ตอนที่ 383 เขามีสิทธิ์อะไร / ตอนที่ 384 พ่อของฉันคงลำบากน่าดู

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 383 เขามีสิทธิ์อะไร

แม้แต่ตัวเฉินฝานซิงเองก็ตกใจไม่แพ้กัน นี่มันเกินความคาดหมายของเธอไปโดยสิ้นเชิง

“คุณผู้ชายท่านนี้ คือว่าความสามารถอันน้อยนิดของฉันขึ้นเวทีไม่ได้หรอก…”

ฝ่ายตรงข้ามส่ายหน้า “ไม่หรอกครับ ผมเชื่อว่าคุณจะต้องสร้างความประหลาดใจให้คนที่มาร่วมงานเลี้ยงของรัฐได้”

เฉินฝานซิงลังเลคิดไม่ตก จึงเบนสายตาไปหาป๋อจิ่งชวนที่นั่งอยู่ด้านหน้า

เมื่อเห็นเธอมองมา ป๋อจิ่งชวนก็ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยพลางพยักหน้าเบาๆ

ดวงตาของเฉินฝานซิงฉายประกาย ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วพยักหน้า

พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แข็งกร้าวหรือถ่อมตัวจนเกินไป

“ขอบคุณในการยอมรับ หวังว่าถึงเวลานั้นจะไม่ทำให้พวกคุณผิดหวัง”

“งานเลี้ยงของรัฐประเทศยูเครน ถึงตอนนั้นแล้วจะมีเหล่าขุนนางราชวงศ์มาร่วมงานด้วยใช่หรือเปล่า”

“แน่นอน งานนั้นจะต้องมีทูตจากประเทสสำคัญและตระกูลทรงอิทธิพลทั่วโลกมาร่วมงานแน่”

“อีกอย่างในงานแบบนี้ ปีก่อนๆ ก็มีแต่วงดนตรีประจำราชสำนักหรือนักดนตรีระดับโลกถึงจะมีสิทธิ์”

“ได้แสดงในงานเลี้ยงของรัฐ สำหรับเหล่านักดนตรีนี่ถือว่าบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์และความรุ่งเรืองของชีวิตก็ได้เลยนะ จะบอกว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดของนักดนตรีก็ไม่เกินไปด้วยซ้ำ”

หลังจากนั้น มีคนหันไปเห็นหลินสื่อเจียที่นั่งทำหน้าบึ้งตึงไม่พูดอะไรสักคำก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“เข้าร่วมงานแสดงมาตั้งหลายครั้ง แต่กลับสู้คนที่มาโชว์แค่ครั้งเดียวยังไม่ได้”

“ยังกล้าพูดอีกว่าจะชี้แนะสักหน่อยอีก เขามีสิทธิ์เหรอ”

“ยังมีเฉินเชียนโหรวนั่นอีก ก็แค่ได้เชิญให้ไปร่วมรายการวาไรตี้ในประเทศ ท่าทางเมื่อกี้ดูภูมิใจอย่างกับอะไรดี…เหอะ เหอะ…”

“รายการในประเทศของพวกเราทำไมเหรอ คุณเป็นพวกบูชาต่างชาติหรือยังไง”

“อะไรเล่า เฉินฝานซิงเธอไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศเลยนะ”

สีหน้าหลินสื่อเจียบึ้งตึงขึ้นเรื่อยๆ ท่าทางอัดอั้นตันใจ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่มีนัยยะแอบแฝง

“ยินดีกับคุณเฉินฝานซิงด้วย นี่เป็นโอกาสที่หลายๆ คนไม่มีทางได้รับทั้งชีวิต”

เฉินฝานซิงยิ้มมุมปาก หันไปมองเขา “รวมถึงคุณด้วยเหรอ”

หลินสื่อเจียเม้มริมฝีปาก พลันพยักหน้าด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “…คงต้องเป็นแบบนั้น”

“งั้นก็ดี”

หลิ่นเสียเจียหน้าเสียอีกครั้ง

เมื่อได้เห็นสีหน้าของหลินสื่อเจียเป็นแบบนั้น เฉินฝานซิงก็หันไปมองป๋อจิ่งชวนด้วยความพึงพอใจ

ป๋อจิ่งชวนมองตอบพร้อมกับอมยิ้มบางๆ ก่อนจะหันหน้ากลับไปเล็กน้อยเพื่อมองไปทางด้านซ้ายมือ

