ตอนที่ 345 อยากเห็นสักครั้ง / ตอนที่ 346 ต่อให้จะเป็นการกุเรื่องขึ้นหรือไม่

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 345 อยากเห็นสักครั้ง

 

 

“หึ ถ้าคุณพูดแบบนี้ แล้วคุณคิดว่าใครเป็นยิ่งกว่าขยะกันล่ะ”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยที่ได้ยินก็ชักรู้สึกไม่เข้าหู เขาคีบไพ่ใบหนึ่งไว้ในมือแกล้งจะทำเป็นร่อนใส่อีกฝ่ายโดยไม่สนหัวหงอกหัวดำเลยแม้แต่น้อย

 

 

“ไม่ๆ ไม่ ผมผิดเอง ผมผิดเอง…”

 

 

“แล้วอะไรอีก” ป๋อจิ่งชวนได้เอ่ยขึ้นเสียงเรียบอีกครั้ง

 

 

“แล้วก็…แล้วก็…”

 

 

อธิการบดียกมือปาดเหงื่อกาฬที่ผุดออกมา เขาพยายามใช้สมองคิดแล้วคิดอีก แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก

 

 

“คุณชายป๋อ…สรุปว่าเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิดกันตั้งแต่แรก เป็นเพราะพวกเราไม่รอบคอบเอง รบกวนคุณมามากแล้ว ต้องขอโทษด้วยจริงๆ! ผมจะไปเดี๋ยวนี้ละครับ! จะไปเดี๋ยวนี้!”

 

 

อธิการบดีรีบยกยิ้มขึ้นทำใจดีสู้เสือ ก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินจากไป

 

 

“จะไปก็ไปให้ไกลๆ หน่อย เป็นไปได้อย่าเหยียบเข้ามาในวิทยาลัยนี้อีกเลยจะยิ่งดี”

 

 

เสียงเรียบของป๋อจิ่งชวนเอ่ยขึ้นอย่างเนิบนาบ ร่างของอธิการบดีชะงักแข็งอยู่กับที่ อีกทั้งความกลัวยังผุดขึ้นเต็มใบหน้า

 

 

“นี่คุณ…ม…หมายความว่ายังไงครับ”

 

 

ป๋อจิ่งชวนก้มลงมองไพ่หลายใบในมือ แล้วเลือกออกมาหนึ่งใบ เขาทิ้งมันลงบนโต๊ะ หน้าไพ่คือแจ็คดอกจิกที่เห็นได้อย่างชัดเจน

 

 

“ไม่ได้หมายความว่ายังไง! ก็แค่อยู่มาจนป่านนี้แล้ว ผมยังไม่เคยรู้เลยว่าอะไรที่เขาเรียกกันว่าไม่มีที่ยืนในสังคม ผมอยากจะเห็นสักครั้ง”

 

 

หัวใจของพวกเขาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ก่อนจะมองไปยังอธิการบดีด้วยความเห็นอกเห็นใจ

 

 

ช่างโชคร้ายเสียจริงๆ มาทีหลังแล้วยังจะได้รับกรรมหนักที่สุดไปแบบงงๆ

 

 

นี่ประธานป๋อกำลัง…ออกหน้าแทนเฉินฝานซิง?

 

 

พวกเขาเป็นอะไรกัน

 

 

ทว่าหลังจากนั้นเพียงชั่วอึดใจก็มีเรื่องชวนให้พวกเขาฉงนกันอีกครั้ง ภาพตรงหน้าดูอย่างไรก็เหมือนคนที่เล่นไพ่กันทั่วๆ ไป

 

 

แต่ส่วนเหตุผลที่ทำให้คนเหล่านี้มารวมตัวกันที่นี่นั้น คงต้องขุดหากันให้ลึกสักหน่อย!

