บทที่ 196 เลือดสาด[รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 196 เลือดสาด[รีไรท์]

ฉู่ชวิ๋นพยายามตรวจสอบร่างกายของตัวเองแล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้วออกมา เขาบาดเจ็บหนักมากกว่าที่คาดไว้มาก

สี่นิ้วกำราบมาร ยังเป็นกระบวนท่า ที่เขาในตอนนี้ยังไม่อาจรับไหว ผลที่ได้ก็เลยทำให้พลังลมปราณในร่างกายของเขาแตกกระจาย กระดูกที่เคยเป็นแก้วใสราวกับคริสตัลก็หมองหม่นลงแล้ว

ถึงจะลองโคจรพลังลมปราณเพื่อเยียวยาอาการบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ พลังลมปราณที่อยู่ในร่างกายของเขาลดลงไปแล้วเจ็ดถึงแปดส่วน เพื่อใช้กระบวนท่าสี่ นิ้วกำราบมาร ฉู่ชวิ๋นใช้พลังมากเกินไป แต่ก็ทำให้เขาสังหารผู้อาวุโสของฝ่ายตรงข้ามได้ถึงสามสิบกว่าคน ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า

ในดวงตาของฉู่ชวิ๋น ประกายแห่งความโกรธแค้นยังไม่จางหายไป ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำในขณะที่จ้องมองไปยังพวกของเฉินหวูฮุย

เฉินหวูฮุยและบริวารมีใบหน้าซีดขาว ทุกคนมีสภาพเหมือนเป็นตุ๊กตาผ้าตัวหนึ่ง ถึงแม้จะรอดจากแรงระเบิดเมื่อสักครู่นี้ได้ แต่ทุกคนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้อาวุโสหลายสิบคนถ้าไม่ตายจากแรงระเบิด ก็รอดชีวิตมาได้ในสภาพที่ปางตายและไม่เหลือเรี่ยวแรงต่อสู้ได้อีก

แต่อย่างไรก็ตาม ฉู่ชวิ๋นเคยอาบเลือดมังกรมาแล้วและเป็นผู้ใช้วิชามังกร จึงทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมาก

ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว จึงกล่าวได้ว่าฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บหนักกว่าฉู่ชวิ๋นหลายเท่า ใบหน้าที่แก่ชราของเฉินหวูฮุยบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความแค้น ผู้อาวุโสหลายสิบคนของสำนักสวรรค์ฟ้าถูกฆ่าตาย บุคคลเหล่านี้ถือเป็นสมบัติล้ำค่าและเป็นรากฐานของสำนักสวรรค์ฟ้า

แล้วทำไมฉู่ชวิ๋นถึงบาดเจ็บน้อยกว่าพวกเขาล่ะ? จากสภาพในปัจจุบันนี้ เห็นได้ชัดว่า พวกเขากับฉู่ชวิ๋นมีพลังคนละระดับกัน

ในขณะนี้ ฉู่ชวิ๋นเป็นเหมือนสัตว์ร้ายกระหายเลือด หลายคนอยากจะลุกขึ้นแต่ก็ทำไม่ได้ หวังเพียงอย่างเดียวว่าตนเองจะสามารถร้องขอความเมตตาจากฉู่ชวิ๋น แถมอีกอย่างหนึ่ง ชายหนุ่มก็ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่น้อย ไม่น่าจะเหลือเรี่ยวแรงต่อสู้ได้อีกแล้ว

เฮือก!

ฉู่ชวิ๋นกระอักเลือดออกมาจากริมฝีปากอีกคำใหญ่ เขาพยายามจะเดินมาข้างหน้า แต่ผลจากอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

พวกของเฉินหวูฮุยตกตะลึงไปครู่ใหญ่ หลังจากนั้น พวกเขาจึงได้ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ฉู่ชวิ๋นเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

“ข้าคงต้องขอฝากให้ท่านหยานอี้ช่วยดูแลพวกเขาสักครู่นะ จบเรื่องนี้ไป ข้าจะเลี้ยงขอบคุณ คุณอย่างงาม” หลงอ๋าวพูดกับหยานอี้ ในขณะที่ชี้มือไปยังฉู่เทียนเหอกับภรรยา

