ตอนที่ 227 เดินทางไกล

ปฏิญญาค่าแค้น

วันรุ่งขึ้น​ ​ก่อน​ออกเดินทาง​หลี่หมิง​อวิน​ได้รับ​ข่าวคราว​จาก​ทาง​ด้าน​ใต้เท้า​ตู้​ว่า​บิดา​ฟื้น​แล้ว​ ​นาง​ฮา​นคง​จำเป็นต้อง​ถูก​คุมขัง​ไป​สัก​ระยะ​หนึ่ง​ ​มิเช่นนั้น​จะ​เป็นการ​ยาก​ต่อ​เขา​ใน​การ​ให้​คำชี้แจง

หลี่หมิง​อวิน​เป็นอัน​เข้าใจ​ได้​ ​หาก​ใต้เท้า​ตู้​ปล่อย​นาง​ฮา​นอ​อก​มาทัน​ที​ ​ตัว​เขา​เอง​ก็​ยัง​รู้สึก​ไม่​ค่อย​สบายใจ​เล็กน้อย​ ​จับ​ขัง​ไว้​สัก​ระยะ​หนึ่ง​ก็ดี​เหมือนกัน

เรื่อง​อื่นๆ​ ​ภายในบ้าน​ ​เขา​ไม่​อยาก​เอ่ย​ถาม​ให้​มากความ​จน​เกินไป​ ​ที่​พอทำ​ได้​เขา​ก็​ทำ​ทั้งหมด​แล้ว​ ​หลังจากนี้​จะ​เป็น​เช่นไร​ ​ก็​คง​ต้อง​รอ​หลัง​เขา​กลับมา​จาก​หลาง​ซาน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที

กองทัพ​ทหาร​รวมพล​อยู่​นอก​ตัวเมือง​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​แบ่ง​ออก​เป็น​เก้า​แถว​ ​ยืน​เรียง​กัน​อย่าง​หนาแน่น​ ​ห้า​พัน​ชุด​เกราะ​เหล็ก​สีน้ำ​หมึก​ที่​เปรอะเปื้อน​เสมือน​ไม่เคย​ผ่าน​การ​ขัด​ล้าง​ ​ทั้ง​ยัง​แฝง​ไป​ด้วย​กลิ่นอาย​แห่ง​การ​พิฆาต​อัน​ยิ่งใหญ่​ ​ทำให้​สายลม​ที่​สดชื่น​ใน​ยาม​รุ่งอรุณ​ให้ความรู้​สึก​เย็นยะเยือก​เป็นพิเศษ

ราวกับ​พวกเขา​ไม่ได้​ไป​เพื่อ​ลงนาม​สัญญา​ข้อตกลง​ ​แต่​เป็นการ​ไป​เพื่อ​สู้รบ​ให้​ตาย​กัน​ไป​ข้าง​กับ​ทู่​เจ​วี​๋ย

หนิง​ซิ่ง​ใน​ชุด​เกราะ​สีน้ำ​หมึก​ควบ​ม้า​ตัว​สีขาว​มุ่ง​เข้ามา​ ​ลำตัว​ของ​เขา​ตั้งตรง​ดิ่ง​ประหนึ่ง​มีด​ดาบ​อัน​แหลมคม​ ​สีหน้า​เคร่งขรึม​และสง่า​งาม​ผ่าเผย​ ​เมื่อมา​ถึง​เบื้องหน้า​ของ​หลี่หมิง​อวิน​ ​เขา​ยก​สอง​มือขึ้น​คารวะ​แล้ว​กล่าว​ด้วย​เสียงดัง​กึกก้อง​ ​“​ใต้เท้า​หลี​่​ ​กองทัพ​ทหาร​รวมพล​กัน​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ขอรับ​ ​เชิญ​ใต้เท้า​ตรวจสอบ​อีกครั้ง​ได้​เลย​ขอรับ​”

หลี่หมิง​อวิ​นพ​ยัก​หน้า​เล็กน้อย​ก่อน​กวาดสายตา​สอดส่อง​ตั้งแต่​ด้าน​ซ้าย​จรด​ด้าน​ขวา​ ​แล้วจึง​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​สุขุม​ ​“​ออกเดินทาง​ได้​”

