บทที่ 202 พร้อมหน้าพร้อมตา[รีไรท์]
วันรุ่งขึ้น
ฉู่ชวิ๋นเตรียมตัวที่จะรักษาดวงตาให้แม่
“แม่ ดื่มน้ำอันนี้ลงไปก่อนนะ” นี่เป็นน้ำยาเทวะที่ฉู่ชวิ๋นตั้งใจปรุงเต็มที่
หลิวหรานดื่มน้ำยาเทวะเข้าไป จากนั้นฉู่ชวิ๋นใช้พลังลมปราณเร่งทำให้ผลลัพธ์ของน้ำยาเทวะยิ่งดีขึ้นไปอีก
ฉู่เทียนเหอดวงตาเบิกกว้างและอ้าปากค้างทันที ที่เห็นภาพตรงหน้า
ความเปลี่ยนแปลงของหลิวหรานเด่นชัดเกินไป ริ้วรอยบนใบหน้ากำลังหายไป ผิวพรรณเรียบตึงขาวผ่องและเปล่งปลั่ง เส้นผมกลับมาดกดำอีกครั้ง คนทั้งคนดูเด็กลงไปกว่าสิบปี เพียงแค่ดื่มยาเข้าไป ฉู่ชวิ๋นเร่งน้ำยาเทวะให้เข้าไปบำรุงร่างกายของหลิวหรานครั้งแล้วครั้งเล่า
“แม่ ผมจะรักษาดวงตาให้แม่ อย่าตื่นเต้นไปนะ” หลิวหรานพยักหน้า เธอไม่ตื่นเต้นแต่ฉู่เทียนเหอตื่นเต้นจนกำหมัดสองข้างแน่น
ฉู่ชวิ๋นดีดนิ้วก็มีเส้นไหมวิญญาณค่อย ๆ ซึมเข้าไปที่ตรงกลางระหว่างคิ้วของหลิวหราน ซึ่งฉู่ชวิ๋นคอยชักนำให้เส้นไหมวิญญาณเคลื่อนไหวตามใจนึก
หลิวหรานร้องไห้ออกมาเนื่องจากเธอเริ่มมองเห็น ส่งผลให้ต่อมน้ำตาและกระจกตาเกิดความเสียหายอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรสำหรับฉู่ชวิ๋น
เส้นไหมวิญญาณเคลื่อนไหววนอยู่บริเวณรอบดวงตาของหลิวหรานและกระจายออกอย่างฉับพลัน พลังลมปราณค่อย ๆ เข้าไปฟื้นฟูจุดที่เสียหายของดวงตา
หลังจากผ่านไปสักพักใหญ่ ๆ ฉู่ชวิ๋นก็หยุดมือลงเขาถอยหลังไปสองก้าวแล้วเอ่ยขึ้น “แม่ แม่ลองลืมตาดู”
หลิวหรานลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฉู่ชวิ๋น เธอมองไปยังร่างที่ปรากฏลาง ๆ ตรงหน้าแล้วก็อดตกตะลึงไม่ได้
“เสี่ยวหราน เป็นยังไงบ้าง” ฉู่เทียนเหอตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก อย่างไรซะการรักษาของฉู่ชวิ๋นก็ดูชิลล์เกินไป
หลิวหรานตื้นตันมากขึ้นเรื่อย ๆ สายตาของเธอฟื้นฟูแล้ว เธอมองเห็นแล้ว เสียงของเธอสั่นคลอน
“ฉัน ฉันกลับมามองเห็นแล้ว…”
ฉู่เทียนเหอดีใจมาก “เธอมองเห็นแล้วจริง ๆ เหรอ”
“จริงสิ” หลิวหรานพยักหน้า เบือนสายตาไปที่ฉู่ชวิ๋น เธอใกล้จะร้องไห้เต็มที
“เสี่ยวชวิ๋น” หลิวหรานเรียกเบา ๆ
วันเวลากว่าพันคืนที่ผ่านมา เธอร้องไห้ เธอคิดถึง เธออยากเจอลูกเหลือเกิน
“แม่” ฉู่ชวิ๋นยิ้มบาง ๆ
หลิวหรานรวบฉู่ชวิ๋นไว้ในอ้อมกอด แล้วอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา ฉู่เทียนเหอตาแดงก่ำ เดินมาโอบทั้งสองคนเอาไว้ ทั้งสามคนทั้งหัวเราะและร้องไห้ออกมาอย่างมีความสุข
