เล่มที่ 9 บทที่ 250 ไม่มีอะไรจะคุยกับเขา

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซียวยวี่ล้างมือจนสะอาดก่อนเทน้ำสกปรกทิ้ง จากนั้นจึงตักน้ำสะอาดมาอีกหนึ่งอ่าง ยกไปวางตรงหน้าเซี่ยยวี่หลัว เซี่ยยวี่หลัวกำลังคัดแยกสิ่งสกปรกอยู่ ไม่ทันเห็นว่าเซียวยวี่มาถึงตรงหน้า

เซียวยวี่วางน้ำลง ย่อตัวอยู่ข้างๆ กล่าวเสียงเบา “เจ้าก็ล้างด้วย”

เซี่ยยวี่หลัวได้ยินแล้ว หันไปก็เห็นเซียวยวี่ที่ย่อตัวอยู่ข้างๆ พร้อมเงยหน้ามองนาง ข้างเท้าของเขามีน้ำสะอาดวางอยู่หนึ่งอ่าง และมีสบู่ด้วย

ท่านราชบัณฑิตน้อยตักน้ำให้นางล้างมือหรือนี่?

เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกว่าเหนือความคาดหมาย “คือ ข้าตักน้ำเองได้ เจ้าไม่ต้องสนข้า”

เซียวยวี่ลุกขึ้นยืน ไม่ได้กล่าวตอบ เพียงหันตัวเดินไป

เซี่ยยวี่หลัวนึกว่าเขาจะกลับห้องไปอ่านตำรา จึงไม่ได้กล่าวอะไร ล้างมือด้วยน้ำสะอาด จากนั้นจึงเทน้ำสกปรกทิ้ง หลังจากนำอ่างไปเก็บในห้องครัวกลับมา ข้างอ่างไม้ใหญ่มีคนนั่งอยู่อีกหนึ่งคน

ไม่ใช่เซียวยวี่ยังจะเป็นใครได้อีก

เซียวยวี่ก็ยกเก้าอี้เล็กมานั่งอยู่ข้างอ่างไม้ คัดแยกต้นหญ้าและใบไม้ในนั้นโดยเลียนแบบท่าทางของเซี่ยยวี่หลัว

“คือ เจ้ายุ่งมาตลอดช่วงเช้าแล้ว ยังไม่ได้อ่านตำรา เจ้ากลับไปอ่านตำราก่อนเถอะ! ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าวเสียงค่อย

เซียวยวี่ไม่เงยหน้า นำดอกจินหยินที่คัดแยกเสร็จแล้วไปใส่ไว้ในถังไม้สะอาดข้างๆ ก่อนจะก้มหน้าคัดแยกต่อพลางกล่าว “ไม่รีบ ทำเสร็จแล้วค่อยไปอ่านก็เหมือนกัน! ”

เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกหวั่นไหว รีบนั่งลงทำงานต่อ

ระหว่างสองคนมีเพียงอ่างไม้กั้นอยู่หนึ่งอ่าง ต่างก็ไม่พูดคุย นั่งคัดแยกสิ่งสกปรกภายในอ่างเงียบๆ

ไม่นานเซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งก็ลุกขึ้น สวมใส่เสื้อผ้าเสร็จออกมาข้างนอกก็เห็นพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่กลับมาแล้ว เซียวจื่อเมิ่งโผเข้าไปพิงบนไหล่เซี่ยยวี่หลัวพร้อมออดอ้อนทันที

“พี่สะใภ้ใหญ่ วันนี้ข้าเป็นเด็กดีมากทีเดียว พี่รองต้มเกอต่า ข้ากินไปชามใหญ่ ข้ายังช่วยพี่รองล้างชามด้วยเจ้าค่ะ! ” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส

เซี่ยยวี่หลัวบีบจมูกเล็กของนาง กล่าวด้วยความเอ็นดู “จื่อเมิ่งเก่งกาจเสียจริง ต้องกินข้าวให้มาก จะได้โตเร็วๆ ”

“เจ้าค่ะ ข้าโตเมื่อไร ข้าจะงดงามให้เหมือนพี่สะใภ้ใหญ่เจ้าค่ะ” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวด้วยใบหน้าบ่งบอกความคาดหวัง

เซี่ยยวี่หลัวลูบศีรษะเล็กของนาง “จื่อเมิ่งของข้าโตเมื่อไร ต้องงดงามกว่าพี่สะใภ้ใหญ่แน่นอน”