หนิง​ซิ่ง​ควบ​ม้า​กลับ​หลัง​หัน​ ​ยกมือ​ขึ้น​โบก​เป็น​สัญญาณ​พร้อม​ส่งเสียง​บัญชาการ​ดัง​กึกก้อง​ ​“​ออกเดินทาง​ได้​!​”

ทันใดนั้น​เอง​กองทัพ​ทหาร​จำนวน​ห้า​พัน​นาย​ถึง​เริ่ม​เคลื่อน​พลอย​่าง​พร้อมเพรียงกัน

หลิน​หลัน​แต่งกาย​ใน​คราบ​บุรุษ​ควบ​ม้า​ตามหลัง​หลี่หมิง​อวิน​ ​นาง​มองดู​ธง​สัญลักษณ์​ประจำ​บ้านเมือง​ ​ฟัง​เสียง​ฝีก​้า​วที​่​เหยียบย่ำ​ไป​ตาม​พื้น​ของ​ทหาร​ห้า​พัน​นาย​ ​อด​รู้สึก​เลื่อมใส​ศรัทธา​ไม่ได้​ ​กองกำลัง​ทหารม้า​ที่​นำ​ทัพ​โดย​หนิง​ซิ่ง​ช่าง​เป็น​อะไร​ที่​ไม่ธรรมดา​เลย​จริงๆ​ ​พลัง​อานุภาพ​ระดับ​นี้​ ​ไม่​ต่าง​จาก​เจ้า​แห่ง​เสือ​และ​สุนัขป่า​ ​มีพ​วก​เขา​เป็น​ผู้​อารักขา​ช่วย​ให้​รู้สึก​ปลอดภัย​ขึ้น​อย่างสูง

ตอนแรก​หลี่หมิง​อวิน​เกรง​ว่า​หลิน​หลัน​จะ​ตาม​ไม่ทัน​ ​ในเมื่อ​หลิน​หลัน​เพิ่ง​เรียน​ขี่ม้า​ ​แต่​เมื่อ​หันกลับ​ไป​มอง​อยู่​หลายครั้ง​กลับ​เห็น​หลิน​หลัน​ตามหลัง​มาติด​ๆ​ ​จึง​ค่อยๆ​ ​วางใจ​ลง​ ​หลี่หมิง​อวิ​นขมวด​คิ้ว​ขึ้น​มา​อีกครั้ง​เมื่อม​อง​ไป​ยัง​รถม้า​อีก​สอง​คัน​ด้านหลัง