 

 

“คุณชายป๋อ! นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันจริงๆ นะครับ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!” เขาตระหนกใจจนสุดขีด

 

 

ป๋อจิ่งชวนไม่ได้สนใจไยดีเขาแม้แต่น้อย ทั้งยังหยิบไพ่แจ็คอีกใบทิ้งลงบนโต๊ะ

 

 

“คุณหนูเหลียงรู้ไหมว่าคนที่ลุกขึ้นมาเป็นพยานให้คนนั้นคือใคร”

 

 

เหลียงซู่เอ๋อร์ขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน เธอเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยตอบ “น่าจะชื่อฉีเหยาเหยานะ…ฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ…”

 

 

“ผมไม่ค่อยติดตามเรื่องในวงการบันเทิงสักเท่าไหร่ ลองกลับไปถามถิงเซินดูหน่อยสิ มันน่าจะรู้ว่าต้องทำยังไง”

 

 

เหลียงซู่เอ๋อร์ป้องปากขำ “ไม่เห็นต้องถึงถิงเซินเลยนี่คะ ก็แค่นักแสดงไม่มีเชื่อเสียงคนหนึ่งเท่านั้นเอง ถ้าคิดจะตัดหางแค่ประธานป๋อพูดออกมาคำเดียวก็จบแล้ว”

 

 

“ให้ถิงเซินจัดการ” เสียงเข้มของป๋อจิ่งชวนเอ่ยย้ำอีกครั้ง

 

 

“ค่ะ” เหลียงซู่เอ๋อร์ดูออกว่าตอนนี้อารมณ์เขาไม่ค่อยดีนัก จึงตอบรับไปอย่างว่าง่าย

 

 

ฉีเหยาเหยาที่ถูกขวางกั้นไว้ด้วยฝูงชนก็ถึงกับขาอ่อนลมพับลงไปกองกับพื้น

 

 

ตัดหาง…

 

 

เธอเพียงแค่อยากได้โฆษณาลิปกลอสสีพีชของเฉินเชียนโหรวเท่านั้นเอง ทำไมจู่ๆ ถึงมาโดนตัดหางเสียได้!

 

 

เธอไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ทักท้วงก็ถูกสำเร็จโทษไปแล้ว

 

 

ป๋อจิ่งชวนเงียบไปครู่หนึ่ง จ้องมองไพ่แจ็คโพแดงในมืออยู่เนิ่นนาน

 

 

และในตอนนั้นเอง ฉีเหยาเหยาก็ขยับเข้าไปเกาะชายกระโปรงชุดราตรีของเฉินเชียนโหรวเอาไว้ “พี่เชียนโหรว ฉันไม่อยากถูกตัดหางปล่อยวัดนะ ขอละ พี่ต้องช่วยฉันนะ!”

 

 

ในตอนนี้เฉินเชียนโหรวเองก็เกร็งไปทั้งตัว การกระทำนั้นของฉีเหยาเหยาทำเอาเธอตกใจจนแทบหมดสติ

 

 

บ้าเอ๊ย! อยู่ๆ เธอก็กระโจนเข้ามาแบบนี้จะฆ่ากันให้ตายรึไง!

 

 

“เหยาเหยา เธอใจเย็นๆ ก่อนนะ…”

 

 

ในตอนนั้น อีกด้านหนึ่ง นักข่าวหัวแหลมคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้น

 

 

“มิน่าล่ะ ทำงานมาห้าปีแล้ว จนถึงตอนนี้ยังเป็นได้แค่ดาราปลายแถว! ยังนึกไม่ได้อีกหรือว่าใครทำให้ตัวเองต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้หรือควรจะโทษใคร แล้วใครหน้าไหนมันจะไปช่วยเธอได้…ตอนนี้ยังจะมีหน้ามากอดขาอ้อนวอนให้เขาช่วยอีก…”

 

 

เสียงสะอื้นของฉีเหยาเหยาเงียบลงพร้อมกับที่สีหน้าของเฉินเชียนโหรวเองก็ซีดไปถนัดตา

 

 

คำพูดคลุมเครือของนักข่าวคนนั้น เรียกให้ใครบางคนแสดงความหวั่นใจทั้งหมดออกมาได้สำเร็จ

 

 

 

 

 

ตอนที่ 346 ต่อให้จะเป็นการกุเรื่องขึ้นหรือไม่

 

 

“เรื่องทั้งหมดในวันนี้ ดูก็รู้ว่ามีคนวางแผนทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี ตั้งใจจะใส่ร้ายคุณหนูใหญ่! ลูกไม้กระจอกๆ!”

