บทที่ 373 ต้องกลับบ้าน + บทที่ 374 ปัญหาใหญ่

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

บทที่ 373 ต้องกลับบ้าน

สิ่งที่มู่เฉินพูดไม่เพียงแต่ทำให้คนอื่นตกตะลึง แต่ซือถูเซวียนเองก็ความประหลาดใจเช่นกัน

“เฉิน” ซือถูเซวียนจ้องมองเขา ดวงตานางเบิกกว้างและเต็มไปด้วยความสงสัย

“ถ้าเจ้าอยากได้ของพวกนั้นคืนมา เจ้าจะต้องแต่งงาน อย่างไรเสียไม่ช้าก็เร็ว เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว” มู่เฉินมองซือถูเซวียนแล้วพูดอย่างจริงจัง

ถ้านางแต่งงานก็หมายความว่านางเป็นของเขา และนางก็จะได้ของที่นางต้องการ ไม่ใช่ว่าดีแล้วหรือ

ซือถูเซวียนครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วรู้สึกว่าเช่นนี้ก็สมเหตุสมผลดี นางจึงพยักหน้าเห็นด้วย “ตกลง”

เซียวชวี่เฟิงมองทั้งสองโต้ตอบกันแล้วก็รู้ได้ว่าต่างฝ่ายต่างชอบกันแน่นอน เขาจึงเอ่ย “ดีล่ะ ข้าจะเขียนราชโองการให้” เขาพูดพลางหยิบพู่กันขึ้นมาเริ่มเขียน ในเวลาเดียวกัน เขาก็เขียนระบุลงไปว่าสินเดิมทั้งหมดของมารดาของซือถูเซวียนจะต้องยกคืนให้นาง

“ขอบพระทัยเพคะ ท่านพี่ชวี่เฟิง”

เมื่อซือถูเซิงเร่งรีบมาถึงวังหลวง เขาก็พบว่าซือถูหมิงโดนโบยอย่างหนักไปแล้ว

เมื่อเห็นเขามาถึง ใบหน้าซือถูหมิงปรากฏความยินดี “ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย ซือถูเซวียนจะฆ่าข้า ท่านต้องไม่ปล่อยให้นางรอดไปได้”

“หุบปาก” ซือถูเซิงมองบุตรสาวคนนี้อย่างนึกรังเกียจและไม่พอใจ อยู่ต่อหน้าเขานางยังจะมีหน้ามาพูดเรื่องไร้สาระอีก

เมื่อเทียบกับซือถูเซวียนแล้ว นางช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี

ตั้งแต่เล็ก ซือถูเซวียนได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างดี นางมีนิสัยนุ่มนวลและจิตใจดี ไร้ซึ่งจุดด่างพร้อย ซือถูหมิงไม่มีอะไรเทียบนางได้เลย

ซือถูหมิงเจ็บปวดยิ่งนัก นางหลงคิดว่าซือถูเซิงมาที่นี่เพื่อตนเอง แต่ตอนนี้กลับฟังดูหมดความอดทนกับตน “ท่านพ่อ นางคนชั้นต่ำนั่นกลับมาแล้ว ท่านเลยจะไม่สนใจข้าหรือ”

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่ได้รับบทเรียนของเจ้าสินะ ใครบอกให้เจ้าเปิดปาก เจ้าควรจะรู้เสียบางยามใดควรพูด และยามใดควรสงบปากสงบคำ” เซียวฉีเทียนและคนอื่นๆ เดินออกมาได้ยินที่ซือถูหมิงพูดพอดี ใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็นถมึงทึงในทันใด

เสียงของเซียวฉีเทียนเป็นดั่งฝันร้ายของซือถูหมิง “ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว ขอองค์ชายโปรดยกโทษให้ข้าด้วย” นางไม่อยากโดนโบยมากไปกว่านี้