ใน​รถม้า​คือ​หลานชาย​คนโต​ของ​ฉิน​หย่ง​แห่ง​ตระกูล​ฉิน​ ​จง​หย่ง​โหว​์​ ​ฉิน​เฉิง​ว่าง​ ​ซึ่ง​ดำรงตำแหน่ง​ขุนนาง​รอง​เจ้ากรม​ยุทธ์​ฝ่ายซ้าย​ ​โดย​ร่วม​เดินทาง​ไป​หลาง​ซาน​กับ​หลี่หมิง​อวิน​ใน​ครั้งนี้​ใน​ฐานะ​รอง​ทูต​ ​บรรพบุรุษ​ตระกูล​ฉิน​เกิด​จาก​การ​รับหน้าที่​เป็น​ทหาร​เช่นกัน​ ​ประสบความสำเร็จ​จน​ตั้งตัว​ขึ้น​มาด​้วย​หยาดเหงื่อ​แรงกาย​ของ​ตน​เมื่อ​ช่วง​ตอนต้น​ที่ทาง​ราชวงศ์​นี้​ก่อตั้ง​ขึ้น​ ​ทว่า​ต่อมา​ภายหลัง​อาน​เซียง​กับ​ไท่​ผิง​หลงใหล​ไป​กับ​ผลประโยชน์​ ​จึง​ค่อยๆ​ ​ถอนตัว​จาก​กองกำลัง​ทหาร​ ​เมื่อถึง​มาถึง​รุ่น​บิดา​ของ​ฉิน​จง​ ​ได้​เปลี่ยนเป็น​ขุนนาง​ฝ่ายบุ๋น​อย่าง​เต็มตัว​ ​จนกระทั่ง​หนึ่ง​ใน​ตระกูล​ฉิน​ได้​ดำรงตำแหน่ง​ฮองเฮา​ ​เพื่อ​ความมั่นคง​ของ​อำนาจ​ ​ตระกูล​ฉิน​จึง​เริ่ม​มี​ความนึกคิด​ปลูกฝัง​ลูกหลาน​เพื่อ​ดำรงตำแหน่ง​ทางทหาร​ ​แต่​น่าเสียดาย​ที่​คน​หลาย​ชั่วอายุคน​ ​ปรากฏ​เพียง​ฉิน​หย่ง​ผู้​มี​ความสามารถ​และ​พรสวรรค์​ทาง​ด้าน​นี้​ผู้เดียว​เท่านั้น​ ​และ​โชคร้าย​อย่างยิ่ง​ที่​เขา​ต้อง​เสียชีวิต​คาส​นาม​รบ​ไป​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​ฉิน​เฉิง​ว่าง​เป็น​หลานชาย​ของ​ฉิน​หย่ง​ ​คน​ผู้​นี้​นำ​ทัพ​ทหาร​เพื่อ​ไป​สู้รบ​ไม่ได้​ ​ทั้ง​ยัง​ไม่เข้าใจ​กฎระเบียบ​ของ​ทหาร​ ​ที่นั่ง​ดำรงตำแหน่ง​รอง​เจ้ากรม​ยุทธ์​ฝ่ายซ้าย​ได้​ล้วน​อาศัย​บารมี​ของ​ผู้​เป็น​ปู่​และ​การ​ยกยอปอปั้น​ของ​ไท่​โฮ​่ว

การ​เข้า​รับหน้าที่​รอง​ทูต​ของ​ฉิน​เฉิง​ว่าง​เพิ่ง​กำหนด​เมื่อ​สอง​วันก่อน​ ​ได้ยิน​ว่า​เป็นความ​ประสงค์​ของ​ไท่​โฮ​่ว​ ​ฮ่องเต้​เพิ่ง​ลด​ระดับ​ความสำคัญ​ของ​ตระกูล​ฉิน​ ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​แม่​ลูก​จึง​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​ตึงเครียด​ ​จึง​จำยอม​ต้อง​ทำตาม​ประสงค์​ของ​ไท่​โฮ​่ว​เพื่อ​ผ่อนคลาย​บรรยากาศ​อัน​ตึงเครียด​นี้​ ​การ​ร่วม​เดินทาง​ไป​ด้วย​ของ​ฉิน​เฉิง​ว่าง​ใน​ครานี​้​ด้วย​คิด​จะ​ถือโอกาส​คว้า​คุณงามความดี​กับ​เขา​ด้วย​ ​ทว่า​จิ้งปั​๋ว​โหว​์​เคย​เตือน​เขา​ไว้​ว่า​ฉิน​เฉิง​ว่าง​ผู้​นี้​หยิ่งยโส​ ​ดื้อรั้น​ ​และ​มี​ความมั่นใจ​ใน​ตนเอง​ไม่ยอมรับ​ฟัง​ความคิดเห็น​ของ​คนอื่น​ ​สหาย​ผู้​ร่วม​ทัพ​แห่ง​กองกำลัง​ทหาร​ต่าง​ก็​ไม่ลงรอย​กับ​เขา​ ​ดังนั้น​ ​หลี่หมิง​อวิ​นรู​้​สึก​เป็นกังวล​เล็กน้อย​ ​เพราะ​การ​ที่​ใน​กองกำลัง​มี​คน​ประเภท​นี้​อยู่​ด้วย​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่​ค่อย​ดีนัก

กองทัพ​เพิ่ง​เดินทาง​ไป​ได้​ครึ่ง​วัน​ ​ฉิน​เฉิง​ว่าง​ก็​เอ่ย​เสนอ​ว่า​ต้องการ​พักผ่อน