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจะดูแลพวกเขาให้เป็นอย่างดี” หยานอี้พูดพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อย อีกฝ่ายหนึ่งเป็นปรมาจารย์ระดับเก้า ไม่มีทางที่เขาจะปฏิเสธคำร้องขอและความเชื่อใจจากชายชราได้อย่างเด็ดขาด

“ขอบใจ!” หลงอ๋าวกำมือเป็นหมัด และเดินตรงเข้าไปหาฉู่ชวิ๋น

“เจ้าฉู่ ไปพักเถอะ เดี๋ยวข้าจัดการพวกมันเอง” หัวใจของหลงอ๋าวเต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้น และเขาเองก็คันไม้คันมืออยากจะเห็นเลือดคนเต็มแก่แล้ว

เฉินหวูฮุยและบริวารมองชายชราด้วยความหวาดกลัว อีกฝ่ายหนึ่งเป็นปรมาจารย์ระดับเก้า ต่อให้อยู่ในสภาพที่ร่างกายสมบูรณ์กว่านี้ พวกเขาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคู่มือของหลงอ๋าวได้ อย่าว่าแต่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ถ้าชายชราเดินเข้ามา ทุกคนก็ทำได้แต่เพียงนอนรอความตายเท่านั้นเอง

“อย่า…ผมจะจัดการพวกมันด้วยตัวเอง” ฉู่ชวิ๋นตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

พลังลมปราณที่เคลื่อนไปทั่วร่างกายของหลงอ๋าวหยุดชะงักไปทันที ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “แกอยากบาดเจ็บจนตายหรือไง” ฉู่ชวิ๋นไม่ตอบอะไร หันหน้ามองไปที่เฉินหวูฮุย และสาวเท้าเดินเข้าไปหา

“ตายซะเถอะ!”

ฉู่ชวิ๋นคำรามเสียงดังสนั่น พลังลมปราณที่เหลืออยู่ในร่างกายเพียงน้อยนิดมารวมตัวกันอยู่ที่กำปั้นของเขา และชายหนุ่มก็ปล่อยหมัดออกไปแล้ว หิมะที่โปรยปรายลงมาหยุดตกทันที ถึงแม้ว่าพลังหมัดของฉู่ชวิ๋นจะไม่รุนแรงเท่ากับตอนที่ร่างกายเขาสมบูรณ์ แต่ก็ยังคงเป็นพลังที่แข็งแกร่งและทำให้สายลมต้องกรีดตัวดังหวีดหวิด

เฉินหวูฮุยพยายามตะเกียกตะกายถอยหลังหนีไปด้วยความตื่นตระหนก

ผลั่ก!

ปรมาจารย์ระดับหก หนีไม่ทัน ถูกพลังหมัดของฉู่ชวิ๋นรัวเข้าใส่ กระดูกหน้าอกของเขายุบลงไป หัวใจแตกสลาย เสียชีวิตไปทันที

“ต่อไป หวูฉางเฟิง ตายซะเถอะ!” ฉู่ชวิ๋นคำรามพร้อมกับต่อยหมัดไปทางหวูฉางเฟิง

ก่อนหน้านี้ หวูฉางเฟิงได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงระเบิดอยู่แล้ว เขาเสียเลือดไปเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถสร้างม่านพลังขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายได้ เมื่อตอนนี้ถูกปล่อยพลังหมัดเข้าใส่อย่างจัง ร่างกายที่ปราศจากพลังลมปราณ จึงมีชะตากรรมไม่ต่างจากปรมาจารย์ระดับที่หกคนเมื่อสักครู่นี้เลย ฉู่ชวิ๋นต่อยหมัดเข้าใส่ที่หัวไหล่ของหวูฉางเฟิงอย่างแรง

กร๊อบ!

