บทที่ 208: โรเอลผู้ปกปิดหลักฐาน

ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END

บทที่ 208: โรเอลผู้ปกปิดหลักฐาน

ภายในสวนร้อยปักษา เด็กชายผมดำยืนอยู่ตรงกลางพร้อมโครงกระดูกสีแดงเลือดนกขนาดยักษ์ ซึ่งปรากฏกายขึ้นมาด้วยพลังเวท เขาจ้องมองไปทางเด็กหญิงทั้งสามคนที่เพิ่งต่อสู้กันเองอย่างแข็งกร้าว ภายใต้สายตาคู่นั้น อลิเซีย นอร่า และชาร์ล็อต ต่างเหลือบมองกัน โดยไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากลำคอ

ก่อนหน้านี้ที่นี่คือสนามรบโดยสมบูรณ์ แต่ต่อมาไม่นานมันก็เงียบกริบลงอย่างน่าประหลาด

โรเอลมองไปยังเด็กสาวทั้งสามคน ที่ถืออาวุธเอาไว้พร้อมในมือของพวกเธอ ทำให้เด็กชายได้แต่ถอนหายใจยาว ๆ ในใจ

พูดตามตรง จริง ๆ แล้วตัวเขาเองก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด จากมุมมองของโรเอล ชั่วพริบตาหลังจากที่อลิเซียเข้ามากระซิบเข้าหูเขา ประตูก็ระเบิดออกในทันที จากนั้นขวดของจิตวิญญาณแห่งทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เข้ามาพันรอบตัวเขา ปล่อยให้โรเอลรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากพลังเวทรอบตัวเขาแทน

แม้ว่าโรเอลจะมองไม่เห็นหรือได้ยินอะไรข้างนอกเกราะป้องกันของจิตวิญญาณแห่งทองคำ แต่ความสามารถในการรับรู้ผ่านพลังเวทของเขาก็ยังคงใช้ได้ ประกอบกับการที่ทั้งสามคนด้านนอกสร้างความวุ่นวาย จนทำให้เขาทำการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีด้วยพลังเวทครั้งแรกของนอร่าและชาร์ล็อต หรือการโจมตีครั้งสุดท้ายของพวกเธอหลังจากที่การเจรจาล้มเหลว โรเอลก็สามารถสัมผัสถึงมันได้อย่างชัดเจน ราวกับว่าเด็กชายกำลังนั่งอยู่บนภูเขาเพื่อชมดอกไม้ไฟ ทุกอย่างสั่นสะเทือนภายใต้การรับรู้ของโรเอล ทำให้เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก

พวกเธอกำลังต่อสู้กันอยู่งั้นเหรอ?

ทันทีที่ความคิดนั้นผุดขึ้นในจิตใจของโรเอล ปฏิกิริยาแรกตามสัญชาตญาณของเขาก็คือปฏิเสธที่จะเชื่อในข้อเท็จจริงนี้

นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ดูสถานะทางการเมืองของพวกเธอสิ!

นอร่า นั้นเป็นถึงองค์หญิงแห่งจักรวรรดิเซนต์เมซิท และผู้สืบทอดในอนาคตของโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้าง

ชาร์ล็อต เป็นนายหญิงผู้ปกครองเมืองโรซ่า และผู้สืบทอดของตระกูลโซโรฟยา

อลิเซีย นายหญิงแห่งตระกูลแอสคาร์ด

พวกเธอเป็นหนึ่งในขุนนางรุ่นเยาว์ที่มีตำแหน่งสูงสุดในทวีปเซีย พวกเธอทุกคนควรเป็นแบบอย่างให้กับผู้อื่น ควรจะสง่างาม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แม้ว่าจะตกอยู่ในอารมณ์โกรธ พวกเธอก็ไม่เคยที่จะระบายอารมณ์ออกมาอย่างรุนแรงเช่นนี้ แต่เลือกที่จะจัดการกับมันแบบผู้ใหญ่ โรเอลจึงไม่คิดเลยว่าทั้งสามคนจะมาต่อสู้กันเองแบบนี้