ทว่า​การ​เดินทาง​ของกอง​กำลัง​ทหาร​ไม่​เสมือน​กับ​การ​เดินทาง​ท่องเที่ยว​ไป​เรื่อยเปื่อย​ ​จำนวน​ระยะทาง​ใน​การ​เดินทาง​ของ​แต่ละวัน​ ​ตลอดจน​จะ​หยุดพัก​ ณ​ ​แห่งหน​ใด​ ​ล้วน​เป็นเรื่อง​ที่​วางแผน​ไว้​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ไม่ใช่​ว่า​เจ้า​นึก​อยาก​จะ​พัก​ก็​พัก​ได้​ ​เมื่อ​เจ้า​พัก​ ​กองกำลัง​ทหาร​ทั้งหมด​ก็​ต้อง​หยุดชะงัก​ไป​ด้วย

หนิง​ซิ่ง​ไม่​พึงพอใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ถึงขั้น​มาบ​่น​เรื่อง​นี้​กับ​หมิง​อวิน

“​เหตุใด​้​ฮ่องเต้​ถึง​ส่ง​ไอ้​ขยะ​ผู้​นี้​มานะ​ ​เพิ่ง​เดินทาง​กัน​ไป​ได้​แค่​ครึ่ง​วัน​ก็​ต้องการ​พักผ่อน​เสีย​แล้ว​ ​นี่​มิต​้​อง​รอ​จนถึง​ปีหน้า​ถึง​เดินทาง​ไป​ถึง​หลาง​ซาน​กัน​เลย​หรือ​…​”

หนิง​ซิ่ง​รู้จัก​ฉิน​เฉิง​ว่าง​ผู้​นี้​มาก​เสีย​ยิ่งกว่า​หลี่หมิง​อวิน​ ​ดังนั้น​ ​ทันทีที่​ได้ยิน​ว่า​ฉิน​เฉิง​ว่าง​รับ​ตำแหน่ง​รอง​ทูต​ ​เขา​ก็​หงุดหงิด​ใจ​ยกใหญ่​ ​รอง​ทูต​บ้าบอ​อัน​ใด​ ​รอง​ทูต​แห่ง​การ​สร้าง​ความวุ่นวาย​ล่ะ​สิ​ไม่ว่า

หลี่หมิง​อวิ​นขมวด​คิ้ว​ขณะ​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​“​เจ้า​ไป​บอกกล่าว​เขา​ว่า​ฮ่องเต้​มีพ​ระ​บัญชา​ ​กองกำลัง​ทหาร​จำเป็นต้อง​ไป​ถึง​หลาง​ซาน​ภายใน​หนึ่ง​เดือน​ ​ด้วย​เวลา​ที่​บีบบังคับ​จึง​ไม่​อาจมัว​ชักช้า​อยู่​ได้​ ​หาก​เขา​รู้สึก​เหนื่อย​จน​ไม่ไหว​จริงๆ​ ​เรา​จะ​ขอ​แบ่ง​กองกำลัง​คนไว​้​ให้​เขา​กลุ่ม​หนึ่ง​ ​เขา​จะ​ได้​ค่อยๆ​ ​ตามมา​”

หาก​ไม่​ปฏิเสธ​คำร้องขอ​แรก​ที่​ไม่​สมเหตุสมผล​เอา​เสีย​เลย​ ​ฉิน​เฉิง​ว่าง​คง​ต้อง​ได้​คืบ​แล้ว​จะ​เอา​ศอก​เป็นแน่​ ​การอด​ทน​และ​ร่น​ถอย​ให้​ไม่ใช่​วิธีการ​ที่​พึง​ปฏิบัติ​ ​ยึด​ปฏิบัติตาม​แผน​เดิม​จะ​ดีกว่า​ ​ต่อให้​เอ่ยปาก​ฟ้อง​ต่อ​เบื้องหน้า​พระพักตร์​ฮ่องเต้​ ​เขา​ก็​หา​ได้​เกรงกลัว​ไม่