“โบยนางต่อ” สายตาเซียวฉีเทียนนั้นไร้หัวใจยามมองซือถูหมิงที่กำลังร่ำไห้ มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย

“องค์ชายฉี หมิงเอ๋อร์ยังเด็กนัก นี่มันออกจะ…”

“อะไรหรือ ท่านลุงซือถู ท่านจะบอกว่าบทลงโทษนี้รุนแรงไปหรือ” ตั้งแต่ป้าของพวกเขาตาย ซือถูเซวียนก็ได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้าย จนโดนขับไล่ออกจากบ้าน

ซือถูเซิงรีบส่ายศีรษะ “ข้ามิบังอาจ”

“เช่นนั้นพวกเจ้ามัวรออะไรอยู่เล่า โบยนางเสียสิ” เซียวฉีเทียนมองยังผู้ที่ลงโทษ แล้วสั่งอย่างโกรธเกรี้ยว

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่งของเซียวฉีเทียน จึงรีบโบยนาง

ความรู้สึกเจ็บแสบบนใบหน้าของซือถูหมิงนั้นเกินทนไหว นางอ้อนวอนขอความเมตตา “องค์ชาย ข้าก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของท่านเช่นกัน ทำไมท่านจึงทำกับข้าเช่นนี้”

“ลูกพี่ลูกน้องรึ ข้าไม่เห็นจำได้ว่าท่านป้าของข้าคลอดลูกสาวอย่างเจ้าออกมา เจ้าก็แค่คนชั้นต่ำที่เป็นลูกของอนุภรรยา ช่างคิดว่าตัวเจ้าเองสูงส่งเหลือเกินนะ” เซียวฉีเทียนมองซือถูหมิงด้วยสายตาเสียดสี

ซือถูหมิงเกลียดยามมีคนเรียกนางเป็นลูกของอนุยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด นางแหกปาก “ข้าไม่ใช่ ข้าคือคุณหนูของตระกูลซือถู ข้าไม่ใช่ลูกของอนุ

“โอ้ ท่าทางจะยังมีอีกหลายเรื่องที่ข้าไม่รู้ ในเมื่อท่านลุงซือถูก็มาที่นี่แล้ว เช่นนั้นข้าจะไม่ทำให้เสียเวลาแล้วกัน ซือถูเซิง ข้าขอมอบราชโองการนี้ให้กับท่าน” เซียวฉีเทียนปรายตามองซือถูหมิงเพียงแวบเดียวแล้วหันไปจ้องซือถูเซิง น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไปจนซือถูเซิงสังหรณ์ใจไม่ดี

ราชโองการนั้นมีคำประกาศยอมรับการแต่งงานของซือถูเซวียน แน่นอนว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย ตรงท้ายราชโองการยังระบุว่าสินเดิมของภรรยาของซือถูเซิงจะตกเป็นของซือถูเซวียน

ดวงตาซือถูเซิงเต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น ในหลายปีมานี้ ตระกูลซือถูดูแลกิจการขนาดใหญ่ โดยเงินสนับสนุนส่วนมากมาจากสินเดิมที่เหลืออยู่ สินเดิมเหล่านั้นถูกใช้ไปแล้ว พวกเขาคืนให้ได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

“องค์ชาย นี่มัน…นี่มัน…”

“อะไรหรือ ท่านลุงซือถู อย่าบอกเชียวนะว่าท่านไม่มีเงินจำนวนนี้แล้ว หรือว่าหลังจากท่านป้าตาย ท่านก็ขโมยสินสมรสของนางไปจนหมด หรือข้าจะเข้าใจผิดไปว่าตอนนั้น ท่านป้าบอกไว้ว่าสินสมรสทั้งหมดของนางเก็บไว้ให้เซวียนเซวียน อะไรกัน ท่านลุงลืมไปแล้วหรือ”