ดังนั้นโรเอลจึงคิดว่าเขาน่าจะเข้าใจผิดไปเอง บางทีจิตวิญญาณแห่งทองคำอาจจะขยายการไหลเวียนของพลังเวท ทำให้การรับรู้ของเขาผิดเพี้ยนไป อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนของพื้นดิน เด็กชายก็ต้องสะดุ้งขึ้นในทันทีด้วยความสยดสยอง

แม้ว่าการไหลเวียนของพลังเวทนั้นอาจจะเป็นแค่การเข้าใจผิด แต่พื้นสั่นสะเทือนที่อยู่ด้านล่างโรเอลนั้นเป็นของจริงแน่นอน

พวกเธอสามคนทำอะไรกันแน่ถึงเขย่าได้แม้แต่พื้นดิน?

โรเอลไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนั้น แต่เขารู้ดีว่าความวุ่นวายนี้ไม่ได้เกิดจากการพูดคุยกันอย่างสันติระหว่างทั้งสามคนแน่นอน

ด้วยความวิตกกังวล โรเอลจึงตัดสินใจที่จะเคลื่อนไหว ระหว่างที่เด็กชายกำลังร่ายคาถาเวท เขาก็ตระหนักได้ว่าอาการป่วยของเขาได้หายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับกรันด้าจึงได้รับการเชื่อมต่อกันอีกครั้ง ทำให้โรเอลรู้สึกทึ่งกับพลังการรักษาของอลิเซีย อีกทั้งยังได้รับความมั่นใจกลับมา มากพอที่จะกล้าเข้าไปแทรกแซงในการต่อสู้และบังคับให้เด็กสาวทั้งสามคนยอมสยบ

แน่นอนว่าด้วยการยืมพลังของกรันด้า โรเอลก็สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของเขาได้ไม่ยาก

“ใครอยากจะอธิบายให้ฉันก่อน ว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ภายในห้อง โรเอลปัดฝุ่นออกจากร่างกาย ก่อนจะจ้องมองไปที่เด็กสาวทั้งสาม ที่กำลังตกตะลึงอย่างรวดเร็ว แค่คิดถึงสิ่งที่เกือบจะเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็บีบหัวใจของเขาด้วยความกลัวได้แล้ว

การโจมตีเมื่อครู่ไม่ใช่แค่การโจมตีหลอกล่อธรรมดา ๆ หากคาถาเวททั้งสามชนกันและระเบิดขึ้นจริง ๆ มันก็อาจจะทำให้คฤหาสน์หลังนี้ทลายลงไปครึ่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ และนั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของปัญหา

วิกฤตที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นเมื่อข่าวการต่อสู้ของพวกเขาเริ่มแพร่กระจายออกไป

การแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นการส่วนตัวนั้นถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม การโต้เถียงกันด้วยอารมณ์ใส่กันในที่สาธารณะไม่ใช่เรื่องปกติแน่ ๆ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือพวกเธอถึงกับโจมตีใส่กันด้วยคาถาเวท ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นรอยด่างพร้อยบนชื่อเสียงของพวกเธอ ที่อาจส่งผลให้ใครบางคนนำมาใช้เป็นเครื่องมือ ส่งเสริมวาระทางการเมืองของตัวเองได้

ภายใต้น้ำเสียงอันเคร่งขรึมของโรเอล สามสาวก็ฉุกคิดได้ถึงผลกระทบจากการกระทำของตนเอง และเงียบกริบไป

“นอร่า เซไซต์ เธอเป็นตัวแทนของจักรวรรดิเซนต์เมซิทและโบสถ์แห่งเทพีผู้สร้าง ชาร์ล็อต โซโรฟยา เธอเป็นตัวแทนของตระกูลโซโรฟยาและเมืองโรซ่า อลิเซีย แอสคาร์ด เธอเป็นตัวแทนของตระกูลแอสคาร์ดของฉัน และพ่อของเรา พวกเธอคิดว่าสถานะที่มี ทำให้พวกเธอมีสิทธิพิเศษมากพอที่จะทำอะไรตามใจตัวเองได้งั้นเหรอ!”