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเองก็แดงก่ำขึ้นนิดหน่อย การที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตานั้นไม่ง่ายเลย หลิวหราน
กลับมามองเห็นได้เป็นปกติ แถมครอบครัวยังได้กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างสมบูรณ์ แน่นอนว่า ต้องมีเรื่องให้คุยกันไม่จบไม่สิ้น
“เสี่ยวชวิ๋น หลายปีมานี้ลูกคงลำบากแย่” เมื่อนึกไปถึงที่ฉู่ชวิ๋นต้องติดคุกอยู่สามปี หลิวหรานก็อดน้ำตาไหลไม่ได้
“แม่ ดวงตาของแม่เพิ่งหาย ห้ามร้องไห้อีกนะ” ฉู่ชวิ๋นเตือนอย่างเป็นห่วง
“ใช่ ๆ” หลิวหรานรีบเอามือมาเช็ดน้ำตา และจู่ ๆ เธอก็ชะงักไป เธอวางมือไว้ตรงหน้าด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ มือของเธอผิวขาวสว่างใสและผุดผ่องราวกับเด็ก ๆ
“นี่มัน….”
เธอลุกพรวดขึ้นก่อนจะวิ่งเหยาะ ๆ ไปที่หน้ากระจกลองเสื้อ มองดูผู้หญิงหน้าตาสดใสสวยงามในกระจกด้วยอาการช็อก ๆ
“สวยล่ะสิ” ฉู่ชวิ๋นถามกลั้วหัวเราะ
“นี่มัน นี่มันใช่ฉันแน่เหรอ” หลิวหรานมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ ผู้หญิงในกระจกนี้หากบอกว่า อายุยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปด ก็มีคนเชื่อ
“ไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นฉันรึไง” ฉู่เทียนเหอพูดด้วยความอิจฉานิด ๆ
แม้ว่าเขาเองก็หนุ่มขึ้นนิดหน่อยในช่วงหลายวันมานี้ แต่ก็ยังดูแก่กว่า เมื่อเทียบกับหลิวหรานแล้ว ก็ดูแก่คราวพ่อเชียว ฉู่ชวิ๋นหัวเราะออกมาพลางเอ่ยขึ้น “พ่อ พ่อนั่งลงเถอะ เดี๋ยวผมทำให้หนุ่มกว่านี้ให้เอง”
ฉู่เทียนเหอปลื้มปีติและรีบนั่งลง
“เดี๋ยว” หลิวหรานห้ามเอาไว้
“คุณจะห้าสิบกว่าแล้วนะ จะหนุ่มขนาดนั้นไปทำไมกัน ฉันว่าแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว”
“ฉัน….” ฉู่เทียนเหอกำลังจะเถียง แต่ก็ยอมแพ้โดยดีเมื่อเจอกับสายตาที่จะยิ้มก็ไม่ยิ้มของหลิวหราน ฉู่ชวิ๋นแอบหัวเราะ พ่อยังกลัวแม่มากเหมือนเดิม นี่คงเป็นความรักของคนยุคพวกเขาล่ะมั้ง
“เสี่ยวชวิ๋น บอกแม่ได้ไหมว่า ความสามารถนี้ลูกไปเรียนมาจากไหน” หลิวหรานเดินมาลากฉู่ชวิ๋นให้นั่งลงก่อนจะถามขึ้นด้วยความอยากรู้
ฉู่เทียนเหอเองก็แปลกใจมาก การเปลี่ยนแปลงของฉู่ชวิ๋นนั้นใหญ่หลวงจริง ๆ โดยเฉพาะฝีมือช่างมหัศจรรย์จริง ๆ ราวกับปาฏิหาริย์ก็ไม่ปาน
เขาเห็นมากับตาเชียวนะว่า ฉู่ชวิ๋นสู้กับเหล่าจอมยุทธ์ราวกับเป็นเทพเจ้า ฉู่ชวิ๋นนึกอยู่แล้วว่าพวกเขาต้องถามคำถามนี้
“ปีที่สามในคุก ผมถูกฆ่าตาย ทะลุมิติไปที่ดินแดนเซียน ผมกลายเป็น….”
