นาทีถัดมาเห็นเพียงแต่แสงสว่างลอยลงมาจากบนท้องฟ้า ก่อนจะปรากฏเป็นร่างของคนกว่าสิบคน ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีพลังเทพล้อมรอบตัวเหมือนกับเหล่าฉู่เหยียน แต่เสื้อผ้าของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกัน เหล่าคนที่มาทีหลังล้วนสวมชุดนักพรตสีขาว
ในมือของพวกเขาถืออาวุธแตกต่างกันไป บ้างถือดาบอาคม บ้างถือแส้ขนหางจามรี บ้างถือปากั้ว คนเหล่านี้มีทั้งชราและเด็ก แต่ละคนล้วนมีท่าทีเคร่งขรึม ดูแล้ว...คุ้นตาอย่างประหลาด
“ท่านเทพฉู่เหยียนช่างกล้าเสียจริง!” คนที่เด็กที่สุดมองไปยังคนที่นั่งอยู่บนกรงล้อสีทอง ก่อนจะยิ้มอย่างเมตตา “คิดอยากจะทำลายล้างเสวียนเหมินของพวกข้า ทำร้ายศิษย์ลูกศิษย์หลานของพวกข้า ไม่คิดจะทักทายพวกข้าก่อนหรือ?!”
“ท่านเทพ…ท่านเทพทั้งสิบเจ็บ!” สีหน้าของฉู่เหยียนแปรเปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขาฉายแววตื่นตระหนก เขารีบลุกขึ้นยืนจากกรงล้อสีทอง ก่อนจะทำความเคารพด้วยตัวแข็งทื่อ “ที่แท้ก็เป็นท่านเทพจากบูรพาสวรรค์ ท่านเทพหยวนเจียงพูดเกินไป พวกข้าแค่ต้องการทวงคืนความยุติธรรมให้แก่ท่านเทพเฟิงอี๋เท่านั้น อย่าได้ถือสากันเลย”
“คือ….คือปรมาจารย์ของเสวียนเหมิน!”
ลูกศิษย์เสวียนเหมินด้านล่างอุทานออกมาเสียงดัง เมื่อตระหนักได้ถึงตัวตนของท่านเทพที่ปรากฏตัวอยู่เหนืออากาศอย่างกะทันหัน ทันนั้นทั้งตกตะลึงทั้งตื่นเต้น พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองคนทั้งสิบเจ็บบนท้องฟ้าอย่างพร้อมเพรียง
“ใช่ นั่นคืออาจารย์ปู่แห่งอู๋หยาง! เหมือนกับบนภาพวาดไม่มีผิด!”
“หยวนเจียง? เขาคือเทพเจ้ากว่างเสิ้ง ท่านปรมารจารย์หยวนเจียง!”
“ด้านข้างคือปรมาจารย์แห่งไท่ชิง เทพเจ้าเหวินชิง!”
“ปรมาจารย์จริงๆ ด้วย เหล่าปรมาจารย์สำแดงฤทธิ์แล้ว เสวียนเหมินรอดแล้ว!”
“เป็นเรื่องจริง…”
มองดูปรมาจารย์เสวียนเหมินหลายสิบคนบนอากาศ ทันใดนั้นจิตใจที่ตึงเครียดของทุกคนต่างผ่อนคลายลง ภายในใจมีความภาคภูมิใจในฐานะลูกศิษย์เสวียนเหมินผุดขึ้นมา ก็แค่ท่านเทพของโลกบน เสวียนเหมินก็มีที่พึ่งพิงเหมือนกัน พวกเขาก็มีคนบนโลกบน!
