ตอนที่ 177.4 พายุมาถึง (4)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหาเหยาอบอุ่นในใจ ทว่าเธอพลันฉุกคิดขึ้นมาได้ รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งทื่อ ก่อนเอ่ยว่า

“เช่นนั้น ข้าต้องกลับต้าเซี่ยในเร็ววันนี้ใช่หรือไม่”

มีเวลาเพียงครึ่งเดือน การอภิเษกจึงค่อนข้างดูรีบร้อน

เพราะเธอเป็นองค์หญิงแห่งต้าเซี่ย เรื่องการอภิเษกทั้งหมดจึงต้องทำตามประเพณีของต้าเซี่ย

และก่อนการอภิเษก เธอจำเป็นต้องกลับไปยังแคว้นต้าเซี่ย

แม้จะต้องแยกกับเหลิ่งจวิ้นอวี๋เพียงครึ่งเดือน เล่อเหยาเหยากลับรู้สึกตัดใจไม่ได้อย่างยิ่ง

เพราะพวกเธอรู้สึกสนิทสนมกันมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยแยกห่างกันเป็นเวลานานเช่นนั้นมาก่อน

ผู้คนต่างบอกว่าหนึ่งวันไม่เจอหน้าดุจผ่านไปสามฤดูใบไม้ร่วง เช่นนั้นเธอไม่ได้เจอหน้าเหลิ่งจวิ้นอวี๋ครึ่งเดือน จะต้องผ่านไปกี่ฤดูใบไม้ร่วงกัน!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาที่ดีใจมีความสุข ถูกความไม่เต็มใจเข้ามาแทนที่

เพราะเธอตอนนี้ไม่อยากห่างจากชายหนุ่มแม้แต่นิดเดียว แม้วันนี้จะเพิ่งแยกจากเขาเพียงตอนเช้า เธอล้วนคิดถึงเขาจนสุดชีวิต!

เล่อเหยาเหยาจึงไม่อยากจินตนาการว่าครึ่งเดือนที่เหลือนี้ ควรจะทำเช่นไรดี

พอคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ใบหน้าเล็กของเล่อเหยาเหยาดูเศร้าสลด

เหลิ่งจวิ้นอวี๋เห็นเช่นนั้น จะไม่รู้ความในใจของเล่อเหยาเหยาได้เช่นไร

ความจริงเขาไม่ต้องการให้เป็นเช่นนี้

แต่สิ่งเหล่านี้คือความจำเป็น

การอภิเษกของพวกเขาเกี่ยวพันระหว่างสองแคว้น ด้วยสถานะของพวกเขาสองคน หากจะจัดงานอภิเษก ย่อมต้องทำตามขนบธรรมเนียมประเพณี

พอคิดถึงเรื่องเหล่านี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋เอ่ยขึ้นว่า

“เพียงแค่ครึ่งเดือน เจ้าเป็นเด็กดีกลับไปรอเปิ่นหวาง อีกครึ่งเดือนเปิ่นหวางจะไปอภิเษกรับตัวเจ้ากลับมา เปิ่นหวาง อยากอภิเษกเจ้ากลับมาตามประเพณี เพื่อเป็นพระชายาของเปิ่นหวาง”

เหลิ่งจวิ้นอวี๋เอ่ยอย่างรักใคร่ ทุกคำทุกประโยคล้วนหนักแน่น ฝังแน่นลงไปในหัวใจของเล่อเหยาเหยา

เมื่อเห็นชายหนุ่มจริงจังใส่ใจเช่นนี้ เล่อเหยาเหยาแม้ในใจจะรู้สึกไม่ยินยอม แต่สุดท้ายยังพยักหน้าพร้อมยิ้มว่า

“ได้ เช่นนั้นข้าจะรอท่าน ท่านต้องจำไว้ว่าต้องไปรับตัวข้ากลับมา”

“ฮ่า ๆ แน่นอนอยู่แล้ว เหตุใดจึงอยากอภิเษกกับเปิ่นหวางมากขนาดนี้ หรือกลัวเปิ่นหวางจะไม่ต้องการเจ้า!”

สำหรับคำพูดของเล่อเหยาเหยา ทำให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋หรี่ดวงตาเย็นชาลง แววตาปรากฎความสนุกขึ้นหลายส่วน

เล่อเหยาเหยาเห็นเช่นนั้น ใบหน้าจิ้มลิ้มพลันเก้อเขิน แม้จะถูกชายหนุ่มเปิดเผยความในใจออกมา ยังแสร้งทำใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้ออกมา ก่อนเอ่ยว่า

“ฮึ ผู้ใดกลัวกัน ข้าไม่ได้ไม่มีผู้ใดต้องการ ท่านไม่เห็นหรือข้ารูปร่างดี หน้าตาสวยสดงดงาม แต่งกับข้าหนึ่งคนได้เพิ่มอีกหนึ่งคนถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่า ทุกคนต่างแย่งชิงกันทั้งนั้น”

เอ่ยจบ เล่อเหยาเหยาเลิกคิ้วเข้มขึ้นชั่วขณะ ด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

เหลิ่งจวิ้นอวี๋เห็นก็ยิ้มไม่หยุด

“เจ้าช่างเป็นสาวน้อยที่พิเศษเสียจริง คำพูดแปลกประหลาดเช่นนี้มีเพียงเจ้าที่กล้าพูดออกมา แต่งหนึ่งได้ถึงสอง นั่นคือลูกของเปิ่นหวาง เจ้ากล้าหรือ!”