เสียงกระดูกแตกหักดังถนัดหู กระดูกหัวไหล่ของหวูฉางเฟิงแหลกสลายไม่มีชิ้นดี หวูฉางเฟิงได้แต่เพียงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ฉู่ชวิ๋นต่อยหมัดเข้าใส่ชายโครงของหวูฉางเฟิงอย่างต่อเนื่อง

เสียงกระดูกชายโครงของหวูฉางเฟิงส่งเสียงดัง “กร๊อบ” ชัดเจน

“อ๊าก…” หวูฉางเฟิงร้องโหยหวนออกมาสุดเสียง ใบหน้าของเฉินหวูฮุยและบริวารที่เหลืออยู่บิดเบี้ยวด้วย ความหวาดกลัวสุดขีด และเนื่องจากมือของฉู่ชวิ๋นมีสภาพเป็นเหมือนกรงเล็บ มือของเขาจึงเจาะทะลุเข้าไปในร่างกายของหวูฉางเฟิง และดึงกระดูกซี่โครงออกมาชิ้นหนึ่ง

ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น เส้นขนบนร่างกายลุกชันด้วยความหวาดกลัว

ผลั่ก!

กำปั้นของฉู่ชวิ๋นกระแทกเข้ากับใบหน้าของหวูฉางเฟิงอย่างแรง เลือดสาดกระจายมาเปรอะเปื้อนใบหน้าของชายหนุ่ม กระดูกหน้าอกของหวูฉางเฟิงแตกหัก กระดูกสีขาวแทงทะลุขึ้นมาจากผิวหนัง ในอากาศฟุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดน่าสะอิดสะเอียน บรรยากาศเต็มไปด้วยความสยองขวัญ

ผลั่ก ผลั่ก!

ฉู่ชวิ๋นต่อยกำปั้นรัว ๆ แต่ละหมัดที่ปล่อยออกไปจะส่งเลือดสาดกระจายขณะที่พลังลมปราณในร่างกายลดลงเรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่รู้ตัว เขายังคงต่อยหมัดต่อไปไม่หยุด

หวูฉางเฟิงไม่เหลือพลังแม้แต่จะกรีดร้องอีกแล้ว ในร่างกายเหลือกระดูกที่ยังสมบูรณ์อยู่แค่เพียงไม่กี่ชิ้น กระดูกทั่วร่างของเขาแหลกสลายไปเกือบหมดแล้วด้วยฤทธิ์หมัดของฉู่ชวิ๋น หวูฉางเฟิงรู้สึกได้ว่าพื้นดินกำลังสั่นสะเทือนเล็กน้อย

ผลั่ก!

เลือดสีแดงสาดกระจาย ศีรษะของหวูฉางเฟิงถูกเท้าของฉู่ชวิ๋นกระทืบลงไปจนแหลกเละ ฉู่ชวิ๋นต่อยหมัดออกไปอีกครั้ง พลังลมปราณพุ่งกระแทกร่างกายของหวูฉางเฟิง ทำให้ลำตัวของชายชราระเบิดออก ส่งเลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณ

ผู้อาวุโสของสำนักสวรรค์ฟ้า ถูกฆ่าตายเหมือนกับหมาข้างถนนตัวหนึ่ง “ตายซะ!”

ฉู่ชวิ๋นคำรามออกมาอีกครั้งในขณะที่หันไปหาเฉินหวูฮุย หลังจากนั้นเขาก็เงื้อกำปั้นขึ้นและต่อยหมัดออกไปเต็มแรง เฉินหวูฮุยพยายามรวบรวมพลังลมปราณอีกครั้ง

“พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ” เฉินหวูฮุยพอรู้ว่าตนเองยังพอมีเรี่ยวแรงอยู่บ้าง จึงกระตุ้นคนที่เหลืออยู่ให้ส่งพลังมาหาเขา

“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ” ราชันวิญญาณถอยหลังด้วยความหวาดกลัว สีหน้าของเขาหมองหม่น ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังลมปราณในตัวแทบไม่เหลืออยู่อีกแล้ว

เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นเดินมาถึงตรงหน้า ราชันวิญญาณก็เริ่มวิตกกังวลขึ้นมา จึงได้คว้าตัวราชาพิษมาโยนเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นแทนราชาพิษโกรธแค้นจนหน้าเขียว หวาดกลัวแทบตายแล้วกำปั้นของฉู่ชวิ๋นกระแทกหน้าอกของราชาพิษ โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“ราชันวิญญาณ เจ้าสารเลว แกต้องตาย…” ราชาพิษส่งเสียงคำราม

ฟู่

ใบหน้าของฉู่ชวิ๋นเปรอะเปื้อนด้วยเลือดสีแดงสด ในมือของเขามีหัวใจสีแดงที่ยังเต้นตุบ ๆ และแล้วชายหนุ่มก็กำหัวใจดวงนั้นจนแหลกสลายคามือ

ร่างไร้วิญญาณของราชาพิษล้มลงไปกองกับพื้น หัวใจของเขาหายไป ฉู่ชวิ๋นยังคงลงมือฆ่าต่อไป

เฉินหวูฮุยและพวกถอยหนีไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่า หัวใจของราชาพิษถูกควักออกมาสด ๆ พวกเขาก็หวาดกลัวจนแทบลืมหายใจ

“เฉินหวูฮุย แกตายซะเถอะ” ฉู่ชวิ๋นคำรามเหมือนกับสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ

เฉินหวูฮุย ราชันวิญญาณและเจ้าสำนักมือโลหิตต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับแปด อาการบาดเจ็บของพวกเขาจึงเบากว่าทุกคน ดังนั้นพวกเขาจึงหลบหนีได้รวดเร็วกว่า

ฉู่ชวิ๋นโบกมือ แล้วลมปราณเฮือกสุดท้ายที่อยู่ในร่างกายของเขา ก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นเส้นไหมสีขาวเส้นหนึ่งออกไปเหมือนกับเป็นลูกกระสุน

ฟู่!

เส้นไหมสีขาวพุ่งเข้าไปรัดพันลำคอของปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งจนเลือดสาดกระจาย

ขวับ!

เส้นไหมสีขาวมีสภาพเป็นเหมือนงูร้ายกระหายเลือด มันโจมตีอย่างบ้าคลั่ง พุ่งเข้าไปรัดพันศีรษะของปรมาจารย์ระดับหกอีกคนหนึ่งจากด้านหลัง

ฟู่!

เลือดสาดกระจาย สายฝนเลือดพร่างพรมลงมาจากท้องฟ้า เส้นไหมสีขาวมีความคมเหมือนกับใบมีดโกน มันสังหารปรมาจารย์ระดับหก คนแล้วคนเล่าอย่างต่อเนื่อง

ฉู่ชวิ๋นเดินหน้าต่อไป ทิ้งกองเลือดไหลเป็นทางอยู่ข้างหลัง เลือดสีแดงย้อมเต็มทางเดิน และชายหนุ่มก็เดินไปบนเส้นทางที่มีแต่เลือดสีแดงสดเหล่านั้น ปรมาจารย์ระดับหกหลายสิบคนถูกฆ่าทิ้งไปในพริบตาเดียว

ในขณะนี้พวกของเฉินหวูฮุยเหลืออยู่เพียงแค่ ห้าคนเท่านั้น คือเฉินหวูฮุย ราชันวิญญาณ เจ้าสำนักมือโลหิต เจ้าสำนักความหวังใหม่และเจ้าสำนักกระบี่ฟ้า ใบหน้าที่แก่ชราของเจ้าสำนักความหวังใหม่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส พลังลมปราณในร่างกายลดน้อยลงจนแทบไม่มีเหลือ แม้แต่สองขาที่ยืนอยู่ก็สั่นระริกเต็มที แทบจะยืนไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำ

แต่พลังลมปราณในร่างกายของฉู่ชวิ๋นก็หมดลงแล้วเช่นเดียวกัน เขาไม่สามารถควบคุมเส้นไหมสีขาวได้อีกต่อไปแล้ว ชายหนุ่มยังคงยืนอยู่ได้ เพราะมีร่างกายที่แข็งแรงกว่าคนทั่วไปเท่านั้น