หนิง​ซิ่ง​กล่าว​ด้วยความยินดี​ปรีดา​ ​“​ได้​เลย​ขอรับ​ ​ข้า​จะ​ส่ง​คน​ให้​ไป​บอกกล่าว​เขา​เดี๋ยวนี้​”

หลี่หมิง​อวิน​แอบ​ถอนหายใจ​อย่าง​เงียบๆ​ ​นี่​เพิ่ง​วัน​แรก​แท้ๆ​ ​ก็​ไม่​ให้ความร่วมมือ​กัน​เพียงนี้​เสีย​แล้ว​ ​หลังจากนี้​เกรง​ว่า​คงจะ​มี​แต่​ความวุ่นวาย​ที่มา​กยิ​่ง​ขึ้น​เสีย​แล้ว​กระมัง

หลิน​หลัน​เข้าใจ​ความนึกคิด​ของ​เขา​ ​“​ไม่จำเป็น​ต้อง​กลัดกลุ้ม​ไป​กับ​เรื่องเล็ก​น้อย​ประเภท​นี้​หรอก​ ​เจ้า​เป็น​ทูต​ผู้บัญชาการ​ ​ขอ​เพียง​พวกเรา​ทำ​เรื่อง​ให้​เสร็จ​สมบูรณ์​ไป​ได้​ก็​เป็น​พอ​”​ ​นาง​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​อ่อนหวาน

หลี่หมิง​อวิน​เผย​รอยยิ้ม​เล็กน้อย​แล้ว​กล่าว​ด้วย​ความห่วงใย​ ​“​เจ้า​เป็น​เช่นไร​บ้าง​ ​ยัง​ไหว​หรือไม่​”

หลิน​หลัน​เชิด​คาง​ขึ้น​เล็กน้อย​และ​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ขณะ​กล่าว​ ​“​เจ้า​อย่า​ดูถูก​ข้า​ให้​มาก​ไป​หน่อย​เลย​ ​กระดูก​และ​กล้ามเนื้อ​ข้า​แข็งแรง​กว่า​เจ้า​มาก​รู้​ไว้​ด้วย​”

หลี่หมิง​อวิน​หลุด​หัวเราะ​ ​“​หาก​ทนไม่ไหว​ก็​อย่า​ได้​ฝืน​เชียว​ละ​ ​ข้า​จะ​ช่วย​จัดการ​เตรียม​รถม้า​ให้​เจ้า​”

“​นั่นสิ​!​ ​ท่าน​หมอ​หลวง​ ​ท่าน​ไป​นั่ง​รถม้า​ก็​ไม่มีใคร​เขา​หัวเราะเยาะ​หรอก​นะ​ขอรับ​”​ ​หนิง​ซิ่ง​กล่าว​เชิง​หยอกล้อ

“​ไว้​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​แล้วกัน​!​ ​เจ้า​อดทน​ได้​ข้า​ก็​อดทน​ได้​เช่นกัน​”​ ​หลิน​หลัน​ยืด​หลัง​เหยียด​ตรง​ ​ท่าทาง​เสมือน​กับ​ไม่ยอม​แพ้​โดยง่าย

ทันใดนั้น​องครักษ์​ของ​หนิง​ซิ่ง​กลับมา​รายงาน​ ​โดย​เอ่ย​ว่า​รอง​ทูต​ฉิน​ต้องการ​ติดตาม​ไป​พร้อม​กองทัพ​ด้วย

หนิง​ซิ่ง​กล่าว​เชิง​เหยียดหยัน​ ​“​เห็นที​ว่า​ ​การ​ต่อกร​กับ​คน​ประเภท​นี้​ต้อง​ใช้​ไม้แข็ง​ถึง​จะ​ได้ผล​”

ฉิน​เฉิง​ว่าง​เอ่ย​ขอ​พัก​ระหว่างทาง​เป็นเวลา​ติดต่อกัน​สาม​วัน​แต่​ล้วน​ถูก​หลี่หมิง​อวิน​ปฏิเสธ​ทั้งสิ้น​ ​เขา​เลย​ไม่​เอ่ยถึง​ประเด็น​นี้​ขึ้น​มา​อีก​ ​ระหว่าง​เดินทาง​จึง​เป็นไป​อย่างสงบ​เรียบร้อย

