ตอนที่ 381 ตั้งใจทำให้คนอารมณ์เสียโดยเฉพาะ
เฉินฝานซิงเดินมาหยุดตรงบริเวณริมเวทีแล้วหันไปมองทางหลินสื่อเจีย ก่อนจะยกมุมปากเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น “โปรดิวเซอร์หลิน ไม่ทราบว่า…คุณยังมีเรื่องเสียใจอะไรอีกไหม”
หลินสื่อเจียค่อยๆ ดึงสติกลับมาจากอาการตกตะลึง เขาหันไปมองเฉินฝานซิงปราดหนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าด้วยท่าทางอึ้งทึ่ง “คุณหนูใหญ่สกุลเฉิน…ฝีมือเปียโนยอดเยี่ยมจริงๆ ด้วย…”
เฉินฝานซิงเม้มริมฝีปาก “ฝีมือยังด้อยนัก ไม่ได้จับเปียโนมาตั้งหกปี รู้สึกห่างเหินไปตั้งนานแล้ว คราวนี้เกรงว่าคงจะทำเรื่องน่าขายหน้าออกไปแล้ว”
“ถ้าแบบนี้เรียกว่าขายหน้า แล้วที่เฉินเชียนโหรวเล่นเมื่อกี้ก็ไม่ใช่ขยะไปเลยเหรอ!”
“นั่นสิ เมื่อกี้เธอพูดเองเลยว่าเรียนเปียโนมาสิบหกปี ส่วนนี่ไม่ได้เล่นมาหกปีแล้วยังเล่นดีกว่าเธอไม่รู้ตั้งกี่เท่า”
“หกปีที่ไม่เคยได้เล่นอีกเลย แบบนี้ไม่ใช่หมายความว่า ฝีมือตอนนี้ก็คือระดับเดียวกับเมื่อหกปีที่แล้วหรอกเหรอ เว้นระยะห่างไปหกปี เรียกได้ว่าฝีมืออาจจะมากกว่าหกปีก่อนหน้านี้ก็ได้ เป็นแบบนี้แล้วก็ยังเล่นได้ดีกว่าเธอที่มีพื้นฐานเปียโนมาสิบหกปีเสียอีก ดูเหมือนถ้วยโอเชี่ยนซาวด์คัพถูกเก็บคืนกลับไปก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว!”
“ปีนั้นคุณไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน น่าเสียดายจริงๆ”
“ในเน็ตบอกว่า ตอนนั้น คุณย่าของคุณบังคับให้คุณถอนตัวจากการแข่งขัน แต่ปรากฏว่าเกลี้ยกล่อมคุณไม่สำเร็จ ก็เลยหันมาติดสินบนกรรมการเพื่อจะให้เฉินเชียนโหรวชนะอย่างราบรื่น นี่มันตรรกะอะไรกันแน่ ทิ้งทองแท้เพื่อไปเอาเศษทรายงั้นเหรอ”
“มีความสามารถขนาดนี้ละก็ ฉันว่า ข่าวฉาวที่หลุดออกมาตอนนั้นก็คงจะเป็นพวกที่อิจฉาความสามารถของคุณแน่”
“แล้วยังมี คุณดูชุดที่เฉินเชียนโหรวใส่มาคืนนี้สิ ชุดอะไรก็ไม่รู้ แหวกอกเว้าหลังให้ใครดูกัน ครบรอบวันเกิดของคุณปู่เขา สีแดงบนตัวเธอเด่นกว่าเสื้อของท่านเสียอีก เธอแยกไม่ออกเหรอว่าใครเป็นเจ้าของงานกันแน่ หรือมาที่นี่เพื่อจะโปรโมทตัวเองหรือยังไง คุณดูหลังของเธอที่โผล่ออกมาทั้งแผ่นนั่นสิ…”
เฉินฝานซิงสีหน้านิ่งเรียบ ไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับใดๆ
เมื่อเห็นเฉินเชียนโหรวถูกเหยียดหยามจนถึงขั้นนี้ หลินสื่อเจียจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาอีก
“ฝีมือการเล่นเปียโนของคุณหนูใหญ่สกุลเฉินถือว่าไม่เลวจริงๆ แต่ยังไงก็เป็นคนนอกวงการอยู่ดี…”
เขาหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง หันไปมองทางเฉินเชียนโหรวที่สีหน้ากำลังย่ำแย่ถึงขีดสุด แล้วพูดขึ้นยิ้มๆ
“คือแบบนี้ ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัวร่วมรายการการแข่งขันดนตรีหนึ่งกับสถานีโทรทัศน์ X อยู่ ถึงเวลานั้นจะขอเชิญคุณเฉินเชียนโหรวมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษให้รายการได้ไหมครับ”
สิ้นเสียงพูดของหลินสื่อเจีย ผู้คนในงานก็ส่งเสียงฮือฮากันออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ใช่รายการดนตรีที่ดังที่สุดของสถานีโทรทัศน์ X รายการนั้นหรือเปล่า”
“รายการนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นรายการที่ดึงดูดใจมากที่สุดในประเทศเราเลย ผู้เข้าแข่งขันทุกคนความสามารถสูงๆ กันทั้งนั้น”
“ฉันก็ดูอยู่เหมือนกัน รายการที่ยุติธรรม มีจริยธรรมมากที่สุดในประเทศ!”