“หยุดก่อนเลย เล่าความจริงมานะ” หลิวหรานพูดเหยียด
“เรื่องแบบนี้มีอยู่ในนิยายทะลุมิติตามอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แม่กับพ่อโดนขังไว้แค่สามปีเอง ไม่ใช่สามสิบปี
ยังไม่ถึงขั้นตามสังคมตอนนี้ไม่ทัน ลูกคนนี้คิดจะหลอกแม่เหรอ”
“….” ฉู่ชวิ๋นพูดไม่ออก
“ใช่ ไอ้ลูกคนนี้ อย่าคิดว่าตอนนี้มีความสามารถแล้วจะปีกกล้าขาแข็งไม่มีใครทำอะไรลูกได้ ลูกเป็นลูกพ่อ พ่อจะฟาดตอนไหนก็ได้รีบเล่าความจริงให้พ่อฟังเร็ว” ฉู่เทียนเหอรีบพูดเข้ามาทันที
ฉู่ชวิ๋นอึ้งไปนิดหน่อย อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“ก็ได้ ๆ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ตลอดสามปีที่ผมอยู่ในคุก ผมฝันเห็นตาแก่เคราขาว เขาถ่ายทอดวิชาให้ผม แต่ผมไม่ยอม เขาจึงซ้อมผม จากนั้นก็บังคับให้ผมเรียนรู้และฝึกฝน เป็นแบบนี้ทุกคืน จนสุดท้ายผมได้วิชามาแบบงง ๆ …” ฉู่ชวิ๋นพูดอย่างเร็วที่สุดแล้ว จึงมองหน้าทั้งสองคน
ฉู่เทียนเหออึ้งไปพักใหญ่ มองฉู่ชวิ๋นด้วยสายตาแปลกประหลาดหลิวหรานเอง ก็มองเขาอย่างโกรธเคือง ฉู่ชวิ๋นยิ้มเจื่อน ๆ เขารู้ตัวอยู่แล้วว่า เรื่องราวที่มีความไม่สมเหตุสมผลมากมายขนาดนี้ พูดออกมาแม้แต่ตัวเองยังไม่เชื่อ
“ท่าทางโลกนี้ยังมีเรื่องมากมายที่พวกเราไม่รู้ ผู้เฒ่าที่สอนวิชาให้เสี่ยวชวิ๋นในฝันต้องเป็นเทพเซียนแน่ ๆ” ฉู่เทียนเหอเอ่ยขึ้น
“ต้องใช่อยู่แล้ว ที่เสี่ยวชวิ๋นเรียนมาเป็นเคล็ดวิชาเทพ ถึงเปลี่ยนให้ฉันรูปโฉมงดงามแบบนี้ได้” หลิวหรานสมทบ ก่อนจะถลึงตาใส่ฉู่ชวิ๋น
“เจ้าเด็กบ้า ต่อไปนี้ห้ามเรียกท่านว่าตาแก่เคราขาวนะ ต้องเรียกท่านเทพเซียนหรือท่านอาจารย์สิ”
“เอ๋ ?” ฉู่ชวิ๋นงงเป็นไก่ตาแตก พวกเขาเชื่อเหรอ เรื่องราวพิศวงขนาดนี้พวกเขายังเชื่อเหรอ
“พ่อ แม่ อยากเรียนเคล็ดวิชาไหมล่ะ ?” ฉู่ชวิ๋นถาม
“ช่างเถอะ พวกเราอายุปูนนี้แล้ว จะเรียนอะไรอีก” ฉู่เทียนเหอเอ่ยขึ้น หลิวหรานเองก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ พวกเขาเป็นคนธรรมดา ไม่สนใจเรื่องจะไปสู้รบกับใคร
“เรียนแล้วจะอายุยืน เยาว์วัยขึ้นเรื่อย ๆ ….”