ทันใดนั้นเอง มีร่างๆ หนึ่งลุกขึ้นยืนกะทันหัน

“ในฐานะที่เป็นโปรดิวเซอร์รายการการแข่งขันดนตรีที่สถานทีโทรทัศน์ X เป็นผู้รับผิดชอบ แผนและสคริปต์รายการที่เตรียมไว้ล่วงหน้าไม่มีการพูดถึงช่วงแขกรับเชิญพิเศษเลยแม้แต่น้อย เพราะงั้น คุณเฉินเชียนโหรว ขออภัยด้วย”

หลังจากที่ประโยคนี้ดังขั้น ทุกคนยิ่งทำตัวไม่ถูกหนักขึ้นไปอีก แม้แต่พูดคุยก็ไม่กล้าพูดเสียงดัง

นี่มัน…

นี่บ่งบอกได้ชัดเลยว่าจะไม่ไว้หน้าหลินสื่อเจียและเฉินเชียนโหรวเลยแม้แต่น้อยนะเนี่ย

ส่วนโปรดิวเซอร์รายการคนนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองเฉินฝานซิง ภายใต้รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความเคารพ

“แต่ว่า แขกรับเชิญพิเศษก็ถือเป็นความคิดที่ไม่เลวเลย คุณเฉินฝานซิง ไม่ทราบว่าจะพอให้เกียรติ…”

“โปรดิวเซอร์เกา ในเมื่อไม่มีช่วงแขกรับเชิญพิเศษแล้วทำไมยังจะต้องทำแบบนี้ด้วย…ความสองมาตรฐานของคุณมันชัดเกินไปหรือเปล่า”

หลินสื่อเจียโกรธจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลุกขึ้นทุบโต๊ะพลันพูดตะคอกเสียงดัง

ทว่าโปรดิวเซอร์คนนั้นกลับตอกกลับด้วยท่าทางสงบนิ่ง “คุณก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ยิ่งไปกว่านั้น แขกที่คุณเชิญก็มีความสามารถเทียบไม่ติดอย่างเห็นได้ชัด ผมเองก็ไม่คิดเลยว่าในสายตาของโปรดิวเซอร์หลิน ดนตรีมีไว้แค่เพื่อวงการบันเทิงเท่านั้น…”

หลินสื่อเจียขมวดคิ้วมุ่น “ไม่ใช่ว่าผมก็ต้องการทำเพื่อผลลัพธ์ของรายการหรอกเหรอ”

“ดูเหมือนโปรดิวเซอร์หลินจะยังไม่เข้าใจจุดมุ่งหมายของรายการเรา พวกเราแค่ต้องการทำดนตรี ไม่ได้ต้องการกระแส แล้วผมก็เชื่อว่าเป็นเพราะความตั้งใจนี้ของพวกเรา รายการถึงจะได้รับการยอมรับจากทุกคน”

ตอนที่ 384 พ่อของฉันคงลำบากน่าดู

“ดูเหมือนโปรดิวเซอร์หลินจะยังไม่เข้าใจจุดมุ่งหมายของรายการเรา พวกเราแค่ต้องการทำดนตรี ไม่ได้ต้องการกระแส แล้วผมก็เชื่อว่าเป็นเพราะความตั้งใจนี้ของพวกเรา รายการถึงได้รับการยอมรับจากทุกคน”

“คุณ…”

หลินสื่อเจียถูกจี้จุดจนพูดอะไรไม่ออก สายตาของโปรดิวเซอร์กลับไปมองยังเฉินฝานซิงอีกครั้งด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง

ทว่าเฉินฝานซิงกลับส่ายหน้า “ฉันคงไม่ไปออกรายการแล้ว ตอนนี้ในอินเทอร์เน็ต เรื่องของฉันได้รับความสนใจไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่คำคอมเมนต์ที่ดีนัก เกรงว่าจะเพิ่มปัญหาที่ไม่จำเป็นให้กับทีมงานเปล่าๆ ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าครั้งหน้าเราจะมีโอกาสได้ร่วมงานกัน”

โปรดิวเซอร์รายการดูผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับคุณนะครับ”

นายใหญ่สกุลเผยมองดูเฉินฝานซิงพร้อมกับพยักหน้าด้วยความพอใจอีกครั้ง

“ซู่ซู่ อวิ๋นเจ๋อล่ะ” ระหว่างที่เขาพูด สายตาชื่นชมก็ยังคงอยู่บนตัวเฉินฝานซิงตลอดเวลา

เย่ซู่ซู่ผู้ที่ฉลาดเฉลียวจะไม่รู้ใจของคุณปู่ได้อย่างไร

“คุณปู่ เรื่องแบบนี้ฝืนใจกันไม่ได้หรอกนะคะ…”