 

 

“คนโง่พวกนี้หลุดปากพูดออกมาตั้งแต่แรกแล้ว เห็นแค่เงาก็ปักใจเชื่อแล้วว่าเป็นเฉินหยินเซิน! ใส่ร้ายป้ายสีกันเห็นๆ!”

 

 

“แล้วใครเป็นคนวางแผนเรื่องทั้งหมดกันล่ะ”

 

 

สุดท้ายก็มีคนตั้งคำถามขึ้น ทุกคนต่างก็สับสน สายตาบางส่วนจ้องมองไปยังเฉินเชียนโหรวด้วยสีหน้าดูถูกอย่างปิดไม่มิด

 

 

ช่วงนี้นับว่าพวกเธอสองพี่น้องเล่นกันแรงที่สุด!

 

 

เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นท่วมใบหน้าซีดเซียวของเฉินเชียนโหรว ในขณะนั้นเอง เสียงเย็นเยียบแต่ทว่าเป็นเสียงที่แสนคุ้นเคยก็ค่อยๆ ดังขึ้นจากเบื้องหลัง

 

 

——

 

 

“เชียนโหรว…”

 

 

เป็นเสียงของซูเหิง

 

 

ร่างเธอแข็งทื่อไปทันที ราวกับเรี่ยวแรงในร่างกายถูกสูบไปจนเหลือเพียงความว่างเปล่า ฝ่าเท้าอ่อนยวบ รีบหันกลับไปอย่างลนลาน

 

 

ภาพที่เห็นคือใบหน้าที่โกรธจัดของซูเหิง มันดูขุ่นหมองและซีดขาวเสียยิ่งกว่าทุกครั้ง โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่คุกรุ่นไปด้วยความฉุนเฉียวอย่างมากถึงมากที่สุด

 

 

“ไม่…” เฉินเชียนโหรวส่ายหน้า เธอรีบก้าวฉับไปข้างหน้าแล้วคว้าศอกของซูเหิงไว้แน่น “ไม่ พี่เหิง ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่ฉันจริงๆนะ…”

 

 

ซูเหิงกำหัวแม่มือแน่น ร่างกายของเขาสั่นเทิ้ม “แล้วเหยาเหยาล่ะ…เธอจะว่ายังไง สิ่งที่เหยาเหยาพูดไม่มีความจริงอยู่เลย ปั้นน้ำเป็นตัวเห็นๆ…”

 

 

“ไม่ เหยาเหยาอาจจะจำผิดก็ได้นะ ก็เธอบอกนี่ว่าตอนนั้นเธออยู่กับเฟยเฟยน่ะ…หรือเป็นไปได้ไหมว่าเฟยเฟยจะโกหกฉัน”

 

 

ซูเหิงค่อยๆ หรี่ตาลง โทสะในกายแผ่วจางลงเล็กน้อย

 

 

จู่ๆ เฉินฝานซิงที่ยืนอยู่ตรงประตูก็แค่นหัวเราะเสียงเย็น

 

 

โยนทุกอย่างไปไว้ที่หลินเฟยเฟยเสียดื้อๆ!

 

 

เพราะเธอไม่ได้อยู่ตรงนี้เลยคิดจะพูดอะไรก็พูดว่างั้น?

 

 

ซูเหิงเงยหน้ามองเธอ เฉินฝานซิงเองก็เงยหน้าขึ้นมองเขาเช่นกัน

 

 

นัยน์ตาคู่นั้นไม่มีสิ่งใดนอกจากความเย็นยะเยือกและความเย้ยหยัน ไร้ซึ่งความอบอุ่น

 

 

ในใจเขาพลันเย็นวาบ เขาขบกรามแน่น หันมองไปยังเฉินเชียนโหรวอีกครั้ง “เธอเลยจะบอกว่าทั้งหมดนี่เป็นแผนของหลินเฟยเฟย?”