บทที่ 374 ปัญหาใหญ่

ถ้อยคำแสดงความสงสัยของเซียวฉีเทียนทำให้ซือถูเซิงหวาดผวา เขารีบส่ายศีรษะ จะกล้าบอกออกไปได้อย่างไรกัน หากพูดไปตระกูลซือถูต้องเป็นอันจบสิ้นแน่นอน

“ข้าจะให้เวลาท่านสามวันในการส่งสินเดิมของท่านป้าที่ควรจะเป็นของเซวียนเซวียนมา ส่งไปที่จวนของแม่ทัพใหญ่ เซวียนเซวียนอาศัยอยู่ที่นั่นเช่นนี้เจ้าคิดว่าอย่างไร เซวียนเซวียน” เซียวฉีเทียนหันไปหาซือถูเซวียนแล้วถามอย่างจริงจัง

ซือถูเซวียนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดครุ่นคิด จากนั้นจึงกล่าว “ไม่ ไม่ต้องทำเช่นนั้น เรากำลังจะซื้อบ้าน ตอนนี้ก็มีที่หมายตาไว้แล้ว ให้ส่งสินเดิมไปที่นั่นก็พอ”

แม้อยู่ในจวนแม่ทัพใหญ่จะไม่เลวร้ายเลย แต่มีคนอยู่มากจึงไม่ดีเท่าไรนัก ให้นางมีที่ทางของตัวเองจะดีกว่า

หนิงเมิ่งเหยามองซือถูเซวียนอย่างไม่พอใจ แต่นางก็รู้ถึงความกังวลนั้น จึงได้แต่เงียบไว้

ซือถูเซิงมองซือถูเซวียน เขาละล่ำละลัก “เซวียนเอ๋อร์ นี่มัน…นี่มัน…”

“ท่านลุงซือถู ท่านอยากจะบอกอะไรแก่เซวียนเซวียนหรือ หรือท่านอยากให้ข้าสืบเรื่องการตายของท่านป้าอีกครั้ง” เมื่อเห็นว่าซือถูเซิงอยากจะอ้อนวอนกับเซวียนเซวียน สีหน้าเซียวฉีเทียนยิ่งถมึงทึง

สีหน้าซือถูเซิงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เดิมเขาอยากจะขอร้องนาง แต่ก็ต้องเงียบลง เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ แววเหน็บแนมก็ฉายผ่านดวงตาของเซียวฉีเทียน

“ท่านทำผิดต่อท่านป้าของข้า แล้วยังใช้ประโยชน์จากของของนางอีก ท่านลุงซือถู ท่านนี่ช่างเหลือเชื่อยิ่งนัก นอกจากนี้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป เซวียนเซวียนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลซือถูอีก เลิกยุ่งกับนางได้แล้ว” เซียวฉีเทียนคิดว่าตนควรแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วย

“ไม่นะ เซวียนเซวียนเป็นลูกสาวของข้า” ซือถูเซิงปฏิเสธทันที ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ไม่อาจสูญเสียบุตรสาวคนนี้ไปได้

ซือถูเซวียนมองซือถูเซิง “ข้าเคยกล่าวไปแล้วว่าในตระกูลซือถู ถ้าไม่ใช่ข้าก็ต้องเป็นพวกนาง สองสามปีมานี้ พวกนางเสวยสุขอยู่ในตระกูลซือถู ทั้งยังใช้สินเดิมของท่านแม่ สิ่งที่ท่านแสดงออกมาก็คือท่านเลือกพวกนางแทนที่จะเป็นข้า ดังนั้นก็เหลือเพียงตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างเราแล้ว”

“ไม่ ข้าไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย” ซือถูเซิงรีบส่ายศีรษะ นางเป็นบุตรสาวคนโปรดของเขา

“เหอ เรื่องนี้ไม่สำคัญอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะความปรารถนาสุดท้ายของท่านแม่ ข้าคงทำลายตระกูลซือถูทั้งหมดไปแล้ว ถ้าท่านไม่อยากโดนข้าบดขยี้ เช่นนั้น ท่านซือถู ข้าคิดว่าท่านควรไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน”

