอคอยเก็บดาราเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของสำนักสวรรค์ฟ้า ที่ซึ่งเก็บศิลาจารึกของเจ้าสำนักคนก่อนหน้านี้มาแล้วหลายร้อยปี

“ฉู่ชวิ๋น ฉันจะฆ่าแกให้ได้…” เฉินหวูฮุยร้องคำรามอย่างโกรธแค้น ฉู่ชวิ๋นไม่พูดอะไร

ตู้ม!

ผืนฟ้าสะท้านและพื้นดินสะเทือน เสาหินต้นนั้นพุ่งตรงมาหากลุ่มคน

ตู้ม!

พวกของเฉินหวูฮุยถูกเสาหินต้นนี้ทับลงไปแล้ว ไม่มีการระเบิดขนาดใหญ่ มีแต่ความเงียบงันที่ตามมา

ทันใดนั้นก็ปรากฏแสงดวงเล็ก ๆ เป็นประกายกลางอากาศจำนวนมาก

“พวกเรารีบหนี!” หยานอี้พลันร้องตะโกนออกมาด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ หลงอ๋าวนำตัวฉู่เทียนเหอและภรรยาหลบออกจากจุดนั้นไปนานแล้ว ทุกคนรู้สึกได้ถึงความเป็นอันตรายที่เข้ามาใกล้ตัว

วิบวับ!

แสงดวงเล็ก ๆ ที่เป็นประกายอยู่กลางอากาศ รวมตัวเข้าด้วยกันเกิดเป็นความสว่างไสวคล้ายกับเป็นดวงอาทิตย์ขนาดเล็กก็ไม่ปาน

“พวกเราหนี…” ทุกคนพร้อมใจกันวิ่งหนีเหมือนคนเสียสติ

ตู้มมมมมมมมม!

เกิดการระเบิดขึ้นอีกครั้งจนแผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์ขนาดเล็กกลางท้องฟ้าระเบิดตัวออกท้องฟ้ากลายเป็นสีขาวโพลน แรงระเบิดส่งคลื่นพลังขนาดใหญ่แผ่ออกไปทั่วบริเวณ

ครืน!

คลื่นพลังจากแรงระเบิดที่ส่งออกมา ทำให้ยอดเขาถล่มไปทันที ต้นไม้ที่มีอายุหลายร้อยปีจำนวนมากมาย ถูกแรงระเบิดถอนรากถอนโคนไปในพริบตา

ตู้มมมมมมมมม!

ภูเขาเซวียนฉีถูกแรงระเบิดกระแทกถึงสองครั้งสองคราว ส่งผลให้ฐานภูเขายุบตัว แรงระเบิดทำให้ก้อนหินขนาดใหญ่เท่าบ้านคน กลิ้งลงมาตามไหล่เขาพังทลาย

ในอากาศเต็มไปด้วยกลุ่มหมอกควันและฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าหรือพื้นดิน ล้วนแล้วแต่มีสภาพเหมือนจุดสิ้นสุดของโลกทั้งสิ้น ฉู่ชวิ๋นเองก็ถูกแรงระเบิดกระแทกเช่นกัน เฉินหวูฮุยและบริวารก็หนีไม่รอด

ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร ทุกอย่างพังทลายลงไปด้วยฤทธิ์ของแรงระเบิด ภูเขาถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง ต้นไม้ถูกทำลายถอนรากถอนโคน ก้อนหินขนาดใหญ่สลายหายไปกลายเป็นเพียงเถ้าถ่าน ส่วนกลุ่มคนที่หนีมาอยู่ในที่ปลอดภัย ซึ่งอยู่ห่างออกมาหนึ่งกิโลเมตร ต่างก็มองเห็นการระเบิดอย่างชัดเจน พวกเขาพร้อมใจกันมองกลับไปด้วยความพรั่นพรึง

“ดูนั่นสิ…มัน…..” ใครบางคนอุทานออกมาแล้วอันที่จริง ถึงเขาไม่บอก คนอื่นก็เห็นอยู่แล้ว

หลังจากแรงระเบิดสงบลง ฉู่ชวิ๋นยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่เนื่องจากชายหนุ่มยืนหันหลัง จึงไม่มีใครมองเห็นสีหน้าของเขา เฉินหวูฮุยเคยมีบริวารอยู่เกือบร้อยคน แต่บัดนี้เหลืออยู่เพียงแค่ไม่ถึงยี่สิบคน และยี่สิบคนที่เหลืออยู่นี้ ถ้าไม่ตายกลายเป็นก้อนเนื้อ ต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งสิ้น

ส่วนคนอื่น ๆ นั้นถูกแรงระเบิดเล่นงานจนร่างแหลกสลายไปหมดสิ้นแล้ว!!!