ชายแก่ดึงแขนเสื้อของคนด้านข้าง ก่อนจะถามเสียงต่ำ “เจ้าหนู เจ้าส่งข่าวให้อาจารย์อาหรือ”
“ไม่ได้ส่ง” อวิ๋นเจี่ยวส่ายหน้า “ยันต์ส่งสารของพวกเขาหมดฤทธิแล้วไม่ใช่หรือ” เธออยากส่งข่าวก็ส่งไม่ได้ “คงเป็นเพราะพวกเขาจับตาดูฉู่เหยียนเอาไว้เหมือนกัน ดังนั้นถึงได้รู้ว่าเขาลงมายังโลกล่าง”
“อ่อ” ชายแก่พยักหน้า คิดแล้วก็เป็นไปได้ เรื่องอสูรกลืนกินนภาในตอนนั้นก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉู่เหยียน อาจารย์อาหยวนกลับไปคงคอยจับตาดูเขาอยู่
“จริงสิ คนที่ข้าให้ท่านส่งข่าว ท่านส่งไปหรือยัง” อวิ๋นเจี่ยวมองไปยังเขา
“ข้าจัดการ เจ้าวางใจ!” ชายแก่บอกของตนเอง
อวิ๋นเจี่ยวหันกลับไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง ฉู่เหยียนเป็นเพียงเทพร่างทองเท่านั้น แต่อีกฝ่าย ต่ำสุดก็เป็นเทพร่างทอง อีกทั้งยังมีท่านเทพระดับสูง แต่ละคนล้วนไม่ใช่คนที่เขาจะต่อกรด้วยได้ เขาจึงไม่กล้าลงมือโดยพลการ
ชื่อเสียงของท่านเทพทั้งสิบเจ็บคน คนของสวรรค์ต่างรู้กันเป็นอย่างดี ถึงแม้พวกเขาจะเป็นมนุษย์มาก่อน แต่ความสามารถกลับไม่แพ้ผู้ที่เป็นเทพตั้งแต่กำเนิด อีกทั้งแต่ละคนล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของสวรรค์ มีข่าวว่าท่านมหาเทพเมื่อหลายหมื่นปีดับสูญ หนึ่งในนั้นก็เป็นฝีมือของพวกเขา
เพียงแต่ส่วนใหญ่แล้ว พวกเขาเป็นท่านเทพของบูรพาสวรรค์ ไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอก แต่ว่าครั้งนี้กลับออกมากันอย่างครบหน่าครบตา! ทันใดนั้นแม้แต่เทพตัวน้อยด้านหลังของฉู่เหยียนก็เผยให้เห็นความน่าเกรงขาม
“ท่านเทพหยวนเจียง” ฉู่เหยียนเบียดรอยยิ้มออกมา ก่อนจะมองไปยังสิบกว่าคนตรงหน้า “ข้ารู้ว่าพวกท่านล้วนมาจากโลกมนุษย์ มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น แต่ว่าท่านเทพมังกรของทักษิณสวรรค์ถูกคนโลกล่างทำร้าย พวกข้ามาเพื่อทวงความยุติธรรมเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นใด ทุกท่านเข้ามาขัดขวางเป็นเพราะมีความเห็นต่อทักษิณสวรรค์อย่างใดหรือ”
หยวนเจียงรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังอ้างชื่อของทักษิณสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงยิ้มอย่างเป็นมิตรแล้วพูดขึ้น
“ท่านเทพฉู่เหยียน ท่านควรจะรู้ว่าพวกข้ามาจากเสวียนเหมิน ตอนนี้เสวียนเหมินเกิดเรื่อง พวกข้าก็ต้องช่วยเหลือ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสวรรค์ทั้งสองแต่อย่างใด ในเมื่อท่านบอกว่าท่านเทพมังกรถูกเสวียนเหมินทำร้าย ตอนนี้พวกข้าล้วนอยู่ตรงนี้ เช่นนั้นรอข้าสืบเรื่องนี้จนกระจ่าง จากนั้นข้าจะคืนความยุติธรรมให้แก่ท่านเป็นอย่างไร”
“คือ…” สีหน้าของฉู่เหยียนเปลี่ยนไป หากพวกเขาแทรกแซงเข้ามา เรื่องของลูกแก้วกำเนิดวิญญาณก็ไม่อาจปิดบังต่อไปได้
“อย่างไร ท่านเทพอยากได้ความยุติธรรมไม่ใช่หรือ” หยวนเจียงยิ้มกว้างมากขึ้น “หรือว่าท่านรู้สึกว่าข้าไม่มีสิทธิพอ?”
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน!” เขารีบปฏิเสธ สีหน้ากลับดำทะมึนยิ่งกว่าเดิม “เพียงแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของทัก…”
“เช่นนั้นก็ดี!” หยวนเจียงพูดขัดเขา ก่อนจะหันไปมองคนในเสวียนเหมินด้านล่าง นาทีถัดมาเสียงของเขาก็ลอยลงมา “ลูกศิษย์เสวียนเหมินทุกท่าน ข้าคือหยวนเจียงแห่งชิงหยาง บัดนี้ท่านเทพฉู่เหยียนมาเพื่อสืบเรื่องการดับสูญของท่านเทพมังกร ข้าจึงเป็นตัวแทนสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างแก่ทุกท่าน”
ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความตื่นเต้นภายในใจ ท่านปรมาจารย์มาช่วยพวกเขา จะไม่ตอบรับได้อย่างไร เหล่าลูกศิษย์เสวียนเหมินรวมไปถึงเหล่าเจ้าสำนักต่างตอบรับอย่างพร้อมเพรียง “ขอรับ! ท่านปรมาจารย์!” เสียงดังก้องกังวานไปทั่วสำนักเทียนซือ!