โรเอลชี้นิ้วไปที่เด็กสาวทั้งสามพร้อมสั่งสอนอย่างไร้ความปราณีด้วยความโกรธ นอร่าหลบสายตาไปอีกทาง ชาร์ล็อตก้มหน้าลง ส่วนอลิเซียก็เริ่มร้องไห้

“ทั้งที่มันไม่ง่ายสำหรับหนูที่จะหาโอกาสมีเวลาส่วนตัวร่วมกับพี่ใหญ่ แต่พวกเธอก็เข้ามาขัดจังหวะ ฮือออ…”

อลิเซียพูดด้วยน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

รูปลักษณ์ที่น่าสงสารของอลิเซียแทงลึกลงไปในหัวใจของโรเอล กระตุ้นให้เขาอยากจะเข้าไปปลอบโยนเธอ อย่างไรก็ตามด้วยที่เด็กสาวอีกสองคนอยู่ที่นี่ด้วย เด็กชายจึงต้องอดทนรักษาหน้าไว้และไม่เอนเอียงไปทางพวกเธอคนใดคนหนึ่ง เขาผลักความคิดนั้นออกจากหัวไป หายใจออกเบา ๆ และผ่อนปรนน้ำเสียงลงเล็กน้อย

“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม พวกเธอไม่ควรปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ มาถึงจุดนี้ การต่อสู้กันเอง เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ นอกจากนี้พวกเธอทั้งสามคนยังก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในใจกลางเมืองอีก ตอนนี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับสูงทุกคนในเมืองโรซ่าคงจะสัมผัสได้ถึงสิ่งที่พวกเธอทำกันหมดแล้ว อีกไม่นานท่านพ่อและคนอื่น ๆ ก็จะมาถึงที่นี่ พวกเธอตั้งใจจะอธิบายสถานการณ์นี้ยังไง?”

คำถามของโรเอลปรากฏขึ้นภายในใจอันร้อนระอุของทั้งสาม นอกจากชาร์ล็อตและอลิเซีย ที่อีกไม่นานจะต้องถูกบิดาดุว่าจากการกระทำอันไร้เหตุผลที่ได้ทำลงไป ใบหน้าของนอร่าเองก็ซีดลงด้วยเช่นกัน

“ถ้าเราอ้างว่ามันเป็นแค่การประมือ… ไม่สิ แบบนั้นก็คงไม่ได้”

“ท่านพ่อและคนอื่น ๆ ไม่เชื่อเรื่องแบบนั้นแน่”

เรื่องนั้นไม่ต้องมาบอกก็รู้! ประมือกันต่อหน้าคนป่วยอย่างฉันเนี่ยนะ? อีกฝ่ายคงตาบอดไปแล้วแน่ ๆ ถึงจะเชื่อเรื่องแบบนั้น! โรเอลคิดเยาะเย้ยในใจ

เด็กชายเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง ตรวจสอบดูว่ามีคนรับใช้หรือองครักษ์อยู่แถว ๆ นี้ไหม เขาไม่ต้องการให้มีพยานหลายคนมากเกินไป โรเอลจึงตะโกนให้พวกเขาเหล่านั้นออกไปห่าง ๆ ก่อนจะหันกลับมาหาเด็กสาวทั้งสามคน สถานการณ์นี้ทำให้เขาปวดหัวมากเหลือเกิน

โรเอลต้องหาทางปกปิดเรื่องนี้ให้ได้ก่อนที่พวกผู้ใหญ่จะมาถึง ไม่เช่นนั้นมันอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเหล่าผู้มีอำนาจได้

“กรันด้า ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโบ้ยความผิดให้นาย”

“เอาสิ ใช้พลังของข้าเพื่อปกปิดการไหลเวียนของพลังเวทที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ได้เลย”

หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว โรเอลก็ขอโทษโครงกระดูกขนาดใหญ่ แม้ว่ากรันด้าจะไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ตาม พลังเวทสีแดงเลือดนกกระจายไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทุกอย่างในห้องด้วยพลังเวทของการฟื้นคืนชีพอันเดธ

“แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วใช่ไหม?”

โรเอลพึมพำพลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

ระหว่างที่เด็กชายกำลังจะขอบคุณกรันด้า จู่ ๆ เขาก็รู้สึกแปลก ๆ ไหลขึ้นมาที่คอและสำลักออกมา วินาทีถัดมา เขาก็กระอักเลือดออกมาจากปาก

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย? ภาวะเลือดเป็นพิษรึไง?

โรเอลจ้องไปยังเลือดที่พุ่งออกมาโดยกะทันหันด้วยท่าทางสับสน ทำให้เด็กสาวทั้งสามคนต่างก็ตกตะลึงถึงขีดสุด นอร่ารุดมาที่ด้านข้างของโรเอลในทันที โดยมีชาร์ล็อตตามมาอย่างรวดเร็ว ส่วนอลิเซียที่อยู่ใกล้ที่สุดก็เริ่มวินิจฉัยสภาพของเด็กชายด้วยพลังเวทอย่างรวดเร็ว

“พ….พี่ใหญ่? เป็นอะไรไปคะ? เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”

“โรเอล ใจเย็น ๆ นะ ข้าผิดไปแล้ว ข้าสำนึกแล้ว”

“ที่รัก ข้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ดังนั้นทำใจดี ๆ ไว้นะ”

อลิเซียตรวจสอบร่างกายของโรเอลอย่างใจจดใจจ่อพร้อมถามถึงอาการของเขา ร่างกายของนอร่าสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอหลุดพูดคำที่หาได้ยากและยอมจำนน ชาร์ล็อตเช็ดเลือดที่ขอบปากของโรเอลอย่างรวดเร็ว ดูกังวลมากราวกับว่าจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ

ไม่ ไม่ พวกเธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้กระอักเลือดเพราะความโกรธ มันน่าจะเป็นเพราะ… เดี๋ยวนะ!

จังหวะที่โรเอลกำลังจะชี้แจงสถานการณ์นั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นท่าทางที่เป็นกังวลของสาว ๆ รอบตัวเขา ทำให้ความคิดบางอย่างผุดขึ้นในใจของเขา เด็กชายปล่อยให้ร่างกายของตนอ่อนแรงลง ทำทีเป็นหายใจอย่างขาด ๆ หาย ๆ

“พ… พวกเธอนี่มัน…ถ้ายังทำแบบนี้อีกล่ะก็ สักวันฉันคงได้ตายจริง ๆ แน่ …”

“ฮือ พวกเราจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค่ะ! พี่ใหญ่ หนูจะไม่ต่อสู้กับพวกเธออีกต่อไปแล้วค่ะ!”

“โรเอล ข้าขอให้คำมั่นสัญญากับเจ้าเลย ตอนนี้เจ้าไม่ค่อยสบาย ใจเย็น ๆ ก่อนนะ”

“ที่รัก มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าจะไม่ทำมันอีกแน่”

เมื่อเห็นว่าคนรักของตนกระวนกระวายใจจนกระอักเลือด อลิเซียก็ร้องไห้อย่างเศร้าสร้อยจนน้ำตาไหลอาบแก้ม ชาร์ล็อตเองก็เริ่มร้องไห้ออกมาเช่นกัน ส่วนนอร่าที่ไม่ค่อยจะร้องไห้เท่าไหร่นัก ได้เข้าไปกอดโรเอลเพื่อให้เขาสงบลง

ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของสามสาว ความโกรธของโรเอลก็หายไปในที่สุด อย่างไรก็ตามด้วยอารมณ์ที่อ่อนลง อารมณ์อื่นพร้อมกับตัณหาก็เริ่มเข้าครอบงำ เสียงกระซิบและความใกล้ชิดทางร่างกายที่มากเกินไป ทำให้สภาพที่ผิดปกติเป็นทุนเดิมอยู่แล้วของโรเอลแย่ลงไปอีก

“ก็ได้ ฉันเชื่อใจพวกเธอ … ใครก็ได้ช่วย เอาก้อนน้ำแข็งมาให้ฉันได้ไหม?”

โรเอลกัดฟันถามด้วยความอดกลั้น