หลิน​หลัน​เพิ่ง​ได้​สัมผัส​ถึง​ความยากลำบาก​ของ​การ​เดินทัพ​อย่างแท้จริง​ ​มัน​ยากลำบาก​กว่า​การฝึกฝน​ทหาร​ครั้ง​เรียน​มหาวิทยาลัย​เมื่อ​ชีวิต​ก่อน​ไม่รู้​กี่​เท่าตัว​ ​การ​เคลื่อน​ทัพ​ติดต่อกัน​หลาย​วัน​ ​นาง​ที่​ต้อง​คอย​อยู่​บน​หลัง​ม้า​ส่งผล​ให้​ร่างกาย​สั่นสะเทือน​จน​รู้สึก​ราวกับ​กระดูก​จะ​แยก​ออกจาก​กัน​ ​แม้ว่า​บน​อานม้า​จะ​มี​เบาะ​รอง​แสน​นุ่ม​ ​ทว่า​ท่อน​ขาด​้าน​ใน​ยังคง​ถูไถ​กับ​ผิวหนัง​ของ​ม้า​จน​ถลอก​ ​หลี่หมิง​อวิ​นก​็​ย่ำแย่​ไม่​แพ้​กัน​ ​เพราะ​เกรงใจ​เกิน​กว่า​จะ​ใช้​เบาะ​รอง​นั่ง​ใบ​นุ่ม​ ​ร่องรอย​บาดเจ็บ​ของ​เขา​จึง​สาหัส​ยิ่งกว่า​นาง

แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​ทหาร​จำนวนมาก​เหล่านั้น​ที่​อาศัย​การ​เดินเท้า​เหยียบย่ำ​อยู่​บน​พื้น​ ​ขณะที่​พวกเขา​ได้​ขี่​บน​หลัง​ม้า​ซึ่ง​นี่​ก็​นับว่า​ไม่เลว​แล้ว​ ​ทั้งสอง​จึง​กัดฟัน​อดทน​ต่อไป

หลี่หมิง​อวิน​เป็นห่วง​หลิน​หลัน​อย่างยิ่ง​ ​เขา​เอ่ยปาก​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​ให้​หลิน​หลัน​นั่ง​รถม้า​แต่​ล้วน​ถูก​นาง​ปฏิเสธ​อยู่​ร่ำไป​ ​หลี่หมิง​อวิน​ไม่​อาจ​เกลี้ยกล่อม​นาง​ได้​ ​จึง​ทำได้​เพียง​ปล่อย​ให้​นาง​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ต้องการ

ไม่​กี่​วัน​ต่อมา​กองทัพ​ทหาร​ก็​เดินทาง​มาถึง​เซิ​่ง​โจว​ ​บรรดา​ทหาร​จึง​ได้​หยุดพัก​ผ่อน​เพื่อ​เติม​เสบียง​และ​ยา