ถึงแม้ตอนนี้เธอกับอันจือจะรักกันดี แต่ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ตอนนั้นกว่าจะเดินมาถึงวันนี้ได้ต้องผ่านอะไรมามากมาย ความรู้สึกนั้นไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเธอ

“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเขาสองคนจะต้องคบหากัน แค่เจอหน้ากัน ทำความรู้จักกันสักหน่อยก็พอ แล้วปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติไง…”

เย่ซู่ซู่เม้มริมฝีปาก จู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บค่อยๆ คืบคลานเข้ามา

ป๋อจิ่งชวนนั่งอยู่ด้านหน้า คำพูดที่เย่ซู่ซู่และนายใหญ่สกุลเผยพูดกันทุกประโยคทุกคำ เขาได้ยินหมดแล้ว

ในขณะที่เย่ซู่ซู่มองไป ใบหน้าหล่อเหลาของป๋อจิ่งชวนเยือกเย็นราวกับยมบาล ดวงตาเฉยชา คิ้วขมวดมุ่น ดูเหมือนอยากจะกลืนกินพวกเขาทั้งเป็นเสียให้รู้แล้วรู้รอด

เธอหันไปมองทางเผยอันจือโดยอัตโนมัติ เผยอันจือเหลือบมองป๋อจิ่งชวนด้วยหางตา พลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นมานิ่งๆ

“นักแสดงนำหญิงในข่าวฉาวของฉันอาจจะกลายเป็นลูกสะใภ้ของฉันไปแล้ว น่าสนใจจริงๆ”

ป๋อจิ่งชวนหันไปมองทางเผยอันจือ ร่างนั้นมีรังสีแห่งความน่าเกรงขามที่คมกริบอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ออกมา ราวกับจะฉีกตับไตของผู้คนออกมาเป็นชิ้นๆ

เย่ซู่ซู่หลับตาปี๋ ได้แต่ก่ายหน้าผากอย่างจนปัญญา

ผู้ชายหนอ!

กลัวว่าโลกนี้จะสงบสุขเกินไปหรือยังไง…

“เธอเป็นของฉัน” สีหน้าของเขานิ่งขรึมเย็นชา แต่ทุกถ้อยคำกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยอานุภาพแห่งการทำลายล้าง

“เธอยังไม่แต่งงาน นายก็ยังไม่ได้ขอเธอ แต่งแล้วก็ยังมีหย่า ไม่มีเรื่องที่แน่นอนขนาดนั้น” เผยอันจือเติมน้ำมันลงในกองไฟต่อ

“อย่าพยายามยั่วโมโหฉัน” ป๋อจิ่งชวนควมคุมสติตัวเองให้ใจเย็นลง

เผยอันจือเหลือบไปมองเขาปราดหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไรต่อ

หน้าประตูงานเลี้ยง มีร่างสูงร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ชุดสูทแบรนด์ดังดูดีมีระดับตัดเย็บเข้ารูป ท่วงท่าสูงสง่า ผิวขาวเนียน ใบหน้านั้น…

เต็มไปด้วยความเยือกเย็นของความงดงามและน่าหลงใหล ดวงตาเรียวยาวดูหลักแหลม สายตานิ่งเรียบจดจ้องไปยังเฉินฝานซิงที่นั่งอยู่ข้างเปียโน

“เธอเป็นใคร”

น้ำเสียงทุ้มต่ำค่อยๆ ดังขึ้น ร่างกายที่สูงตระหง่านของเขาไม่ขยับแม้แต่มิลลิเมตรเดียว ผู้ช่วยพิเศษที่อยู่ข้างกายขยับเข้าไปใกล้พร้อมกับพูดขึ้นด้วยท่าทางนอบน้อม

“คุณชาย นั่นคือเฉินฝานซิง เป็นคนที่ช่วงก่อนหน้าไม่นานมานี้ถูกคนปล่อยข่าวออกมาว่ามี…มีเรื่องเข้าใจผิดกับประธานเผย”

คิ้วที่เงางามของเผยอวิ๋นเจ๋อขมวดเล็กน้อย กับพ่อของเขางั้นเหรอ

เขาตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาคู่นั้นก็ฉายประกายออกมากะทันหัน

“แต่ว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ ตอนนั้นคุณนายก็อยู่กับท่านประธานด้วย ดูเหมือนจะมีคนตั้งใจทำให้คุณผู้หญิงเฉินฝานซิงท่านนั้นตกที่นั่งลำบาก”

“ปล่อยภาพของเธอกับพ่อเพื่อที่จะทำให้เธอลำบากงั้นเหรอ”

เผยอวิ๋นเจ๋อมีสีหน้าพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะยกยิ้มมุกปากออกมา “พ่อของฉันคงลำบากน่าดู”