“ได้รับเชิญให้เป็นถึงแขกรับเชิญพิเศษ น่าอิจฉาจริงๆ”
สีหน้าของเฉินเชียนโหรวค่อยๆ ดูดีขึ้นมาบ้าง เธอยิ้มมุมปาก พลางหันไปมองทางซูเหิงด้วยแววตาตื่นเต้นดีใจ
ซูเหิงจับมือของเธอไว้พร้อมกับส่งรอยยิ้มเอ็นดูเพื่อเป็นกำลังใจให้
“หา คุณหนูเฉินคนนี้โชคดีจริงๆ เลย นี่เป็นทรัพยากรที่ศิลปินในประเทศหลายคนต่างก็อยากจะได้รับนะ”
เฉินเชียนโหรวยิ้มด้วยท่าทางถ่อมตัว “ขอบคุณโปรดิวเซอร์หลินที่ให้ความสนับสนุนค่ะ”
หลินสื่อเจียส่ายหน้า “เพราะคุณเล่นได้ดีมากจริงๆ ต่างหาก!”
ในเมื่อหลินสื่อเจียให้การยอมรับเฉินเชียนโหรวขนาดนี้ คนอื่นๆ ที่เหลือก็เลยไม่พูดอะไรต่ออีก เพราะไม่ว่าจะเรื่องอำนาจหรือความเชี่ยวชาญ พวกเขาก็สู้หลินสื่อเจียไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ว่าพฤติกรรมของเขาแบบนี้ จริงๆ แล้วก็ทำให้บางคนรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่ไม่น้อย
เวลานี้กลับมาบอกว่าเธอไม่ใช่คนในวงการเลยน่าเสียดาย ถ้าอย่างนั้นคนที่บีบให้เธอขึ้นเวทีไปเล่นโชว์ตั้งแต่แรกคือใครกันล่ะ
เห็นๆ กันอยู่ว่าเฉินฝานซิงเล่นได้ดีกว่า ทำไมสุดท้ายกลับเป็นเฉินเชียนโหรวที่ได้ผลประโยชน์
นี่ไม่ใช่ว่าตั้งใจมาทำให้อารมณ์เสียโดยเฉพาะหรอกเหรอ
ตอนที่ 382 เดี๋ยวก่อน คุณผู้หญิง
มีใครบางคนทนไม่ไหว “ในเมื่อคุณหนูใหญ่สกุลเฉินไม่ใช่คนในวงการ แล้วทำไมโปรดิวเซอร์หลินจะต้องบังคับให้เธอขึ้นเวทีให้ได้ด้วยล่ะ ดีนะที่เธอมีฝีมือ ถ้าเกิดเล่นไม่ดีขึ้นมา คุณก็จะใช้สิทธิ์ความเป็นนักดนตรีของตัวเองสั่งสอนเธอสักสองสามประโยคใช่ไหมล่ะ”
หลินสื่อเจียยิ้มออกมาอย่างจองหอง “จะเรียกว่าสั่งสอนก็คงจะไม่ใช่ แต่ในฐานะนักดนตรี ถ้าเกิดมีข้อผิดพลาดอะไร ช่วยชี้แนะสักนิดสักหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องน่าขำอะไรหรอก คุณเฉินฝานซิงเล่นได้ดี คุณเฉินเชียนโหรวก็เล่นได้ไม่เลว สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือคุณเฉินฝานซิงไม่ได้เป็นคนในวงการ หากไปออกรายการก็ไม่ได้มีผลเท่าไหร่นัก…”
พวกเขาดูออกแล้วว่าหลินสื่อเจียคนนี้กำลังปกป้องเฉินเชียนโหรวอยู่!
