บทที่ 146
เจี่ยจิ้งอานก็หันไปมองข้างถนนบ่อยๆ ตอนนี้ 4 ทุ่มแล้ว แต่ยังไม่เห็นเฉินโม่เลย อย่าบอกนะว่าตกใจเพราะตระกูลหลิน จนหนีไปแล้ว
เพียงพริบตา 7-8 คนด้านหน้า พากันประกาศยอมจำนนต่อตระกูลหลิน ถึงตาฉู่เหวินสงแล้ว
มองฉู่เหวินสง จู่ๆ สายตาหลินเจี้ยนเฟิงเย็นชาทันที “เจ้าบ้าคลั่งแห่งอู่โจว นายยอมเป็นสุนัขรับใช้ของตระกูลหลินไหม”
เจี่ยจิ้งอานกับคนอื่นตกใจมาก คนก่อนหน้าหลินเจี้ยนเฟิง ถามว่าจะยอมจำนนหรือตาย แต่ทำไมถามดูหมิ่นเช่นนี้ แค่กับฉู่เหวินสงเท่านั้น
อย่าบอกนะว่า เพราะฉู่เหวินสงเป็นคนของเฉินโม่
ถ้าเป็นเช่นนั้น หลินเจี้ยนเฟิงคงทำกับพวกเขา เหมือนฉู่เหวินสงดูหมิ่นถึงขั้นสุดงั้นเหรอ
พวกผู้มีอิทธิพลที่ประกาศยอมจำนนต่อตระกูลหลินไปก่อนหน้านี้ มองฉู่เหวินสงอย่างสะใจ พวกเขามองออก หลินเจี้ยนเฟิงอคติต่อเจ้าบ้าคลั่งคนนี้มาก!
ฉู่เหวินสงก้มหน้า สีหน้าอึมครึม กำมือทั้งสองข้างแน่น แต่กลับไม่กล้าต่อต้าน พละกำลังที่หลินเจี้ยนเฟิงแสดงออกมา แข็งแกร่งกว่าหลินหรูเฟิงเมื่อวันนั้น เขารู้ดีว่าหลินหรูเฟิงน่ากลัวแค่ไหน นับประสาอะไรกับหลินเจี้ยนเฟิง ที่อยู่ตรงหน้าล่ะ
แต่ฉู่เหวินสงมีศักดิ์ศรีของตัวเองเหมือนกัน ในฐานะที่เป็นผู้มีอิทธิพลแห่งอู่โจว ฐานะไม่ธรรมดา ยึดครองฝ่ายเดียว มีคนติดตามมาตลอด แต่ตอนนี้กลับโดนคนอื่นปฏิบัติเป็นสุนัขตัวหนึ่ง ฉู่เหวินสงจะยอมได้อย่างไร
“เฉินไต้ซือ ทำไมคุณยังไม่มา อย่าบอกนะว่ากลัวตระกูลหลินจริงๆ”
ฉู่เหวินสงไม่เคยอยากเจอเฉินโม่เร็วๆ เท่าตอนนี้มาก่อนเลย
เห็นฉู่เหวินสงไม่พูด ความอาฆาตฉายขึ้นบนใบหน้าหลินเจี้ยนเฟิง เขาจงใจดูหมิ่นฉู่เหวินสง เพราะต้องการให้ฉู่เหวินสงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ที่จะยอมจำนนต่อตระกูลหลิน เขาจะแก้แค้นแทนหลินหรูเฟิง
ถ้าฉู่เหวินสงยอมจำนนต่อตระกูลหลิน เขาจะลงมือยาก
“นายไม่พูด เตรียมจะปฏิเสธฉันเหรอ” เสียงหลินเจี้ยนเฟิงเย็นชา ความอาฆาตพลุ่งพล่าน “งั้นนายก็ตายซะเถอะ!”
ฉู่เหวินสงหนักใจ แอบพูดในใจว่า “ชีวิตฉันจบแล้ว!”
เอี๊ยด!
ขณะนั้น รถแท็กซี่สีแดงคันหนึ่งเหยียบเบรก จอดข้างถนนอย่างรวดเร็ว
คนขับรถรูปร่างอ้วน ลงจากรถอย่างโมโห เอามือตบลงบนกระโปรงรถ ก่นด่าออกมาว่า “ไอ้รถพังๆ นี่ ทำให้เสียเวลาจริงๆ!”
พวกเฉินโม่ลงจากรถ คนขับรถตัวอ้วนรีบขอโทษ “ขอโทษพวกคุณด้วย ทำให้พวกคุณเสียเวลา เพราะไอ้รถพังๆ นี่แท้ๆ”
เฉินโม่ไม่มีอะไรจะพูด มองไปยังทุกคนในจุดชมวิว แล้วเดินเข้าไปช้าๆ เฉินซงจื่อรีบตามหลังไป
ซังซังจ่ายค่ารถ และตามเอียนชิงเฉิงไปอย่างรวดเร็ว
สายตาทุกคนมองมายังเฉินโม่
“เฉินไต้ซือ เฉินไต้ซือมาแล้ว!”
“เฉินไต้ซือมาแล้ว!”
เจี่ยจิ้งอานและคนอื่น ส่งเสียงเฮออกมา
ฉู่เหวินสงได้ยิน เขาเบิกตาโต วินาทีที่เห็นเฉินโม่ อดถอนหายใจยาว ออกมาไม่ได้ “ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเฉินไต้ซือก็มา!”
ในบรรดาพวกผู้มีอิทธิพลที่ยอมจำนนต่อตระกูลหลิน ส่วนใหญ่ไม่รู้จักเฉินโม่ และไม่เคยเห็นเฉินโม่ใช้วิชาสายฟ้า เห็นเฉินโม่เป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง จึงพากันหัวเราะเยาะ
“เฉินไต้ซือบ้าบออะไรกัน ที่แท้แค่เด็กคนหนึ่ง ดูเหมือนกำลังเรียนม.ปลายละมั้ง!”
“พวกเจี่ยจิ้งอานเลอะเลือนไปแล้วเหรอ คิดไม่ถึงว่าจะเดิมพันกับนักเรียนม.ปลายเพียงคนเดียว!”
“ฉันพนันเลยว่าเฉินไต้ซือคนนี้ ต้านทานกระบวนท่าของหลินเจี้ยนเฟิงไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว!”
ทุกคนพากันพูดขึ้นมา มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
เฉินโม่ไม่ได้สนใจทุกคน เดินเชิดหน้าอย่างไม่สนใจ มาตรงหน้าหลินเจี้ยนเฟิงในระยะ 10 เมตร
หลินเจี้ยนเฟิงสีหน้าอาฆาต มองเฉินโม่อย่างยโส “เด็กน้อย ถ้าคุกเข่าอ้อนวอนตอนนี้ ฉันไว้ชีวิตนายได้นะ!”
เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบว่า “คนตระกูลหลินของพวกนาย ล้วนไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำแบบนี้เหรอ คนตระกูลหลินที่พูดแบบนี้กับฉันก่อนหน้านี้ คนหนึ่งโดนฉันหักขาสองข้าง ส่วนอีกคนตายไปแล้ว”