ซือถูเซวียนมองเขาดั่งคนแปลกหน้า ไม่เหมือนทั้งสองเป็นบิดากับบุตรสาวเลย แต่เป็นเพียงคนแปลกหน้าสองคน

ซือถูเซิงมองซือถูเซวียนด้วยแววตาว่างเปล่า “เจ้าเกลียดข้าหรือ”

“ฮ่า ฮ่า เกลียดรึ ไยข้าต้องเกลียดท่าน ตอนที่ท่านสมคบคิดกับนางผู้หญิงคนนั้นเพื่อฆ่าท่านแม่ ท่านน่าจะคิดถึงผลที่จะตามมาในวันนี้

ซือถูเซิง ท่านคิดว่าท่านเป็นใคร ท่านแม่บอกข้าไว้ ว่านางไม่อยากให้ท่านพี่ฉีเทียนกับข้าทำอะไรตระกูลซือถูเพราะท่านเป็นคนช่วยชีวิตนาง ถ้าท่านยังไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร ข้าจัดการให้ท่านดีหรือไม่”

ในตอนนั้น ท่านแม่ของนางเป็นดรุณีผู้งดงามและมากความสามารถ เหตุใดนางจึงมาตกหลุมรักชายไร้ประโยชน์อย่างซือถูเซิงเสียได้

“อย่าคิดจะบอกข้าเชียว ว่าท่านลืมไปแล้วว่าท่านมาลงเอยในสภาพเช่นนี้ในวันนี้ได้อย่างไร ทั้งหมดเพราะผู้หญิงคนนั้น และนาง พวกท่านทำให้ท่านแม่ของข้าโกรธจนสิ้นลม ไหนจะพี่น้องที่ข้าไม่เคยได้พบหน้า พวกท่านรู้แก่ใจดีว่าทำอะไรลงไป จะต้องให้ข้าพูดมากกว่านี้อีกหรือ” ซือถูเซวียนมองใบหน้าซีดเซียวของซือถูเซิงโดยไม่มีความเห็นใจใดๆ นางรู้สึกเพียงความเกลียดชัง ถ้าไม่ใช่เพราะคนพวกนี้ มารดาและพี่น้องของนางจะตายได้อย่างไร

ซือถูเซิงเปิดปาก ตามองยังซือถูเซวียน สุดท้ายเขาก็เอ่ยพร้อมถอนหายใจ “ข้าเข้าใจแล้ว”

หนิงเมิ่งเหยามองซือถูเซิงแล้วแสยะยิ้ม “อย่าปฏิเสธการทรยศของเจ้า อย่าพยายามเสแสร้งทำทีเสมือนว่าทุกคนตรงนี้ทำร้ายเจ้าไปหน่อยเลย”

นางเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด เขาทำให้คนอื่นต้องตาย แล้วยังจะกล้ามาใช้ทรัพย์สินของคนผู้นั้นอย่างสบายใจ แล้วสุดท้ายก็ยังบังอาจมาทำเหมือนทุกคนรุมเล่นงาน

“ท่านลุงซือถู อย่าให้ข้าต้องไปไล่ล่าท่านเชียว หลังจากนี้สามวัน ส่งของทุกอย่างไปยังตำหนักองค์หญิงในเมือง” เมื่อตอนท่านป้าเสียชีวิต ฮ่องเต้องค์ก่อนสงสารซือถูเซวียนจึงสัญญากับนางไว้เช่นนี้ แต่ตำแหน่งนี้ถูกลืมไปนานแล้ว

“ข้าน้อยรับบัญชา”

“แล้วอีกอย่าง สอนกฎระเบียบให้นางเสียด้วย ครั้งนี้เราจะลืมมันไป แต่ถ้านางยังกล้าดูถูกเซวียนเซวียนอีก นางจะต้องตาย”

“พ่ะย่ะค่ะ”