เวลานี้เอง เซียวยวี่เงยหน้าขึ้นมองเซียวจื่อเมิ่งแวบหนึ่ง จากนั้นจึงกวาดสายตามองไปทางเซี่ยยวี่หลัวก่อนละสายตาอย่างรวดเร็ว

รูปหน้าและดวงตาที่งดงามอย่างมิอาจหาใดเทียมนั่น เดิมทีก็หาได้ยากมากอยู่แล้ว หากทุกคนสามารถมีรูปลักษณ์เช่นเดียวกัน เช่นนั้นใบหน้านี้ก็ไม่สามารถเรียกว่างดงาม ควรเรียกว่าธรรมดาทั่วไป

เซียวจื่อเมิ่งได้ฟังดังนั้น ก็หัวเราะคิกคัก เด็กสองคนเข้าร่วมการคัดแยกสิ่งสกปรก เซียวจื่อเซวียนและเซียวจื่อเมิ่งพูดคุยเป็นครั้งคราว ทำให้เซี่ยยวี่หลัวไม่รู้สึกขัดเขินเหมือนก่อนหน้านี้ กลับทำให้รู้สึกว่ามีความสุขและดูร่าเริง

ก่อนหน้านี้นางไม่ค่อยยิ้มแย้ม บัดนี้เมื่อเด็กสองคนมาช่วย กลับแย้มรอยยิ้มไม่หยุด เผยรอยยิ้มอยู่ตลอด น้ำเสียงมีเสน่ห์ ทำให้ฟังแล้วรู้สึกชื่นใจ

เซียวยวี่รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองก็เบิกบานตาม

ทั้งสี่คนช่วยกัน จึงคัดแยกดอกจินหยินได้เต็มสองถังใหญ่อย่างรวดเร็ว เซี่ยยวี่หลัวจะนำไปล้างที่ริมแม่น้ำ เด็กสองคนต่างก็อาสาจะไป เซียวยวี่ขวางไว้ “พวกเจ้าทำอาหารเย็นอยู่ที่บ้าน ข้าจะไปกับพี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้าเอง”

ดูท่าน่าจะเพราะเอ็นดูเด็กสองคน ไม่อยากให้พวกเขาต้องทำงาน

แต่เซี่ยยวี่หลัวไม่อยากไปกับเขาเพียงลำพังนี่นา!

พาเด็กไปด้วยสักหนึ่งคน ก็ยังดีกว่าไปกันแค่สองคนแล้วนิ่งเงียบไม่มีอะไรคุยกัน ตลอดช่วงเช้ากับช่วงบ่ายวันนี้ ทั้งคู่คุยกันเพียงไม่กี่ประโยค นางอึดอัดแทบตายแล้ว

เซี่ยยวี่หลัว “ถ้าอย่างไรก็พาจื่อเมิ่งไปด้วยแล้วกัน! ” นางจะได้มีคนให้พูดคุยด้วย

เซียวจื่อเมิ่งได้ฟังดังนั้น จึงรีบกล่าว “เจ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าจะไปกับท่านเจ้าค่ะ! ”

เซียวจื่อเซวียนฉุดไว้ไม่อยู่ “…”

ตอนเช้าเพิ่งบอกให้เจ้าดูสีหน้าข้า ดูสีหน้าข้า เหตุใดเพิ่งผ่านไปไม่นานกลับลืมไปได้เล่า!

เซียวจื่อเซวียนไม่อยากให้เซียวจื่อเมิ่งไป จึงถือโอกาสกล่าว “พี่สะใภ้ใหญ่ โอ่งน้ำในบ้านไม่มีน้ำแล้ว ข้าก็ไปด้วย จะได้หาบน้ำกลับมาขอรับ! ”

ไปกันทั้งหมด เซี่ยยวี่หลัวย่อมรู้สึกดีใจ “ได้ เช่นนั้นก็ไปด้วยกัน! ”

เซียวยวี่ขมวดคิ้วทีหนึ่ง จำเป็นต้องไปกันเยอะขนาดนี้เชียวหรือ?