เอ่ยจบเหลิ่งจวิ้นอวี้ตั้งใจหรี่ดวงตาเย็นชาลง เผยท่าทางโหดเหี้ยมออกมา แต่เล่อเหยาเหยาไม่กลัวเขา และยังตั้งใจยืดหน้าท้องที่ยังมองเห็นไม่ชัดออกมา ก่อนเอ่ยอย่างภูมิใจว่า

“ฮึๆ ท่านดูว่าข้ากล้าหรือไม่กล้า!”

“พอเถิด ดูสิว่าเปิ่นหวางจะรังแกเจ้าเช่นไรดี”

“หึ น่าชังนัก ไม่เอา…”

เอ่ยจบภายในห้องที่มีเสียงหัวเราะค่อยๆ เงียบสงัดลง ก่อนคล้ายมีเสียงหายใจติดขัดที่ทำให้คนหน้าแดงใจเต้นดังออกมา

ด้านนอกพระอาทิตย์คล้อยต่ำตกดิน ยามค่ำคืนค่อยๆ คืบคลานเข้ามา

พระจันทร์ขาวกระจ่างลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้ากว้างใหญ่ ตามมาด้วยหมู่ดาวนับไม่ถ้วนส่องแสงระยิบระยับ คล้ายกำลังเปิดปากแอบยิ้ม

สามวันให้หลัง เล่อเหยาเหยาภายใต้การจัดเตรียมของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ และการคุ้มครองขององครักษ์กลุ่มใหญ่ ค่อยๆ ออกเดินทางสู่แคว้นต้าเซี่ย

หากเดินทางจากเมืองหลวงสู่แคว้นต้าเซี่ย ด้วยม้าเร็วใช้เวลาสี่วันสามคืน แต่หากด้วยความเร็วของรถม้าที่เล่อเหยาเหยานั่ง อย่างน้อยใช้เวลาสิบวัน

เพราะเวลานี้เล่อเหยาเหยาตั้งครรภ์ ความเร็วของรถม้าจึงเร็วเกินไปไม่ได้

ความจริงเหลิ่งจวิ้นอวี๋คิดไปส่งเล่อเหยาเหยาที่ชายแดนระหว่างแคว้นต้าเซี่ยและเทียนหยวน แต่เล่อเหยาเหยากลับปฏิเสธ

เพราะเธอทราบดี เหลิ่งจวิ้นอวี๋เป็นคนที่มีงานรัดตัว ปกติเพราะเรื่องในราชสำนักยุ่งจนถึงตีสาม ตอนนี้ยังต้องจัดการเรื่องอภิเษกภายในระยะเวลาที่กระชั้นชิดเช่นนี้

เล่อเหยาเหยาจึงกลัวเหลิ่งจวิ้นอวี๋จะเหนื่อยล้าเกินไป ดังนั้นในวันที่แยกจากกันนั้น จึงทำตัวราวกับยายแก่เอ่ยกำชับเรื่องรักษาสุขภาพกับเหลิ่งจวิ้นอวี๋ไม่หยุด แม้จะบ่นพึมพำไปหลายชั่วยาม แต่ยังคงทำใจจากไปไม่ได้

เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เล่อเหยาเหยายังอดโผล่ศีรษะออกมาทางหน้าต่าง เอ่ยกับเหลิ่งจวิ้นอวี๋ด้วยน้ำตาไม่ได้ว่า

“ท่านห้ามลืมเด็ดขาด อีกครึ่งเดือนให้หลัง ต้องไปรับตัวข้ากลับมา ข้าจะรอท่าน!”

“เปิ่นหวางไปแน่นอน เจ้ารอเปิ่นหวางเถิด!”

สำหรับความอาลัยอาวรณ์ของเล่อเหยาเหยา เหลิ่งจวิ้นอวี๋ก็มีสีหน้าเช่นเดียวกัน

คำพูดที่เอ่ยออกมาหนักแน่น และเป็นดั่งคำมั่นสัญญา

ชั่วชีวิตนี้ เขาจะอภิเษกกับเธอเพียงผู้เดียว และไม่เสียใจเด็ดขาด!

ขณะเหลิ่งจวิ้นอวี๋คิดในใจอย่างแน่วแน่ กลับไม่สังเกตว่าในมุมที่ห่างออกจากพวกเขาไปไม่ไกล มีหญิงสาวผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา

เห็นเพียงหญิงสาวผู้นั้นซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมเลือดเย็น

เมื่อรวมเข้ากับรอยยิ้มร้ายกาจที่มุมปาก จึงทำให้เธอดูดุร้าย

“ฮ่า ๆ คิดอภิเษกกับพี่อวี๋ เจ้าไปลงนรกเสียเถิด!”