 

 

เฉินเชียนโหรวกัดริมฝีปาก สีหน้าหนักใจ “ฉันไม่รู้…ฉันไม่รู้ พี่เหิง พี่ก็รู้มาตลอดเลยนี่ว่าฉันอยากคืนดีกับพี่สาวมากแค่ไหน…ฉันจะไปทำร้ายพี่ได้ยังไง…หลายวันมานี้เรามีปัญหากันตลอด พอจะเกิดอะไรกับพี่ขึ้นมา ทุกคนก็เลยสงสัยฉันเป็นคนแรก แต่ว่าฉันจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกันล่ะ”

 

 

สิ้นคำนั้น เฉินฝานซิงถึงกับพยักหน้าด้วยความชื่นชม

 

 

ไม่เลว ในที่สุดก็หาทางแถออกมาจนได้

 

 

เมื่อมองดูหน้าของทุกคนอีกครั้ง บัดนี้สีหน้าดูถูกเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความฉงน

 

 

จะว่าไปที่เฉินเชียนโหรวพูดมาก็ดูมีเหตุผล

 

 

เธอลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง โชคดีที่หลินเฟยเฟยไม่ได้อยู่ตรงนี้ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงยุ่งเหยิงไปกว่านี้…

 

 

แม้จะเชื่อเฉินเชียนโหรว แต่ความขุ่นเคืองใจกลับไม่ลดน้อยถอยลง เขาเกิดความลังเลขึ้นมาเล็กๆ ก่อนจะพาเฉินเชียนโหรวไปหยุดอยู่ตรงหน้าเฉินฝานซิง

 

 

แล้วเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ารู้สึกผิด

 

 

“ฝานซิง ฉันขอโทษที่ก่อความวุ่นวายให้ในคืนนี้นะ เฟยเฟยผิดที่กุเรื่องนี้ขึ้นมา ฉันต้องขอโทษแทนเธอด้วย…”

 

 

เฉินฝานซิงโค้งมุมปากขึ้นอย่างเย็นชาตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ เธอยกมือขึ้นปัดเส้นผมที่ปรกลงไปไว้ด้านหลัง

 

 

แขนเสื้อคลุมอาบน้ำหลวมโพรกร่นลงมาที่ศอกตามการเคลื่อนไหวของเธอ เผยให้เห็นท่อนแขนขาวเนียน เส้นผมเธอพลิ้วสะบัดเป็นคลื่นสวยอยู่กลางอากาศ กลิ่นหอมจางๆ แตะจมูกจนทำเอาซูเหิงใจหวิว

 

 

เมื่อได้เห็นแววตาของซูเหิง ความชั่วร้ายก็ผุดขึ้นจากส่วนลึกสุดของนัยน์ตาเฉินเชียนโหรว

 

 

อุตส่าห์วางแผนทั้งหมดมาอย่างดิบดี นี่เป็นโอกาสทองแล้วแท้ๆ แต่ยัยชั่วนี่ก็กลับเอาตัวรอดไปอย่างง่ายดาย จะไม่ให้เธอโมโหได้อย่างไร!

 

 

ทว่าตอนนี้เธอกลับทำได้เพียงถลึงตามองบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าของผู้กุมชัย

 

 

“ถึงยังไงมันก็เป็นแค่เรื่องที่ตื่นตูมกันไปเอง ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่กุขึ้นหรือไม่ก็ตาม แค่พี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เท่านี้ฉันก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย”

 

 

เฉินฝานซิงฟังออกว่าคำที่เฉินเชียนโหรวพูดว่า ‘ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องที่กุขึ้นหรือไม่ก็ตาม’ นั้นยังแฝงไปด้วยความไม่พอใจ

 

 

เพียงแค่อยากให้เรื่องนี้มันจบๆ ไปสักที หึ มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!

 

 

เธอกะพริบตาสองครั้งแล้วเคลื่อนสายตามองอีกฝ่าย ก่อนเสียงเย็นจะเอ่ยขึ้นอย่างดังฟังชัด…