“คุณ…”
“อย่าพูดอีกเลย โปรดิวเซอร์หลินเป็นถึงคนที่ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเทศกาลดนตรีลาวีเนียที่อเมริกาเลยนะ…”
“นั่นน่ะสิ แถมยังเคยไปทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกกับวงออร์เคสตราชื่อดังด้วย…”
“ให้เขาช่วยชี้แนะสักหน่อย อันที่จริงก็ถือเป็นเรื่องดี…”
“…”
“งั้นเฉินฝานซิงคงไม่อัดอั้นแย่เหรอ การแข่งขันเปียโนตอนนั้นก็…”
เฉินฝานซิงกะพริบตาช้าๆ ราวกับว่าไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
เธอเพียงแต่พูดออกมาหนึ่งประโยคอย่างนิ่งสงบ
“ความสามารถไม่เท่าคนอื่น โชคชะตาก็เป็นแบบนี้แหละ”
เมื่อพูดจบ ผู้คนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะส่งเสียงหัวเราะออกมา
เห็นท่าทีของเฉินฝานซิงแล้ว ประโยคนี้ดูเหมือนเธอจะบอกกับตัวเอง
แต่ประโยคนี้ของเธอ ทุกคนต่างก็เข้าใจดีว่าถ้าใช้พูดถึงใครบางคนในค่ำคืนนี้ก็คงจะไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่านี้แล้ว
ส่วนสิ่งที่หลินสื่อเจียทำก็เป็นเพียงแค่บันไดขึ้นหนึ่งให้เธอก็เท่านั้น!
เฉินฝานซิงกำลังเล่นตลกอยู่เหรอ
ไม่ใช่!
คนที่น่าขำจริงๆ ก็คือคนที่รู้อยู่แก่ใจว่าความสามารถไม่เท่าคนอื่นแต่กลับได้รับการปฏิบัติแบบพิเศษกว่าใคร
มุมปากของเฉินฝานซิงแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าเนียนขาวของเธองดงามไม่มีใครเทียบ ดวงตาสุกใสเปล่งประกาย ผมม้าด้านหลังกำลังสะบัดไปมาเบาๆ เธอหันไปมองเฉินเชียนโหรว
“สำหรับเรื่องการแข่งขันเปียโนในตอนนั้น ใครต้องการจะทำร้ายฉัน ตอนนี้ฉันกำลังสืบอยู่…”
ทันใดนั้นเอง เฉินเชียนโหรวก็กำกระโปรงที่อยู่ในมือแน่นขึ้นมากะทันหัน ใบหน้าเริ่มซีดขาว พลันก้มหน้าลงต่ำไม่กล้าสบตากับเฉินฝานซิง
เฉินฝานซิงเก็บสายตากลับมา จากนั้นก็พูดขึ้น
“วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดของนายใหญ่สกุลเผย เป็นงานของท่าน เรื่องส่วนตัวของฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอีก ขออวยพรให้ท่านอายุยืนยาวอีกครั้งหนึ่ง”
“ดี! ดี! ขอบคุณสำหรับความหวังดี”
นายใหญ่สกุลเผยสีหน้าเคร่งขรึมลงไปเพราะพฤติกรรมของหลินสื่อเจีย แต่แขกหลายคนก็อยู่ในงานด้วย เขาจึงต้องไว้หน้าให้อีกฝ่ายอยู่บ้าง
คงได้แต่โทษว่าเป็นเพราะยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวเลยไม่ประสีประสา!
หลังจากได้ยินเฉินฝานซิงพูด สายตาที่หันไปมองทางเฉินฝานซิงก็เต็มไปด้วยความชื่นชม
เฉินฝานซิงพยักหน้าตอบรับเบาๆ เตรียมก้าวลงเวที
“เดี๋ยวก่อน คุณผู้หญิง!”
เฉินฝานซิงชะงักฝีเท้าทันทีพร้อมกับหันไปมองตามต้นเสียง
กลับพบว่าห่างจากที่นั่งของนายใหญ่สกุลเผยไปไม่ไกล มีผู้ชายที่ดูกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาคนหนึ่งยืนขึ้นมา เขาสวมชุดสูทเข้ารูปสีไวน์ เบ้าตาดูลึกกว่าคนทั่วไป ทำให้รู้ได้ทันทีว่าเป็นลูกครึ่ง
เขาหันมาพยักหน้าให้เฉินฝานซิงอย่างเป็นสุภาพบุรุษ ก่อนจะพูดขึ้น
“วันนี้นับว่าโชคดีจริงๆ ที่ได้รับฟังเพลงบทเพลงที่ยิ่งใหญ่มีพละกำลังแบบนี้ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ประเทศยูเครนของเราจะมีการจัดงานเลี้ยงของรัฐ อาจจะเป็นการละลาบละล้วงไปหน่อย ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงจะตอบรับคำเชิญไปร่วมงานเลี้ยงของรัฐของเราเพื่อเป็นเกียรติบรรเลงสักหนึ่งบทเพลงในงานจะได้ไหมครับ”
เมื่อประโยคนี้เปล่งออกมา ทุกคนในงานต่างก็ตะลึงงัน
สีหน้าของเฉินเชียนโหรวและหลินสื่อเจียนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
งานเลี้ยงของรัฐ!
นั่นมันเป็นสถานที่ที่หลายคนพยายามทั้งชีวิตก็ยังไม่มีใครแตะต้องได้เลยนะ!
แม้แต่ตัวเฉินฝานซิงเองก็ตกใจไม่แพ้กัน นี่มันเกินความคาดหมายของเธอไปโดยสิ้นเชิง