ไม่ทันที่ฉู่ชวิ๋นจะพูดจบ ฉู่เทียนเหอและหลิวหรานก็เอ่ยขึ้นพร้อมกัน “พวกเราเรียน” ฉู่ชวิ๋นหัวเราะ ท่าทางเรื่องของความรักสวยรักงามนี่ ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่ต่างกัน
“งั้นก็ดี รอให้พวกเรากลับมาจากตระกูลหลิวก่อน ผมจะสอนเคล็ดวิชาให้เอง” ฉู่ชวิ๋นเอ่ยขึ้น
“ลูก…ลูกจะไปทำอะไรที่ตระกูลหลิว” หลิวหรานเงียบลง สีหน้าเปลี่ยนไปมาก
“แม่ แค่แม่พูดมาคำเดียว ผมจะทำให้ตระกูลหลิวสัตว์สักตัวก็ไม่เหลือ” เสียงของฉู่ชวิ๋นเปลี่ยนเป็นเฉยเมยและเย็นชา
เพราะตระกูลหลิว พวกเขาครอบครัวเล็ก ๆ สามคนกว่าจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาถึงได้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคอย่างมากมาย แม้แต่เสี่ยวหวู่ก็ยังต้องไปนอนอยู่ในโรงศพเย็น ๆ ทุกครั้งที่คิดถึงตรงนี้ ฉู่ชวิ๋นก็แค้นจนอยากจะสับคนตระกูลหลิวเป็นชิ้น ๆ
“เสี่ยวชวิ๋น แรงอาฆาตของลูกนั้นมีมากเกินไป ถึงแม่จะไม่รู้เรื่องพวกฝึกวิชา แต่ก็รู้ว่าถ้าลูกเป็นแบบนี้ต้องเกิดปัญหาแน่” หลิวหรานกุมมือฉู่ชวิ๋นและบอกเสียงเบา
ฉู่ชวิ๋นตกใจเล็กน้อยและรู้ตัวว่า ตัวเองพูดเกินไปจึงเอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว “ขอโทษครับ”
“ลูกเป็นลูกของพวกเรา ไม่ต้องขอโทษหรอก” หลิวหรานส่ายหัว “แม่รู้ว่าที่ลูกเป็นแบบนี้ก็เพราะเด็กสาวที่ชื่อเสี่ยวหวู่ แต่คนตายแล้วฟื้นคืนมาไม่ได้ ลูกจะใช้ชีวิตอยู่กับความแค้นไม่ได้ ถ้าหากถูกความแค้นบังตา ลูกจะไม่เห็นด้านที่สวยงามของโลกใบนี้นะ”
“แม่ เสี่ยวหวู่คืนชีพได้ แต่ต้องใช้เวลานิดหน่อย” ฉู่ชวิ๋นบอกเสียงเบา หลิวหรานตกใจมาก แต่ไม่นานนักก็เข้าใจ ฉู่ชวิ๋นมีวิชามหัศจรรย์มากมาย
“ลูก เสี่ยวหวู่เป็นเด็กดี ชีวิตของแม่กับพ่อก็ได้เธอช่วยไว้ พวกเราเป็นหนี้บุญคุณเธอ ถ้าเป็นไปได้แม่อยาก
ยกชีวิตแม่ให้เธอลูกช่วยเธอให้เต็มที่เถอะ ไม่ว่าจะต้องนานแค่ไหน ขอแค่เธอฟื้นขึ้นมาพวกเราก็จะรับลูกสะใภ้คนนี้ไว้ พวกเรายังต้องขอบคุณเธอด้วย ขอบคุณที่เธออยู่เคียงข้างลูกในวันที่พวกเราถูกขังเอาไว้”
“อืม” ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าหนักแน่น ไม่ว่ายังไงหากมีโอกาสแม้เพียงเสี้ยวเดียวเขาก็จะไม่ยอมแพ้
“เสี่ยวหวู่ รอฉันก่อนนะ!”