หนิง​ซิ่ง​อธิบาย​ความจริง​บางอย่าง​ให้​หลี่หมิง​อวิ​นรั​บท​ราบ​ ​โดย​เอ่ย​ว่า​กองกำลัง​ทหาร​จำนวน​ห้า​พัน​นาย​นี้​ ​ทหาร​สาม​พัน​คนใน​นั้น​อยู่​ภายใต้​บัญชา​ของ​เขา​โดยตรง​ ​แม้​ช่วงเวลา​ที่​นำ​ทัพ​ทหาร​ไม่​ยาวนาน​มาก​นัก​ ​ทว่า​หลัง​ได้​ผ่าน​การสู้​รบ​ ​อาบ​เลือด​มาด​้ว​ยกั​นกั​บบร​รดา​ทหาร​เหล่านี้​ ​ล้วน​ถือว่า​เป็น​ทหาร​ที่​กล้าหาญ​และ​มี​ความ​เชี่ยวชาญ​ใน​การสู้​รบ​ทั้งสิ้น​ ​ซึ่ง​ควรค่า​แก่​การ​ให้​ความไว้วางใจ​ ​หนิง​ซิ่ง​เลือก​ทหาร​ผู้​โดดเด่น​จาก​ใน​นั้น​จำนวน​ห้า​ร้อย​คน​ติดอาวุธ​ชั้นยอด​ให้​เพียบพร้อม​ ​โดย​ส่งมอบ​พวกเขา​ให้​หลิน​เฟิง​เป็น​ผู้ควบคุม​ ​เพื่อ​ทำหน้าที่​เป็น​องครักษ์​ส่วนตัว​ของ​หลี่หมิง​อวิน​ ​มุ่ง​รักษา​ความปลอดภัย​ของ​หลี่หมิง​อวิน​โดยตรง​ ​ส่วน​อีก​สอง​พัน​คน​ดึง​ตัว​มาจาก​ค่าย​เป่ย​ซาน​ ​หม่า​โหยว​เหลียง​ผู้นำ​ทัพ​ก็​เป็น​แม่ทัพ​ที่​กล้าหาญ​เช่นกัน​ ​ผ่านศึก​สู้รบ​มา​ไม่น้อย​ ​แต่​ครั้งนี้​ต้อง​มา​เป็น​ผู้​ใต้​บัญชา​ของ​หนิง​ซิ่ง​จึง​ดูเหมือน​มี​ความไม่พึงพอใจ​อยู่เล็ก​น้อย​ ​อีกทั้ง​ตลอด​การ​เดินทาง​มานี​้​ ​ดูเหมือน​หม่า​โหยว​เหลียง​จะ​ค่อนข้าง​สนิทสนม​กับ​ฉิน​เฉิง​ว่าง​ไม่น้อย​ทีเดียว

หลี่หมิง​อวิ​นพอ​จะเข้า​ใจความ​หมาย​ที่​หนิง​ซิ่ง​ต้องการ​สื่อ​ได้​ ​ซึ่ง​หมายความว่า​กองกำลัง​ทหาร​ที่พึ่ง​พา​ได้​จริง​คือ​จำนวน​สาม​พัน​คนที​่​อยู่​ใต้​บัญชา​ของ​หนิง​ซิ่ง​นั่นเอง​ ​แนวโน้ม​สถานการณ์​ทาง​เขต​ชายแดน​สับเปลี่ยน​ไป​ได้​ทุกเมื่อ​ ​อย่าง​ช่วง​ก่อนที่​กองทัพ​จะ​ออกเดินทาง​มายั​งคง​ได้รับ​รายงาน​การสู้​รบ​ ณ​ ​เขต​ชายแดน​ ​ผู้ควบคุม​เขต​ชายแดน​ฆ่าฟัน​กับ​ทู่​เจ​วี​๋​ยมา​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​ ​รายงาน​การสู้​รบ​ที่​ได้รับ​ใน​ระยะนี้​คือ​ทาง​ฝ่าย​เรา​ถูก​โจมตี​พ่าย​ไป​แล้ว​เมือง​หนึ่ง​ ​ทู่​เจ​วี​๋ย​จึง​เกิด​ความ​ฮึกเหิม​ขึ้น​มา​ ​ซึ่ง​นี่​นำ​ความยากลำบาก​ต่อ​การคาดการณ์​ช่วงนี้​มา​ให้​แก่​ผู้เจรจา​และ​เป็นความ​อันตราย​ที่​เพิ่มมากขึ้น​อย่างยิ่ง​ ​ไม่แน่​ว่า​เมื่อ​ไป​ถึงที่​นั้นแล​้ว​ไม่เพียงแต่​เจรจา​ไม่สำเร็จ​ ​แต่​ยัง​อาจ​ตกไป​สู่​สถานการณ์​ของ​การ​รบรา​อีกด้วย​ ​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​อันดับ​แรก​ที่​พึงกระทำ​คือ​ต้อง​ทำความเข้าใจ​ต่อ​กองกำลัง​ทหาร​ของ​ตนเอง​ให้​เต็มที่​เสียก่อน