เซียวยวี่หิ้วถังไม้สองถัง เซียวจื่อเซวียนหาบถังเปล่าสองถัง ทั้งสี่คนเดินไปทางริมแม่น้ำ เพราะจะหาบน้ำกลับบ้านไว้ดื่ม ดังนั้นทั้งสี่คนจึงหาตำแหน่งต้นน้ำที่ดีแห่งหนึ่ง คนหาบน้ำก็หาบน้ำ คนล้างดอกไม้ก็ล้างดอกไม้

ถึงอย่างไรเซียวจื่อเซวียนก็ยังเป็นเด็ก ยิ่งไปกว่านั้น เซียวยวี่ก็กลับมาแล้ว ย่อมไม่ปล่อยให้น้องชายของตนเองหาบน้ำ เขาจะรับไม้หาบ เซียวจื่อเซวียนกลับเบี่ยงหลบ “พี่ใหญ่ ไม่หนักขอรับ ข้าหาบน้ำเพียงครึ่งถัง ถ้าอย่างไรให้จื่อเมิ่งกลับไปพร้อมข้าก็แล้วกัน! ”

เซียวจื่อเมิ่งกำลังเกาะติดอยู่ข้างกายเซี่ยยวี่หลัว กำลังคิดจะบอกว่าข้าไม่ไป ก็เห็นเซียวจื่อเซวียนขยิบตาให้นาง เซียวจื่อเมิ่งจึงไม่กล่าวอะไร

เซียวยวี่พยักหน้า “อืม ให้จื่อเมิ่งกลับไปพร้อมเจ้า! ”

เซียวจื่อเมิ่งเพิ่งตามมา ก็ต้องตามกลับไปแล้ว

เซี่ยยวี่หลัวกำลังพูดคุยกับเซียวจื่อเมิ่งอย่างมีความสุข กลับต้องปิดปากเงียบ ไม่กล่าวอะไรอีกแม้แต่ประโยคเดียว

เซียวจื่อเมิ่งตามอยู่ด้านหลังเซียวจื่อเซวียน กล่าวด้วยความไม่เข้าใจ “พี่รอง โอ่งน้ำในบ้านยังเต็มอยู่เลย เหตุใดท่านถึงต้องไปหาบน้ำด้วยเจ้าคะ! ”

ตอนเช้าพี่รองเพิ่งหาบน้ำจนเต็มโอ่งชัดๆ !

เซียวจื่อเซวียนกล่าว “เจ้าดูไม่ออกหรือ พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่กำลังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน? พวกเราจะเข้าไปยุ่งทำไม? หากข้าไม่ตามมา เจ้าคงตามติดพี่สะใภ้ใหญ่ตลอดช่วงบ่าย เช่นนั้นพี่ใหญ่ยังจะทำอะไรได้อีก? ”

เซียวจื่อเมิ่งแลบลิ้นทีหนึ่ง “ไม่ใช่ข้าอยากมาเสียหน่อย พี่สะใภ้ใหญ่เป็นคนพาข้ามา! ดังนั้นข้าถึงได้มา”

เดิมทีนางไม่ได้คิดจะมา แต่พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่าจะพานางมาด้วย นางย่อมต้องมาด้วย

“เจ้าโง่หรืออย่างไร พี่สะใภ้ใหญ่เพียงพูดไปอย่างนั้น เจ้ากลับคิดจริง เจ้าไม่เห็นหรืออย่างไร พอได้ยินว่าเจ้าจะตามไปด้วย พี่ใหญ่ถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไปเลย? ”

“ข้าไม่เห็นเจ้าค่ะ! ” เซียวจื่อเมิ่งกล่าวเสียงใส

“เจ้าไม่เห็นแต่ข้าเห็นแล้ว ข้าแสร้งทำเป็นว่าจะไปหาบน้ำ จากนั้นถือโอกาสพาเจ้าไป เช่นนี้ก็พอดีเลย พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่จะได้อยู่ด้วยกันตามลำพังอีกครั้ง! ” เซียวจื่อเซวียนบุ้ยปากไปด้านหลังพร้อมกล่าวอย่างได้ใจ

เซียวจื่อเมิ่งกล่าว “เช่นนั้นพวกเราจะมาอีกทีเมื่อไรเจ้าคะ? ”

“พวกเรากลับบ้านไปหุงข้าว ล้างผักและหั่นผักเสร็จแล้วค่อยมา! ” ภายในใจเซียวจื่อเซวียนรู้สึกมีความสุขนัก ทุกครั้งที่เห็นพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่อยู่ด้วยกัน เขาก็จะรู้สึกมีความสุข

เซียวจื่อเมิ่งตามเซียวจื่อเซวียนไปแล้ว เซี่ยยวี่หลัวที่เมื่อครู่ยังมีความสุข บัดนี้กลับเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่มีชีวิตชีวา เซียวยวี่เห็นคนที่เมื่อครู่ยังร่าเริง เพียงชั่วพริบตาก็แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ภายในใจเขารู้สึกอึดอัดยิ่งนัก

ไม่มีอะไรจะคุยกับเขาแม้แต่ประโยคเดียวเชียวหรือ?