หยวนเจียงพยักหน้า สายตาเหลือบไปมองอวิ๋นเจี่ยวที่อยู่ทางขวา ก่อนจะรีบหนี พร้อมกับพูดด้วยเสียงทุ้มอีกครั้ง “มีใครสามารถเล่าต้นสายปลายเหตุการณ์ดับสูญของท่านเทพมังกรได้บ้าง”
เจ้าสำนักสวีเดินขึ้นหน้า “เรียนท่าน…”
“ไม่ได้!” ในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากพูด ฉู่เหยียนที่อยู่ด้านข้างกลับพุ่งออกมาขัดขวาง สายตาของเขาล่องลอยไปมา ก่อนจะพูดขึ้น “ท่านเทพหยวนเจียง…คนด้านล่างล้วนเป็นลูกศิษย์ของเสวียนเหมิน พวกเขาทุกคนล้วนเป็นฆาตรกรที่ทำร้ายท่านเทพมังกร คำพูดของพวกเขาจะเชื่อได้อย่างไร ข้ากับท่านเองก็มาจากคนละสวรรค์ ท่านเทพมาถึงก็ถามความจากคนผิดเหล่านี้ คิดจะใส่ร้ายทักษิณสวรรค์หรือ”
คิ้วของหยวนเจียงขมวดเล็กน้อย กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เสียงคุ้นเคยหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านล่าง
“คำพูดของพวกข้าเชื่อไม่ได้ เช่นนั้นคำพูดของท่านเทพมังกรคงจะเชื่อถือได้?” อวิ๋นเจี่ยวเดินขึ้นหน้า ก่อนจะปล่อยวิญญาณมังกรที่อยู่ในยันต์ออกมา เฟิงเสี่ยวหวงเจ้าเป็นคนพูด!”
“ได้!” วิญญาณมังกรตอบรับเสียงดัง ก่อนจะมุดออกมาจากยันต์อีกครั้ง ทันใดนั้นร่างมังกรขนาดใหญ่ปรากฏต่อหน้าของทุกคน
ฉู่เหยียนสีหน้าซีดเผือด
นาทีถัดมา เห็นเพียงแต่วิญญาณมังกรยืดตัวขึ้นให้เทียบเท่ากับความสูงของเหล่าท่านเทพ ขาหน้าทั้งสองข้างเท้าเข้าที่เอว ดวงตาจ้องเขม็งไปยังฉู่เหยียน ก่อนจะพูดออกมาจนหมด
“ทั้งหมดเป็นฝีมือของฉู่เหยียน! เขาให้ลูกแก้วกำเนิดวิญญาณแก่ข้า หลอกให้ข้ามาเลี้ยงเส้นชีพจรเทพบนโลกมนุษย์ ทำให้ลูกข้าต้องตายไป ต่อมาข้าถึงได้รู้ว่าเขาใช้วิญญาณมนุษย์ในการหล่อเลี้ยงเส้นชีพจร”
“โชคดีที่ท่านเทพอวิ๋นแยกแยะผิดถูก รู้ดีรู้ชั่ว จิตใจเมตตา…มองแผนการของเขาออก ถึงได้เก็บลูกแก้วนั้นกลับมา ต่อมาเขายังคิดจะหลอกให้ข้าไปแย่งชิงกลับมา คนในเสวียนเหมินทำเพื่อช่วยเหลือทุกคน ข้าถึงได้ตาย สุดท้ายแล้ว ล้วนเป็นฝีมือของเขา
“ครานี้ เขามาเพื่อแย่งชิงลูกแก้วกำเนิดวิญญาณกลับไป ไม่ได้มาแก้แค้นให้ข้า ท่านเทพหยวนท่านอย่าถูกเขาหลอก เขาไม่ชอบหน้าข้าตั้งแต่แปดร้อยปีก่อนแล้ว จะมาแก้แค้นให้ข้าได้อย่างไร เพียงแต่เป็นเพราะข้าเป็นเผ่าพันธุ์มังกร เขาจึงไม่กล้าลงมือกับข้า กลัวข้าพูดความลับที่เขาลักลอบคบกับเทพคนอื่นออกไป เปลือกนอกเป็นคนรักที่รักเดียวใจเดียว แต่จิตใจไม่รู้ว่าสกปรกเพียงใด อย่าว่าแต่ท่านเทพที่เป็นหญิงเลย แม้แต่ท่านเทพที่เป็นชายเขาก็ไม่ปล่อย! จริงสิ จิ้งจอกเก้าหางตัวผู้ด้านข้างเขาก็เป็นคู่ขาเขา นอกจากนี้…”
เขาพูดต่ออย่างไม่หยุดยั้ง ตอนแรกที่พูดเป็นเรื่องของลูกแก้วกำเนิดวิญญาณ ต่อมากลายเป็นเปิดโปงความลับของฉู่เหยียนไปเสียแล้ว อีกทั้งแต่ละเรื่องยังเล่าออกมาอย่างละเอียด เหลือเพียงแต่ไม่ได้พูดถึงสีของกางเกงซับด้านในของอีกฝ่ายเท่านั้น!
หยวนเจียง: “…”
อวิ๋นเจี่ยว: “…”
ทุกคน: “…”
ความสัมพันธ์ของโลกสวรรค์…ช่างซับซ้อนเสียเหลือเกิน